ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 625 เอาหน้าตนโยนลงบนพื้นให้นางเหยียบเล่น / ตอนที่ 626 หากไม่มีเรื่องอะไรจะมาทำตัวเป็นคนดีทำไม
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 625 เอาหน้าตนโยนลงบนพื้นให้นางเหยียบเล่น / ตอนที่ 626 หากไม่มีเรื่องอะไรจะมาทำตัวเป็นคนดีทำไม
ตอนที่ 625 เอาหน้าตนโยนลงบนพื้นให้นางเหยียบเล่น
แม้ว่าวิธีการของอวี่เหวินลู่นี้จะรนหาที่ยิ่งนัก แต่หากใช้ได้ก็นับว่าใช้ได้ อย่างน้อยก็ขู่ให้นางดื่มโจ๊กถ้วยนี้ลงไปได้ ที่จริงแล้วมาคิดดูนับว่าน่าเสียดายยิ่งนัก หากนางรั้นไม่ตอบรับละก็ อย่างนั้นเขาเองก็มิได้หาเหตุผลมาลงโทษเพื่อสนองตัณหาส่วนตนแล้วหรือไร
เฉินยางดื่มโจ๊กลงไปแล้ว พอจะมีแรงขึ้นมาบ้างบางส่วน ผ่านไปสักครู่ซั่งเหมยก็เข้ามาเก็บถ้วยชาม บอกนางว่าเฉาเต๋อหลุนกลับมาแล้ว นางก็ดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที พร้อมเรียกให้นำเฉาเต๋อหลุนเข้ามาสอบถาม
เฉาเต๋อหลุนขมวดคิ้วมองไปยังอวี่เหวินลู่ ซั่งเหมยบอกว่าเขามาเพื่อโน้มน้าวให้นางทานข้าว ไม่รู้ว่ากลอุบายอันใด แต่ว่าอาหารนั้นอย่างน้อยก็ถูกทานเข้าไปแล้ว เขาเองไม่อยากให้เกิดเรื่องปัญหาใหม่แตกแขนงมาตอนนี้ เมื่อพบอวี่เหวินลู่เข้าก็ไม่อยากพูดอันใดอีก มองไปยังเฉินยางพลางเอ่ย “ผู้น้อยไร้ความสามารถ ไม่สามารถหาร่องรอยของนายน้อยพบขอรับ”
เพิ่งจะจุดประกายความปรารถนาขึ้นมาได้หน่อย ก็ถูกบดละเอียดให้ฉับพลันนั้นเอง นางเองเพิ่งจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อยก็เ**่ยวเฉาลงไปอีกแล้ว ตอนนี้เองถึงได้เข้าใจจิตใจของเว่ยหมิ่นยามสูญเสียลูกไปในครานั้น ลูกนั้นเป็นเหมือนก้อนเนื้อยอดดวงใจของแม่ ครานี้ก้อนเนื้อนั้นถูกคนลักพาตัวไป จะไม่เจ็บปวดได้อย่างไร
“แต่นายหญิงโปรดวางใจ คนที่ลักพาตัวนายน้อยไปนั้นยังมีประโยชน์แน่ ตอนนี้สำหรับพวกเรา ไม่มีข่าวคราวอะไรก็ยังนับว่าเป็นข่าวดี ในเมื่อพวกเขาลักพาตัวนายน้อยไปเพราะเห็นประโยชน์ อย่างนั้นก็คงไม่มีทางทำร้ายนายน้อยเป็นแน่ นายหญิงโปรดวางใจ ตอนนี้ผู้น้อยส่งข่าวไปทางนายท่านแล้ว รอนายท่านกลับมาทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่นอน”
ผู้หญิงอย่างไรเสียก็มีความคิดไม่เท่าผู้ชาย แต่บังเอิญตอนนี้เฝิงเยี่ยไป๋ไม่อยู่เมืองหลวงพอดี นางเองเป็นหญิงตัวคนเดียวไร้เสาหลัก ในบ้านเมื่อไร้เสาหลักแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องวุ่นวายไร้ที่พึ่ง คำพูดของเฉาเต๋อหลุนนั้นก็เพื่อปลอบใจนาง ไม่มีแล้วซึ่งความฮึกเหิมกำลังวังชาในการยืนหยัด หากจะพูดว่าพังทลายก็คงอีกไม่นานแล้ว
อวี่เหวินลู่เองก็ฟังออกแล้วถึงเจตนาของเฉาเต๋อหลุน แม้ว่าจะเป็นคำพูดปลอบใจ แต่ในนั้นก็ฟังดูมีเหตุผล ฮ่องเต้ลักพาตัวลูกของเขาไปแน่นอนว่าต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ แต่ในเมื่อเด็กอยู่ในมือเขาแล้ว ความเป็นไปได้ในการจะมีชีวิตรอดกลับมามีกี่ส่วนใครก็บอกไม่ได้ ตอนนี้อาจจะยังไม่ตาย แต่บอกได้ถึงอนาคต เด็กนั้นหากเก็บไว้ก็เป็นตัวหายนะ การตัดรากถอนโคนนั้น แม้แต่เด็กสามขวบยังเข้าใจหลักการนี้เลย ฮ่องเต้ไฉนเลยจะไม่เข้าใจ
หากมองสถานการณ์ตอนนี้ นางไม่รู้ความจริงเลยจะเป็นการดีต่อนางมากกว่า
“เฉาเต๋อหลุนพูดถูก เจ้าก็วางใจเถิด พวกที่ลักพาตัวลูกต้องเห็นประโยชน์เป็นแน่ ต้องเลี้ยงดูอย่างดีแน่นอน ระหว่างรอเฝิงเยี่ยไป๋กลับมาต้องไม่ทำอะไรเขาแน่”
เขานี่มันด้อยค่าเสียจริง ผู้อื่นนั้นหาได้รับไมตรีตนไม่ เขายังหน้าไม่อายกล่อมนางอยู่ได้ คิดหาวิธีการมาปลอบนาง ก็เพราะว่าในใจนั้นรู้สึกผิดนัก เอาหน้าตนโยนลงบนพื้นให้นางเหยียบเล่น ก็คงเพียงพอแล้วกระมัง
ดวงตาทั้งสองข้างของเฉินยางบวมเหมือนถั่วแช่น้ำ ในเมื่อทั้งสองคนล้วนพูดอย่างนี้แล้ว ถ้าเช่นนั้นที่นางฟังไปก็นับว่าน่าเชื่อถือ พยักหน้าอย่างมึนงง นับว่ามีความหวังใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
เฉาเต๋อหลุนกำชับให้ซั่งเหมยดูแลเฉินยางให้ดี ผายมือทำท่าเชิญอวี่เหวินลู่พลางเอ่ย “ชื่อจื่อ รบกวนตามผู้น้อยมาด้วย ผู้น้อยมีเรื่องจะเรียน”
อวี่เหวินลู่สะบัดชายเสื้อลุกขึ้นยืน เดินก้าวยาวๆ ตามออกไป เฉินเต๋อหลุนก้าวถอยหลังตามออกไป สองคนเดินนำหน้าตามหลังกันมาใต้ระเบียงทางเดิน ยิ่งเดินยิ่งลึก จนถึงบริเวณที่รอบด้านเงียบสงัด อวี่เหวินลู่จึงได้หยุดเดินแล้วถามเขา “ผู้ดูแลเฉาหาข้ามีเรื่องอันใด”
เฉาเต๋อหลุนค้อมตัวให้คราหนึ่ง “ชื่อจื่อโปรดอยู่ให้ห่างจากนายหญิงเถิด ไม่ว่าวันนี้ท่านได้ไปช่วยชีวิตไว้หรือไม่ หากนายท่านรู้เข้า คงช่วยอะไรไม่ได้มาก”
ตอนที่ 626 หากไม่มีเรื่องอะไรจะมาทำตัวเป็นคนดีทำไม
อวี่เหวินลู่น้ำเสียงดูไม่พอใจนัก “เฝิงเยี่ยไป๋เลี้ยงข้ารับใช้ได้ดีน่าดู นายเจ้าใกล้จะตายอยู่แล้ว พวกเจ้ายังไม่มีปัญญาเคี่ยวเข็ญให้นางกินข้าวเลย ข้าเมตตาถึงเพียงนี้ช่วยชีวิตนายพวกเจ้าไว้ พอมาถึงตอนนี้เหตุใดถึงเป็นความผิดของข้าเล่า”
เฉนเต๋อหลุนไม่ได้เจรจาง่ายเพียงนั้น “ชายหญิงล้วนแตกต่าง คำคนนั้นน่ากลัว ตอนนี้ในเมืองหลวงล้วนเต็มไปด้วยประกาศจับตัวท่าน เวลาเยี่ยงนี้ ท่านสำรวมหน่อยเถิดขอรับ วันนี้ท่านทำให้นายหญิงทานข้าวได้ พวกเราบรรดาข้ารับใช้นั้นขอบพระคุณเป็นอย่างมาก หากแต่นี่เป็นคนละเรื่องกัน นายท่านไม่อยู่ พวกเราในฐานะข้ารับใช้ควรจะดูแลนายหญิงให้ครบทุกด้าน”
อีกอย่างเฝิงเยี่ยไป๋เมื่อตอนไปก็ไม่วางใจ ยังกำชับให้คอยดูเว่ยเฉินยางเป็นพิเศษ คนเป็นสามีสิ่งที่ทำนั้นก็เด็ดขาดนัก ห่างตั้งไกลยังอุตส่าห์ยื่นมือยาวมาควบคุมเรื่องในบ้าน ทำให้เขาลำบากแล้วจริงๆ
“อย่าทำท่าเหมือนข้าจะทำอะไรนายหญิงของพวกเจ้าอย่างนี้ ไม่ง่ายเลยที่ข้าจะใจดีสักครา ยังจะมาถูกพวกเจ้าสงสัยเข้าให้อีก เฝิงเยี่ยไป๋สอนข้ารับใช้ได้ดีนัก ถ้าเช่นนั้นก็ได้ หากคราหน้านายหญิงพวกเจ้าเกิดเรื่องอะไร ข้าก็จะรอดูนางตาย จะไม่ยุ่งอะไรเลยอย่างนั้นดีหรือไม่ พวกขี้ข้าหมาป่าตาขาวที่ไร้ค่า คนเขายอมลดตัว เสียแรงดิ้นรนโน้มน้าวคน คนเดียวไม่รับความหวังดีก็ว่าไป แต่นี่ทุกคนล้วนไม่เห็นค่า จริงๆ เลยเชียว ไม่มีเรื่องอะไรแสร้งทำเป็นคนดี ทำดีแต่โดนตบปากจริงๆ”
เฝิงเยี่ยไป๋คิดว่าคนพวกนี้เป็นข้ารับใช้ที่จงรักภักดี และเพราะว่าเป็นข้ารับใช้ที่ดี ดังนั้นจึงไม่อาจบอกความจริงแก่เว่ยเฉินยางได้ หากนางรู้ว่าคนที่ลักพาตัวนางไปคือฮ่องเต้ จะไม่ถือดาบเข้าวังหลวงไปเอาเรื่องฮ่องเต้หรือ ดังนั้นไม่ให้นางรู้เป็นดี ตอนนี้พวกเขาล้วนตัดสินใจอะไรไม่ได้ ได้แต่รอให้เฝิงเยี่ยไป๋ตอบจดหมายกลับมา
ฮ่องเต้นั้นได้ชัยชนะกลับมา หลายวันมานี้ทรงพระเกษมสำราญยิ่งนัก ให้คนกลุ่มนี้ทำงานเขาวางใจนักว่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นพิรุธแน่นอน ตอนนี้ก็รอแค่ว่าสถานการณ์การรบของฝั่งเฝิงเยี่ยไป๋เป็นอย่างไรบ้างเท่านั้น ฝั่งเขาเองไม่รีบร้อน ทุกเรื่องล้วนรับมือได้ ทัพเรือทางนั้น ก่อนหน้าฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้ร่างกลอุบายออกมาแล้วตามคำแนะนำของเฝิงเยี่ยไป๋ เพียงแต่ว่ายังมิทันได้ผ่านกรมความลับทหาร ฮ่องเต้บังเอิญไปเจอแผนนี้เข้าตอนไปอ่านฎีกาเก่า เมื่อนำมาอภิปรายแล้ว ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ล้วนเอ่ยคำชมเขาไม่หยุดปาก นี่นับว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ที่เขาประสบความสำเร็จนับตั้งแต่ครองราชย์มา แน่นอนว่าต้องดีใจอย่างอดไม่ได้อยู่บ้าง
ฮ่องเต้ไม่ทราบมาก่อนว่าน่าอวี้กับอิ๋งโจวมีปูมหลังอะไรกัน ไม่ง่ายเลยกว่าเฝิงเยี่ยไป๋จะส่งอิ๋งโจวออกไป ตอนนี้ฮ่องเต้ยังตามตัวเขากลับมารักษาน่าอวี้ จนดูเหมือนจะช่วยให้สมหวังกันก็มิปาน
น่าอวี้จิตใจหดหู่ทั้งวัน ป่วยทางการก็ประการหนึ่ง ป่วยทางใจนี่สิแทบจะเอาชีวิตได้เลย ฮ่องเต้มิใคร่สนใจว่าป่วยหรือไม่ป่วย ขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างไรก็ไม่ใส่ใจ ทรงดูเพียงผลลัพธ์เท่านั้น ขอเพียงผลลัพธ์เป็นสิ่งที่เขาต้องการ ขั้นตอนเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ ช่วงนี้หลังออกว่าราชการเช้าแล้วเขาตั้งใจจะไปดูน่าอวี้ทุกวัน เมื่อมาแล้วก็นั่งข้างนาง ถามนางสองสามประโยคเกี่ยวกับเรื่องของเฝิงเยี่ยไป๋ หรือไม่ก็ไม่ตรัสอะไรเลย ประทับอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ทั้งยังไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลย แต่กลับได้รับรู้รสชาติอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม
น่าอวี้เลือกที่จะพูดเรื่องที่ไม่สำคัญต่อหน้าพระองค์ ทุกคราที่ตรัสถามถึงความสัมพันธ์ของเฝิงเยี่ยไป๋กับซู่อ๋องนางก็จะเลี่ยงไม่ตอบ เมื่อเวลาผ่านไป ฮ่องเต้ก็ทรงดูออกแล้วว่านางจงใจถือหางเฝิงเยี่ยไป๋กับซู่อ๋อง ต่อให้ไม่เกี่ยวข้องกัน ความสัมพันธ์อย่างไรเสียก็ไม่สะอาดผุดผ่อง หากแต่สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญแล้ว เพราะในมือเขากุมชะตาชีวิตของลูกชายของเฝิงเยี่ยไป๋ไว้ ยังจะกลัวเฝิงเยี่ยไป๋ไม่ประนีประนอมอีกหรือ