ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 659 เจ้าเฝิงหึงเสียแล้ว / ตอนที่ 660 การแย่งชิงระหว่างผู้ชาย
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 659 เจ้าเฝิงหึงเสียแล้ว / ตอนที่ 660 การแย่งชิงระหว่างผู้ชาย
ตอนที่ 659 เจ้าเฝิงหึงเสียแล้ว
อวี่เหวินลู่ก็ไม่ใช่คนหูหนวก เสียงของเฝิงเยี่ยไป๋ย่อมฟังออกแน่นอน เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าจะกลับมาเร็วเช่นนี้ ระยะไกลเช่นนี้และมีประตูกั้นอยู่ แม้ว่าเสียงจะฟังได้ไม่ชัดนัก เพียงแต่ก็ยังฟังออกว่าอารมณ์ของเขาไม่ดีนัก น้ำเสียงมีความโกรธ ฟังจากน้ำเสียงนี้แล้ว คงจะหึงหวงเสียแล้ว
เฉินยางไม่ได้คิดมากเช่นนั้น นางเข้าไป เห็นเขานั่งรอนางอยู่ที่ข้างโต๊ะ ทั้งๆ ที่การได้เจออีกครั้งเป็นเรื่องน่ายินดี นางก็อยากจะฉีกปากยิ้มให้เขาด้วยความดีใจ เพียงแต่พอได้เจอแล้ว กลับยิ้มไม่ออก อ้าปากก็น้ำตาไหล ช่างน่าสงสารนัก
เฝิงเยี่ยไป๋ก็เพิ่งรู้ว่าอวี่เหวินลู่กลับมาที่เมืองหลวงหลังจากกลับมา และพักอยู่ในจวน เฉาเต๋อหลุนก็ช่างเป็นบ่าวที่ดี ตั้งแต่ติดตามเฝิงเยี่ยไป๋ ความภักดีของเขานั้นช่างไร้ที่ติ เมื่อเจอเฝิงเยี่ยไป๋ก็เล่าทุกเรื่องเสียหมดเปลือก เฝิงเยี่ยไป๋ขมวดคิ้วฟังเฉาเต๋อหลุนเล่าจบ ไฟที่สุมอยู่ในอกก็ลุกโชนขึ้นมา แทบอยากจะฆ่าอวี่เหวินลู่เดี๋ยวนี้เลย
ลูกชายหายไปเขารู้ว่าต้องตามหากลับมาอย่างไร เพียงแต่หากภรรยาหายไป ต่อให้รู้ว่านางอยู่ที่ใด ก็ใช่ว่าจะตามกลับมาได้ เห็นชัดว่าอวี่เหวินลู่คิดจะตีท้ายครัวเขา ฉวยโอกาสที่เขาไม่อยู่ พักอยู่ในจวน พาภรรยาของเขาออกไป เรื่องนี้พักไว้ก่อน คนที่น่าโมโหที่สุดยังคงเป็นเว่ยเฉินยาง คนอื่นหลอกล่อเล็กน้อยนางก็ไปแล้ว ทั้งสองคนออกกันไปนานเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าทำอะไรกันบ้าง เมื่อครู่ยังได้ยินว่านางเป็นกังวลจนกินไม่ลงผอมลงไปมาก เพียงแต่ยามนี้ดูแล้ว ก็ผอมอยู่จริง เพียงแต่ดูไม่ออกว่านางจะเสียใจเพียงใด แถมยังมีแก่ใจจะออกไปกับคนอื่น ยามที่เขาไม่อยู่นั้นนางก็ใช้ชีวิตมีความสุขดีนัก!
“ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อใด ไฉนถึงไม่ส่งคนมาบอกเสียก่อน ท่านไปนานเช่นนี้ไม่มีข่าวอะไรเลย ข้าเป็นห่วงเพียงใดท่านรู้หรือไม่ ข้าเขียนจดหมายให้ท่านท่านก็ไม่ตอบ ยังมีอีก…เสี่ยวจินอวี๋ก็หายไป พวกท่านทั้งสองไม่อยู่ ข้า…เพียงแต่ท่านกลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว”
เฉินยางไม่สังเกตถึงความผิดปกติของสีหน้าเฝิงเยี่ยไป๋ ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหลมากขึ้น เฝิงเยี่ยไป๋ยังจะไม่สงสารได้หรือ เขาสงสารนาง เพียงแต่ตอนนี้ยังต้องปั้นหน้าไว้ เพราะเห็นนางออกไปกับอวี่เหวินลู่ แถมยังกลับมาดึกเช่นนี้ ในใจหึงหวง เจ็บใจ อยากจะกอดนางไว้ปลอบเสียดีๆ เพียงแต่ตอนนี้เรื่องยังไม่ได้อธิบายชัดเจน ก่อนจะชัดเจนนั้นทุกสิ่งล้วนเป็นของปลอม เขาจริงใจต่อนาง ก็ต้องมั่นใจว่านางก็จริงใจต่อเขาเช่นกัน
อวี่เหวินลู่เห็นความห่างเหินในแววตาของเฝิงเยี่ยไป๋ที่มีต่อเฉินยางอย่างชัดเจน เขาก็ขมวดคิ้วตามเช่นกัน เพิ่งจะไปไม่กี่วัน ถึงกับเริ่มรังเกียจภรรยาตัวเองแล้วหรือ หรือว่าอยู่ข้างนอกได้เจอกับหญิงงามอะไรเข้า เริ่มรังเกียจภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
“เป็นผู้พิทักษ์หญิงงามมาวันหนึ่ง เหนื่อยหรือไม่” เขาชงชาไว้กาหนึ่งนานแล้ว ชาถูกรินออกจากกา กลิ่นหอมอบอวล
อวี่เหวินลู่ถือถ้วยชาจิบไปคำหนึ่ง ทำท่าคล้ายจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มพูดว่า “ไม่เหนื่อย ข้าเต็มใจ”
เฉินยางจิ้มไปที่อวี่เหวินลู่ “เจ้าพูดเหลวไหลอะไรเล่า”
เฝิงเยี่ยไป๋เห็นท่าทางเล็กน้อยของนางอย่างชัดเจน เขาหรี่ตา ความโกรธแทบจะกลืนกินเขาไปแล้ว
เฝิงเยี่ยไป๋กุมมือเฉินยาง ประสานสิบนิ้วกับนางแล้ววางอยู่บนโต๊ะ “จะเหนื่อยหรือไม่ก็ต้องขอบคุณเจ้า อย่างไรเสียก็เป็นผู้หญิงของข้า ยามที่ข้าไม่อยู่นั้น ต้องขอบคุณที่เจ้าช่วยข้าปกป้องนาง”
ตอนนี้เฉินยางถึงสังเกตความผิดปกติของทั้งสองคนนี้ นางอยากจะอธิบาย เพียงแต่เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ให้โอกาสนางได้อ้าปากเลย
ตอนที่ 660 การแย่งชิงระหว่างผู้ชาย
ระหว่างเฝิงเยี่ยไป๋และอวี่เหวินลู่นั้นเป็นการแย่งชิงระหว่างผู้ชาย ล้วนไม่แสดงออกอย่างชัดเจน บรรยากาศที่แผ่ออกไปนั้นใครก็ไม่ยอมแพ้ใคร เฉินยางกล่อมก็กล่อมไม่ได้ หนีก็หนีไม่ได้ เฝิงเยี่ยไป๋ออกแรงบีบมือนาง นางเจ็บจนขมวดคิ้ว สุดท้ายทนไม่ไหว ตบที่หลังมือเขา “ท่านปล่อยข้า ปล่อยมือ ท่านบีบจนข้าเจ็บแล้ว”
เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ปล่อยมือ อวี่เหวินลู่กลับสงสาร “เจ้าไม่ได้ยินนางร้องเจ็บหรือ เจ้าปล่อยมือสิ!”
เฝิงเยี่ยไป๋ถึงได้ผ่อนแรงลง เพียงแต่ไม่ได้ปล่อยมือ เขาเหลือบมองอวี่เหวินลู่ด้วยความเย็นชา แววตาเฉียบคม “นี่เป็นผู้หญิงของข้า ข้าอยากทำอะไรก็ทำเช่นนั้น ต้องให้เจ้ามายุ่งหรือ”
อวี่เหวินลู่ไม่เคยเป็นคนอารมณ์นิ่ง คราวนี้ความโกรธพุ่งขึ้นมา เขาตบโต๊ะลุกขึ้นมา “ก็เพราะนางเป็นผู้หญิงของเจ้า ดังนั้นเจ้าจึงทำเช่นนี้กับนางหรือ เจ้าไม่รู้ว่านางเขียนจดหมายมากมายเท่าใดให้เจ้า เจ้าเล่า ไม่ตอบจดหมายนางกลับเลยสักฉบับเดียว เมื่อก่อนข้ายังคิดว่าอย่างน้อยเจ้ายังมีส่วนดีที่รู้จักดีกับผู้หญิงของตัวเอง ไม่ได้เป็นคนที่ตื้นเขินนัก เพียงแต่ดูจากตอนนี้แล้ว เป็นข้าที่มองเจ้าสูงเกินไปแล้ว”
ดูคำพูดนั่น เหมือนดั่งถูกเขามองสูงเป็นเรื่องน่ายินดีอะไรเช่นนั้น เฝิงเยี่ยไป๋เม้มปากยิ้มแล้วลุกตามขึ้นมา แก้วกระเบื้องที่อยู่ในมือถูกเขาบีบจนเป็นรอยร้าว เฉินยางเห็นแล้วหวาดผวา กลัวพวกเขาสองคนสู้กันขึ้นมา กำลังจะขวางอยู่ระหว่างกลางห้ามปราม ขายังไม่ทันได้ก้าวออกไป เฝิงเยี่ยไป๋ก็ซัดหมัดไปที่หน้าของอวี่เหวินลู่แล้ว อวี่เหวินลู่ไม่ทันระวัง ถูกเขาชกล้มไปกองอยู่ที่พื้นมึนงงอยู่นาน
ทั้งสองคนล้วนเป็นคนฝึกวิชา เพียงแต่ที่เฝิงเยี่ยไป๋ชกไปนั้นใส่เต็มแรง อวี่เหวินลู่ก็ไม่ทันระวังจึงถูกชกเข้าเต็มๆ หน้าครึ่งซีกชาไปหมด สายตาพร่ามัว เขาส่ายศีรษะ ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นกลับมึนมากกว่าเดิม
เขามาเพื่อช่วยนาง แม้ว่าเรื่องที่ทำเมื่อก่อนก็น่ารังเกียจนัก เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่ได้มาร้ายอะไร เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยนางหาลูกชายจริงๆ เฝิงเยี่ยไป๋ทำเช่นนี้ ไม่พูดอะไรแล้วชกเขา จะว่าอย่างไรก็ไม่ถูก
เฉินยางขวางหมัดที่สองของเฝิงเยี่ยไป๋ไว้ ตะโกนใส่เขาว่า “ท่านทำอะไร ชกเขาทำไมกัน”
เฝิงเยี่ยไป๋คว้าข้อมือนางลากนางกลับมา “ข้าชกเขาเจ้าเจ็บแทนอะไรกัน เกี่ยวอะไรกับเจ้าหรือ”
“ข้า…” นางหยุดเล็กน้อย “ข้าไม่ได้เจ็บแทนเขา ท่าน…เป็นท่านที่ไม่ควรชกคนโดยไร้เหตุผล วันนี้เขาช่วยข้าไว้มากเลย”
เรื่องที่เข้าวังนั้นแต่เดิมนางไม่อยากเล่าให้เฝิงเยี่ยไป๋ฟัง กลัวว่าเขารู้แล้วจะเป็นกังวล บอกว่านางเหลวไหล นางไม่อยากเป็นคนที่สร้างแต่ปัญหาให้เขา ดังนั้นจึงคิดจะปิดบังเขาแต่แรก เพียงแต่ตอนนี้ไม่พูดก็ไม่ได้แล้ว อวี่เหวินลู่ก็อีกคน ไม่รู้จักพูด หากพูดกับเขาดีๆ ก็ไม่ถึงกับต้องถูกชกเช่นนี้
“วันนี้ข้าเข้าวังไป ได้ยินว่าน่าอวี้อยู่ในวัง เสี่ยวจินอวี๋ถูกฮ่องเต้ส่งคนมาลักพาตัวไป ตอนนี้น่าอวี้อยู่ในวัง เหมือนว่าฮ่องเต้จะดีกับนางอยู่ ดังนั้นข้าจึงอยากจะเข้าวังให้น่าอวี้ช่วย ให้นางช่วยหาเสี่ยวจินอวี๋ เป็นอวี่เหวินลู่ที่ช่วยข้าเข้าวัง ประกาศจับของเขาติดอยู่ทั่วเมือง ยังเสี่ยงมาช่วยข้าก็ลำบากมากแล้ว ข้าติดค้างหนี้บุญคุณเขายังไม่ได้คืนเลย ท่านชกเขาอีก นี่ไม่ใช่จะให้ข้าลำบากหรือ”
เฝิงเยี่ยไป๋กระชากแขนนางลากนางมาอยู่ข้างหลังตัวเอง “เจ้าคิดว่าเขาเมตตาช่วยเจ้าหรือ เจ้าหมอนี่คิดอะไรอยู่เขารู้ดี หากไม่ใช่ต้องการสิ่งใดเขาจะช่วยเจ้าหรือ”