ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 665 แอบลอบฆ่าสามี / ตอนที่ 666 แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 665 แอบลอบฆ่าสามี / ตอนที่ 666 แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา
ตอนที่ 665 แอบลอบฆ่าสามี
เฝิงเยี่ยไป๋เขาทำอะไร เขาเป็นคนฝึกศิลปะการต่อสู้ บนร่างกายอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง คนที่มีพลังกำลังมากเขาก็ยังพอไหว อย่างว่าแต่ผู้ชายธรรมดาเองก็ยังไม่สามารถแสดงท่าทางแบบมั่วๆ ต่อหน้าเขาได้ง่ายๆ คนที่เรียนศิลปะการต่อสู้มาเหมือนกันกับเขา ก่อนที่จะลงมือยังต้องไตร่ตรองดูให้ดูก่อนเลย เฉินยางเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อ่อนแอบอบบาง จะจัดการกับเขา แต่กลับต้องตกอยู่ในสภาพที่ถึงขึ้นต้องถูกจับเป็นไม่ใช่ได้คาดการณ์ไว้หรอกหรือ
จุดที่เฉินยางเท่าที่สามารถขยับตัวได้ล้วนถูกเฝิงเยี่ยไป๋ควบคุมไว้หมดแล้ว ตอนนี้เหมือนปลาที่อยู่บนเขียง แล้วแต่จะถูกคนนำไปฆ่าไปแกงอย่างไร
“ตอนที่ข้าอยู่เมืองฉุยได้รบกับเฉินตาน ก่อนที่ข้าจะไปก็มีนายพลแปดนายที่ตกอยู่ในมือพวกเขาแล้ว” เขาจูบไปที่แขนของนาง จากข้างล่างขึ้นข้างบนทีละน้อย “เจ้ารู้ไหมว่าใครเป็นคนฆ่าพวกเขา”
เฉินยางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นว่า “ข้าไม่รู้”
เขาเงยหน้ามองไปที่ริมฝีปากน้อยแล้วยิ้ม “เป็นองค์หญิงเฉินตาน และก็เป็นแม่ทัพของเฉินตาน แต่ว่าสูงกว่าเจ้านิดหน่อย แข็งแกร่งกว่าเจ้านิดหน่อย ลักยิ้มที่ลึก ผิวเป็นเหมือนสีข้าวสาลี มือถือทวนครึ่งวงเดือน ได้รับการขนานนามว่าเป็น “แม่ทัพไร้พ่าย” ไม่เคยรบแพ้เลยสักครั้งเดียว แต่สุดท้ายกลับมาแพ้ให้กับข้า”
เฉินยางได้ฟังเรื่องราวฟังจนเคลิ้มไปด้วย ไม่ได้ทันสังเกตว่าเขาเอามือยื่นเข้าไปในใต้กระโปรงของนาง ถามเขาว่า “ผู้หญิงเฉินตานสามารถเป็นแม่ทัพออกรบได้ด้วยหรือ”
เฝิงเยี่ยไปปลดสายรัดกระโปรงนางออก แล้วตอบกลับอย่างปกติว่า “ผู้หญิงเฉินตานเหมือนกันกับผู้ชาย สามารถเป็นนายทหารได้ ในอนาคตก็สามารถสืบต่อราชบัลลังก์ได้ด้วย สิ่งที่ผู้ชายทำได้พวกนางก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน สิ่งที่ผู้ชายไม่สามารถทำได้พวกนางก็สามารถทำได้ องค์หญิงของเฉินตานองค์นั้นชื่อว่าไซ่จี๋ หน้าตา…” เขาจูบไปที่ริมฝีปากของนาง “หน้าตาธรรมดา สวยสู้เจ้าที่เป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดของที่นี่ไม่ได้ มองดูแล้วน่ารัก แต่รูปร่างของนางดูดีกว่าเจ้า กล้ามเนื้อได้สัดส่วน ตรงไหนก็ดูพอดิบพอดีไปหมด ไม่เหมือนเจ้า ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่ค่อยมีเนื้อหนัง เหมือนกระดานซักผ้าแผ่นหนึ่ง”
ไม่มีผู้หญิงคนไหนยินดีที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ เมื่อเฉินยางได้ฟังจบสีหน้าก็เปลี่ยนไป ขาหนีบไปที่คอของเขา “ท่านเคยเห็นหมดแล้วหรือ ยังบอกว่าตรงไหนก็ดูดีไปหมด ในเมื่อดีอย่างที่ท่านพูดมาขนาดนั้น ข้ามองว่ารูปร่างหน้าตาน่าจะไม่ได้เลวร้ายเหมือนดั่งที่ท่านพูด ในเมื่อท่านก็จับนางมาได้แล้ว ทำไมถึงไม่พามาให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยละ อย่างไรเสียจวนก็ใหญ่พอ ถ้าท่านเห็นว่ายังเล็กไป ข้าก็สามารถจัดหาที่ให้พวกท่านได้”
เฝิงเยี่ยไป๋ชอบดูนางหึง เวลาแบบนี้ถึงดูเหมือนผู้หญิงขึ้นมา ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่หน้าตาดูซื่อๆ ตลอด เหมือนตัวเองกำลังเลี้ยงดูลูกสาว ทุกเรื่องเขาจะไม่พูดถึง สมองของนางคิดตามไม่ทันตลอด ถึงทำให้เขาทั้งรักทั้งเกลียด
เล่นพอแล้ว ถ้าให้เข้าใจผิดอย่างนี้ต่อไปจะต้องเกิดเรื่องแน่เลย เด็กผู้หญิงคนนี้ดื้อจะตาย ถ้าดื้อรั้นขึ้นมา และถ้าสิ่งนี้ทำให้ใจของนางรู้สึกไม่ดีแล้วละก็ ถ้าอย่างนั้นคงไม่สนใจเขาไปอีกนาน ดังนั้นนางเสร็จแล้วก็ต้องรีบปลอบนาง นวดไปที่น่องขาของนาง ชี้ไปที่ปลายจมูกของนาง “แกล้งเจ้าเล่น ผู้หญิงอย่างไรเมียตัวเองดีที่สุด ผู้หญิงนอกด่านทางเหนือแช่อยู่ในทรายเหลืองตลอดทั้งวัน ทั้งคนเกิดมาล้วนแล้วแต่มีพลังกำลังมาก เป็นผู้หญิง ยังขาดรสชาติไปหน่อย แต่ว่าตั้งใจพูดไปแบบนั้นแกล้งเจ้าเล่นเฉยๆ เจ้าก็เชื่อหรือ”
“เมื่อครู่ท่านยังเข้าใจข้าผิดเลย ไม่อนุญาตให้ข้าเข้าใจท่านผิดบ้างหรือ” นางอ้าปากกัดเข้าไปทีหนึ่งตอนที่เขาเอาริมฝีปากเข้ามา ตอนที่กัดคนอื่นนี้ไม่ลังเลแม้แต่น้อย กัดไปทีหนึ่ง มีเลือดออกมา
เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ได้ระวังตัว เจ็บจนต้องสูดลมหายใจ “เจ้าเด็กตัวดี ตอนแอบลอบฆ่าสามีขึ้นมาไม่อ่อนให้เลยแม้แต่น้อยเชียว ข้าทำให้เจ้าได้ใจ ไม่นานเจ้าอย่าโทษสามีอย่างข้าว่าใจร้ายเลย”
ตอนที่ 666 แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา
อวี่เหวินลู่ตอนที่กลับไปหน้าตาเขียว มุมปากยังบวมอยู่ ท่านซื่อจื่อของพวกเขาไม่รับบาดเจ็บมานานหลายปีแล้ว วันนี้มุมปากบวมนับว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่โตมาก เขาลนลานไปหมด ขวดพวกนั้นที่ติดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร พอค้นออกมามีขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวขวดหนึ่ง ในนั้นเป็นยาทาที่รักษาอาการบาดเจ็บจากการชกต่อยกันโดยเฉพาะ เขาหมุนวนยาทากี่รอบ ในมือเต็มไปด้วยยา ทาไปที่มุมปากของอวี่เหวินลู่ ทาไปด้วยพูดกระซิบไปด้วย “ท่านไปชกต่อยกับใครมา กี่ไม่เคยเห็นท่านได้รับบาดเจ็บมานานหลายปี เขาเป็นใครกัน ฝีมือช่างร้ายกาจนัก” พอพูดเสร็จก็สะดุ้งตกใจ “ไม่ใช่ถูกเว่ยเฉินยางตีมาหรอกนะ ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ท่านช่วยเหลือนาง ทำไมเขากลับมาตีท่านได้เล่า”
อวี่เหวินลู่รู้สึกรำคาญจึงโบกมือให้เขาไปที่อื่น “ข้าพาเจ้ามาด้วยไม่ใช่ให้เจ้ามาทำอะไรชักช้าให้ข้ารำคาญใจ ไสหัวไปที่อื่นไป”
ไหลลู่นั่งลงตรงหน้าเขา ปากบ่นพึมพำ “ข้าน้อยมาเพื่อปกป้องท่าน ถ้าท่านเป็นอะไรไป ทางจวนท่านอ๋องนั้นข้าไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ร่างกายของท่านไม่ได้เป็นของท่านแค่เพียงคนเดียว ยังเป็นชีวิตของข้าน้อยด้วย แค่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ข้าน้อยก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว”
“พูดให้มันน้อยๆ หน่อย ทำเป็นพูดเหมือนแม่เลย ไปเอาเครื่องเขียนมาให้ข้า ข้าจะเขียนจดหมาย”
ไหลลู่รีบไปนำเครื่องเขียนมาให้เขา ฝนหมึกไปด้วยเมินเฉยใส่ไปด้วย “ตัวหนังสือของท่านเขียนให้น้อยลงหน่อยได้หรือไม่ ขาของนกพิราบไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ตอนกลับมาเดี๋ยวจะยัดเข้าไปไม่ได้ เรื่องไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเขียน พอกลับมาได้เจอกัน อยากจะพูดเท่าไหร่ก็พูดไป และยังมีการเขียนของท่าน ให้ประณีตเรียบร้อยหน่อยได้หรือไม่ พอกลับมาดูเดี๋ยวดูพลาดไป”
เขาบ่นพึมพำอยู่ข้างๆ สมองของอวี่เหวินลู่ใกล้จะระเบิดอยู่แล้ว พู่กันที่ตวัด ตวัดจนหน้าเขาเต็มไปด้วยหมึก “ข้าเป็นคนเขียนหรือว่าเจ้าเป็นคนเขียน ไปไกลๆ ถ้าบ่นอีกเดี๋ยวข้าจะตัดลิ้นเจ้าออกมา”
เดิมทีก็รำคาญพอแล้ว คนรักใช้บ้านนี้ยังบ่นพึมพำข้างหูอีก หนวกหูจนไม่มีอารมณ์ทำอะไรแล้ว เขาจะนำเรื่องที่ฮ่องเต้ฆ่าพ่อเพื่อยึดบัลลังก์บอกให้ซู่อ๋องทราบ อย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นวิธีการหนึ่ง ขอแค่ฮ่องเต้มีข่าวลือเรื่องนี้ ตำแหน่งฮ่องเต้จะต้องไม่สงบอย่างแน่นอน เดิมก็ไม่ใช่ความหวังของประชาชน และยังมีพระราชโองการที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งไว้ให้ ขอแค่เรื่องที่เขาฆ่าพ่อเพื่อชิงบัลลังก์เผยออกมา ซู่อ๋องจะต้องแย่งชิงแผ่นดินกลับมาแน่ การยืมพระนามของฮ่องเต้พระองค์ก่อนเพื่อยกกำลังทหารก็สมเหตุสมผล
ไหลลู่นำจดหมายที่เขาเขียนเสร็จแล้วเก็บลงกระบอก แล้วมัดไปที่บนขาของนกพิราบ ถือโอกาสที่เป็นช่วงกลางคืน ท้องฟ้ามืดมิดไม่มีคน ปล่อยมือไป
หลังจากที่จดหมายถูกส่งไป กลับมามองเห็นอวี่เหวินลู่อกสั่นขวัญหายมองไปที่ที่ตั้งตะเกียงอย่างเหม่อลอย ไหลลู่เข้าไปกล่อมเขา “แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา แค่เว่ยเฉินยางคนดีจะเทียบอะไรได้ ขอแค่ท่านอยากได้ ผู้หญิงคนไหนจะหาไม่เจอ ไม่คุ้มเลยกับการต้องเจ็บปวดใจเพื่อนาง”
อวี่เหวินลู่ถอนหายใจ มองไปที่ไหลลู่อย่างคับแค้นใจ “เจ้าจะไปเข้าใจอะไร… เฝิงเยี่ยไป๋กลับมาแล้ว”
“กลับมาก็กลับมาสิ” ไหลลู่ทำเสียงสงสัย “ที่ท่านไปตีท้ายครัวเขาอย่าบอกว่าโดนเขาจับได้แล้วนะ”
คำพูดแบบนี้พูดออกมาได้ อะไรเรียกว่าตีท้ายครัว เขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงกลายเป็นตีท้ายครัวไปได้ แม้ว่าเมื่อคืนว่าจะทำเรื่องอะไรนิดหน่อย แต่แค่แฉลบไปนิดเดียวเอง พูดอย่างจริงจังก็คือความจริงแล้วนางไม่ได้เสียเปรียบอะไร รูปร่างหน้าตาของตัวเองก็ไม่เลวเลย มีผู้หญิงอีกตั้งหลายคนต่อแถวอยู่ข้างล่างรอจะแต่งงานกับเขา ดีกว่าผู้ชายที่มีอายุอย่างเฝิงเยี่ยไป๋ไม่ใช่แค่ครึ่งดาว ถ้าจะบอกว่าเสียเปรียบคนที่เสียเปรียบคือเขาถูกจะถูก ไหนยังจะตีท้ายครัวอีก เขาไม่ได้โดยเขี่ยทิ้ง จะให้ตีอย่างไร
คำพูดเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องให้ไหลลู่มาพูด ในใจเขาก็คิดเองได้ เฝิงเยี่ยไป๋กลับมาแล้วหัวใจของเขายังคงรู้สึกทรมานมาก เรื่องของความรู้สึกนี้ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน