ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 675 สามีกลัวเจ้าเหนื่อยอย่างไรเล่า / ตอนที่ 676 เจ้ายังมีความเป็นผู้ชายหรือไม่
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 675 สามีกลัวเจ้าเหนื่อยอย่างไรเล่า / ตอนที่ 676 เจ้ายังมีความเป็นผู้ชายหรือไม่
ตอนที่ 675 สามีกลัวเจ้าเหนื่อยอย่างไรเล่า
บอกว่าไปย่อยอาหาร แต่มิได้เดินเกินสองก้าวเลย นางก็ถูกหิ้วปีกกลับมาแล้ว ซั่งเหมยคิดว่าเจ้านายทั้งสองไปเดินเล่นอย่างไรเสียคงใช้เวลาสักพัก คิดว่าจะกลับมาจุดไฟในเตาฟืนให้ร้อนสักหน่อย แล้วค่อยจุดกำยานอบผ้าห่มเสียหน่อย ประเดี๋ยวนายท่านทั้งสองกลับมาก็สามารถนอนได้ มิต้องรอนาน
ใครจะคิดเล่าว่าเพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป นายท่านทั้งสองก็กลับมาแล้ว นางตกใจ ย่อตัวทำความเคารพเสร็จแล้วจึงจะออกไป แต่เฝิงเยี่ยไป๋เรียกนางเอาไว้ ให้นางไปเอาน้ำร้อนเข้ามาให้ หลังจากนั้นก็ไปนั่งหน้าคันฉ่องผัดหน้า หันหน้าไปทางเฉินยางพลางกดคางลงเป็นเชิงส่งสัญญาณ “มาสิ ถือมีดไว้ ลูบไปตรงไหนแล้วสากมือเจ้าก็โกนเสีย”
เฉินยางถามเขาว่า “ท่านจะให้ข้าโกนจริงหรือ หากข้ามือสั่นละก็ ท่านมีหวังได้เสียโฉมเป็นแน่”
เขาทำท่าเหมือนไม่ใส่ใจแล้วตบหน้าขาของตน “ต่อให้เสียโฉมแล้วก็เป็นสามีเจ้าอยู่ดี มานี่!”
นางแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ นำมีดโกนอันเล็กที่ปกติซั่งเหมยใช้กันคิ้วให้นางออกมาจากในกล่องเครื่องสำอาง วาดกลางอากาศสองทีใกล้ๆ ขาของเขา “ขนขาก็ต้องโกนหรือ หากโกนแล้วจะต้องเปลืองแรงแน่ แต่ว่าขนขาน่าจะง่ายกว่าหนวดแน่ๆ อันนี้ข้าถนัด”
โกนขนขาอะไรเล่า ไม่เคยได้ยินว่าชายใดถูกโกนขนขาเสียที หญิงสาวที่ขาไร้ขนถึงจะน่าดู บุรุษถูกโกนขนขาแล้วจะเหมือนอะไรเล่า เขาตบต้นขาเรียกนางอีกครั้ง “สามีกลัวเจ้าเหนื่อยอย่างไรเล่า นั่งตรงนี้โกนสิ”
เฉินยางกลอกตามองเขา “ไม่ต้อง วันนี้ข้าทานข้าวไปสองชาม ไม่เหนื่อยสักนิด” นางวาดมีดในอากาศใกล้คางเขา มือซ้ายจับไม่ถนัดเปลี่ยนมาเป็นมือขวา มือขวาก็กำลังคำนวณว่าจะโกนแนวตั้งหรือแนวนอนดี มีดที่ประณีตเมื่อถูกแกว่งไปหน้าตรงหน้า เขาเองก็เริ่มกลัวนางจะหลุดมือเผลอเอามีดมาบาดหน้าตน จึงยกมือขึ้นประคองข้อศอกนางไว้ช่วยนางปรับทิศทางของท่าทาง เข้ามาใกล้หน้าตาให้พอดี “อย่างนี้แหละ ทีละหนึ่งนิ้วๆ ค่อยๆ โกน”
บนหน้าเขามีเพียงหนวดรอบปากเท่านั้นที่ตำมือคน ที่อื่นนั้นเรียบเนียนยิ่งนัก เหมือนตนกำลังโกนหนังของไข่ก็มิปาน เฉินยางยกคางเขาขึ้นให้เขาเงยหน้า ในที่สุดก็ลงมือโกนรอบแรก
เฝิงเยี่ยไป๋เงยหน้า ทอดสายตาลงมองหน้า “เรื่องใดก็ตามล้วนต้องเรียนรู้ หากเจ้าไม่เรียนจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองทำไม่ได้ ลูกชายนั้นมีแม่นมดูแล อนาคตนั้นยังมีภรรยาเขาดูแล สามีนั้นมีเพียงเจ้าคนเดียว ดังนั้นเจ้าต้องใส่ใจในตัวข้าให้มากหน่อย”
เฉินยางโกนหนวดให้เขาอย่างตั้งใจ คำพูดของเขานางมิได้นำไปใส่ใจแม้แต่น้อย เฝิงเยี่ยไป๋นั่งอ้าขาออกสองข้าง เฉินยางยืนอยู่ตรงกลาง บางคราก็งอขารับกับความสูงของเขา ร่างนางยิ่งใกล้เขาเข้าไปทุกที กลิ่นหอมอ่อนบนตัวนางก็เดี๋ยวไกลเดี๋ยวใกล้ ลอยมาเป็นพักๆ กระตุ้นจนเขาเองหวั่นไหวไปหมด
“นั่งเถิดนะ นั่งโกนสบายกว่า” เขารั้งเอวนางไว้แล้วกดตัวนางลง นำนางมานั่งบนขาตน เฉินยางไม่ยินยอม ยื้อแรงไว้ สุดท้ายสู้ไม่ไหว ตอนนั่งลงไปมือพลาดไปหนึ่งที มีดนั้นคมนัก เฉือนหน้าเขาจนเกิดรอยเลือดขึ้นมา ความยาวขนาดเท่าเล็บมือ หยดเลือดกลิ้งไหลลงมาทีละหยดจนไหลเป็นทาง เมื่ออยู่บนหน้าเขาแล้วยิ่งดูเย้ายวนอย่างน่าประหลาด
เฉินยางสติดีนัก รีบนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดให้เขา เช็ดไปบ่นไป “เห็นไหมเล่า ในมือข้าถือมีดอยู่ท่านก็ขยับไปเรื่อย ข้าบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ามือข้าไม่นิ่ง เป็นอย่างไรเล่า จะเสียโฉมเอาจริงๆ แล้ว”
“ให้เจ้านั่งลง เจ้าก็นั่งลงแต่แรกก็ดีแล้ว หากเจ้านั่งลงแล้ว ข้าจะต้องกอดเจ้าทำไมกัน”
เขาดูเหมือนคนมีผิวบางเนื้ออ่อน แต่ร่างกายนั้นแข็งแรงนัก มีดบาดคราหนึ่งแต่กลับไม่เป็นไรเลย หากเป็นตนเองทำแล้วคงจะไม่สนใจเป็นแน่ พรุ่งนี้ตื่นมาแผลตกสะเก็ดก็ไม่เป็นไรแล้ว แต่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าเฉินยางต้องทำตัวน่าสงสารเข้าไว้
ตอนที่ 676 เจ้ายังมีความเป็นผู้ชายหรือไม่
ตอนที่ซั่งเหมยยกอ่างน้ำร้อนเข้ามาก็เห็นฉากนี้เข้าพอดี นางตกใจจนหุบปากแทบไม่ได้ เฝิงเยี่ยไป๋ปิดปากเอาไว้ ทำท่างอนเฉินยางพลางเบ้ปากราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างยิ่ง บอกว่าเจ็บแผลมาก ให้นางเป่าแผลให้ ไม่เป่าก็ไม่ได้ หากไม่เป่าก็จะยื้อนางไว้ไม่ยอมลุกขึ้น ผู้ชายสูงเก้าฉื่อที่ยามอยู่นอกบ้านฆ่าคนยังไม่กะพริบตา ตอนนี้กลับมาทำท่าเง้างอนกับภรรยาตนเอง ทุกอากัปกิริยาล้วนสะบัดสะบิ้งกำลังดี แววตานั้นมองดูดีๆ ก็คล้ายกับนายน้อยราวกับโขกมาจากพิมพ์เดียวกัน ไร้ข้อแตกต่างเชียว เปลือกนอกยังคงเป็นคนเดียวกัน แต่เนื้อในนั้นอย่างกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
นางยกอ่างน้ำร้อน ชั่วขณะนั้นรู้สึกว่าจะเข้าก็ไม่ใช่ออกก็ไม่ใช่ ยืนทำหน้ากระอักกระอ่วนอยู่กับที่ ก้มหน้ามองปลายเท้า ไม่กล้าส่งเสียงใด
เฉินยางนำผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าให้เขา เช็ดจนตอนหลังเลือดหยุดไหลแล้ว แต่เดิมแผลก็ไม่ยาวนัก ขนาดเท่าเล็บมือเท่านั้น หนก่อนไปรบข้าศึกยังทำให้เขาตกใจไม่ได้เลย หนนี้เกิดแผลบนหน้าเพียงนิดเขาก็เจ็บจนจะเป็นจะตายเลยหรือ
“ลุกขึ้นเถิด ข้าจะไปเอายามาให้ท่าน” นางอยากจะลุกจากตักของเฝิงเยี่ยไป๋ แต่เขากลับไม่ยอมพลางผินหน้ามาจะให้นางเป่าให้ได้ “เจ้าติดค้างไว้ เจ้าต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุดสิ”
เฉินยางเป่าไปคราหนึ่งอย่างจำใด “ข้ารับผิดชอบเอง ข้ารับผิดชอบเอง อย่างนั้นท่านก็ต้องให้ข้าลุกขึ้นก่อน อีกประการหนึ่ง ข้าไปหายามาให้ท่าน ไม่อย่างนั้นคงจะเกิดแผลเป็นบนหน้าแน่ ประเดี๋ยวท่านก็คงกล่าวโทษข้าอีกจนได้”
เฝิงเยี่ยไป๋ส่ายหน้าเบาๆ “มิต้องหรอก เจ้าเป่าเสร็จจูบสักทีก็ใช้ได้แล้ว ข้าพื้นฐานแข็งแรง เพียงคืนเดียวผิวก็สมานแล้ว
นี่มิได้ตั้งใจจะหลอกนางเล่นรึ รู้อยู่แล้วเชียวว่าเขาเองมีเจตนาไม่ดี แผลเล็กเท่าใดกันจะทำให้เขาเสียขวัญได้ เขาเป็นใครกัน ฆ่าคนยังไม่กะพริบตาเลย บนโลกนี้ยังมีอะไรทำให้เขาตกใจได้หรือไม่
“ท่านรู้ตัวว่าตนนั้นหน้าหนาก็ดีแล้ว ตอนนี้ถึงบีบก็ไม่มีเลือดออกแล้ว อย่าทำเป็นเล่นอีกเลย รีบลุกขึ้นเสียเถิด”
“เจ้าจูบผู้ชายของตนเองยังจะมีใครมาว่าเจ้าได้อีกเล่า
เฉินยางโยนผ้าเช็ดหน้าทิ้งไป เท้าสะเอวมองเขา “ท่านมิได้เป็นอะไรตั้งแต่แรก อย่ามาแกล้งทำเป็นเจ็บต่อหน้าข้า แผลแค่นี้ท่านก็ทนไม่ได้แล้ว ท่านยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่”
หากพูดอย่างนี้ก็เกินเรื่องไปเสียหน่อย แม้แต่ซั่งเหมยที่ได้ยินแล้วยังอ้าปากค้าง ตอนนี้สีหน้านายท่านไม่ดีนัก จึงรีบยกอ่างน้ำร้อนถอยออกไป
เฝิงเยี่ยไป๋บีบจมูกนางคราหนึ่ง ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ข้าเป็นชายหรือไม่ อย่างนั้นเจ้าเป็นหญิงหรือไม่เล่า”
“หญิงแน่แท้”
“ผู้หญิงหากไม่มีผู้ชายจะมีลูกได้อย่างไร ลูกชายก็มีแล้ว เจ้ายังบอกว่าข้าไม่ใช่ผู้ชายอีก ไม่ได้ลงโทษเจ้าเสียหลายวัน ข้าว่าเจ้านี่น่าจะต้องถูกลงโทษเสียแล้ว”
เฉินยางขยับบั้นท้ายไปด้านหลัง “แล้วอย่างไรเล่า ท่านยังอยากจะเอาคืนข้า ตีข้าใช่หรือไม่ หากท่านกล้าตีข้าอย่างนั้นท่านก็มิใช่ผู้ชายแล้ว แม้แต่ผู้หญิงยังตีได้ ท่าน….”
พูดจบ เฝิงเยี่ยไป๋จับหน้านางไว้ ยังไม่ทันได้ดูให้แน่ชัด เขาก็โน้มใบหน้าลงมาแล้ว คำพูดบ่นว่าล้วนถูกปิดกั้นอยู่ที่ริมฝีปากนั้น แผลเป็นที่เลือดเพิ่งหยุดไหลเพราะเขาขยับแรงเลือดจึงออกมาอีกครั้ง เลือดไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อครู่แล้ว แต่เมื่อติดอยู่บนผิวหน้าก็ดูน่ากลัวนัก
“ปากบอกว่าไม่ได้ผล ไม่อย่างนั้นเราขึ้นเตียงดีหรือไม่ พูดจะสู้ทำได้อย่างไร ปากเจ้านี้ล้วนถูกข้าตามใจเสียจนเคยตัว ดังนั้นจึงได้อยากจะพูดอะไรก็พูดกล้าพูดไปเสียหมด วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำ ไม่อย่างนั้นก็จะพูดจาไม่รู้หนักเบา หากคนนอกได้ยินเข้าละก็ จะเข้าใจว่าข้าใช้ไม่ได้!”
เฉินยางอาศัยจังหวะที่เขายืนขึ้นเตะขาแล้วก็วิ่งออกไป ขาเล็กๆ นั้น ยังไม่ทันก้าวออกไปแม้แต่ก้าวเดียวก็ถูกเขาช้อนตัวกลับมาแล้ว ด้านหลังนางคือเฝิงเยี่ยไป๋ที่หัวเราะเบาๆ อย่างได้ใจ มั่นใจนักว่าอย่างไรเสียนางก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือเขา