เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 1 ตอนที่ 17 พี่ชาย ตกหลุมรักแรกพบหรือ?
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 1 ตอนที่ 17 พี่ชาย ตกหลุมรักแรกพบหรือ?
โจวเฉิงมองดวงตาที่พกตะขออันน้อย [1] ของเซี่ยเสี่ยวหลาน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยกินเนื้อหมู แต่อย่างน้อยก็เคยเห็นหมูวิ่ง [2] โจวเฉิงมีความรู้สึกดีๆ ต่อเธอ และเขาไม่ปิดปังความรู้สึกดีเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
เธอรู้จักสังคมที่มองแต่รูปลักษณ์ภายนอกดี ผู้ชายเห็นใบหน้านี้ของเธอเข้า ย่อมยากที่จะรังเกียจ มิเช่นนั้นวันนี้จะดึงดูดเรื่องโชคร้ายมาได้อย่างไร?
โจวเฉิงและคังเหว่ยคือผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือเธอไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานสำรวมทว่าไม่ดึงดัน
จะเป็นการรบกวนพวกคุณมากไปหรือไม่?
ไม่ลำบากหรอก พวกเราเดินทางไกลมาหลายวัน ระหว่างทางต้องพักผ่อนบ้างอยู่แล้ว ส่งเธอถึงบ้านค่อยกลับเข้าตัวเมือง
คังเหว่ยอ้าปากค้าง
แต่ไหนแต่ไรเวลาพี่เฉิงจื่อพูดคุยกับหญิงสาวนั้นไม่ได้อดทนเช่นนี้ มีผู้หญิงวิ่งไล่ตาม เขาก็ยืนกรานไม่แลพวกเธอแม้แต่หางตาด้วยซ้ำ ระหว่างเดินทางเมื่อครู่ไม่ได้บอกว่าจะพักในเขตอันชิ่งเสียหน่อย พวกเขาขนของมาเต็มคันรถ ถ้าถึงปักกิ่งเร็ว การเดินทางขานี้ก็สบายแล้ว คังเหว่ยแอบจ้องเซี่ยเสี่ยวหลาน เธองดงามมากจริงๆ ถึงกับทำให้พี่เฉิงจื่อที่ไม่สุงสิงกับสตรีคนใดหลงใหลเลยหรือ?
เขาไม่กล้าส่งเสียงใด รีบตีข้างกลอง [3] โดยไม่รีรอ
ไม่ลำบากเลย ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว เธอเดินทางคนเดียวจะปลอดภัยแค่ไหนกัน? หากอันธพาลเหล่านั้นยังมีพวกพ้องอีกล่ะ? เธอวางใจเถอะ พวกเราไม่ใช่คนเลวแน่นอน สถานีตำรวจเก็บข้อมูลไว้แล้วนี่!
ถ้าปฏิเสธต่อไป คงจะเหมือนทำอย่างกับผู้มีพระคุณเป็นหมาป่าที่ต้องกีดกันเอาได้
เซี่ยเสี่ยวหลานมองไปยังต้าตงเฟิง [4] นั่น ไม่รู้ว่าตนจะนั่งตรงไหนดี
โจวเฉิงนำจักรยานของเซี่ยเสี่ยวหลานยัดใส่มือคังเหว่ย นายไปนั่งข้างหลังไป เฝ้าของด้วยเลย
ใจดวงนี้ของคังเหว่ยช่างหนาวเหน็บ
แต่เขาไม่กล้าต่อต้านโจวเฉิง ทำได้เพียงนำจักรยานของเซี่ยเสี่ยวหลานใส่ในกระบะท้ายรถ ภายในนั้นบรรจุกล่องอยู่เต็ม กว่าคังเหว่ยจะจัดที่จัดทางได้เสร็จล้วนไม่ง่ายดายนัก เซี่ยเสี่ยวหลานอยากจะออกปากไปนั่งด้านหลังเอง ทว่ารถนำของมาด้วยจำนวนมาก บางทีพวกเขาอาจไม่เชื่อใจเธอ
เธอนั่งที่นั่งข้างคนขับ รถตงเฟิงออกตัวแล้ว
เมื่อออกจากทางหลวงมณฑล สภาพเส้นทางไปยังหมู่บ้านชีจิ่งนั้นแย่มาก มีหลายครั้งที่ล้อรถผ่านข้างทางไปอย่างหวุดหวิด
เซี่ยเสี่ยวหลานบอกทางกับโจวเฉิงเป็นครั้งคราว รถยนต์นี่เร็วกว่าจักรยานเสียจริง! เดินเท้าสองชั่วโมง ขี่จักรยานใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ต้าตงเฟิงขอแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว!
ข้างหน้าคือบ้านฉันเอง ขับรถเข้าไปในหมู่บ้านไม่ได้น่ะ คุณส่งฉันตรงนี้เถอะ
เซี่ยเสี่ยวหลานชี้ไปทางหมู่บ้านชีจิ่ง
เส้นทางที่ผ่านมาล้วนเป็นท้องไร่ท้องนาที่มีฉากหลังแสนคึกคักวุ่นวาย ในขณะที่ท้องฟ้ายังไม่มืดสนิท เหล่าคนทำงานต้องนำข้าวที่ฟาดแล้วกลับบ้าน บรรจุใส่กระสอบไว้แล้วใช้แรงคนแบกกลับทีละกระสอบ
ในหมู่บ้านมีควันจากปล่องไฟฟุ้งตลบ
ปกติรับประทานอาหารสองมื้อ พอช่วงทำงานเกษตรย่อมต้องการสามมื้อต่อวัน ทุกๆ มื้อจะกินของที่อยู่ท้อง มิเช่นนั้นใครจะทำงานนั่นไหว?
เดิมทีเซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าวันนี้จะกลับเร็วหน่อยเพื่อมาทำอาหารเย็น ทว่าไปให้การที่สถานีตำรวจจนล่วงเวลาไปเสีย เธอร้อนรนรีบเร่งไม่น้อย โจวเฉิงเองก็ดูออก รอเธอลงจากรถแล้วโจวเฉิงจคงถามในทันที
พรุ่งนี้เธอยังไปเขตอันชิ่งไหม?
เกิดเรื่องเช่นวันนี้ขึ้น หากเป็นหญิงสาวทั่วไปคงตกใจจนเกือบสิ้นลม อาจจะถึงขนาดไม่ทำการค้าขายต่อไปแล้วด้วย
ต่อให้จะขายไข่ต่อไป ทว่าคงจะพักฟื้นสภาพจิตใจก่อน
แต่โจวเฉิงคิดว่าเธอไม่เหมือนหญิงสาวธรรมดา เธอท่าทางบอบบางอ้อนแอ้น แท้จริงแล้วกลับกล้าหาญไม่เบา
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่แม้แต่จะใคร่ครวญก่อนดังที่คาด
ไปสิ ตอนกลางคืนพวกพี่โจวจะอยู่บ้านพักในเขตอันชิ่งหรือ? ไว้พรุ่งนี้ฉันไปหาพวกคุณ เอาอาหารเช้าไปให้ด้วย
โจวเฉิงผู้ดูภายนอกร้ายกาจได้ฟังแล้วสีหน้ากลับผ่อนคลายขึ้น รู้สึกว่าสาวน้อยนางนี้จิตใจดีทีเดียว
กลับบ้านเถอะ พรุ่งนี้อย่าออกเดินทางเช้าไปนะ ท้องฟ้ายังมืดจะไม่ปลอดภัย
เซี่ยเสี่ยวหลานเข็นจักรยานแล้วจากไป
คังเหว่ยก้าวเข้ามากล่าวตะกุกตะกัก พี่เฉิงจื่อ พี่ชอบเธอจริงๆ หรือ?
โจวเฉิงส่งเสียงหึด้วยความไม่ใส่ใจ
คังเหว่ยคร่ำครวญด้วยความรวดร้าว ยังมีความยุติธรรมอยู่หรือไม่ นั่นเป็นคนที่เขาชอบชัดๆ พร่ำเพ้อถึงมาตลอดทาง ผลคือโดนโจวเฉิงช่วงชิงไปเสียได้?!
เซี่ยเสี่ยวหลานเข็นจักรยานกลับถึงบ้าน
หลิวเฟินเป็นห่วงอยู่นานแล้ว วันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานกลับมาช้า พวกเขาทำงานในไร่นาเสร็จแล้วกลับมาไม่เจอ หลิวเฟินจึงกำลังจะออกไปตามหา พอดีกับเซี่ยเสี่ยวหลานกลับมาเสียก่อน แม้เธอจะจัดผ้าผ่อนเรียบร้อยแล้ ทว่ากลิ่นคาวไข่นั้นกลบอย่างไรก็อำพรางไม่อยู่
ฉันล้มระหว่างทางน่ะ เลยต้องเข็นรถกลับมา ไข่ก็แตกไปเยอะเลย
เซี่ยเสี่ยวหลานชิงสารภาพก่อน หลิวเฟินนึกถึงไข่ที่ไหนกัน รีบถามรายละเอียดกับเธอ มีแผลหรือไม่? ให้แม่ดูชัดๆ หน่อย!
เซี่ยเสี่ยวหลานยังบิดตัวไปมา แต่ท่าทางร่าเริงฮึกเหิม
ฉันไม่เป็นไรจริงๆ เผอิญได้พบกับสหายมีน้ำใจสองคนให้ฉันติดรถมาด้วย พรุ่งนี้ฉันจะแวะเอาข้าวเช้าไปให้สักหน่อย เพื่อขอบคุณพวกเขา
เช่นนั้นพรุ่งนี้ลูกพักสักวันเถอะนะ?
ฉันพูดไปแล้วว่าจะเอาข้าวเช้าไปให้พวกเขาน่ะ อีกอย่างฉันกินข้าวเย็นในเมืองมาแล้ว เย็นนี้ทุกคนกินอะไรกันหรือ?
การเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่เพียงแค่เหนื่อยยากเท่านั้น เหงื่อไคลและเศษหญ้าเหนียวเหนอะบวกรวมเข้าด้วยกันทำให้คันเสียจนทรมาน หลิวหย่งกับหลี่เฟิ่งเหมยจึงไปอาบน้ำ หลิวเฟินทำอาหารไปพลาง ดูแลเทาเทาไปพลาง เซี่ยเสี่ยวหลานกลับมาแล้วจึงเร่งให้เธอไปอาบน้ำบ้าง
เทาเทาวนเวียนอยู่รอบตัวเซี่ยเสี่ยวหลาน พี่เสี่ยวหลาน ตกลงแล้วพี่จะพาผมไปเที่ยวในเมืองเมื่อไร?
เขามองอย่างมีความหวังราวกับลูกหมาปักกิ่ง [5] เซี่ยเสี่ยวหลานอดบีบใบหน้าเล็กๆ ของเขาไม่ได้
พี่สาวยุ่งกับการหาเงิน มีเวลาว่างเล่นเป็นเพื่อนเด็กดื้ออย่างเธอที่ไหน แต่ถ้าเธอทำตัวดี พรุ่งนี้ฉันเอาของขวัญกลับมาให้
เทาเทาแววตาวอกแวก ที่เขาอยากเข้าเมืองมากๆ เพราะอยากอยู่กับเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่บิดาของเขาบอกว่าพี่เสี่ยวหลานไปเพื่อทำธุรกิจ ไม่อนุญาตให้เขาก่อกวน เซี่ยเสี่ยวหลานยังบอกว่าจะนำของขวัญมาให้เขา เท่านี้เทาเทาก็พอใจแล้ว
เขายื่นมือออกมา ผมไม่เชื่อ ก่อนหน้านี้พี่ยังบอกว่าจะพาผมเข้าเมืองด้วย แต่ตอนเช้ากลับแอบออกไปคนเดียว พวกเราเกี่ยวก้อยกัน!
เทาเทายื่นนิ้วก้อยให้ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงต้องยื่นนิ้วมาเกี่ยวก้อยกับเขาเช่นกัน
ทั้งสองเกี่ยวก้อยเอาไว้ แล้วยืดนิ้วโป้งขึ้นชนกัน
เกี่ยวก้อยสัญญา ร้อยปีก็ห้ามเปลี่ยน ใครเปลี่ยนคนนั้นเป็นลูกหมา
หลิวหย่งเพิ่งอาบน้ำเสร็จพอดี ลูกคนนี้นี่ ไม่เคารพพี่สาวเอาเสียเลย ว่าใครเป็นลูกหมา?
หากเซี่ยเสี่ยวหลานเป็นลูกสุนัข ลุงอย่างเขาก็ไม่เป็นลุงสุนัขเหมือนกันหรอกหรือ?
หลิวหย่งวิ่งไล่จับลูกชายไปทั่ว เซี่ยเสี่ยวหลานกลั้นหัวเราะพลางห้ามไว้
ลุง ฉันแค่เล่นกับเทาเทา ไม่เป็นไรหรอก กล่อมเด็กนี่นา
หลิวหย่งทำงานทั้งวันจนหมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว เขาแค่ทำท่าทางแกล้งจับเท่านั้น เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยเสี่ยวหลานจึงหัวเราะในทันที หลานนี่พูดจาอย่างกับคนแก่ ตัวเองก็ยังเป็นเด็กอยู่นะ!
หญิงสาวอายุ 18 สามารถออกเรือนได้แล้ว
ทว่าในสายตาหลิวหย่งนั้นหลานสาวอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานก็เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นเพียงคนนึงเท่านั้น
ช่างน่าสงสารที่เธอต้องมาเกิดในตระกูลเซี่ย มีคนในครอบครัวที่ลำเอียง มีบิดาที่เหมือนท่อนไม้ทื่อ ขนาดนั้นหญิงสาวก็ยังไม่ยอมให้ลุงอย่างเขาช่วยเลี้ยงดู จะรับภาระดูแลครอบครัวด้วยตนเอง หลิวหย่งถอนใจ วันนี้หลานรถล้มจริงหรือ? ลุงไม่ใช่แม่หลานหรอกนะ
ยิ่งอยู่ด้วยกัน เซี่ยเสี่ยวหลานก็ยิ่งรู้สึกว่าลุงเธอนั้นฉลาดหลักแหลมมาก
เธอจึงไม่ปกปิดและเล่าถึงเรื่องวันนี้
คนพวกนั้นสืบที่มาของฉันล่วงหน้า ลุงว่าชื่อเสียงแย่ๆ ของฉันมันแพร่ไปถึงในเมืองเลยหรือ?
เซี่ยเสี่ยวหลานแค่ขายไข่ไก่ กลับต้องเจอคนพูดว่าตนคือ ‘เซี่ยเสี่ยวหลานแห่งหมู่บ้านต้าเหอ’ หรือ? หลิวหย่งหวั่นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มีกลิ่นตุแปลกๆ พรุ่งนี้ลุงเข้าเมืองไปสืบสักหน่อย และจะไปขอบคุณทั้งสองคนที่ช่วยหลานไว้ด้วย หลานนี่นะ เลี้ยงข้าวคนเขาสองหนก็หายกันแล้วหรือ?
แต่ว่างานในไร่นา…
ไม่มีปัญหา เดี๋ยวลุงให้คนอื่นช่วยทำ ไม่เสียเวลาเก็บเกี่ยวหรอก
หลิวหย่งกินข้าวเย็นเสร็จก็ออกไป เซี่ยเสี่ยวหลานพูดกับมารดาเรื่องจะนำข้าวเช้าไปส่ง เธอเป็นพวกปากประทัด [6] ผัดผักอย่างสองอย่างยังแย่กว่าได้กินแบบสดๆ ให้เธอนึ่งซาลาเปา แป้งก็ขึ้นฟูไม่ดี สิ่งที่ใช้ในปี 83 ไม่ใช่พวกแป้งพร้อมฟู ใช้เบคกิ้งโซดาทำแป้งนี่ถือว่าดีมากแล้ว โดยส่วนใหญ่มักใช้ยีสต์ ซึ่งเซี่ยเสี่ยวหลานควบคุมปริมาณไม่ค่อยเก่งนัก
หลี่เฟิ่งเหมยมายืนแทรกอยู่ข้างๆ
ไชเท้าที่ดองไว้เมื่อสองสามวันก่อนเปรี้ยวพอดีแล้ว สับเนื้อหมูผสมสักหน่อย ทำเกี๊ยวหมูไชเท้าดองเอาไปส่งสิ
ไส้เนื้อสัตว์ล้วน?
ไม่เคยนึกถึงสิ่งนี้มาก่อนเลย มีเนื้อสัตว์บ้างก็ไม่เลวทีเดียว เดี๋ยวนี้บ้านไหนเขาได้กินไส้เนื้อสัตว์ล้วนกัน นั่นมันฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!
เชิงอรรถ
[1] 眼里有勾子 นัยน์ตามีตะขอ หมายถึง สิ่งใดสิ่งหนึ่งเหมือนมีตะขอมาเกี่ยวจิตใจให้หลงใหล
[2] 没吃过猪肉,见过猪跑 ไม่เคยกินเนื้อหมู แต่เคยเห็นหมูวิ่ง เปรียบเปรยว่า แม้ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรบางอย่างมาก่อน แต่ก็พอรู้ว่ามันเป็นอย่างไร ในที่นี้หมายถึง เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ค่อยมีประสบการณ์เรื่องรักใคร่ แต่เธอพอรู้ว่ามันจะเป็นเช่นไร
[3] 打边鼓 ตีข้างกลอง มีที่มาจากการตีกลองด้านข้าง ให้เสียงที่ค่อนข้างเบา ใช้ในการสนับสนุนเสียงขับร้อง ต่อมาใช้เปรียบเปรยว่า ช่วยพูดสนับสนุนความคิด
[4] 大东风 รถตงเฟิงคันใหญ่ ในที่นี้คือรถบรรทุกหนักภายใต้ชื่อ ตงเฟิง ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของรถยนต์ในประเทศจีน
[5] 京巴 สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง คือ สุนัขขนาดเล็กสายพันธุ์หนึ่ง มีต้นกำเนิดในประเทศจีนตะวันตก
[6] 嘴炮 ปากประทัด คำแสลงในโลกออนไลน์ ที่จริงแล้วมีความหมายหลากหลาย ในที่นี้หมายถึง คนที่ปากบอกว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เอาเข้าจริงกลับทำได้ไม่ค่อยดี