เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 2 ตอนที่ 37 ไม่คิดสำนึกผิด
หลิวหย่งไปจับปลาไหลในคูน้ำตั้งแต่เช้า หลี่เฟิ่งเหมยจึงไปตามหาเขาที่บริเวณนั้น สองสามีภรรยารีบเร่งกลับบ้านเพราะกลัวว่าเซี่ยเสี่ยวหลานและมารดาจะถูกเอาเปรียบ
เมื่อถึงประตูหน้าบ้านก็เห็นว่านอกบ้านของเขามีคนกำลังเมียงมองเข้ามาอยู่ เนื่องจากไม่กล้ารั้งตัวหลิวหย่งจึงดึงหลี่เฟิ่งเหมยไว้แทน
เกิดอะไรขึ้น? บ้านแม่สามีของน้องสาวสามีเธอส่งคนมาแล้วหรือ?
เป็นเซี่ยต้าจวินสินะ ครั้งนี้ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงทีเดียว อาเฟินก็อยู่บ้านแม่มาหลายวันแล้ว…
เฟิ่งเหมย น้องสามีเธอช่างน่าสงสาร เธอก็อย่ารีบไล่ไปเลย ช่วยเหลือคนเขาหน่อยนะ
หลิวเฟินซื่อสัตย์ไม่เกี่ยงงาน อีกทั้งไม่ชอบแต่งตัวแต่งหน้า ภายนอกซูบคล้ำไม่สะดุดตา ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเหล่าผู้หญิงในหมู่บ้านแม้แต่น้อย พูดคุยนินทากับเธอก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเผยแพร่ไปทั่วหมู่บ้าน แค่เพราะโชคร้ายไม่มีลูกชายให้ตระกูลเซี่ย หากสะใภ้ที่ดีเช่นหลิวเฟินนี้ตระกูลเซี่ยยังรับไม่ได้ ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน พวกเธอก็เข้าใจว่าชีวิตเธอช่างขมขื่นเสียจริงๆ
หรือจะบอกว่าไกลหอมใกล้เหม็น [1] ก็ย่อมได้ หลิวเฟินอยู่ที่หมู่บ้านต้าเหอก็เป็นคนแบบนี้ แต่งงานออกไปตั้ง 20 ปีแล้ว แต่พอเรื่องของเซี่ยเสี่ยวหลานแดงขึ้นมา หมู่บ้านต้าเหอกลับไม่มีคนพูดด้วยเหตุผลและความยุติธรรมแทนหลิวเฟินเลย เอาแต่รอชมเหมือนเป็นเรื่องสนุกเท่านั้น
หมู่บ้านชีจิ่งคือบ้านแม่ของหลิวเฟิน ตระกูลหลิวตั้งรกรากที่นี่มาสามชั่วอายุคนแล้ว สลัดสถานะของคนต่างถิ่นไปจนหมด คนในหมู่บ้านจึงอยู่ข้างหลิวเฟินและลูกสาว
หลี่เฟิ่งเหมยขอบคุณในความหวังดีของทุกคนและขอตัวออกมาด้วยความลำบาก พอกลับถึงบ้านก็เห็นว่านั่งกันอยู่ในห้องโถงกลาง หลิวหย่งนั่งในตำแหน่งเจ้าบ้าน เซี่ยเสี่ยวหลานและมารดานั่งประกบด้านซ้าย ส่วนทางขวาคือคนตระกูลเซี่ย ไร้ซึ่งร่องรอยของการต่อสู้
หลี่เฟิงเหมยสบายใจไปเปราะหนึ่ง ถ้าสู้กันจริงสามีของเธอต้องเสียเปรียบแน่นอน เธอจะต้องเรียกคนในหมู่บ้านมาช่วยอีกแรง!
ว่ามาเถอะ วันนี้พวกแกมาด้วยเรื่องอะไร? ก่อนหน้านี้ไม่ได้คุยกันให้จบไปแล้วหรือ?
สายตาของหลิวหย่งเจือความจงเกลียดจงชังเอาไว้
สตรีจากตระกูลเซี่ยอีกสองคนยังกล้ามาถึงที่นี่ อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ หลิวเฟินอยู่ที่บ้านเซี่ยมักถูกสะใภ้ทั้งสองข่มเหงรังแก จางชุ่ยเหมือนหมาที่กัดมักไม่เห่า ส่วนหวังจินกุ้ยคือหมารับใช้อันดับหนึ่งของแม่เฒ่าเซี่ย สองคนนี้ล้วนเป็นของเสียทั้งนั้น
เซี่ยต้าจวินมองไปทางหลิวเฟิน หลิวเฟินกำลังก้มหน้านับมดอยู่ สองสามีภรรยาไม่พบหน้ากันตั้งนาน หลิวเฟินท่าทางไม่ห่วงใยเขาเหมือนเมื่อก่อน ถึงขนาดไม่พูดกับเขาแม้แต่ประโยคเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็เช่นกัน เห็นเขาแล้วกลับไม่ทักไม่เรียกสักนิด
เซี่ยต้าจวินข่มไฟโทสะในใจเอาไว้
ฉันมารับพวกเขาสองแม่ลูกกลับไป งานในไร่ในนาเสร็จเรียบร้อย อาการป่วยของย่าก็ดีขึ้นแล้ว
ความหมายของเซี่ยต้าจวินคือคนที่บ้านไม่โกรธเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว เขาพาพี่และน้องสะใภ้มารับด้วยกันเพื่อให้ต่างฝ่ายต่างมีที่ลงและกลับไปใช้ชีวิตสงบสุขดังเดิมได้ ชื่อเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานถูกทำลายเป็นเรื่องน่ารำคาญใจ แต่ระหว่างเดินทางมาพี่สะใภ้ใหญ่จางชุ่ยรับรองกับเขาว่าจะลองทาบทามหาสามีให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลานแน่นอน จากนั้นก็จะปล่อยเธอได้ออกเรือนด้วยความราบรื่น
หลิวหย่งปวดหัวอย่างเสียไม่ได้ สื่อสารกับท่อนไม้นี่ช่างยากเย็นเหลือเกิน เห็นได้ชัดว่าเซี่ยต้าจวินมิได้นำคำพูดก่อนหน้านี้ใส่ใจไว้บ้างเลย
อาเฟินไม่อยากใช้ชีวิตกับแกอีกต่อไปแล้ว พวกแกสองคนก็ไม่เคยมีพิธีรีตองอะไร แค่ลงลายมือเป็นหลักฐานกับพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ ต่อจากนี้เป็นต้นไปก็ทางใครทางมันเสีย
ชนบทในปี 83 สามีภรรยาที่ใช้ชีวิตด้วยกันหลายสิบปีแต่ไม่เคยไปรับทะเบียนสมรสที่สถานีพลเมืองนั้นมีอยู่ทั่วไป ทุกคนก็ไม่จุกจิกกับเรื่องนี้ การแต่งงานเป็นเรื่องของทั้งชีวิต ต่อให้ทะเลาะกันจนฟ้าพลิกแผ่นดินหงาย แต่มีน้อยคนมากที่จะนึกถึงการหย่า สำหรับทุกคนแล้วทะเบียนสมรสจึงไม่ได้มีประโยชน์อะไร
ถ้าหลิวเฟินไม่อยากอยู่กับเซี่ยต้าจวินแล้ว แค่เก็บข้าวเก็บของแล้วจากไปเลยก็ย่อมได้ อย่างน้อยกฎหมายจะไม่สามารถผูกมัดเธอเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตามหลิวหย่งยังกลัวว่าอีกหน่อยตระกูลเซี่ยจะราวีมีข้อพิพาทกันไม่ชัดเจน สองฝ่ายควรลงลายมือป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
เซี่ยต้าจวินรู้สึกว่าพี่ชายภรรยากัดไม่ปล่อยน่ารำคาญยิ่งนัก ใบหน้าของเขาสะท้อนความไม่พอใจ จางชุ่ยเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีจึงรีบตัดบท
ลุงของเสี่ยวหลาน โบราณเขาว่ารื้อสิบวัดไม่เท่ากับทำลายหนึ่งงานแต่ง [2] น้องสะใภ้อยู่กับต้าจวินมานานกว่า 20 ปีแล้ว สามีภรรยาจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างเลยหรือ? ถึงคุณจะแยกพวกเขาให้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเสี่ยวหลาน… เธอยังต้องออกเรือนเข้าสักวัน เกิดอนาคตบ้านสามีมารู้เข้าว่าพ่อแม่ของเสี่ยวหลานไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว พูดออกไปก็ฟังไม่รื่นหู คุณว่าไหมล่ะ?
หลิวเฟินที่กำลังก้มหน้านับมดอยู่ไหล่สั่นสะท้าน
หลี่เฟิ่งเหมยหัวเราะร่วน ที่แท้ตระกูลเซี่ยอยู่ในความดูแลของสะใภ้จางนี่เอง ช่างน่าแปลกใจนัก เสี่ยวหลานจะแต่งงานหรือไม่ ป้าสะใภ้ยังตัดสินใจแทนเธอได้หรือ?
เฮอะ เอาเรื่องเสี่ยวหลานออกเรือนมาขู่กัน ไม่พ่นน้ำลายใส่หน้าเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว จางชุ่ยคิดว่าคนตระกูลหลิวจะยอมให้รังแกได้ง่ายๆ สินะ!
เซี่ยเสี่ยวหลานยังคงร้อนรนจะรีบออกจากบ้านไปรับซื้อปลาไหล เปรียบเทียบกับแผนการหาเงินแล้ว ความสำคัญของคนตระกูลเซี่ยนั้นเบาบางมาก
ให้ฉันพูดสักหน่อยเถอะ ฉันไม่กลับไปตระกูลเซี่ย และฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการให้แม่ฉันกลับไป แม้ว่าแม่จะขายตัวเองเป็นคนในตระกูลเซี่ยแล้ว แต่การทำงานเป็นวัวเป็นม้าในหลายปีมานี้ได้ถือว่าชดใช้ให้จนหมดสิ้นแล้ว พวกคุณอย่ามาจ้องฉัน ข่าวลือมันแพร่ไปทั่วทุกที่ ทำลายชื่อเสียงของฉันต้อนให้ฉันต้องฆ่าตัวตาย ความจริงเป็นอย่างไรป้าใหญ่คงรู้อยู่แก่ใจดี อย่างแรก ฉันกับจางเสเพลจากหมู่บ้านสือพัวจื่อไม่มีความสัมพันธ์ที่ผิดทำนองคลองธรรมแม้แต่น้อย เมื่อก่อนไม่มี อนาคตยิ่งไม่มีทางมี อย่างที่สอง ต่อให้ผู้ชายทั้งโลกล้มตายกันหมดสิ้น ฉันก็ไม่มีทางไปยั่วยวนผู้ชายของเซี่ยจื่ออวี้… ขี้สองอ่างนี้มันมาคว่ำอยู่บนหัวของฉัน ฉันไม่อาจยอมรับ!
เซี่ยเสี่ยวหลานแค่หงุดหงิดที่มีเรื่องแต่ไม่พูดให้แจ่มแจ้งเสียที จะต้องกระมิดกระเมี้ยนกันอยู่ได้
ในหมู่บ้านชีจิ่งมีคนได้ยินเรื่องข่าวลือมาบ้างแล้ว คนเขาแค่มิได้เอามาพูดกันต่อหน้าคนตระกูลหลิว เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ยินดีให้คนอื่นเดาสุ่มซี้ซั้ว จึงพูดออกมาให้รู้เรื่องกันไปเลย เธอทำทุกสิ่งอย่างตรงไปตรงมา แม้ ‘เจ้าของร่าง’ จะดูไร้แก่นสาร แต่ไม่ได้หลอกล่อใครให้ทำเรื่องเสี่ยมเสียด้วยจริงๆ การไปมาหาสู่กันกับหวังเจี้ยนหัวก็เป็นเพราะมีความพึงพอใจต่อกัน แต่ทั้งสองคนไม่เคยฝ่าด่านป้องกันสุดท้ายด้วยซ้ำ!
ความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นจนทำให้ฉากจบนั้นย่ำแน่ขนาดนี้ ไม่ช้าก็เร็วเซี่ยเสี่ยวหลานต้องคิดบัญชีกับเซี่ยจื่ออวี้และหวังเจี้ยนหัวแน่
เธอมองเซี่ยต้าจวินแล้วอดยิ้มเยือกเย็นมิได้
พ่อรู้ความเป็นไปของเรื่องราวหรือไม่? ตอนฉันถูกข่าวลือกดดันเสียจนไร้ช่องทางใช้ชีวิต พ่อมีใจรักและห่วงใยลูกสาวบ้างหรือไม่? ผ่านไปตั้งนานขนาดนี้ พ่อเคยคิดจะไปจัดการกับตัวการทำลายชื่อเสียงของฉันอย่างจางเสเพลไหม? ไม่เคยเลยใช่ไหมล่ะ อย่างนั้นพ่อคิดว่าทำไมฉันถึงไม่กลับไปตระกูลเซี่ยกัน? เป็นคนดีๆ ไม่ชอบ จะให้กลับไปเป็นหมาส่ายหางขอความเอ็นดูหรือ?!
เซี่ยต้าจวินอ้าปากค้าง
หวังจินกุ้ยพูดอุบอิบ เธอทำเรื่องขายหน้าขนาดนั้น ใครเขาจะไปถามด้วยความหวังดีได้?
ถ้าอย่างนั้นอาสะใภ้สามหมายความว่า ต่อให้หงเซี๋ยต้องแบกกิตติศัพท์เช่นนี้ไว้ อาก็จะไม่สนใจใยดีอีกแล้ว?
หวังจินกุ้ยโมโหจนหายใจไม่ทัน หากหงเซี๋ยถูกคนนินทากันเลวร้ายถึงเพียงนี้ เธอจะถือเสียมไปสู้กับคนพวกนั้นให้ตายกันไปข้าง แม้แต่จางเสเพลนั่นก็ต้องพาคนไปตีให้เกือบตาย ดูสิว่ายังมีใครกล้าพูดจาซี้ซั้วอีกหรือไม่?
หวังจินกุ้ยรู้ตัวว่าความคิดตนถูกเซี่ยเสี่ยวหลานเบี่ยงเบนเข้าแล้ว ปริปากได้จึงด่าออกไปทันที
หงเซี๋ยของฉันไม่ได้ทำตัวผิดปกติเสียหน่อย ไม่มีมูลหมาไม่ขี้ ถ้าเธอกับจางเสเพลไม่มีเรื่องคลุมเครือกัน แล้วทุกคนจะพูดถึงเรื่องเธอได้อย่างไร? ฉันไม่อยากหยุมหยิมกับเด็กอย่างเธอ เธอกลับไปกับพวกเราเสีย รับผิดและขอโทษกับคุณย่าของเธอดีๆ จากนั้นค่อยให้จื่ออวี้ยกโทษให้เธอ ทุกคนยังเป็นครอบครัวเดียวกัน!
น้องสะใภ้!
จางชุ่ยร้อนรนมาก หวังจินกุ้ยผู้ไร้สมองนี่คงจะทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานโกรธเคืองมากยิ่งขึ้น
เรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องกล่อมเซี่ยเสี่ยวหลานให้ได้ กลับบ้านไปแล้ว เธอถึงจะไม่มีอำนาจและว่านอนสอนง่าย
อาสามพูดไปเพราะความโกรธ คุณย่าจะคิดเล็กคิดน้อยกับหลานสาวได้อย่างไร? พี่จื่ออวี้ของหลานก็ไม่เคยโทษหลาน…
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ฟังผู้หญิงสองคนพูดพร่ำซ้ำไปซ้ำมา เธอถามเพียงเซี่ยต้าจวินเท่านั้น
จริงหรือเปล่า? ฉันจะต้องกลับไปยอมรับผิดกับย่า ขอโทษต่อเซี่ยจื่ออวี้?
จางชุ่ยพยายามส่งสายตาให้เซี่ยต้าจวินอย่างมาก เซี่ยต้าจวินลังเลไปชั่วครู่ แล้วยอมรับความคิดของตนมากกว่าอยู่ดี ย่าของลูกถึงกับล้มป่วย พี่สาวลูกก็ไม่เอาเรื่อง ลูกจะทำเป็นไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นไม่ได้นะ
ความตั้งใจของเขาคือสองแม่ลูกกลับไปย่อมต้องขอโทษทุกคน
ครอบครัวรักใคร่ปรองดองกันย่อมเจริญรุ่งเรือง เมื่อคนอื่นให้อภัยเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว ในบ้านจะไม่เกิดความขัดแย้งอีก
หลิวหย่งโกรธเกรี้ยวจนลูกตาแทบจะหลุดจากเบ้า หลี่เฟิ่งเหมยก็เพิ่งเคยพบเคยเจอคนเป็นพ่อแบบนี้ เมื่อครู่เซี่ยเสี่ยวหลานพูดไปมากมายเสียขนาดนั้น เซี่ยต้าจวินฟังไม่เข้าหูเลยแม้แต่นิดเดียว!
เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าไม่สามารถคุยด้วยเหตุผลกับคนโง่ได้อีกแล้ว
หลิวเฟินผู้กำลังก้มหน้าก้มตานับมดอยู่ราวกับโดนทิ่มแทงทะลุจุดสำคัญ พลันเงยหน้าขึ้นมาในบัดดล
เสี่ยวหลานจะไม่ขอโทษ คุณหูหนวกแล้วหรือถึงไม่ได้ยินคำพูดของลูก? ลูกไม่เคยทำอะไรเลย คนข้างนอกดูถูกข่มเหงลูก คนในบ้านเซี่ยยังกดดันเธอให้ไปตาย ไม่มีใครในครอบครัวพวกคุณออกตัวช่วยเสี่ยวหลานเลยสักนิด ยังคิดจะให้เสี่ยวหลานกลับไปขอโทษอีกหรือ? ลูกขอร้องการให้อภัยจากใคร? ลูกต้องรู้สึกผิดในเรื่องที่ไม่ได้ทำไปเพื่อใครหรือ? เซี่ยต้าจวิน เสี่ยวหลานไม่กลับ ฉันก็ไม่กลับ ฉันจะหย่ากับคุณ!
เชิงอรรถ
[1] 远香进臭 ไกลหอมใกล้เหม็น หมายถึง ผู้คนมักเห็นคนไกลตัวมีแต่ข้อดี ทำอะไรก็ดีไปหมด แต่เมื่อได้อยู่ใกล้กัน ย่อมเกิดความไม่ลงรอยกันได้ รับรู้ถึงสิ่งไม่ดีของอีกฝ่ายได้มากขึ้น
[2] 拆十座不毁一桩婚 รื้อสิบวัดไม่เท่ากับทำลายหนึ่งงานแต่ง หมายถึง การทำลายชีวิตแต่งงานของผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก