เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 4 ตอนที่ 111 เป็นอาคารของย่าอวี๋เช่นกัน
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 4 ตอนที่ 111 เป็นอาคารของย่าอวี๋เช่นกัน
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?
ทำไมย่าอวี๋ถึงเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์อีกคนหนึ่งได้?
เซี่ยเสี่ยวหลานสับสนงุนงงไปหมด
เธอจำได้ว่าอาคารบ้านเรือนในเวลานี้ล้วนเป็นของรัฐ ครอบครัวใครอาศัยที่ไหน
บ้านขนาดเท่าไร รัฐจะเป็นผู้ตัดสินใจทั้งหมด
ย่าอวี๋คนเดียวอาศัยในบ้านห้าห้องก็เหนือจินตนาการมากแล้ว ตอนนี้ยังมีกรรมสิทธิ์ครึ่งหนึ่งในอาคารหลังเล็กที่จัตุรัสเอ้อร์ชีด้วย?
เธอไม่ค่อยแม่นยำนโยบายในเวลานี้ หลังสิ้นสุดความวุ่นวาย [1] ประเทศเริ่มคืน ‘มรดกตกทอด’ ของบางคน บางทีในนี้ก็คงรวมอสังหาริมทรัพย์ด้วยสินะ
ย่าอวี๋
เซี่ยเสี่ยวหลานร้องไห้ไม่ออกหัวเราะไม่ได้ หากรู้แต่แรกว่าสิทธิครึ่งหนึ่งของอาคารเล็กที่จัตุรัสเอ้อร์ชีเป็นของย่าอวี๋
เธอหารือธุระเช่าอาคารกับย่าอวี๋โดยตรงไม่ดีกว่าหรือ?
พวกคุณรู้จักกัน?
หยวนหงกังไม่ปิดบังความตกใจ
มิน่าล่ะ ย่าอวี๋ถึงยินยอมเห็นด้วยกับการปล่อยเช่าอาคาร
ทำไมอาคารหลังนี้ซุกเก็บไว้ตรงนั้นน่ะหรือ ก็เพราะข้อพิพาททางกรรมสิทธิ์กับย่าอวี๋นั่นเอง
ย่าอวี๋เป็นคนใจเพชร โรงงานฝ้ายแห่งชาติที่สามก็ไม่อยากรังแกหญิงชราตัวคนเดียว ในเมื่อทางรัฐไม่ประกาศให้ชัดเจนว่าอาคารคือของใคร
แม้ย่าอวี๋จะใช้ประโยชน์ไม่ได้
แต่ก็มีสิทธิไม่อนุญาตพนักงานของโรงงานฝ้ายแห่งชาติที่สามเข้าไปอาศัยเช่นกัน
ครั้งนี้ย่าอวี๋อะลุ้มอล่วยแล้ว
2000 หยวนต่อหนึ่งปีในยุคนี้ถือว่าจำนวนมากแน่นอน โทรทัศน์สี 14 นิ้วนำเข้าหนึ่งเครื่องก็ราคาราวพันกว่าหยวน
เครื่องใช้ไฟฟ้าคือสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพงที่สุด ณ ตอนนี้
เนื่องจากอาคารบ้านเรือนไม่มีส่วนร่วมเชิงพาณิชย์
คนในประเทศยังไร้ความคิดที่จะซื้อบ้าน ยานพาหนะสำหรับคมนาคมใช้จักรยานเป็นหลัก
พบเห็นรถจักรยานยนต์บนถนนเป็นครั้งคราวก็สะดุดตาไม่น้อยแล้ว ราคา 2000 หยวนต่อปีไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถรับไหว
รถยนต์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ราคาจำหน่ายของรถยนต์หรูนำเข้าเป็นมูลค่ามหาศาลกว่าคนทั่วไปจะนึกฝัน
รถยนต์สี่ล้อซึ่งเห็นตามถนนคันไหนไม่ถึงหลักหมื่นหยวนบ้าง? รถบรรทุกใหญ่ตงเฟิงที่โจวเฉิงและคังเหว่ยใช้ในการขนส่งราคารวมภาษีต้องมากกว่า 40000 หยวน รถจี๊ปสีเขียวทหารรุ่น 212 ถูกกว่าเล็กน้อย
ทว่าราคาขายก็เกือบ 4 หมื่นหยวนทีเดียว
ยังมีสิ่งใดที่ราคาแพงกว่ารถยนต์อีก ไม่มีคนจินตนาการออก
ในอนาคตมีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ความจนจำกัดพลังแห่งจินตนาการของทุกคน’ !
รู้จักหรือไม่ ก็ไม่เป็นปัญหาต่อการรับค่าเช่าของฉัน
ย่าอวี๋วาจายังคงแล้งมิตรจิตมิตรใจเช่นเคย เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดีว่าเธอมีนิสัยแบบไหน
จึงไม่ถือสาสักนิด ขอเพียงได้เช่าอาคารก็พอ
เธอไม่ยินดีเอาเปรียบหญิงชราคนหนึ่งอยู่แล้ว ราคาควรอยู่ที่เท่าไรก็เท่านั้น
ทั้งสามฝ่ายนั่งลงเจรจาพร้อมกัน เซี่ยเสี่ยวหลานต้องการเช่า 10 ปี
หยวนหงกังชำเลืองย่าอวี๋ ถามด้วยความลังเล ค่าเช่าไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดหรือ?
ขนาดเนื้อหมูยังขึ้นราคาแล้ว มูลค่าสินค้าประเภทต่างๆ ล้วนเพิ่มพูน
การปฏิรูปเศรษฐกิจกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจให้มีชีวิตชีวา
ราคาสินค้าย่อมไม่อาจถูกกำหนดโดยรัฐอย่างเต็มที่อีกต่อไป จริงๆ แล้วหยวนหงกังคนนี้เป็นคนเที่ยงธรรมทีเดียว
แม้หลิวหย่งจะช่วยเหลือครอบครัวเขา ทว่าเขาก็ไตร่ตรองแทนย่าอวี๋ด้วย—ค่าเช่าอาคาร 2000 หยวนต่อปีเป็นของย่าอวี๋ทั้งหมด
ประโยชน์ส่วนแบ่งของโรงงานฝ้ายแห่งชาติที่สามก็คือสิทธิในการใช้งานห้องอื่นในอาคาร
โรงงานฝ้ายแห่งชาติที่สามปี 1983 สามารถสร้างผลกำไรแก่ประเทศได้ปีละสองถึงสามสิบล้านหยวน
เงิน 2000 หยวนจึงไม่ถูกผู้บริหารของโรงงานชายตาแล
ถ้าจะเอาเงินจำนวนแค่นี้ ไม่สู้จัดสรรที่อยู่อาศัยให้พนักงานมากขึ้นอีกสักหน่อยหรือ
โรงงานมีคนงานหลักหมื่น ปัญหาที่อยู่อาศัยของพนักงานยังคงรอการเยียวยาอยู่
2000 หยวนตอนนี้ก็ยังมีค่ามาก มูลค่าสินค้าจะเฟ้อทะยานหลังผ่านปี 85 ไป เซี่ยเสี่ยวหลานมิใช่ผีใจดำ [2] ตามตำรา
ทว่ามิได้สมองทึบเรื่องเงินทองเช่นกัน
จะคิดว่าหญิงชราตัวคนเดียวอย่างย่าอวี๋น่าสงสารหรือ?
อย่าตลกไปหน่อยเลย ว่ากันตามตรงเธอมั่งมียิ่งนัก เพียงแต่ตอนนี้ยังขายอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เท่านั้นเอง
อย่างนั้นก็ขึ้นค่าเช่าร้อยละ 10 ต่อทุกปีเถอะ
ปีแรกคือ 2000 หยวน ปีที่สองคือ 2200 หยวน ปีที่สามเป็น 2420 หยวน…
สัญญาเช่าถึงกำหนดปีสุดท้าย ฉันต้องจ่าย 4700 กว่าหยวน
ทุกปีขึ้นราคาร้อยละ 10 สิบปีเพิ่มพูนกว่าเท่าตัว
หยวนหงกังคิดว่าสมควรแล้ว
ยากจะคาดเดาว่าการค้าขายของธุรกิจอิสระดำเนินการได้ถึง 10 ปีหรือไม่ แม้ปีนี้จ่ายเงินค่าเช่าไหว
ปีหน้าจะเป็นรูปการณ์แบบใดยิ่งบอกไม่ถูกเลย แต่หยวนหงกังหวังว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะสามารถเช่าอย่างอยู่ยั้งยืนยง
พนักงานโรงงานที่จัดไปอาศัยตรงนั้นก็ไม่ต้องย้ายเข้าย้ายออก
ตกลง ตามนี้แหละ
10 ปีจะได้เงินทั้งหมดราว 32000 หยวน
ตั้งแต่ปี 1983 จนถึงปี 1993 พอถึงต้นยุคเก้าศูนย์ 32000 หยวนก็มีมูลค่ามากมายทีเดียว
เรื่องอื่นยังไม่ทราบ แต่หากย่าอวี๋ใช้เงินก้อนนี้กับชีวิตประจำวันเท่านั้น
อย่างน้อยบั้นปลายชีวิตก็เพียบพร้อมด้วยปัจจัยพื้นฐาน
ส่วนสิบปีให้หลัง ชีวิตของหญิงชราควรทำอย่างไร?!
เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มแย้ม ฉันมีเงื่อนไขเพิ่มเติม
เธอประสงค์ที่จะมีสิทธิในการซื้ออาคารหลังเล็กคนแรก
อีกหลายปีผ่านไป
กรรมสิทธิ์ของอาคารนี้เป็นของใครกันแน่ก็น่าจะถกเถียงกันชัดเจนแล้ว
เธอสามารถซื้ออาคารนี้เก็บไว้ ยกเลิกการสร้างอาคารใหม่ สำหรับความคิดเห็นนี้ของเซี่ยเสี่ยวหลาน
ย่าอวี๋และหยวนหงกังต่างไม่คัดค้าน
สำเร็จ!
ทั้งสามฝ่ายลงชื่อบนสัญญา เซี่ยเสี่ยวหลานชำระค่าเช่าปีแรก 2000 หยวนในสถานที่ทำสัญญาทันที เมื่อจ่ายเงินเสร็จสิ้น
เธอจึงได้กุญแจมาแบบยื่นหมูยื่นแมว
หยวนหงกังก็ยินดีไปด้วย อาคารเล็กมีสามชั้น ตัดหน้าร้านชั้นหนึ่งออกไป
บนอาคารยังเหลือสองชั้นที่เป็นห้องหับทั้งหมด อีกทั้งหลังอาคารก็มีลานบ้าน
อย่างน้อยสามารถแบ่งสรรให้พนักงาน 10 ครัวเรือนอาศัยอยู่ได้
เขาออกไปส่งเซี่ยเสี่ยวหลานและคนอื่นด้วยตัวเอง ติงอ้ายเจินออกจากโรงงานมาหาหยวนหงกังพอดี
จึงเห็นด้านหลังทั้งสามคน
มีแผ่นหลังคนหนึ่งคุ้นเคยยิ่งนัก ทว่าติงอ้ายเจินไม่ใส่ใจเท่าไร
ผู้อำนวยการหยวน คุณดูสิโรงงานบอกว่าครั้งนี้จะแบ่งบ้าน
ไม่ว่าอย่างไรแผนกเราก็ควรได้สักสองโควตาสิ?
หยวนหงกังรู้สึกปวดหัวตุบ
เวลาไม่มีอาคารให้แบ่งก็กระอักกระอ่วน พอมีก็ยุ่งวุ่นวายอีก
รองผู้อำนวยการโรงงานซึ่งรับผิดชอบการแบ่งสรรที่อยู่อาศัยเช่นเขานี้มีอำนาจหรือ? สิทธิในมือไม่กล้าใช้โดยไร้การพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
ทั้งหมดคือความรับผิดชอบอันแสนหนักอึ้งที่ต้องแบกไว้บนบ่า
ย่าอวี๋ ขอบคุณนะคะ
เซี่ยเสี่ยวหลานอารมณ์เบิกบานแจ่มใส ย่าอวี๋ยังคงบูดบึ้งดั่งเดิม เธอควรดูออกแล้ว ค่าเช่าสองพันหยวนต่อปีเป็นสิ่งที่ฉันต้องการเอง
เธอขอบคุณอะไรฉัน?
เธอเข้าใจดี บนโลกนี้ไม่มีมิตรภาพที่ไร้เหตุไร้ผล
บางทีพวกเซี่ยเสี่ยวหลานอาจรู้เรื่องเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารเลขที่ 45 ถนนเอ้อร์ชีมาจากสักแห่ง ถึงได้ถ่อมาเช่าบ้านของเธอ ค่อยๆ ตีสนิททีละก้าว
มิใช่เพื่ออาคารสามคูหาเลขที่ 45 ถนนเอ้อร์ชีนั่นหรอกหรือ?
ย่าอวี๋คิดว่าโดนลวงหลอกความรู้สึก ตอนเรียกค่าเช่าจึงไม่ใจอ่อนแม้แต่น้อย
เซี่ยเสี่ยวหลานกลับคิดว่าช่างประจวบเหมาะ
ทว่าย่าอวี๋ไม่เชื่อในความประจวบเหมาะเช่นนี้แม้แต่น้อย
ทั้งสองเข้าใจคนละทิศทาง มีแต่ต้องแยกกันอย่างไม่ร่าเริง ย่าอวี๋เก็บค่าเช่ากลับบ้าน
เซี่ยเสี่ยวหลานถือกุญแจด้วยความตื่นเต้นคึกคักและไปดูอาคารกับหลิวหย่ง
โรงงานฝ้ายแห่งชาติที่สามห่างจากถนนเอ้อร์ชีไม่ไกล
จิตใจลุงหลานทั้งสองคนกระตือรือร้นมาก กว่าจะสามารถเช่าอาคารหลังนี้ได้นั้นลำบากมากนี่นา
แต่มันคุ้มค่า!
ผู้บริหารรุ่นก่อนของโรงงานฝ้ายที่สามเคยใช้หน้าร้านจัดแสดงและขายผลิตภัณฑ์สิ่งทอนั้นเป็นเพียงเรื่องเมื่อสองสามปีที่แล้ว
การตกแต่งอาคารอาจไม่ดีเด่น แต่อย่างน้อยพื้นก็เรียบเสมอกัน ผิวผนังฉาบปูน
จากตีนผนังทาสีเขียวไล่ขึ้นด้านบนหนึ่งเมตร เวลานี้ความสูงของอาคารที่หันหน้าเข้าถนนล้วนเตี้ยเหลือเกิน
หน้าร้านสามคูหานี้กลับมีความสูงระหว่างชั้นมากกว่า 4 เมตร แล้วมันคือประมาณไหนหรือ มาตรฐานร้านค้าในอนาคตคือ 3.9 เมตร—ดังนั้นความสูงระหว่างชั้นเกิน 4 เมตร สามารถตกแต่งได้โอ่อ่าสง่างาม ร้านค้าที่มีความสูงมากพอจะไม่ให้เกิดความรู้สึกอึดอัด
ชั้นไม้สำหรับจัดแสดงสินค้าก่อนหน้านี้ยังหลงเหลืออยู่
เซี่ยเสี่ยวหลานเอามือเคาะเล็กน้อย เธอแยกไม่ออกว่าคือไม้อะไร
ทว่าซ่อมเสียหน่อยก็น่าจะใช้ประโยชน์ได้ รองผู้อำนวยการหยวนเคยรับปากแล้ว
สิ่งของทั้งหมดในร้านให้เซี่ยเสี่ยวหลานจัดการตามสะดวก
เสี่ยวหลาน หลานดูอะไรน่ะ?
ลุง ลุงมาช่วยฉันถือแถบวัดหน่อย ฉันจะวัดขนาด ดูว่าร้านสามคูหานี้ควรตกแต่งอย่างไรดี
หลิวหย่งกวาดสายตามองสถานที่ มิใช่ใหม่เอี่ยมทีเดียวหรือ? เพียงให้คนมาทำความสะอาดก็สามารถจัดแจงเปิดกิจการได้เลย
แน่นอนว่ายังต้องทำใบอนุญาตขอเปิดกิจการด้วย
เซี่ยเสี่ยวหลานขีดๆ เขียนๆ ลงบนสมุด จดขนาดทั้งหมดเอาไว้
หลังจากนั้นก็เดินเตร่ที่ตลาดวัสดุก่อสร้างกับหลิวหย่ง… ปี 83 ยังไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับวัสดุตกแต่งภายใน วนจนทั่วซางตู มีเพียงร้านค้าไม่กี่แห่งที่ขายวัสดุก่อสร้างพื้นฐานบางอย่างประปราย
กระเบื้องล้วนเป็นแผ่นเล็ก ยังดีที่มีไม้ปาร์เกต์ขาย
ของสิ่งนี้ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานปลื้มปริ่มมาก เครื่องใช้ที่เป็นไม้จะดูมีระดับด้วยการเคลือบสี
แต่สีออกแดงสดนั้นทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกแสบตา
ทว่าพื้นปาร์เกต์ส่วนใหญ่คือสีดั้งเดิมของไม้
มีพื้นพีวีซีที่ออกมาใหม่ด้วย สามารถปูลงบนพื้นซีเมนต์ได้โดยตรง
ทั้งยังมีพรมแดงซึ่งราคาย่อมเยาเป็นพิเศษ
บ้านพักรับรองมีระดับหน่อยถึงจะใช้ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สามารถยอมให้ในร้านของตนแดงไปทั่วทุกพื้นที่
ผู้คนเหยียบดินเข้ามา พรมยิ่งทำความสะอาดยากไม่น้อย
ไม่พื้นซีเมนต์ก็พื้นกระเบื้อง หรือปูพื้นปาร์เกต์
เซี่ยเสี่ยวหลานครุ่นคิดทั้งคืน
ร่างภาพจำนวนหนึ่งโดยยึดจากขนาดและโครงสร้างของหน้าร้าน ให้หลิวหย่งดูในวันต่อมา
ลุง ลุงลองดูทีว่าตกแต่งตามแบบนี้ได้หรือไม่?
เชิงอรรถ
[1]หมายถึง หลังสิ้นสุดการปฏิวัติวัฒนธรรม
[2]黑心鬼 ผีใจดำ หมายถึง ตระหนี่ถี่เหนียว นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตน