เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - ตอนที่ 36.2
เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 36.2
ตอนที่ 36.2
ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ เวสตินหัวเราะเปลี่ยนบรรยากาศให้คนอื่นๆ อารมณ์ดีขึ้นไปพลาง ตบลงบนหลังมือของชานาเนสเบาๆ
ในบรรดาพี่น้อง ชานาเนสมีนิสัยแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้ามากที่สุด แต่เฉพาะกับสามีของนางเท่านั้น ที่นางจะแสดงภาพลักษณ์ด้านอ่อนหวานให้เห็น
ดูจากที่ตอนนี้เองก็เก็บสีหน้าเย็นชากลับไป และหัวเราะแสร้งทำเป็นเถียงสู้ไม่ไหว เอาแต่กินอาหารก็รู้ได้แล้ว
ไม่มีอะไรให้ต้องโอ้อวดนักหรอก
ในที่สุดรูลลักก็เปิดปากพูด
หากมีเหตุผลที่สมควร ย่อมไม่มีเหตุผลให้ต้องห้ามไม่ให้เข้าออกคฤหาสน์ก่อนถึงวัยอยู่แล้ว อีกอย่าง จะเมินเฉยสาส์นของจักรพรรดินีก็ไม่ได้ด้วย
ใบหน้าบูดบึ้งของเซรัลจึงค่อยมีรอยยิ้มจางผุดขึ้น
อบรมแนะนำให้ดี อย่าให้เบเลซักก่อเรื่องทำอะไรผิดพลาดในพระราชวังเด็ดขาด
ครับ ท่านพ่อ
เบเจอร์ยิ้มกว้างพลางเอ่ยตอบ
รวมตัวกันรับประทานอาหารแบบนี้ วันนี้อาหารยิ่งดูจะอร่อยมากขึ้นกว่าเคยนะว่ามั้ยครับ ท่านพ่อ
เวสตินฉีกยิ้มอ่อนโยนอันเป็นเอกลักษณ์ คลายบรรยากาศให้ผ่อนคลายลง
อืม จริงด้วย
ต่อไปถ้าได้มารวมตัวกันแบบนี้บ่อยๆ ก็คงจะดีนะครับ! อ๊ะ แต่คงจะลำบากเพราะน้องเขยเล็กหรือเปล่าครับเนี่ย ฮ่าฮ่า!
แคลอฮันที่นั่งทานอาหารอยู่เงียบๆ ในมุมหนึ่งของโต๊ะเบิกตากว้าง เมื่ออีกฝ่ายกล่าวอ้างถึงตน
พูดถึงข้าหรือครับ
ช่วงนี้แทบจะไม่เจอหน้าน้องเขยเล็กเลยนะ!
อา ขอโทษครับ…พอดีงานยุ่งไปหน่อย
แคลอฮันโค้งศีรษะพลางเอ่ยพูด
งานอะไรกัน
…พูดอะไรแบบนั้นคะ คุณ
เบเจอร์แสยะยิ้มพูดเย้ยหยัน ส่วนเซรัลก็พูดแสร้งทำเป็นตำหนิสามี
ทั้งๆ ที่พูดแบบนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเซรัลเองก็ใช่ว่าจะถูกลบออกไปจากใบหน้า
เห็นพูดไปทั่วว่าครั้งนี้จะสร้างร้านค้าอะไร เจ้าตั้งใจจะสร้างเรื่องอะไรกันแน่
เบเจอร์เอ่ยถามราวกับต้องการสอบสวนแคลอฮัน
มันเป็นคำพูดเยาะเย้ยขนาดที่คนอื่นๆ ที่ได้ยินยังรู้สึกโมโหแทน แต่แคลอฮันกลับเอ่ยตอบด้วยความสงบนิ่ง
ก็อย่างที่บอกน่ะครับ ตั้งใจจะเปิดร้านค้าเล็กๆ
โดยไม่มีการสนับสนุนจากตระกูล
ครับ ครั้งนี้ตั้งใจจะลองทำด้วยแรงของข้าเองน่ะครับ
แคลอฮันกล่าวขอบคุณพ่อบ้านที่ช่วยเติมน้ำในแก้วของตน ก่อนจะตอบ
เพราะฉะนั้นถึงได้จะไปขายของตามตลาดอย่างนั้นหรือ
ในคำพูดของเบเจอร์มีเสียงหัวเราะเยาะเล็กๆ ผสมอยู่ด้วย
ทั้งเซรัล ทั้งลอเรนซ์กับภริยา ทั้งเวสตินเอง ต่างก็พากันหัวเราะตามไปด้วย
เพราะเจ้าคนเดียว แคลอฮัน ช่วงนี้จะไปไหนข้าก็ไม่กล้าเงยหน้ามองคนอื่นแล้ว หากจะเปิดร้านค้าก็น่าจะเปิดที่เซดาคิวนาร์ให้มันเหมาะสมหน่อย แต่ตลาดเฮลสล็อตเนี่ยนะ…
หากเงินไม่พอ พวกเราให้ยืมเอามั้ยล่ะ
ลอเรนซ์เอ่ยถามราวกับเป็นห่วงน้องชาย
…ตอนนี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินหรอกครับ ไม่เป็นไรครับ ท่านพี่
แต่มองจากใบหน้ายิ้มแย้มของทุกคนแล้ว บรรยากาศดูแล้วเหมือนกับพวกเขาไม่เชื่อคำพูดของแคลอฮันเลยแม้แต่น้อย
เซรัลเอ่ยแทรกขึ้นมา
ถ้าต้องการที่ว่างสร้างร้านค้าในเซดาคิวราร์ ให้ข้าลองคุยกับที่บ้านให้มั้ยคะ ยังไงถ้าต้องการความช่วยเหลือก็บอกได้ตลอดเลยนะคะ ท่านแคลอฮัน
ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ
แต่ว่า…
เซรัลลอบแลกเปลี่ยนสายตากับโรเนสภริยาของลอเรนซ์
ท่าทางพวกผู้หญิงจะเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อนแล้ว
เนื้อหาของบทสนทนาก็คาดเดาได้ง่ายมาก แคลอฮันจึงหัวเราะขมขื่น
ต้องมีศักดิ์ศรีของลอมบาร์เดียบ้างสิ แต่นี่กลับทำธุรกิจกับพวกสามัญชนเนี่ยนะ
เบเจอร์ตำหนิแคลอฮัน
ตอนนี้บนท้องถนนถึงกับพูดคุยกันไปว่าทางบ้านเราละเลยเจ้าเกินไปหรือเปล่าอีกด้วย
เรื่องนั้นที่พูดกันนั้น…ไม่ทราบเลยครับ
คนที่ไม่ได้เฉียดไปงานสังคมแม้แต่ปลายจมูกอย่างเจ้าจะไปรู้ได้ยังไงกัน ก็บอกแล้วแท้ๆ ว่าต่อให้ไม่มีที่ไหนเชิญตัวไป ก็ต้องโผล่หน้าออกไปให้คนอื่นเขาเห็นหน้าค่าตาบ้าง…
ฟังผิวเผินอาจจะดูเหมือนเสียงพร่ำบ่นเพราะเป็นห่วงน้องชาย แต่สุดท้ายมันก็แค่คำพูดดูถูกแคลอฮัน และเยินยอตัวเองว่ามีชื่อเสียงในแวดวงสังคมเท่านั้นเอง
กิจการรีดไถเศษเงินจากพวกสามัญชนน่ะ คิดดูใหม่อีกครั้งดีกว่านะ แคลอฮัน
เบเจอร์เดาะลิ้นจิ๊จ๊ะในลำคอเป็นการปิดท้ายพลางพูดท่าทางนั้นเป็นการเมินเฉยแคลอฮันอย่างสิ้นเชิง
แคลอฮันสมควรที่จะโกรธเคืองเบเจอร์ที่ทำท่าเช่นนั้นแต่เขากลับทำเพียงแค่นั่งดื่มเหล้าด้วยใบหน้าแปลกพิกลเท่านั้น
เบเจอร์กับลอเรนซ์หัวเราะ เมื่อคิดว่าแคลอฮันคงจะทำเช่นนั้นเพราะเถียงไม่ออกเป็นแน่แต่แล้วในตอนนั้นเอง
รูลลักใช้ผ้าเช็ดริมฝีปากหลังจากที่ทานอาหารเสร็จ ก่อนจะโยนคำพูดประโยคหนึ่งออกไป
ข้าจะคอยดูนะ แคลอฮัน
แค่นั้นแคลอฮันเองก็ตกใจแล้วถึงขนาดหยุดชะงักมือที่กำลังวางแก้วลง
ในขณะเดียวกันใบหน้าของเบเจอร์กลับบิดเบี้ยว
มันขึ้นอยู่กับว่าจะตีความแบบไหน อาจจะฟังแล้วตีความกันไปคนละความหมายเลยก็ได้ แต่เบเจอร์กลับมองบิดาด้วยนัยน์ตาลุกโชนราวกับพร้อมที่จะพ่นไฟออกมาได้ทุกเมื่อ
คำพูดนั้นมันราวกับจะบอกว่า คาดหวังในตัวแคลอฮันไม่ใช่หรือไงกัน
รู้สึกราวกับถูกบิดาที่ไม่เคยแสดงท่าทีแบบนั้นให้ตนเห็นหักหลังกันอย่างไรอย่างนั้น
แคลอฮันเหม่อมองรูลลักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงหนักแน่น
ครับ ท่านพ่อ จะพยายามเต็มที่เลยครับ
หลังจากนั้นบทสนทนาที่นำโดยเวสตินก็เริ่มต้นอีกครั้ง แต่มันก็มีแต่คำพูดพล่ามไร้สาระเท่านั้น
เบเจอร์ไม่อาจเก็บซ่อนความไม่พอใจเอาไว้ได้ จึงเอาแต่ยกเหล้าดื่ม ส่วนแคลอฮันก็ได้แต่นั่งนิ่งด้วยใบหน้าที่เอาแต่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างเป็นครั้งคราว
คนที่กำลังฟังบทสนทนาจากโต๊ะของพวกผู้ใหญ่ไม่ได้มีแค่ฟีเรนเทียคนเดียว
คำพูดทั้งหลายแหล่ที่เมินเฉยท่านพ่อ ทำให้สองแฝดที่นั่งประกบข้างเธอเอาแต่ยุ่งอยู่กับการลอบสังเกตสีหน้าของเธอ ส่วนเบเลซักนั้นกำลังยุ่งอยู่กับการหัวเราะคิกคักอยู่กับอาสทัลลีอูที่นั่งอยู่ข้างเขา
เทีย ไม่เป็นไรนะ
ลาลาเน่ที่กำลังดูแลบีชีเย่น้องสาวของอาสทัลลีอูที่ยังเล็กมากก็เอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน
อะไรเหรอ
เปล่า คือว่า…
ลาลาเน่ละคำพูดด้วยความระมัดระวัง
ข้าไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย อ๊ะ อร่อยจัง ต้องขอเพิ่มแล้วละ
ฟีเรนเทียจิ้มเนื้อสีเหลืองทองไร้มันพลางเอ่ยพูด เพราะเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลยจริงๆ นะ
ไม่สิ ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเสียมากกว่าด้วยซ้ำ
อยากให้เวลารีบๆ ผ่านไปไวๆ จัง
เธออยากรู้จะตายอยู่แล้ว ว่าหลังจากที่ร้านของท่านพ่อเปิดให้บริการคนพวกนั้นจะทำหน้าแบบไหนกัน
คิกๆ
เสียงหัวเราะชั่วร้ายดังออกมาจากปากของเธอ
Related