เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - ตอนที่ 44.2
เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 44.2
ตอนที่ 44.2
คำพูดของฟีเรนเทียไม่ใช่คำโกหก
หลังจากเริ่มเรียนคลาสฟันดาบอย่างจริงจัง สองแฝดก็ให้ความสนใจในตระกูลบราวน์เป็นอย่างมาก
ตระกูลบราวน์เป็นตระกูลที่ได้รับความเคารพและมีอิทธิพลต่อเหล่านักดาบทั่วอาณาจักรมากถึงเพียงนั้นเลยทีเดียว
ถึงแม้จะถูกขับไล่ออกไปจากเขตแดนที่พวกเขาเป็นผู้ปกครองมาหลายสมัยกว่าสามสิบปีอย่างไร้เกียรติ ทั้งหลังจากนั้นอำนาจของตระกูลก็ยังตกต่ำลงสุดๆ ก็ตาม
เมื่อตระกูลเริ่มเสื่อมสลาย ตัวแคทเธอรีนเองก็ไร้ที่ไป นางจึงเติบโตมาด้วยการพึ่งพาลอมบาร์เดีย และหลังจากบรรลุนิติภาวะจึงค่อยเข้าไปทำงานในพระราชวังในฐานะนางกำนัล
ได้ยินมาว่าเป็นวิชาดาบที่เก่งกาจมาก ขนาดที่ประชาชนของอาณาจักรร่ำเรียนกันถ้วนหน้า จนถูกขนานนามว่าเป็นวิชาดาบประจำอาณาจักรเลยนะคะ!
พอเห็นเธอพูดราวกับมันเป็นเรื่องใหญ่โต ใบหน้าของแคทเธอรีนก็ค่อยๆ ขึ้นสีแดงก่ำเล็กน้อย
ชมเกินไปแล้วค่ะ
ตอนนั้นเองสองแฝดก็ตื่นเต้นมากเสียจนเอ่ยถามแคทเธอรีนเสียงดัง
จะ…จริงเหรอครับ
คนจากตระกูลบราวน์จริงๆ
น่าอายแต่เป็นเช่นนั้นจริงๆ ค่ะ
ว้าว!
น้ำเสียงชื่นชมดังขนาดคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเราหลายคนต้องหันมามองกันอย่างพร้อมเพรียง
ถ้างั้นแคทเธอรีนเองก็เรียนฟันดาบด้วยเหรอคะ
คำถามของเธอทำให้แคทเธอรีนโชว์มือของตัวเองที่มีเนื้อด้านปูดเล็กน้อยให้เห็น
เรียนแค่ระยะสั้นๆ เพื่อฝึกฝนร่างกายเท่านั้นเองค่ะ
ได้ยินว่าผู้หญิงตระกูลบราวน์ต่างก็เรียนวิชาฟันดาบ เป็นเรื่องจริงนี่เอง…
สองแฝดอ้าปากค้าง ทำตัวราวกับได้สมัครเป็นสมาชิกแฟนคลับตระกูลบราวน์เรียบร้อยแล้ว
ถ้างั้นตอนนี้ก็ไม่จับดาบแล้วเหรอคะตอนนี้แคทเธอรีนทำงานอะไรคะ
ฟีเรนเทียจงใจถามอาชีพของอีกฝ่าย
ข้าทำงานอยู่ในวังค่ะ คุณหนู
โล่งอกที่แคทเธอรีนให้คำตอบตรงกับที่เธอต้องการ
ที่จริงแล้วนางไม่ใช่คนที่ทำงานในพระราชวังทั่วไป แต่เป็นถึงหัวหน้านางกำนัลประจำวังจักรพรรดิเลยทีเดียว
เนื่องจากมันเป็นตำแหน่งหน้าที่อันทรงเกียรติที่ปกติแล้วจะมอบให้นางกำนัลที่อายุมากเป็นผู้รับผิดชอบ คนที่ครอบครองอำนาจที่แท้จริงในการดูแลพระราชวัง ย่อมต้องเป็นเหล่าหัวหน้านางกำนัลที่มีทั้งสิ้นสามคนด้วยกัน
เธอปรบมือเสียงดัง ‘เพียะ’ ทำท่าราวกับตกใจมาก พลางเอ่ยพูด
ข้าเองก็เคยไปพระราชวังเหมือนกันค่ะ! ไปวังจักรพรรดินีกับท่านพ่อน่ะค่ะ!
วังจักรพรรดินี…อย่างนั้นเหรอคะ
คำว่า ‘วังจักรพรรดินี’ ทำให้ใบหน้าของแคทเธอรีนมีสีหน้ามืดครึ้มพาดผ่านอยู่ชั่วครู่ แต่เพียงไม่นานก็ยิ้มให้พวกเด็กๆ
ค่ะ! แต่ไม่สนุกเลยสักนิดค่ะ ยกเว้นที่ได้เพื่อนใหม่มานะคะ!
เพื่อน…เหรอคะ
แคทเธอรีนเอียงคอด้วยความสงสัย
ค่ะ! พอดีหลงทางในวังน่ะค่ะ แต่ว่า…
เธอแสร้งทำใบหน้าเศร้าหมอง แล้วเอ่ยพูดต่อเสียงแผ่ว
แต่ตอนนี้เป็นห่วงเพื่อนคนนั้นจังเลยค่ะ เขาบอกว่าป่วย บอกว่าอยู่คนเดียว…
คุณหนู?
แคทเธอรีนเรียกเธอด้วยความเป็นห่วง
แหะๆ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แต่ทำงานในวังไม่กลัวเหรอคะ ข้ากลัวองค์จักรพรรดินี…นิดหน่อยน่ะค่ะ
พอเธอเปลี่ยนเป็นเรื่องจักรพรรดินี แคทเธอรีนก็ส่ายหน้า
เพราะข้าทำงานรับใช้ฝ่าบาท ก็เลยไม่เป็นอะไรค่ะ
อา อย่างนั้นนี่เอง…
นั่นไม่ใช่คำพูดจากใจจริง
จักรพรรดินีอาจจะไม่สามารถลงมือจัดการหัวหน้านางกำนัลที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์จักรพรรดิได้ แต่ความรู้สึกที่ต้องพบหน้าจักรพรรดินีที่มาจากตระกูลอังเกนัส ซึ่งเป็นตระกูลที่ทำลายตระกูลของตัวเองจนพังพินาศนั่นจะเป็นยังไงกันล่ะ
อีกอย่างราวีนี่คนนั้นย่อมไม่มีทางไม่ทราบว่า แคทเธอรีนซึ่งเป็นหัวหน้านางกำนัลคนนี้ ที่จริงแล้วเป็นคนของตระกูลบราวน์
ต่อหน้านาง จักรพรรดินีราวีนี่จะทำตัวหยิ่งยโสขนาดไหน
เธอรู้สึกนับถือในตัวแคทเธอรีนมากจริงๆ
หากเป็นเธอละก็ บางทีเธออาจจะยกมือขึ้นตบหน้าจักรพรรดินีไปนานแล้วก็ได้
หลังจากนั้นเธอก็สนทนากับแคทเธอรีนต่ออีกพักใหญ่
และในตอนที่งานเลี้ยงใกล้จะจบลง เธอก็แน่ใจได้
อุปนิสัย ความระมัดระวัง สมกับที่ได้ตำแหน่งหัวหน้านางกำนัลมาครอบครอง ความภักดีต่อลอมบาร์เดียความรู้กับประสบการณ์ทางด้านการฟันดาบ และเหนือสิ่งอื่นใดคือความโกรธแค้น ความเป็นปรปักษ์กับพวกอังเกนัสที่ต้องเก็บกดเอาไว้โดยไม่อาจทำอะไรได้
แคทเธอรีนเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้ปกครอง และแลเฟเรส!
แคทเธอรีน บราวน์ ท่านเจ้าตระกูลเรียกพบครับ
แคทเธอรีนกำลังมองหลานชายหลานสาวของเจ้าตระกูลที่กำลังโบกมือน้อยๆ ให้นางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มห่างออกไปไกล นางหันหลังกลับเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง
เขาคือมาร์วิน ดิลลาร์ด บุตรชายคนแรกของโรมาเชีย ดิลลาร์ด
งานพบปะนักเรียนทุนที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีปีละหนึ่งครั้งตามความต้องการของเจ้าตระกูล ทุกครั้งจะเปลี่ยนคนรับผิดชอบไปทีละตระกูล
คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นคิวของตระกูลดิลลาร์ดสินะ
ขนาดของงานใหญ่มากเกินกว่าจะมอบให้คนคนเดียวรับผิดชอบจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ที่ใช้วิธีการเช่นนี้ย่อมมีเหตุผลอยู่ในตัว
แคทเธอรีนเดินตามหลังมาร์วิน ดิลลาร์ดไปบนเส้นทางที่คุ้นเคย
ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็มาถึงหน้าห้องทำงานของเจ้าตระกูล
เครย์ลีบันเปิดประตูเดินออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคิวก่อนหน้าแคทเธอรีนพอดี
ไม่ได้พบกันนานนะครับ แคทเธอรีน
เครย์ลีบันเองก็ยังเหมือนเดิมเลยนะคะ
ทั้งสองคนเคยอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ลอมบาร์เดียพร้อมกันช่วงหนึ่งจึงพอจะคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่บ้าง
ท่านเจ้าตระกูลกำลังรออยู่เลยครับ
เครย์ลีบันช่วยเปิดประตูห้องทำงานให้อย่างมีมารยาท
ขอบคุณค่ะ
แคทเธอรีนยิ้มพลางเอ่ยพูด เครย์ลีบันค้อมศีรษะให้มาร์วิน ดิลลาร์ด เล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
หมอนั่น…
มาร์วิน ดิลลาร์ด มองภาพด้านหลังของเครย์ลีบัน เขาพึมพำเสียงแผ่ว
‘สองคนนี้สนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอ’
แคทเธอรีนเอียงคอเล็กน้อยด้วยความงุนงง แล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน
ข้างในห้องเหลือเพียงรูลลักกับแคทเธอรีนแค่สองคนไม่มีทั้งเลขาฯ ของเจ้าตระกูล ไม่มีทั้งพ่อบ้าน
ช่างแตกต่างจากบรรยากาศครื้นเครงของงานเลี้ยงด้านนอกที่ส่งเสียงดังโหวกเหวกอย่างสิ้นเชิง บริเวณหน้าโต๊ะทำงานที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ทุกครั้งที่ได้เห็น มีเพียงเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ไร้ซึ่งที่เท้าแขนวางอยู่เท่านั้น
แคทเธอรีนสูดลมหายใจเข้าลึกโดยไม่มีเสียง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น
นิสัยขี้ระแวงนี่ยังไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ นะ
รูลลักยิ้มเมื่อเห็นภาพนั้นในขณะที่เอ่ยพูด
ยินดีที่ได้พบท่านเจ้าตระกูลค่ะ
แคทเธอรีนทักทายด้วยความสุภาพอ่อนน้อม
แล้ววันนี้มีข่าวใดมาแจ้งบ้าง
รูลลักถามเข้าประเด็นทันทีโดยไม่คิดพูดเรื่อยเปื่อยอ้อมค้อม
เหตุผลที่ตระกูลลอมบาร์เดียทุ่มเทเงินทองจำนวนมหาศาลจัดงานพบปะนักเรียนทุนทุกปี
รวมถึงเหตุผลที่ทุกครั้งตระกูลที่เป็นเจ้าภาพงานจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปก็อยู่ที่นี่แล้ว
แม่นมของเจ้าชายลำดับที่สองเฟเรสเสียชีวิตแล้วค่ะ
งานพบปะนักเรียนทุนเป็นวันที่ใช้รวบรวมข่าวสาร มันเป็นวิธีที่พวกเขาจะได้มานั่งในห้องทำงานของเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียเช่นนี้ และเพื่อบอกกล่าวข่าวสารสำคัญจากทั่วอาณาจักรโดยไม่ทำให้ใครสงสัย
Related