เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - เล่ม 3 บทที่ 100.2
โครม!
ประตูสำนักงานร้านค้าเพลเลสเปิดออกอย่างแรง
แฮกแฮก…
คนที่ยืนหอบหายใจอยู่หน้าประตูไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเบ๊ต
ทราบได้ยังไง…กันครับ
เบ๊ตเดินตรงดิ่งเข้ามาหาเธอขณะที่ถามขึ้น
นั่นอะไรเหรอคะ
เธอชี้ไปยังกล่องสีแดงที่เบ๊ตหอบหิ้วไว้เต็มสองมือแทนคำตอบ
ขนมครับ ถ้าจะแวะมาร้านค้าเพลเลสกลางวันแสกๆ ต้องแกล้งทำเป็นมาส่งขนมนี่ครับ
ว่าแล้วเชียว สมกับเป็นเบ๊ตผู้รอบคอบจริงๆ
ในระหว่างที่เธอพยักหน้าด้วยความประทับใจ เบ๊ตก็วางกล่องหนักๆ สองใบลงบนโต๊ะ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเธอ
บอกมาสิครับ ทราบได้ยังไงครับ
อา ได้ยินเรื่องทางตะวันออกแล้วสินะคะเนี่ย
เธอถามเบ๊ตกลับไป ในขณะเดียวกันเครย์ลีบันก็ส่ายหน้าไปมา เธอมองเห็นเขาเดินไปหยิบจานใบเล็ก ตักขนมหวานหน้าตาน่ากิน
เรื่องนั้น…อ๊ะ ข้าเอาชิ้นที่มีสตรอว์เบอร์รี่ชิ้นนั้นค่ะ เครย์ลีบัน
ครับ ท่านฟีเรนเทีย
อ๊า จริงๆ เลย!
เบ๊ตไม่อาจอดใจรอไหว เขามองเธอด้วยนัยน์ตากล่าวโทษ
คงต้องเลิกล้อเล่นได้แล้วมั้ง
จะร้องไห้อยู่แล้วนั่น
เบ๊ต ตั้งแต่แรกทำไมถึงได้คิดว่าจักรพรรดิจะเก็บภาษีฝั่งตะวันออกล่ะคะ
เรื่องนั้น…
เบ๊ตตอบคำถามของเธออย่างง่ายดาย
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากไม่เก็บภาษี ท้องพระคลังก็จะว่างเปล่าไม่ใช่หรือครับ อีกอย่างครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย ภาระจะยิ่งหนักมากกว่าเดิมครับ
และคำอธิบายของเบ๊ตก็ยืดยาวกว่านั้นอีกสักพัก
เพราะเขารู้ข้อมูลมากมาย ก็ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
จนกระทั่งเธอกินเค้กหมดไปแล้วหนึ่งชิ้น รู้สึกอยากกินอีกหน่อย สุดท้ายเลยเอาอีกชิ้นมาแบ่งกันกับไวโอเล็ตคนละครึ่ง เบ๊ตถึงได้อธิบายจบ
อืม ที่พูดมาก็ถูกทั้งหมดเลยค่ะ
ใช่สิครับ! แต่ทำไม! องค์จักรพรรดิถึงได้เมินเหตุผลพวกนั้น แล้วตัดสินใจเช่นนั้นได้ละครับ ท่านฟีเรนเทียทราบอยู่แล้วหรือครับ!
อันที่จริงครั้งนี้จะต้องเก็บภาษีฝั่งตะวันออกตามที่เบ๊ตพูดนั่นแหละค่ะ แต่ยังมีความจริงอีกอย่างที่เบ๊ตไม่ทราบ
คำพูดของเธอทำให้ใบหน้าของเบ๊ตเริ่มซีเรียสยิ่งขึ้น
อะไรหรือครับ สิ่งนั้น
เรื่องที่จักรพรรดิโยบาเนสเป็นมนุษย์ที่โลภมากยังไงล่ะคะ
โลภ…?
ค่ะ ทั้งยังโลภมากยิ่งกว่าคนทั่วไปด้วยค่ะ
เหมือนกับความโลภที่ว่านั่น มันถ่ายทอดต่อกันมาผ่านทางดีเอ็นเอจากรุ่นสู่รุ่นแก่จักรพรรดิแห่งอาณาจักร
แต่โยบาเนสเป็นประเภทที่โลภมากเป็นพิเศษยิ่งกว่าจักรพรรดิรุ่นไหนๆ อย่างเห็นได้ชัด
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็น่าจะยิ่งเก็บภาษี…!
ถ้าหากมีวิธีให้จักรพรรดิโยบาเนสรักษาหน้าตาเอาไว้ได้ โดยบอกว่า ‘ปีนี้จะไม่เก็บภาษีฝั่งตะวันออก เพื่อช่วยเหลือประชาชน’ แต่ยังสามารถเสพสุขกับผลประโยชน์ได้ละคะ
วิธี…อื่นเหรอครับ
เธอยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้แก่เบ๊ตที่ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก
มันคือรายงานส่วนหนึ่งที่ไวโอเล็ตมอบให้เธอ
นี่เป็นรายงานสถานการณ์ปริมาณธัญพืช ที่กลุ่มการค้าหลักของอาณาจักรครอบครองอยู่ค่ะ
เบ๊ตกวาดสายตาไล่อ่านกระดาษใบนั้นอย่างช้าๆ
ดูจากใบนี้แล้วก็จะเห็นชื่อที่พอคุ้นเคยอยู่บ้างค่ะ มีร้านค้าเพลเลสของพวกเรา ส่วนกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียเองก็อยู่ประมาณลำดับที่สี่ใช่มั้ยคะ
ครับ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกันหรือครับ
เบ๊ตรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมาก แต่เขาก็ต้องถามออกไปด้วยไม่อาจทนเก็บความอยากรู้ไว้ได้อีก
จนถึงเมื่อไม่นานมานี้ ลอมบาร์เดียยังเป็นอันดับที่สองของรายชื่อนั่นค่ะ
แล้วทำไมถึงได้หล่นลงมาแบบนี้ล่ะครับถ้าไม่ใช่เพราะจู่ๆ ไฟไหม้โกดัง หรือขายให้คนอื่นในปริมาณมาก… แต่การขายทิ้งตอนนี้มีแต่จะเสียหายหนักมากกว่า
ใช่ค่ะ กลุ่มการค้าลอมบาร์เดียได้จำหน่ายธัญพืชที่เก็บรักษาไว้จำนวนหนึ่งให้กลุ่มการค้ากลุ่มอื่นค่ะ ซึ่งก็คือกลุ่มการค้ากลุ่มนี้
เธอใช้ปลายนิ้วจิ้มไปที่ชื่อกลุ่มการค้ากลุ่มหนึ่ง
มันคือรายชื่ออันดับที่ห้าบนกระดาษรายชื่อ
กลุ่มการค้า…เรด?
เบ๊ตขมวดคิ้วแน่น
ชื่อนี่เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเลยครับ
ก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละค่ะ มันเป็นกลุ่มการค้าที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่นี่คะ
แล้วครอบครองธัญพืชประมาณมากขนาดนี้ได้ยังไงครับ
ทางร้านค้าเพลเลสของพวกเราแบ่งขายให้ทางนั้นปริมาณหนึ่งน่ะค่ะ
ทำไม…
ลองคิดดูสิคะ ตราบใดที่ไม่ได้ได้มาฟรีๆ คนที่มีอำนาจมากพอจะซื้อธัญพืชปริมาณมากขนาดนี้ผ่านกลุ่มการค้าเปิดใหม่จะเป็นใครได้บ้าง
ระ หรือว่า…
ใช่แล้วค่ะ กลุ่มการค้าเรดเป็นกลุ่มการค้าของจักรพรรดิโยบาเนสค่ะ
เบ๊ตอ้าปากค้างไม่มีเสียงด้วยความตกตะลึง
และกลุ่มการค้าเรดก็จะรับความช่วยเหลือจากกลุ่มการค้าลอมบาร์เดีย ออกเดินทางไปยังตะวันออกที่อยู่ห่างไกลออกไปค่ะ
เหอะ! เหอๆ …
ข้าเข้าใจความรู้สึกของเบ๊ตนะคะ หากไม่ทราบข้อมูลเรื่องนั้น ก็คงจะไม่อาจอ่านภาพรวมทั้งหมดได้หรอกค่ะ
เบ๊ตก้มหน้านิ่ง ยิ้มหดหู่หมดเรี่ยวแรง ก่อนจะพูด
ยอมรับเลยครับ ข้า…พ่ายแพ้หมดรูปจริงๆ
ข้าไม่ได้พูดแค่เพราะเอาชนะได้ แล้วจึงคิดจะปลอบใจกันเพื่อเยาะเย้ยอะไรหรอกนะคะแต่เรื่องนี้ไม่ใช่เพราะเบ๊ตด้อยความสามารถ เพียงแค่ระดับของข้อมูลที่สืบหาได้ยังไม่สูงมากพอเท่านั้นเองค่ะ เทียบกันแล้วข้าก็แค่รู้ข้อมูลภายในมากกว่าเท่านั้นเอง และหากจะมีความแตกต่างอะไรอีกเรื่อง…
เบ๊ตเงยหน้าขึ้นมองเธอ
หากเบ๊ตเป็นคนรวบรวมข้อมูลภายนอก ข้าก็คงเป็นคนที่เข้าไปแทรกแซงโดยตรงในเรื่องที่สำคัญมากพอจะเป็นข้อมูลหลักได้ละมั้งคะ
เข้าไปแทรกแซงโดยตรง…
เพราะข้าเป็นคนที่มีความสามารถมากพอจะสร้างข้อมูลขึ้นมายังไงล่ะคะ
นัยน์ตาสีอำพันสว่างของเบ๊ตส่องประกายวาบ
อ๊ะ แล้วข้ายังเป็นคนที่สามารถเข้าไปยุ่งกับท่านปู่ หรือพบเจอจักรพรรดิโยบาเนสได้ด้วย ระดับประมาณนั้นแหละค่ะ
ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะเบ๊ตเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะนำไปเทียบกับใคร มันก็เป็นส่วนที่เธอได้เปรียบอยู่ดี
ใครจะไปคาดคิดล่ะคะว่า กลุ่มการค้าลอมบาร์เดียเห็นความเสียหายแล้ว ก็ยังยอมขายธัญพืชในครอบครอง ทั้งยังช่วยกลุ่มการค้าเรดทำการขนส่งอีกน่ะค่ะ
…เหตุผลนั้นคืออะไรครับ
ท่านปู่ของข้าเป็นคนเกลียดความพ่ายแพ้มากพอๆ กันกับข้าค่ะ เกลียดจนอยากเหยียบพวกอังเกนัสให้จมดิน
เธอยักไหล่ไม่แยแสอะไรนัก
หากเป็นเธอก็คงใช้วิธีเดียวกันด้วยซ้ำละมั้ง
เบ๊ตเงียบไป เขาตกอยู่ในภวังค์ความคิดอีกครั้ง
และในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธออีกครั้ง เธอก็ถามเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความรู้สึกเหมือนหย่อนเบ็ดตกปลา
เป็นไงคะ เบ๊ต ไม่อยากลองมาทำงานกับข้าเหรอคะ
หากทำให้เบ๊ตกับคาราเมล อเวนิวเป็นพวกเดียวกับเธอได้ละก็ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงเชียวละ
เพราะฉะนั้นเธอจึงเกี่ยวเหยื่อหย่อนลงไปเพิ่มอีกตัว
ระหว่างที่ทำงานกับข้า ฟรีค่าเช่า
ดีครับ เอาตามนั้น
เบ๊ตกระโดดงับเหยื่อในที่สุด
ต่อไปก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ ท่านเจ้าของตึก
เบ๊ตยื่นมือมาหาเธอ
ข้าเองก็ฝากตัวด้วยนะคะ เบ๊ต
เธอตะโกนเสียงดังในใจว่า ‘ปลาตัวใหญ่! ติดเบ็ดแล้ว! ’ ในขณะที่จับมือประสานกับอีกฝ่ายเอาไว้แน่น