เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 155 - ล้อบิดาเล่น? รนหาที่ตาย!
เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย Chapter 155 – ล้อบิดาเล่น? รนหาที่ตาย!
ความลับถูกเผยแล้ว!
ขณะที่ทหารอมตะกําลังถูกฆ่าและระดับการบ่มเพาะของลั่วเทียนก็สูงขึ้น สูงขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้มันชัดเจนอย่างมาก
มันสัมพันธ์กันระหว่างการตายของทหารอมตะและการทะลวงผ่านของลัวเทียนจากการได้รับค่าประสบการณ์
ตอนนี้ภายในใจ หยินซางค่อนข้างตกใจ มีวิธีเพิ่มระดับการบ่มเพาะแบบนี้ในโลกด้วย? เป็นไปได้ไหมว่าไอ้เด็กคนนี้ไม่ใช่คนและเป็นลูกปีศาจที่หายไปกว่าหมื่นปีมาแล้ว?
จากความเข้าใจของเขาเอง มีเพียงปีศาจเท่านั้นที่จะเพิ่มการบ่มเพาะของตัวเองได้ด้วยการฆ่า
แต่แม้ว่าเขาจะเป็นเผ่าปีศาจ เขาก็ไม่ควรที่จะยกระดับได้เร็วขนาดนี้
การยกระดับของลั่วเทียนนั้นเร็วอย่างมาก มันเร็วเสียจนสาวกนิกายปีศาจที่อยู่ด้านหลังหยินซางไม่อาจพูดอะไรออกมาได้สักคํา พวกเขามีหน้าตาน่าเกลียดราวกับถูกตบไปสองสามครั้ง
ตาของหยินซางดูชั่วร้าย ขณะที่เขาตะโกนด้วยความโกรธ: “มันไม่สําคัญว่าเจ้าจะเป็นตัวอะไร! และมันไม่สําคัญว่าเจ้าจะบรรลุไปถึงสวรรค์ด้วยการบ่มเพาะแบบนี้หรือไม่! วันนี้เจ้าจะต้องตายที่นี่!”
ลัวเทียนลอยอยู่บนอากาศและกางแขนออก หมื่นฟ้าคํารามถูกใช้อีกครั้งก่อนที่เขาจะเยาะเย้ยอย่างเย็นชา: “รู้สึกกลัวมั่งแล้ว? เจ้ากลัวว่าบิดาจะทะลวงไปยังปราณวิญญาณขั้น 9และสามารถชนะเจ้าได้? 5555..”
ลั่วเทียนกังวลอย่างมากตอนนี้
ความแข็งแกร่งของหยินซางนั้นอยู่ในระดับที่น่ากลัวและเขากลัวว่าถังจิ่วและคนอื่นๆก็ไม่อาจหยุดเขาได้
สิ่งที่เขาต้องการคือเวลา เขาไม่ต้องการอะไรมากมาย แต่ในเวลานี้เขาต้องการเวลามากขึ้น มันเหมือนกับเป็นความต้องการที่ฟังเฟื้ออย่างมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้
เสียงของลั่วเทียนเต็มไปด้วยการยั่วยุ สิ่งที่เขาพยายาทําคือการชะลอการเคลื่อนไหวของหยินซาง เมื่อเขามาถึงขั้น 9 ตอนนั้นมันจะเป็นเวลาตายของหยินซาง!
“กลัว?”
“ตั้งแต่เด็ก ราชาคนนี้ไม่เคยรู้จักกับคําว่ากลัว!” Yin Shang coldly harrumphed.
ลั่วเทียนใช้หมื่นฟ้าคํารามอีกครั้งและปิดระบบเสียงแจ้งเตือน เมื่อเห็นว่าเขาได้ค่าExpมาอีกกองใหญ่ เขายิ้มและพูดว่า: “งั้นเจ้าก็คงไม่กลัวว่าข้าจะไปถึงขั้น 9 ใช่ไหม? เจ้าจะได้เห็นว่าจะเล่นให้เจ้าตายได้อย่างไรหลังจากนั้น!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“แค่เด็กอย่างเจ้านี่อะนะ?”
หยินซางเริ่มหัวเราะเสียงดังก่อนที่จะหยุดอย่างกระทันหัน จากนั้นเขาก็ยิ้มและตะโกน: “เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าพยายามจะถ่วงเวลา? มันไร้สาระ!”
“ไร้สาระ? ถ้าบิดาทะลวงไปยังขั้น 9.”
“ทุกคนในเมืองภูเขาซากศพทมิฬจะต้องตาย.” ลั่วเทียนยังคงยั่วยุหยินซางต่อด้วยน้ำเสียงที่กังวาลและยโส.
“ราชาทมิฬ ฆ่าเด็กนี่ซะ”
“ถูกต้อง แค่ฆ่าเขาตอนนี้ เราจะดูกันว่าเจ้าเด็กนี่จะแสดงความยโสได้อีกนานแค่ไหน”
“เด็กนี้ยังคงท้าทายความสามารถของท่าน! คนแบบนี้มันสมควรตายอย่างไร้ที่ฝัง ราชาทมิฬ ท่านควรจะจัดการมันได้แล้ว”
สาวกนิกายปิศาจหลายคนเรียกร้องให้หยินซางจัดการ การแสดงออกของเขาทั้งหมดแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
เพราะว่าพวกเขากลัว!
ลัวเทียนเริ่มหัวเราะเยาะทันที: “ดู! ดู! ดูว่ามันกลัวแค่ไหน พวกมันกลัวว่าข้าทะลวงไปยังขั้น 9 แล้วพวกมันจะถูกส่งไปนรก! 555…”
หยินซางหันกลับไปและทําเสียงอึดฮัด: “พวกเจ้าหุบปาก!”
ทันทีหลังจากนั้น
หยินซางลิ้นเย็นขณะที่เขาเฝ้ามองลั่วเทียนที่กําลังปล่อยสายฟ้าอย่างต่อเนื่อง, “เด็กน้อย เจ้าคิดว่าราชาคนนี้ไม่ทราบว่าเจ้าพยายามถ่วงเวลาอีกหรอ? เจ้ายังเป็นแค่มือใหม่ที่จะมาเล่ยต่อหน้าราชาผู้นี้!”
เสียงของเขาจางหายไป…
กลิ่นอายของไฟแห่งความตายก็พุ่งออกมาจากหยินซาง ตอนนี้แขนของเขากางออกเล็กน้อยและฝ่ามือของเขาก็ไฟแห่งความตายที่หนาแน่นเป็นพิเศษ ดวงตาของเขามองลั่วเทียนเขม็ง ขณะที่เขาตะโกนอย่างเย็นชา: “เงามรณา!”
“วู่มมมม…”
“วูซซซซ…”
ร่างของหยินซางหายไปทันที
ลั่วเทียนขมวดคิ้วขณะที่มองไปยังแถบExp มันยังเหลืออีกนานกว่าที่เขาจะไปถึงขั้น 8 จากนั้นเขาก็มองหาถังจิ่วที่กําลังซ่อนตัว จากนั้นยั่วเทียนก็พูดผ่านปราณว่า: “พี่เก้า มันขึ้นอยู่กับท่านแล้ว ท่านต้องรักษาตัวด้วย!”
ทันใดนั้น
ลั่วเทียนไม่ต้องกังวลกับหยินซางอีกต่อไปและใช้หมื่นฟ้าคํารามอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น
สิ่งเดียวเขาต้องการคือการเพิ่มเลเวล!
เขาไม่อาจเสียสมาธิได้ ตอนนี้ตั๋วเทียนรู้อย่างแน่ชัดว่าเขาควรจะทําอะไรและไม่ควรทําอะไร หากเขาต้องการเผชิญหน้ากับหยินซาง ในตอนนี้ เขาคงจะตายไปสี่รอบแล้ว
เพราะว่าลั่วเทียนรู้ถึงความแข็งแกร่งของหยินซางที่อยู่ในขั้น 9 ปราณวิญญาณอย่างมาก!
“หมื่นฟ้าคําราม!”
“ หมื่นฟ้าคําราม!”
“หมื่น ”
ลั่วเทียนปล่อยทักษะออกไปทั้งซ้ายทั้งขวา ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน มันจะราบเป็นหน้ากลอง มีเพียงแค่ซากอาคารของเมืองภูเขาทมิฬเท่านั้นที่จะเหลืออยู่ มันเสียหายไปกว่าครึ่งเมืองแล้ว
“ไอ้เด็กบัดซบ…”
“ไปลงนรกซะ!”
หยินซางแค่นเสียงเย็นโดยไม่ต้องรอให้พูดจบ.
กลางอากาศ…
มีร่างที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของปฐพีสีเหลือง
“ตูม !”
หนึ่งร่างสีดําและหนึ่งร่างสีเหลืองกระเด็นออกจากกัน
ถังจิ่วกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้าของเขาซีด ร่างกายของเขาเจ็บปวดสาหัส แต่เขายังมีรอยยิ้มที่ดูน่าตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา. “If you want to go over there, you’ll need to pass through me first!”
ถังจิ่วเปรียบดั่งกําแพงที่ขวางกั้น!
ช่วงเวลาที่สั่วเทียนทะลวงไปยังขั้น 7 เขาก็ได้เห็นความหวัง
เขาต้องต่อสู้มากกว่านี้เพื่อคนที่เขาชื่นชม มันคุ้มค่าแม้ว่าต้องตาย!
เพราะว่าเขาสืบเชื้อสายมาจากจักรวรรดิ เขาได้เห็นผู้เชี่ยวชาญนับไม่ถ้วนตั้งแต่เด็กๆ มีปราณราชันย์, ปราณบรรกาลและแม้แต่ขอบเขตที่เหนือกว่า ปราณเทิดทูล! แต่ผู้เชียวชาญเหล่านั้นเป็นผู้เชียวชาญอายุมากกว่าร้อยปี สิ่งเดียวที่เขามีให้กับผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นก็คือความเครารพและมีแค่นี้เท่านั้น
ถังจิ่วไม่เคยขี่ยชมใครเลย.
นับตั้งแต่ที่เขาได้พบกับลั่วเทียน มุมมองชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป มันราวกับหน้ามือเป็นหลังตื่น
ลัวเทียนทําให้เขาตกใจมาก ความชื่นชมของเขาก็ยังมีให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเทียบได้กับบุคคลตัวอย่าง! ถังจิ่วกลายเป็นคนคลั่งลัวเทียนอย่างสมบูรณ์
คนอย่างลั่วเทียนที่สามารถต่อกรกับสวรรค์ด้วยความสามารถของเขามันจะส่องสว่างอย่างเหนือชั้นกว่าคนอื่น ความสามารถของเขาจะเปล่งประกายไปทั่วทวีปหรืออาจจะเป็นแสงสว่างปกคลุมเผ่ามนุษย์ ลั่วเทียนไม่สมควรตายที่นี่ ช่วงเวลาที่ถังจิ่วตกลงที่จะถ่วงเวลาให้ครึ่งชั่วโมง เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะทําตามสัญญาที่ให้ไว้กับลั่วเทียน แม้ว่าเขาจะต้องตาย
ถังจิ่วยังคงมีความหวังที่ฟุ้งเฟ้ออยู่บ้างเล็กน้อย หากเขาสามารถรอดไปได้ เขาจะพาลั่วเทียนเข้าสํานักนิกายเมฆคราม ในเวลานั้นนิกายเมฆครามจะต้องโด่งดังคับฟ้าทั่วทั้งทวีปเพราะลั่วเทียน!
“แค่เจ้า?”
หยินซางหัวเราเย็นก่อนที่จะเยาะเย้ย: “เจ้าประเมิณตัวเองสูงเกินไป!”
ทันใดนั้น.
ไฟแห่งความตายพุ่งออกมาจากร่างของเขาก่อนที่จะตรงเข้าหาถังจิ่ว หยินซางพูดอย่างรังเกียจ: “เนื่องจากเจ้าต้องการตาย ราชาจะประทานให้กับเจ้า!”
“ทรราชแห่งความตาย!”
“วั๊วะ!”
กลิ่นอายแห่งความตายคล้ายคลึงกับสัตว์ป่าที่เผด็จการ มันทําลายบรรยากาศรอบๆก่อนที่จะเกิดคลื่นปะทะอากาศ.
ถังจิ่วกําลังขมวดคิ้วขณะที่ยกดาบขึ้นมา ฉีจักรพรรดิในสายเลือดของเขาเริ่มสร้างเกราะปราณด้านหน้าของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความดุร้าย ขณะที่เขาตะโกนอย่างสิ้นหวัง: “ถ้าเจ้ากล้า บิดาจะเล่นเจ้าให้ตาย!”
“ตูมมม !”
“ปังงง !”
พลังทั้งสองปะทะกัน
ถังจิ่วทรุดตัวลงกระแทกอาคารที่มีไว้หลอมเหล็ก
เขาไม่อาจสู้กับหยินซางได้เลย
ความแตกต่างของพลังกําลังนั้นมีมากเกินไป!
หยินซางแค่นเสียงเย็น ก่อนที่จะพูดอย่างเหยียดหยาม: “ตัวอย่างของคนรนหาที่ตาย!”
หลังจากนั้นเขาก็รีบพุ่งเข้าใส่ลั่วเทียน
ในเวลานั้น
มีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากอาคารและลอยขึ้นไปบนอากาศ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด แต่เขายังมีรอยยิ้มที่ตื่นเต้นอยู่บนใบหน้าของเขา. “บิดายังอยู่ ยังไม่ตาย!”