เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - ตอนที่ 156 - โชว์เริ่มแล้ว
เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย
Chapter 156 – โชว์เริ่มแล้ว
“ยังไม่ตาย?”
“ถ้าเจ้ายังไม่ตาย เจ้าก็ตายได้แล้ว!”
หยินซางโกรธมากขึ้น
ปราณวิญญาณขั้น 5 ตัวน้อยๆที่เหมือนกับแมลงวันคอยบิน กวนใจเขาอย่างยโสและขวางเขาเรื่องนี้ทําให้เขาโกรธจริงๆ
ถังจิ๋วยังไม่ตายหลังจากที่ถูกการโจมตีไปสองครั้ง ดังนั้นนี้จึงทํา ให้หยินซางโกรธอย่างมาก
การแสดงออกของหยินซางเปลี่ยนไป.
แมลงภู่ตัวใหญ่บนหัวของหยินซางเริ่มเคลื่อนไหวแปลกๆและก ลิ่นอายแห่งความตายก็วนอยู่รอบมือของเขาและไม่ได้เป็นสีดําอี กต่อไป ตอนนี้มันเป็นรุ้งเจ็ดสี
กลิ่นอายแห่งความตายสีรุ้ง?
ในเวลานั้น การแสดงออกของไปเม่ยก็เปลี่ยนไปอย่างมากขณะ ที่เขาตะโกนอย่างเร่งรีบ: “หนีเร็ว!”
เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะอธิบาย
เขาไม่มีทางอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง ไปเม่ยไม่คิดว่าหยินซางจะ สามารถกลั่นแมลงให้อยู่ในระดับสูงได้กลิ่นอายแห่งความตายสี รุ้งเป็นหัวใจสําคัญของแมลงภู่ที่อยู่บนหัวของหยินซางและนี่คือพลังที่มีเพียงแมลงภู่ขั้น 8 เท่านั้นที่จะสามารถมีมันได้!
การโจมตีครั้งนี้ทําให้เมืองเล็กๆ กลายเป็นเถ้าถ่านได้
ถังหิ้วยิ้มอย่างแผ่วเบาขณะที่เขาหลับตา จากนั้นเขาก็พูดกับตัว เอง: “เพื่อคนที่ข้าชื่นชมข้าจะกลัวตายไปทําไม?”
เขาไม่มีแม้แต่การต่อต้าน
เพราะพลังปราณและฉีจักรพรรดิในสายเลือดของเขาหมดลง แล้ว
การที่สามารถลุกขึ้นมาได้จากซากอาคารเหล่านี้เป็นเพราะแรง เฮือกสุดท้ายของเขาและทําตามสัญญาของเขา ตั้งแต่ที่เขาบอกกับ ถั่วเทียนว่าเขาจะทํา จากนั้นเขาก็รั้งให้ถึงครึ่งชั่วโมง
มันเหลือไม่มากที่จะครบครึ่งชั่วโมงแล้วตอนนี้
ตราบใดที่เขาต้านการโจมตีครั้งนี้ได้ เมื่อนั้นเขาก็สามารถทํา ตามที่เขาได้รับปากแล้ว
ในเวลานั้น
ฉินซูเอ๋อเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขณะที่นางมองไปที่ถังจิ๋วผู้ที่ ตายไปครึ่งนึงขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศจากนั้นนางก็มองไปที่ลั่ว เทียนที่กําลังฆ่าอย่างเมามันและตรวจสอบกลิ่นอายของเขา ฉินซูเอื้อถอนหายใจและพูดกับตัวเอง: “เขายังอยู่ปราณวิญญาณขั้น
“น้องชายสุดหล่อ ข้าหวังว่าเจ้าจะจําข้าไว้หลังจากที่ข้าตาย.”
จากนั้นนางก็เริ่มยิ้มขณะที่จ้องมองลั่วเทียน รอยยิ้มของนางสว ยมากราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานเต็มที่
ทันทีหลังจากนั้น
ก่อนที่หยินซางจะปล่อยกลิ่นอายความตายสีรุ้งจากมือของเขา ฉินซูเอ๋อก็พุ่งขึ้นไปบนอากาศ
ถังจิ๋วกําลังหัวเราะ
เขาหัวเราะเสียงดังขณะที่เขาหลับตา จากนั้นเขาก็ตะโกนะ “น้องชาย ถ้าข้ามีชีวิตต่อไปจริงๆข้าหวังว่าจะได้เป็นพี่น้องแท้ๆกับ เจ้า! ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอไม่ว่าจะอยู่หรือตาย! พี่ชายคนนี้ขอจากไปก่อน!
“5555…”
“หยินซาง เจ้ามันสารเลวชั่วช้า! เจ้าจะต้องตายอีกไม่นาน 5555…มันจะต้องเลวร้ายยิ่งกว่าข้าอย่างแน่นอน!”
การแสดงของหยินซางมืดหม่น กลิ่นอายความตายสีรุ้งบนมือเขา ถูกยิงออกไปราวกับบอลแสง.
แสงสีรุ้งสว่างทั่วเมืองซากศพทมิฬ
มันสวยงามมาก ความงดงามนี้เหมือนกับช่วงเวลาก่อนตาย.
“ต้มมม !”
ถังหิ้วยิ้มรับการโจมตี
หน้าอกของเขายุบและหลังของเขาก็โปร่งนูนจนฉีกเสื้อผ้าของ เขา ร่างทั้งร่างของเขากระเด็นออกไปเป็นทางตรงจนไกลออกไป.
“ตุ้มมม !”
จากนั้นถึงจิ๋วก็กระแทกกับกําแพงเมืองที่สูงสิบเมตร,
กําแพงขนาดใหญ่จากบลูสโตนก็เริ่มแตก หลายวินาทีต่อมาส่วน หนึ่งของกําลังแพงก็พังทลายลงและฝังซากร่างของถังจิ๋วไว้ด้านล่าง
พลังนี้มีอํานาจอย่างมาก
คําพูดที่ไม่อาจอธิบายได้ว่าการโจมตีครั้งนี้รุนแรงเพียงใด ฟังจิ๋ว ไม่ได้ต่อต้านหรือไม่ก็เขาไม่อาจต่อต้านได้ ในขณะที่การโจมตีของ หยินซางกระทบหน้าอกของเขาและเขาก็เริ่มกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง หางตาของเขายังคงจ้องมองลั่วเทียนที่ยังคงฆ่าทหารอมตะ อย่างสิ้นหวัง เขายิ้มเพียงเล็กน้อย,“น้องชาย นี่เป็นสิ่งที่ข้าทําได้ สุดความสามารถแล้ว หลังจากนี้ต้องฝากเจ้าด้วย หากเรามีโชคชะตาในภพหน้ามาเป็นพี่น้องกันเถอะ!”
“มีใครอีกไหม?”
“ใครกล้าที่จะขวางราชาคนนี้”
ความโกรธของหยินซางพุ่งเสียดฟ้าขณะที่เสียงเย็นชาของเขา สะท้อนทั่วทุกมุม
“ข้า!”
เสียงน้อยๆที่แผ่วเบา เสียงไม่ดังมาก แต่ก็สามารถฟังได้อย่างชัน เจนราวกับนกขมิ้นท้ายทอนดํา
มีร่างปรากฏตรงจุดที่ถังจิ๋วอยู่ก่อนหน้านี้
ร่างกายที่เซ็กซี่และสายตาที่ชุดช้อยขณะที่ถือดาบอยู่ ฉินหยู่เอ้อมีท่าทางที่ดูสงบ ขณะที่ดาบของนางเปล่งประกายนางชี้ดาบไปที่หยินซางที่ลอยอยู่กลางอากาศขณะที่นางยิ้มอย่างเย็นชา: “ยังเหลือข้าอยู่นี่”
“ดี ดี ดี!”
“ขยะที่อยู่เพียงขั้นปราณสุดยอดเชียวชาญกล้าที่จะขวางทางราชาคนนี้ ไม่เลว ไม่เลวเลยจริงๆ” หยินซางโกรธจนไม่อาจระงับมันได้อีกต่อไปเมื่อเขาจ้องมองไปที่ฉินหยู่เอ๋ออย่างน่ากลัวจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า: “ราชาคนนี้จะทําให้เจ้าได้สัมผัสกับความตาย!”
ทันใดนั้นเอง
คิ้วของหยินซางก็ขมวดก่อนที่จะตะโกนะ “หมื่นรุ้งมายา!”
“ไป!”
ฝ่ามือของหยินซางเริ่มผลักผ่านอากาศในรูปแบบที่ซับซ้อนกลิ่นอายแห่งความตายสีรุ้งนั้นก็เริ่มก่อตัวราวกับเป็นรุ้งจริงๆเหนือเมืองซากศพทมิฬร่างของหยินซางพุ่งขึ้นไปอยู่เหนือรุ้งนั้นอย่างคล่องแคล่วขณะที่เขามองไปที่ฉินหยู่เอ่ออย่างสงบ จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างมาดร้ายและพูดว่า: “หลังจากผ่านมาหลายปี แมลงภู่ของข้าก็ยังไม่ เคยสืบพันธุ์มาก่อนราชาคนนี้จะยอมให้เจ้าเป็นคนแรก 5555..”
ขณะที่เสียงจางหายไป
ทันใดนั้นร่างของหยินซางก็หายไป.
เมื่อเขาหายตัวไปสายรุ้งที่เกิดจากกลี่ยหายแห่งความตายก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน
ทุกอย่างด้านหน้าฉินหยู่เอ๋อเริ่มเปลี่ยนแปลง
มันกลายเป็นกระตุ้นอารมณ์พุ่งเข้ามาในจิตใจเธอมากมาย ความรู้สึกที่เธอประสบทําให้แก้มของเธอแดง จากนั้นก็ขว้างดาบออกไปอย่างไม่รู้ตัวและเริ่มที่จะจับหน้าอกของตัวเอง
ใบหน้าของเธอแดงและมีท่าทางที่มีนเมา
ในเวลานั้นกลิ่นอายแห่งความตายสีรุ้งได้เคลื่อนไหวสติของฉินหยู่เอ๋อถูกหยินซางควบคุมแล้ว
* 555…”
“ถอดเลย ถอดเลย ถอดเสื้อผ้าของเจ้าเลย 555..” หยินซางเริ่มหัวเราะด้วยท่าทางที่ดุร้ายและยุยงในสิ่งผิดๆ
ฉินหยู่เอ๋อกําลังขยําหน้าอกทั้งสองของเธอ ร่างกายของเธอร้อนผ่าวมือของเธอกําลังเล่นกับหัวนมของเธออย่างไม่ตั้งใจ
นิกายปีศาจที่อยู่ในวังราชาทมิฬกําลังจ้องด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและปล่อยน้ําลายไหลออกมา นี่เป็ฯครั้งแรกที่ได้เห็นนางฟ้าของนิกายเมฆครามที่เย้ายวนกําลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกพวกเขาตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะนี่มันยั่วยวนเกินไป.
ในเวลานั้น
ไปเม่ยขมวดคิ้วและส่งข้อความผ่านจิตสํานึกออกไป.
“คุณหนูฉิน สงบจิตใจไว้และหยุดคิดเรื่องเหล่านั้นทั้งหมดจากนั้นก็ปล่อยทุกอย่างไว้ให้ข้า”
จิตสํานึกของฉินซูเอ๋อนั้นถูกควบคุม แต่จิตใจของนางยังคงแจ่มแจ้มเธอทําตามที่ไปเม่ยบอกให้เธอทําทันที
ไปเม่ยยิ้มอย่างสงบและพูดว่า: “ถึงเวลาที่กระดูกผุอย่างข้าต้องเคลื่อนไหว.”
ทันทีหลังจากนั้น
เสื้อมคลุมของไปเม่ยก็กระพือโดยไม่มีแม้แต่ลม คิ้วของเขาขมวดจนตั้งชันและตะโกนะ “คาถาชําระจิต!”
ริมฝีปากของเขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง
สําเนียงจากคําพูดที่แปลกประหลาดออกมาให้ได้ยินขณะที่เขารีบเข้าไปยังทะเลสํานึกของฉินหยู่เอ๋อ.
ในเวลานั้น
ร่างกายของฉินหยู่เอ๋อสั่นเทาขณะที่เธอเริ่มรู้สึกตัวเองเล็กน้อยเมื่อเธอย้อนกลับไปถึงฉากก่อนหน้า ความโกรธในใจของเธอก็เริ่มสูงขึ้นแต่เธอก็ยังไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ
“คาถาชําระจิต?!”
“ไอ้เฒ่าสารเลวอย่างเจ้านี่มันอมตะตัวจริง ยังคงมีอะไรดีอยู่บ้าง? ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะรู้คาถาชําระจิตที่หายไปจากเผ่าหลักของโลกไปนานแล้วดูเหมือนว่ายังมีหลายอย่างที่ราชาคนนี้ยังไม่รู้จากเจ้าแต่ยี่สี่สิ่งที่ราชาคนนี้ไม่สามารถมีได้ คนอื่นก็ไม่มีได้เช่นกัน เพราะงั้นไปลงนรกซะ!” ความรู้สึกโกรธของหยินซางส่งออกไปไปยัง ทะเลสํานึกของฉินหยู่เอ๋อราวกับจะฉีกเป็นส่วนๆ
การกระทําของเขาแสดงให้ถึงความโกรธของเขา…
และทันใดนั้นเขาก็ถอนเจตนาออกจากทะเลสํานึกของฉินหยู่เอ๋อ.
ทะเลสํานึกของฉินหยู่เอ๋อรู้สึกเหมือนกับถูกปล่อยลมและทําให้เธอโหวงเหวงอยู่บนอากาศ หลังจากนั้นเธอก็ทรุดลงพร้อมกับพยายามค้ําตัวด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว เธอเตรียมที่จะยืนขึ้นเพื่อรับการโจมตีของหยินซางอีกครั้ง
เธอต้องยื้อเวลาให้ได้มากที่สุดเพื่อลั่วเทียน!
ทันทีหลังจากนั้น
หยินซางก็หลิกฝ่ามือและกลิ่นอายแห่งความตายสีรุ้งก็พุ่งออกมาเขายิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า: “เจ้าสองคนสามารถล่วงหน้าและตายได้แล้ว!”
นอกจากนี้ในเวลานี้
เสียงของระบบดังขึ้นในจิตใจของลั่วเทียน
“ซึ่งปร