เกิดใหม่พร้อมกับระบบไร้พ่าย - 139 - นรกชั้นที่ 19
Chapter 139 – นรกชั้นที่ 19
ประมาณหนึ่งหมื่นเมตรใต้ผืนดินใต้เมืองภูเขาศพทมิฬ
สถานที่แห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่และไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ว่ามันเริ่มหรือสิ้นสุดที่ใด
ในจตุรัสแห่งนี้เต็มไปด้วยศพหลากหลายประเภท ถ้าใครก็ตามกวาดตามองไปรอบๆ สถานที่แห่งนี้ก็หลายกับสําของน้ำทะเลเข้มที่ไม่อาจมองเห็นกันบ่อได้ มีศพจํานวนมากทับทมกันเกินกว่าจะนับได้
ร่างกายเหล่านี้ไม่มีสติและไม่มีวิญญาณ ดังนั้นพวกมันจึงเคลื่อนไหวอย่างไร้จุดหมาย แมลงภู่ในสมองของพวกมันกําลังอยู่ในระหว่างการเติบโตดังนั้นร่างกายเหล่านี้คล้ายกับซอมบี้นับไม่ถ้วน!
อากาศที่เต็มไปด้วยหยินเข้มข้นและมีกลิ่นอายแห่งความตายอยู่ทั่วทุกที่
มีการคร่ำครวญอยู่ทุกที่เพราะเหล่าคนตายเดินได้พวกนี้กําลังทุกข์ทรมาณอย่างเจ็บปวด ความเจ็บปวดเหล่านี้และความทรมาณที่อยู่ยิ่งกว่าตาย!
มีข่าวลือว่าข้างใต้สถานที่ใหญ่โตอันนี้มีนรกจริงๆ!
อย่างไรก็ตามพื้นที่ใหญ่โตอันนี้โหดร้ายกว่านรกมาก หนึ่งไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้หากต้องการ! นี่เป็นนรกสําหรับคนเป็นก็ว่าได้ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ นรกชั้นที่ 191
นี่คือทะเลซากศพ.
นี่คือโรงเรียนทําอาวุธของหยินซาง ซึ่งเป็นสถานที่ๆเขาให้มียามอยู่ตลอด!
ภายในพื้นที่ใหญ่โตอันนี้มีบ้านอยู่หลังนึงในมุมหนึ่ง
“ตาเฒ่า มีความโกลาหลมากมายเกิดขึ้นที่นั่น เจ้าคิดว่าเด็กนี่มาจริงๆงั้นหรือ?”
“เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าเขาจะมา แต่เขาต้องแสวงหาความตายอยู่
“เฮ้อ….ข้าไม่ควรเล่าเรื่องเหล่านั้นให้เขาฟัง คงจะดีที่สุดถ้าเขาไม่ รู้อะไรเลย ตาเฒ่าเด็กคนนั้นไม่ธรรมดา เพราะร่างกายของเขาแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ไม่อาจเห็นได้ในหมู่คนปกติ เขายังมีหัวใจที่เด็ดขาด การกระทําของเขาเป็นสิ่งสําคัญที่สุด หัวใจของเขา ดีมาก ข้ากลัว…เมื่อเขาเห็นเผ่าหลักของโลกถูกกําจัดเขาก็รีบไปที่ เมืองภูเขาศพทมิฬ หากเกิดเรื่องอย่างนั้นจริง เป็นข้าที่นําอันตรายมาให้แก่เขา เฮ้อ…ข้าหวังว่าเขาจะไม่กลับมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับ เผ่าหลักของโลกและไม่เห็นฉากสังหารและไม่แม้กระทั่งเดินเข้ามาในเมืองภูเขาศพทมิฬ.”
“ความขยัน,แน่วแน่และมีเมตตาในเวลาเดียวกัน บางที…บางที เขาอาจจะเป็นคนที่ถูกพูดในคําทํานาย.”
“ตาเฒ่าสารเลว ทําไมเจ้ายังเชื่อเรื่องไสยศาสตร์อีกรึ? คําทํานายนั้นเพียงเพื่อปลอบใจคนและให้ความหวังกับพวกเขา”
“คําทํานายนี้แตกต่าง เพราะมันอาจเป็นจริง!”
การแสดงออกของยายเฒ่าที่มองอย่างมึนงง.
หลังจากนั้นไม่นานนางก็ยิ้มเพียงเล็กน้อยและแสดงความพึงพอใจของนางออกมา
ความปรารถณาเดียวในชีวิตของนางคือการได้เห็นตาเฒ่าคนนี้อีกครั้ง หลังจากนั้น นางก็สามารถตายได้อย่างมีความสุข
ตอนนี้เมื่อนางได้เห็นเขานางก็ราวกับเป็นหญิงสาวที่กําลังตกอยู่ในรักแรก นางมีความสุขอย่างมากและหวงแหนทุกวินาทีที่จะได้อยู่กับชายชราคนนี้ นางไม่ได้คิดถึงอย่างอื่น เผ่าหลักของโลกใกล้จะถูกกําจัดออกไป ดังนั้นเรื่องเหล่านี้ก็รออยู่ในภายภาคหน้าแล้ว?
หลังจากนั้นไม่นาน
ยายเฒ่าถาม “ตาเฒ่า เจ้าจะสอนไอ้บัดซบหยินซางเพื่อกําจัดพิษจริงๆ?”
ชายชราที่มีผมสีดอกเลาก็พูดกับยายเฒ่าอย่างอ่อน โยนด้านหลังใบหูของนางขณะที่ยิ้มอย่างแผ่วเบา “ตอนข้าทําอย่างนั้นข้าไม่เห็นเจ้าพูดอะไร? ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้าช่วยเหลือเขา ปรับแต่งแมลงภู่ตลอดและทําร้ายพวกพ้องของเราไปมากมาย ข้าทําบาปอย่างมาก ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสิ่งเดียวที่ข้าต้องการคือเจอเจ้าอีกครั้ง ตอนนี้ข้าได้มีโอกาสเห็นเจ้าแล้ว ข้าก็สามารถตายได้อย่างเป็นสุข สําหรับความตั้งใจที่จะช่วยเขาขจัดพิษแมลงภู่ เขาต้องลืมไปเลยทั้งชีวิต! ฮึ!”
“โง้ววว…”
“เจ้าสองคนยังกระซับคําหวานอยู่อีก?
“ อาจารย์ อาจารย์แม่ ข้ารู้สึกดีที่ยังเห็นท่านทั้งสองรักกันไม่เสี่อมคลายมาหลายสิบปีแล้ว 555.”
ทันใดนั้น.
หยินซางเริ่มหัวเราะอย่างเหยียดหยัน มีหมอกที่แผ่กลิ่นอายแห่ง ความตายเริ่มปกคลุมทั่วพื้นที่ เมื่อหมอกกระจายออกก็เป็นปากประหลาดๆของหยินซางที่กําลังยกยิ้มอยู่อย่างสบายใจ
“หยินซาง ไอ้สุนัขสารเลว! เจ้ามันนี่ต่ำยิ่งกว่าเดียรัจฉาน!”
“หยินซาง สิ่งที่เจ้าทําไปสักวันมันจะกลับมาถึงตัวเจ้า!”
คู่รักชราเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกลียดชักอย่างมาก และไม่มีการปกปิดในสายตาของพวกเขา ความเกลียดชังประเภทนี้ คล้ายกับอยากจะฉีกหยินซางเป็นชิ้นๆ
“ 5555…”
“จิ้งจอกเฒ่าตายยากทั้งสอง! ถ้าข้าไม่ใช่ข้าหยินซาง เผ่าหลักของโลกจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร? หากไม่ใช่ว่าพวกเจ้าทั้งสอง ยังคงปากแข็งในการปรับแต่งป่านนี้เผ่าหลักของโลกคงได้พิชิตโลกไปแล้ว เผ่าหลักของโลกจะกลับไปสู่ยุครุ่งเรืองที่สุดของเราในเวลานั้น ทําไมเรายังต้องซ่อนตัวในหลุมลึกนี้อีกด้วยและไม่อาจเห็นวันเห็นเดือน?” หยินซางพูดอย่างกระวนกระวายและแมลงภู่ตัวใหญ่บนหัวของเขาก็เริ่มขยับไปมา ภาพเหล่านี้ มันน่าขยะแขยงเกินความบรรยาย.
หลังจากหัวเราะอย่างเย็นชา หยินซางก็พูดอีกครั้งว่า “แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะอีกไม่นานความปรารถณาของเขาจะเป็นจริง 555…”
หยินซางโบกมือ
มีร่างสามร่างเหาะลงมาจากอากาศก่อนที่จะถึงพื้นอย่างนิ่มนวล
มันคือองค์ชายเก้า,ฉินหยู่เอ๋อร์และถั่วเทียนที่หน้าผามีแสงสีเขียว!
มีอาวุโสคนหนึ่งขมวดคิ้วเมื่อเห็นแสงสีเขียวอยู่บนหน้าผากของลั่วเทียนและรู้สึกตกใจและเขาก็ตะโกนออกมา “หยินซาง เจ้าใช้แมลงภู่ขั้น 6 เพื่อปรับแต่ง? เจ้าใช้มันขณะที่ร่างกายยังมีชีวิตอยู่? เจ้าวางแผนจะทําอะไรกันแน่? เจ้ามันสารเลว เจ้ามันไอ้สารเลวที่วิปลาส…”
คําด่าทั้งประโยคหลังเกือบจะเป็นเสียงคําราม
หัวใจของยายเฒ่าตกลงเมื่อนางได้เห็นลั่วเทียน การแสดงออกของลั่วเทียนที่แสดงออกมานั้นเจ็บปวดอย่างมากและหัวใจ ของนางก็เจ็บปวดนางได้แต่ตําหนิตัวเอง“เด็กเอย ยายเฒ่าคนนี้ได้ ทําร้ายเจ้าแล้ว ข้าขอโทษ ข้าขอโทษจริงๆ”
หยินซางเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยท่าที่ที่ดุร้าย “อาจารย์ ท่านยังเป็นตาเฒ่าที่น่านับถือ ท่านไม่คิดที่จะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ ใช่ไหม? ท่านไม่คิดว่าข้าจะกลั่นแมลงภู่สีเขียวขั้น 6 ใช่มั้ย? เพื่อที่จะปรับแต่งแมลงภู่ขั้น 6 ออกมาได้ ข้าได้พยายามอย่างเต็มที่ ข้าจําได้ตอนนั้นท่านบอกว่าการกลั่นแมลงภู่ขั้น 6 นั้นต้องการคุณสมบัติหยินที่มากที่สุดในโลก ในที่สุดข้าก็พบว่าเลือดของหญิงสาวบริสุทธิ์นั้นถือว่าเป็นหยินสุดขั้ว ผู้หญิงในเผ่าหลักค่อนข้างน่าสงสาร หากไม่ใช่เพราะเลือดที่บริสุทธิ์ของพวกนางข้าจะไม่อาจกลั่นมันได้สําเร็จ”
“แต่ข้าก็ต้องขอบคุณท่านด้วย ตาเฒ่าสําหรับเรื่องนี้ 555….”
หัวเราะ.
เขาหัวเราะอย่างสบายใจ!
หยินซางมองดูการแสดงออกที่เจ็บปวดของอาจารย์ของเขาและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างสบายใจ มือขวาของเขาเคลื่อนไหวและรังสีทมิฬตํานวนมากก็พุ่งออกไปยังยายเฒ่า ใบหน้าของหยินซางก็น่าสะพรึงกลัวอย่างมากเมื่อเขาตะโกน “ตาเฒ่าตายยาก ข้าจะให้เจ้าช่วยข้ากระตุ้นศักยภาพที่ซ่อนเร้นที่สุดจากทั้งสามคนนี้ ข้าต้องการที่จะเห็นรูปแบบที่สมบูรณ์แบบที่สุดของพวกเขา หากเจ้าไม่ทําตามที่ข้าพูด เจ้าควรรู้ว่ามันจะมีผลอะไรตามมา”
เปลวไฟสีดําที่ดูเหมือนว่าเขากลายเป็นปีศาจขณะที่มันขดรัดรอบคอของยายเฒ่าและหดแน่น
ยายเฒ่าหายใจไม่ออกขณะที่นางอ้อนวอน “ตาเฒ่า อย่าทํา อย่าทํามัน!”
“พลัก!”
หยินซางตบไปที่หน้าของยายเฒ่าจนนางเห็นดวงดาว จากนั้นเขาก็ตะโกนอย่างเย็นชา “ยายเฒ่าเสร็งเคร็ง เจ้าควรจะกล่อมให้อาจารย์ของข้าทําตามที่ข้าพูด ไม่อย่างนั้นข้าจะทําให้เจ้าเจ็บปวดยิ่งกว่าตาย!”
อาวุโสคิ้วขาวเริ่มขมวดคิ้วขณะที่ความโกรธของเขาพุ่งขึ้นสวรรค์ แต่ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทําได้ เมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลออกจากปากของภรรยาของนางพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เขาต้องตัดสินใจที่ยากลําบากอีกครั้ง แต่จากนั้นการแสดงออกของเขา ก็เริ่มเจ็บปวด จากนั้นเขาก็พูดว่า “ได้ ข้าจะทํามัน แต่เจ้าแน่ใจว่านางจะปลอดภัย!”
“ 555…”
“ข้ารู้ว่าเจ้าจะยอมในที่สุด! ดูเหมือนว่าการไม่ฆ่าอาจารย์แม่ตลอดเวลาหลายปีมีมานี้จะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด, 555…” หยินซางหัวเราและพูดต่อ “ตราบที่เจ้ากระตุ้นและเผยศักยภาพที่ซ่อนอยู่ออกมาได้ ข้ารับรองว่านางจะปลอดภัย”
หลังจากพูดอย่างนั้น
หยินซางก็พายายเฒ่าไปกับเขาขณะที่หัวเราะออกมาอยู่ตลอดเวลา ทะเลซากศพก็กลับมายังบรรยายกาศเดิมๆ กลิ่นอายที่เต็มไปด้วยซากศพ,ชื่น,เย็นยะเยือกและกลิ่นเหม็นก็ลอยคลุ้งเต็มอากาศ.
ผู้อาวุโสคิ้วขาวเดินไปที่ลั่วเทียนและกระซิบ “เจ้าเปิดตาได้แล้วตอนนี้ ”