เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 133 อาชีพขุดสุสาน
- Home
- เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]
- ตอนที่ 133 อาชีพขุดสุสาน
“หากคุณคิดว่าขาดแคลนเงิน งั้นก็เอาไปแลก แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่ได้ขาดแคลนเงิน สามารถสร้างรายได้จากมันได้ งั้นก็เก็บไว้ค่ะ รอให้เดือดร้อนต้องใช้เงินจริง ๆ ค่อยนำไปแลกเป็นเงิน” เย่ฉูฉู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาคิดว่ามีเหตุผล เขาพยักหน้า “งั้นผ่านไปอีกสักสองสามวันผมค่อยไปเอากลับมาแล้วกันนะ?”
ของพวกนั้นขุดฝังไว้ด้านนอกก็คงไม่เป็นอะไร เย่ฉูฉู่จึงไม่ได้คัดค้าน
วันรุ่งขึ้นจ้าวเหวินเทาขับรถเข้าไปในเมืองพร้อมกับเย่หมิงเป่ย หลังจากทำงานยุ่งอยู่สองสามวัน จนกระทั่งคนในหมู่บ้านเริ่มไปจัดการกับคันนาบนเขา จ้าวเหวินเทาจึงใช้โอกาสตอนที่ไม่มีคนนำของกลับมา
จ้าวเหวินเทาสนใจแค่เครื่องเงินเครื่องทอง อย่างอื่นเขาไม่สนใจนัก
ส่วนเย่ฉูฉู่ทราบของเหล่านี้ดี ชาติที่แล้วองค์ชายทำกล่องเครื่องประดับให้เธอ ทั้งยังใช้กล่องใส่ของเหล่านี้โดยเฉพาะ
บางครั้งตอนที่องค์ชายเห็นอัญมณีสวย ๆ จากข้างนอก เขาก็จะซื้อแล้วให้คนนำกลับมาให้เธอ
แม้ตั้งแต่ต้นจนจบนางจะไม่ใช่สตรีขององค์ชาย แต่คนในตำหนักต่างก็ทราบดีว่าตำแหน่งของคุณหนูฉูฉู่นั้นเทียบเท่ากับพระชายาเลยทีเดียว
“ภรรยา คุณเป็นอะไรเหรอ?” จ้าวเหวินเทาเห็นภรรยาที่เหม่อลอย จึงเอ่ยถาม
เย่ฉูฉู่ได้สติกลับมา เธอส่ายหน้า “ไม่มีอะไรค่ะ”
เธอพิจารณาอย่างจริงจัง นอกจากเครื่องทองเครื่องเงินแล้วก็ยังมีแหวนและกำไลหยกด้วย ที่เหลือคืออัญมณีสีแดงสีเขียวส่วนหนึ่ง หลายชิ้นในนั้นเป็นหินสีมรกต ซึ่งแต่ละเม็ดมีขนาดใหญ่เท่ากับไข่ห่าน
ถ้าขายของเหล่านี้ออกไปตอนนี้ คาดว่าคงทำเงินได้หลายร้อยหยวน เงินจำนวนหลายร้อยหยวนย่อมเป็นเงินจำนวนมาก และถือว่ามีราคามากด้วย แต่ถ้าเก็บไว้หลังจากนี้ แบบนั้นคงไม่อาจมั่นใจได้ว่าจะมีราคาเท่าใด
แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าฐานะของพวกเขาสองสามีภรรยาในตอนนี้ไม่ได้ขัดสนขนาดนั้นแล้ว ย่อมไม่จำเป็นต้องนำของเหล่านี้ไปขาย
เย่ฉูฉู่เลือกสร้อยข้อมือเงินเส้นหนึ่งขึ้นมา กล่าวว่า “เหวินเทา คุณเอาอันนี้ไปให้คุณแม่สิคะ”
จ้าวเหวินเทายิ้ม “งั้นก็เลือกให้แม่ยายผมชิ้นหนึ่งด้วยสิ? จะให้แต่แม่ของผม ไม่ให้แม่ยายผมได้ยังไงล่ะ”
จะไม่ให้คนรักจ้าวเหวินเทาได้อย่างไรกัน เขาช่างมีวาทศิลป์เสียขนาดนี้
เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงหยิบสร้อยข้อมือเงินออกมาอีกหนึ่งเส้น “งั้นอันนี้ให้แม่ของฉันค่ะ”
“ตกลง” จ้าวเหวินเทาตอบตกลงโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
เขาแยกของที่จะให้ผู้อาวุโสออกมา ส่วนที่เหลือเหล่านั้นจ้าวเหวินเทาห่อไว้และนำไปไว้ในช่องใส่ของในกล่อง และลงกลอนอย่างดี
เรื่องนี้ของจ้าวเหวินเทาได้จบลงแค่นี้
เพียงแต่เรื่อง ‘ขุดสุสาน’ กลับส่งผลกระทบต่อคนอื่น ๆ เป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเช่นจ้าวเหวินอู่ ไม่รู้ว่าเขาไปได้ยินมาจากไหน มีคนจำนวนมากที่ร่ำรวยเพราะขุดสุสานโบราณแล้ว
ในบรรดาของที่ขุดออกมาจากหลุมศพโบราณ ของราคาถูกสามารถขายได้ถึงร้อยหยวน ส่วนของราคาแพงสามารถขายได้หลายร้อยหยวน หากเจอชาวจีนโพ้นทะเลที่ชื่นชอบของเหล่านี้ ก็ยิ่งสามารถคุยราคากันได้ การแตะหลักพันหยวนก็ไม่ใช่เรื่องที่หาได้ยากอะไร!
จ้าวเหวินอู่เองก็ใจเต้นขึ้นมา เขาตัดสินใจจะลองดู ทั้งยังลากจ้าวเหวินเทาให้ไปด้วยกัน
จ้าวเหวินเทาปฏิเสธโดยไม่คิด กลางค่ำกลางคืนให้ไปขุดสุสาน ทั้งยังต้องเข้าไปหาสมบัติด้านในอีกเนี่ยนะ?
เขาไม่ใช่คนจนที่บ้าคลั่งสักหน่อย ถ้าลูกเมียต้องอดอยากปากแห้งไปพร้อมกับเขา จนถึงขั้นนั้น ไม่แน่เขาอาจจะทำอย่างใจเหี้ยมก็ได้
แต่ตอนนี้การงานของเขามั่นคง พรุ่งนี้ก็ต้องขับรถออกไปกับพี่สามของภรรยาอีก เดินทางไปกลับก็ได้เงินมากี่สิบหยวนแล้ว เขาจึงคิดว่าไม่คุ้มที่จะทำเรื่องนี้!
จ้าวเหวินอู่พูดโน้มน้าวเขาไม่สำเร็จ จึงไปหาคนอื่น
หลังจากขึ้นรูปคันนาเสร็จสิ้น ตอนที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการนำน้ำจากแม่น้ำมารดแปลงของตัวเอง คืนหนึ่งจ้าวเหวินอู่ก็มาหาจ้าวเหวินเทา ทั้งยังนำของเก่าสองสามชิ้นที่เพิ่งขุดได้มาด้วย
เขาห่อพวกมันด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ มีจานสองใบ ถ้วยหนึ่งใบและกาเหล้าอีกหนึ่งใบ ของเหล่านี้มีรอยแตกไม่มากก็น้อย แต่ก็เป็นของโบราณอย่างแน่นอน
จ้าวเหวินอู่อยากจะนำมาอวดสักหน่อย เพื่อให้จ้าวเหวินเทาไปทำด้วยกันกับเขา
แต่น่าเสียดายที่หลังจากจ้าวเหวินเทาเห็นแล้วกลับไม่ได้รู้สึกอิจฉาแม้แต่น้อย ทั้งยังพูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “ของพวกนี้อัปลักษณ์เกินไปแล้ว ยังสวยสู้จานที่บ้านฉันไม่ได้เลย จะขายได้เหรอ?”
จ้าวเหวินอู่และป๋ออี้ข่าวรู้สึกราวกับสีซอให้ควายฟัง พากันเคว้งคว้างไป “…จานใบนั้นของนายจะสู้กับใบนี้ได้เหรอ? นี่เป็นของโบราณเชียวนะ!”
จ้าวเหวินเทาส่ายหน้า “ฉันไม่รู้อะไรกับของชิ้นนี้หรอก ฉันกลัวว่าจะถูกหลอก”
“ไปหาคนที่รู้เรื่องนี้ก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันจะบอกอะไรให้นะ จานใบนี้อย่างน้อย ๆ ก็ขายได้ร้อยหยวน!” จ้าวเหวินอู่กระซิบอวด
จ้าวเหวินเทาไม่เชื่อ “นายขายให้ได้ก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ”
จ้าวเหวินอู่เห็นจ้าวเหวินเทาไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งของเช่นนี้ จึงทำได้เพียงแค่นำของกลับไป ส่วนหลังจากนั้นขายได้หรือไม่ และขายออกไปได้เท่าไรจ้าวเหวินเทาเองก็ไม่ทราบ
ส่วนเรื่องที่จ้าวเหวินอู่ทำเรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้ปิดบังเป็นความลับอะไร พี่สะใภ้สี่จ้าวย่อมได้ยินเช่นกัน
จึงมีความคิดให้พี่สี่จ้าวไปลองดู
พี่สี่จ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณมันผู้หญิงชั่วช้า คิดจะหลอกผมงั้นเหรอ? ทำไมคุณไม่ไปเองล่ะ? พอเป็นเรื่องขาดศีลธรรมก็มาบอกให้ผมไปทำ!”
“ขาดศีลธรรมอะไรกัน ทำไมจ้าวเหวินอู่ถึงทำล่ะ? ได้ยินว่าเขาขุดมาได้ตั้งเยอะ!” พี่สะใภ้สี่จ้าวลูบท้องพลางถอนหายใจ “ถ้ามีเงินตอนนี้ฉันก็คงสร้างบ้านใหม่ให้ลูกชายได้แล้ว รอให้ออกมาก็ได้บ้านทั้งใหญ่และใหม่ แต่ก็เป็นเพราะไม่มีเงิน คุณเป็นพ่อแต่ไม่คิดวิธีหาเงิน ฉันคิดหาวิธีให้คุณก็ไม่ยอมทำ ทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับผู้ชายไร้ประโยชน์แบบคุณกันนะ!”
พี่สี่จ้าวรำคาญจะตายอยู่แล้ว “คุณก็แต่งงานใหม่ไปสิ รีบเลย ให้ไว ผมเองก็จะไม่ห้ามคุณเหมือนกัน!”
พี่สะใภ้สี่จ้าวโกรธเจียนตายแล้ว นี่เป็นคำพูดที่ผู้ชายอย่างเขาถึงกับพูดออกมาเหรอ?
แต่จู่ ๆ หล่อนกลับเกิดความคิดยืดหยุ่น แรงบันดาลใจพลันปรากฏขึ้นขณะกล่าวว่า “คุณว่า พวกเราเอาสูตรนั้นขายออกไปดีไหม? โอ๊ย ทำไมฉันถึงคิดไม่ออกเนี่ย? มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว เรื่องนี้ก็สามารถซื้อขายได้ง่าย ตอนแรกฉันซื้อมาในราคาสามหยวน ตอนนี้ฉันตั้งครรภ์ลูกชายแล้ว ลองแล้วก็ได้ผล พวกเราเพิ่มราคาเพื่อเปลี่ยนมือออกไปจะดีแค่ไหนกันนะ?”
พี่สี่จ้าวมองหล่อนที่คิดแต่เรื่องเงินจนเป็นบ้าไปแล้ว เขาพูดหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณไปขายเองสิ” พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป
พี่สะใภ้สี่จ้าวโกรธจนสบถด่าออกมา “ฉันขายเองก็ได้ หวังพึ่งคุณไม่ช้าก็เร็วพวกเราสองแม่ลูกคงได้หิวตาย!”
การรดน้ำที่ดินทั้งหมู่บ้านต้องมีการจัดตารางเวร ถึงกะเช้าก็รดตอนเช้า ถึงกะค่ำก็รดตอนค่ำ
ที่ดินของคุณพ่อจ้าวได้ช่วงกะกลางคืนพอดี และพอดีกับที่จ้าวเหวินเทาอยู่บ้าน จึงขันอาสารับงานนี้มาทำ
ถึงอย่างไรการรดน้ำที่ดินก็ไม่จำเป็นต้องมีทักษะ แค่ผันน้ำเข้ามาด้านในที่ดิน หลังจากรดจนเต็มแล้วก็เรียกให้คนที่เข้าเวรต่อไปดึงไปก็เสร็จแล้ว พ่อของเขามีที่ดินติดแม่น้ำแปดหมู่ จึงไม่ใช่ปัญหาอะไร
ความกตัญญูของลูกชายทำให้คุณพ่อจ้าวพึงพอใจเป็นอย่างมาก
แต่พวกพี่ชายคนอื่น ๆ เห็นเขาเอาใจใส่แบบนี้แล้วก็แอบหมั่นไส้ รู้จักแสดงออกเอาหน้า ราวกับนายกตัญญูแล้วพวกเราเป็นลูกอกตัญญูอย่างนั้นแหละ!
“คุณพ่อคะ ตอนทำสวนเดี๋ยวพวกเราจะช่วยคุณพ่อปลูกเองค่ะ” พี่สะใภ้สี่จ้าวแสดงท่าทีเป็นคนแรก
“พ่อ ผมเองก็จะปลูกให้พ่อเหมือนกัน!” พี่สามจ้าวกล่าวตาม
“คุณพ่อ ถึงเวลานั้นฉันจะให้ซานหยาไปช่วยนะคะ” พี่สะใภ้สี่จ้าวก็รีบพูด
ใบหน้าของคุณพ่อจ้าวไร้ซึ่งอารมณ์
คุณแม่จ้าวอดไม่ได้ที่จะกระซิบด่า “พอเจ้าหกลงมือ ก็มาแสดงออกถึงความกตัญญูกันหมด ถ้าเจ้าหกไม่ช่วย แต่ละคนก็คงทำเหมือนกับตัวเองตาบอด!”
“คุณจะไปสนใจให้มากมายขนาดนั้นทำไม พวกเขายินดีที่จะทำก็ให้พวกเขาทำไปสิ” คุณพ่อจ้าวพูดด้วยความรู้สึกว่าจะมีหรือไม่มีก็ไม่ได้สำคัญอะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จานโบราณหรือจะสู้เครื่องทองเครื่องเงินเครื่องประดับที่เหวินเทาหาเจอ แถมไม่ต้องลงไปขุดให้ลำบากและเสี่ยงเจอผีด้วย
ไหหม่า(海馬)