เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 298 แม่หม้ายหม่า
- Home
- เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]
- ตอนที่ 298 แม่หม้ายหม่า
ตอนที่ 298 แม่หม้ายหม่า
ตอนที่ 298 แม่หม้ายหม่า
จ้าวเหวินเทามาหาหลี่เฉียจื่อก็เพื่อซื้อไข่ไก่ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เขาต้องการไข่ไก่ หลี่เฉียจื่อก็เลี้ยงไก่ไว้ขายไข่ ย่อมต้องอุดหนุนคนในหมู่บ้านตัวเองอยู่แล้ว ทำค้าขายก็ต้องทำกับคนที่คุ้นเคยไม่ใช่เหรอ
แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ยอมเสียเปรียบเพียงเพราะต้องการอุดหนุนหลี่เฉียจื่อเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องใช้ราคาขายส่ง เพราะเขาซื้อปริมาณมาก ไปซื้อที่อื่นก็ให้ราคาขายส่งเหมือนกัน
หลี่เฉียจื่อยินดีที่จะขายให้จ้าวเหวินเทาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะพูดอย่างไร จ้าวเหวินเทาก็ดูแลธุรกิจของเขา อีกอย่างถ้าเขาขายให้คนอื่นก็ต้องเทียวไปเทียวมา แต่ถ้าขายให้จ้าวเหวินเทาแค่รอมาขนถึงหน้าบ้านก็พอแล้ว
เพียงแต่เมื่อนึกถึงภรรยาของตัวเอง เขาก็ไม่กล้าตอบตกลง จึงทำได้เพียงแค่บอกไปว่า ได้ งั้นฉันจะกลับไปคุยกับภรรยาดูนะ
จ้าวเหวินเทาเข้าใจเขา บ้านของหลี่เฉียจื่อแม่หม้ายหม่าเป็นใหญ่ อย่ามองว่าผู้หญิงคนนี้เคยเป็นแม่หม้าย เพราะหล่อนสุดยอดมาก ไม่ว่าจะเรื่องในบ้านหรือนอกบ้านก็เคร่งครัดสุด ๆ เขาไม่อยากให้เรื่องไข่ไก่แค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้พวกเขาเกิดความบาดหมางในครอบครัว
หลังจากคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง จ้าวเหวินเทาก็กลับไป
หลี่เฉียจื่อนั่งคิดอยู่ตรงนั้นครูหนึ่งก็ลุกขึ้นเดินกลับบ้าน แม่หม้ายหม่าทำอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว มีข้าวสวยจากข้าวฟ่าง มะเขือตุ๋นกับพริก และตบแตงกวาสองลูกใส่กระเทียมลงไปอีกนิดหน่อยหนึ่งจาน
เมื่อได้ยินลูกร้องเรียก แม่หม้ายหม่าก็รีบอุ้มขึ้นมาป้อนนม หล่อนเห็นสามีกลับมาก็พูดขึ้นว่า กับข้าวทำเสร็จแล้ว คุณไปยกมาสิ จ้าวเหวินเทาล่ะ?
กลับไปแล้ว หลี่เฉียจื่อไปยกกับข้าวและข้าวมา
คุณเรียกให้เขามากินข้าวที่บ้านหรือยัง? แม่หม้ายหม่าลูบศีรษะของลูกชายพลางเอ่ยถาม
ไม่ได้เรียก คุณไม่ได้บอกนี่ว่าจะให้เรียกเขามากินข้าว หลี่เฉียจื่อยกกับข้าวและข้าวมาวางบนโต๊ะแล้ว ก็ยกน้ำข้าวขึ้นมาดื่ม บ้านเราเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเรียกเขามาด้วย
หลี่เฉียจื่อไม่เคยไปที่บ้านจ้าวเหวินเทา เขาเพียงแค่ดูจากด้านนอก แต่ถึงจะดูจากข้างนอกก็รู้สึกได้ว่าบ้านของอีกฝ่ายดีกว่าบ้านตัวเอง
แม่หม้ายหม่าเอ่ย รออีกสองปีพวกเราก็สร้างบ้านใหม่แล้ว ถึงเวลานั้นพวกเราจะไปสร้างที่ตงเหลียง!
หลี่เฉียจื่อชะงัก ทำไมถึงไปตงเหลียงล่ะ?
แม่หม้ายหม่ามีใบหน้ากลม จากเดิมที่มีดวงตาเล็ก ๆ ก็ยังทำให้เล็กลง ดวงตาเล็ก ๆ ในตอนนี้กำลังกลอกใส่หลี่เฉียจื่อ ทำไมถึงไปตงเหลียง คุณไม่เห็นเหรอ ตอนนี้คนที่ไปอยู่ตงเหลียงต่างก็มีเงินกันทั้งนั้น!
หลี่เฉียจื่อยังไม่เห็นจริง ๆ ทำไมไปที่ตงเหลียงถึงมีเงินล่ะ ต้องแบบจ้าวเหวินเทาไม่ใช่เหรอที่เรียกว่าคนมีเงิน
จ้าวเหวินจื้อล่ะ? หมอนั่นเป็นครูเลยนะ! ไหนจะชุยต้าอีก อยู่กับจ้าวเหวินเทาแล้วจะจนได้เหรอ? ชุยเหล่าเอ้อก็ไปทำงานกับจ้าวเหวินเทาเหมือนกัน! แม่หม้ายหม่าพูดอย่างเป็นระเบียบแบบแผน ไหนจะเมิ่งต้าอีก หมอนั่นก็สร้างบ้านที่ตงเหลียง!
พูดแบบนี้ก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลี่เฉียจื่อพยักหน้าเป็นการบอกว่ายอมรับความคิดนี้ เขายกถ้วยขึ้นมารับประทาน ภายในใจก็กำลังคิดว่าจะพูกับภรรยาเรื่องที่จ้าวเหวินเทาจะซื้อไข่ไก่อย่างไร
เขาคิดว่า ภรรยาน่าจะตอบตกลง แต่ที่ไม่ตกลงก็เพราะไม่เห็นด้วยกับราคาขายส่งนี่แหละ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยกับราคาขายส่ง จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ไม่มีความหมายอะไร
พวกเราต้องไปอยู่กับคนที่มีเงิน แบบนี้ถึงจะทำให้เรามีเงิน เขาก็เป็นคนพูดเอง คนมีเงินไปด้วยกัน รวมตัวอยู่ในกลุ่มคนมีเงินก็จะมีเงิน! อย่ามองว่าแม่หม้ายหม่าเป็นคนไม่มีการศึกษา หล่อนเข้าใจถึงผลประโยชน์ดี
หลี่เฉียจื่อ ก็ได้ ถึงเวลานั้นก็ลองดูแล้วกัน
ดูอะไร ตกลงตามนี้แหละ! ถึงเวลานั้นก็ขายที่ดินสองผืนนี้ แล้วก็ไปซื้อที่ดินที่ใหญ่กว่านี้สักหน่อยที่ตงเหลียง ทำแบบจ้าวเหวินเทาเลย ซื้อลานบ้านสองแห่ง อีกลานหนึ่งเก็บไว้ให้ลูกชายเวลาจะแต่งงานตอนโต
หลี่เฉียจื่อยังจะพูดอะไรได้ ภรรยาพูดสรุปไปแล้ว เขาจึงได้แค่พยักหน้า
จริงสิ จ้าวเหวินเทามาหาคุณทำไม ซื้อกระต่ายเหรอ? แม่หม้ายหม่าเพิ่งนึกถึงเรื่องนี้
เปล่า เขาจะซื้อไข่ไก่ ในที่สุดหลี่เฉียจื่อก็มีโอกาสได้พูด เขาบอกว่าจะเอาไปปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในฟาร์มกระต่าย
แหม เป็นคนมีเงินจริง ๆ ซื้อไข่ไก่ไปให้คนอื่นกิน นี่คือเรื่องที่จ้าวเหวินเทาทำได้! แม่หม้ายหม่าพูดพลางทอดถอนใจ แล้วคุณตอบตกลงไปแล้ว?
ตอบตกลงอะไรล่ะ ผมก็ต้องมาปรึกษากับคุณก่อนสิ หลี่เฉียจื่อพูดเอาใจ ครอบครัวเรามีคุณเป็นใหญ่ไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณยังไม่พูดอะไรผมจะกล้าตัดสินใจได้ไง
ดูสภาพเหมือนคนตายของคุณสิ! แม้ว่าแม่หม้ายหม่าจะพูดแบบนี้ แต่ภายในใจกลับสบายใจมากและพึงพอใจสามีของตัวเองมากเช่นกัน แล้วเขาจะให้ราคาเท่าไร?
ราคาขายส่ง หลี่เฉียจื่อรับประทานผักเข้าไปหนึ่งคำ
ห้ะ! ไข่ไก่บ้านเราไม่ได้เลี้ยงแบบฟาร์มไก่สักหน่อย เขาจะให้ราคาขายส่งเนี่ยนะ! แม่หม้ายหม่าไม่เห็นด้วยอย่างมากจริง ๆ
หลี่เฉียจื่อ งั้นไม่ขายนะ ฉันจะได้ไปบอกเขาสักคำ
ไม่ขายอะไรล่ะ! แม่หม้ายหม่าพูดอย่างไม่มีความสุข คนแบบคุณนี่มันซื่อเกินไปแล้ว!
เขาบอกว่าจะขอราคาขายส่ง เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว หลี่เฉียจื่อกล่าว
ราคาขายส่งก็ราคาขายส่ง แม่หม้ายหม่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตกปากรับคำ แต่คุณไปคุยกับจ้าวเหวินเทาหน่อย ขอฝากคนเข้าไปทำงานที่ฟาร์มกระต่ายสักคนได้ไหม?
หา ฝากคน ใคร? หลี่เฉียจื่อแอบมึนงง
น้องชายฉัน แม่หม้ายหม่าถอนหายใจ คุณเองก็รู้ น้องชายฉันยี่สิบกว่าแล้ว ยังไม่มีภรรยาเลย ทำนาทำสวนก็ทำไม่ได้ วัน ๆ เอาแต่ฝันลมแล้ง ๆ ว่าอยากรวย พ่อกับแม่ฉันเศร้าแทบตายแล้ว!
หลี่เฉียจื่อเงียบ เมื่อพูดถึงน้องภรรยาคนนี้ เขาเองก็หมดคำพูด จะบอกว่าเป็นคนเอ้อระเหยลอยชายก็ไม่ใช่ แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้เป็นคนเอ้อระเหยลอยชาย วัน ๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง นี่เป็นความในใจของบ้านพ่อตาด้วย กลายเป็นที่ขบขันกันทั้งหมู่บ้าน!
ภรรยาของเขาคิดจะส่งน้องชายไปอยู่ที่ฟาร์มกระต่ายของจ้าวเหวินเทา แบบนี้ไม่เท่ากับเป็นการสร้างหายนะให้อีกฝ่ายเหรอ!
ทำไมเงียบล่ะ? แม่หม้ายหม่าเห็นหลี่เฉียจื่อไม่พูดไม่จาอยู่นาน จึงพูดเสียงสูง
น้องชายของคุณจะยอมเหรอ? หลี่เฉียจื่อกล่าว งานที่ฟาร์มกระต่ายก็เหนื่อยมากเลยนะ
ให้มันน้อย ๆ หน่อย ฉันบอกให้คุณไปถามก็ถามสิ! แม่หม้ายหม่ากล่าว ถ้าคุณหน้าบางนัก เดี๋ยวฉันไปถามเอง!
แม่หม้ายหม่าไม่ได้กลัวเรื่องนี้ แม้หล่อนจะเป็นแม่หม้าย และแต่งงานเป็นครั้งที่สองมาอยู่ในหมู่บ้านนี้ แต่หล่อนก็ให้กำเนิดลูกชายของหลี่เฉียจื่อแล้ว นี่เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ มีอะไรที่หล่อนต้องกลัวด้วย
ไม่รู้ว่าทำไมหล่อนถึงใช้ตรรกะนี้ เรื่องที่ให้กำเนิดลูกชายของหลี่เฉียจื่อ เกี่ยวอะไรกับจ้าวเหวินเทาเนี่ย?
หลี่เฉียจื่อรีบพูด ผมถามเอง เดี๋ยวผมไปถามเอง!
ภรรยาบอกว่าจะไปถาม ไม่รู้ว่าหล่อนจะไปพูดอะไรบ้าง ให้เขาไปเองยังจะดีเสียกว่า
แม่หม้ายหม่ารู้สึกพึงพอใจ ถึงเวลานั้นคุณก็พูดไปว่าราคาขายส่งน้อยเกินไปจริง ๆ แต่ไหน ๆ ก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันแล้ว เสียเปรียบสักหน่อยก็แล้วกัน ให้เขารู้ว่าพวกเราก็ไว้หน้าเขาแล้ว!
แม่หม้ายหม่าพูดมีเหตุผลมาก
หลี่เฉียจื่อก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับหล่อน เพียงแค่ตอบ ‘อืม ๆๆ’ กลับไป
ทำให้เขารู้สึกขอบคุณ แล้วคุณก็ค่อยพูดถึงเรื่องของน้องชายฉันนะ แม่หม้ายหม่าสอนสามี
หลี่เฉียจื่อแสดงออกว่าตั้งใจฟัง แต่ความเป็นจริงไม่รู้ใจลอยไปถึงไหนแล้ว
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ หลี่เฉียจื่อก็ไปดูกระต่ายที่บ้านพ่อแม่ เมื่อคิด ๆ ดูแล้วก็ไปหาจ้าวเหวินเทาด้วยตัวเองสักรอบ อย่าเอาแต่รอให้อีกฝ่ายมาหาเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่เฉียจื่อมาหาจ้าวเหวินเทาถึงบ้าน ผลลัพธ์ที่ได้บ้านของเขาดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก!
หลี่เฉียจื่อนั่งที่ขอบเตียงในบ้านจ้าวเหวินเทา เขามองดูบ้านสีขาวสะอาดราวหิมะ และหน้าต่างที่ดูสะอาดสะอ้าน เขาพูดไม่ออกเลยว่ารู้สึกอย่างไร
เย่ฉูฉู่ยกชาที่ชงไว้อย่างดีมาวางตรงหน้าเขา เขาได้ลองจิบชาดูก็รู้สึกว่าแอบขมนิดหน่อย ไม่ได้อร่อยมาก แต่ให้ความรู้สึกดีเยี่ยม
ภรรยาของเขาพูดถูก สร้างบ้านต้องมาสร้างที่ตงเหลียง และต้องสร้างแบบนี้ด้วย! หลี่เฉียจื่อพูดในใจ คนในหมู่บ้านยังไม่มีใครมีถึงขั้นนี้เลยสักคน
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ฝ่ายสามีก็รู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกันนะเนี่ย แต่ภรรยาเป็นใหญ่จะทำอย่างไรได้
จะตกลงเรื่องขายไข่กันอย่างไรน้า
ไหหม่า(海馬)