เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 - ตอนที่ 276 ช่วยคน
ตอนที่ 276 ช่วยคน
ตอนที่ 276 ช่วยคน
พระสนมต้องการให้ฉีเฉิงเฟิงคุกเข่า!
ซูหวานหว่านรู้สึกตกใจมาก สือซีเอ๋อร์เป็นแม่ของฉีเฉิงเฟิงไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงทำแบบนี้กับฉีเฉิงเฟิงล่ะ?
ซูหวานหว่านรู้สึกไม่เข้าใจ นางมองไปที่สาวใช้คนนั้น และแสร้งแสดงเป็นสาวใช้นิสัยแย่ ทำไมกัน องค์ชายสามของเราไม่ได้ทำผิดอะไร? เหตุใดถึงไม่ให้พวกเราเข้าไปล่ะ!
องค์ชายสามทำสิ่งใดลงไปย่อมรู้ดีแก่ใจ สาวใช้จ้องมองใบหน้าซูหวานหว่าน และรู้สึกว่าหน้าอีกฝ่ายดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก เจ้านี่มันหยาบคายเสียเหลือเกิน กล้าดีอย่างไรถึงกล้าพูดจาแบบนี้กับข้า องค์ชายสามก็ยังอยู่ที่นี่!
คนรับใช้คนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับคนที่ติดตามสือซีเอ๋อร์ไปยังบ้านตระกูลสือวันนั้นหรอกเหรอ? นางคงจะเป็นสาวใช้คนสนิทของสือซีเอ๋อร์ แต่ทำไมวันนี้นางถึงมาเฝ้าประตูได้ แต่เมื่อนึกถึงตอนที่สาวใช้คนนี้วิ่งออกมา ซูหวานหว่านก็รู้ทันที
นางออกมาเพื่อขัดขวางฉีเฉิงเฟิง! ในเมื่อพวกนางทำแบบนี้กับฉีเฉิงเฟิง นางก็จะทำเช่นนั้นบ้าง!
ซูหวานหว่านขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่นานนางก็ยื่นมือออกไปแล้วตบลงใบหน้าของอีกฝ่ายจนเกิดเสียงดัง ‘เพียะ’ และสวมบทบาทสาวใช้ผู้โหดเหี้ยม เอ่ยออกมาอย่างไร้เหตุผล หุบปาก! เจ้าก็เป็นเพียงสาวใช้ของพระสนม เจ้าควรจะระวังปากเสียถึงจะถูก! องค์ชายเป็นบุตรชายของพระสนม เจ้าไม่ให้เขาเข้าไปแสดงว่าพระสนมไม่ให้เกียรติองค์ชายสาม ระวังหัวจะหลุดออกบ่า…!
เจ้า! ใบหน้าของสาวใช้เกิดรอยแดงขึ้นมา ดูเหมือนจะมีอะไรเข้าตานางจึงยกมือขึ้นมาขยี้ตาแปบเดียว เมื่อลืมตาขึ้นไม่ถึงอึดใจเดียว นางก็เห็นซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงเดินเข้าไปข้างในแล้ว!
ฝ่าบาท องค์ชายสามห้ามเข้าไปเพคะ! พระสนมยังทรงกริ้วอยู่! อย่า… สาวใช้คนนั้นรีบตะโกนออกมาเสียงดัง หากแต่ไม่ได้เข้ามาขวางทางอะไร นางคงแค่อยากจะตะโกนให้คนด้านในรู้ตัว เมื่อได้ยินแบบนี้ซูหวานหว่านก็รู้สึกว่ามันคือคำพูดหลอกลวง นางผลักประตูเปิดเข้า และสั่งให้ฉีเฉิงเฟิงยืนรออยู่ข้างประตู ทันทีที่ประตูเปิดออกก็มีถ้วยน้ำชาลอยออกมา
ไอหยา! องค์ชายสามท่านไม่เป็นอะไรนะเพคะ! สาวใช้เป็นคนทำถ้วยชาหลุดมือทำให้… สาวใช้ที่อยู่ในห้องเดินออกมาดู แต่ฉีเฉิงเฟิงและซูหวานหว่านไม่ได้เป็นอะไร และไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย!
สาวใช้แอบหงุดหงิดเล็กน้อย กล่าวออกมาว่า องค์ชายสามไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วเพคะ!
อืม ฉีเฉิงเฟิงก็พยักหน้าอย่างเย็นชาและกล่าวว่า พระสนมอยู่ที่ใด?
พระสนมบรรทมอยู่! หากพระองค์ต้องการพบนางโปรดรอสักครู่เพคะ! สาวใช้กล่าวออกมา นางรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะสือซีเอ๋อร์ตื่นนานแล้ว! และนางก็รู้ด้วยว่าฉีเฉิงเฟิงกำลังมาหาจึงสั่งให้คนใช้มาขัดขวางเขาไม่ให้เข้าพบ!
โอ้? อย่างนั้นเหรอ! ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างเฉยเมย เลยสั่งให้สาวใช้ยกชามาให้เขา และชายหนุ่มเริ่มเดินสำรวจไปรอบ ๆ
สาวใช้คนนั้นตื่นตระหนก องค์ชายสาม ฝ่าบาทอย่าเดินไปทั่วนะเพคะ! ช่วงนี้มีหิมะตกหนัก ฝ่าบาทอาจจะลื่นล้มได้!
เหตุใดพวกนางถึงเป็นห่วงฉีเฉิงเฟิงขึ้นมา เมื่อครู่ยังสั่งให้เขาคุกเข่าลงไปอยู่เลยไม่ใช่หรือ ในเมื่อตอนนี้ชายหนุ่มก็เดินเข้ามาแล้ว พวกนางเลยจึงหาข้ออ้างให้เขา ‘รอ’ เป็นเพราะว่าสือซีเอ๋อร์สั่งกำชับพวกนางไม่ให้ฉีเฉิงเฟิงเข้าไปอย่างแน่นอน!
ซูหวานหว่านมั่นใจกับความคิดของตนเองมาก และจ้องไปที่สาวใช้แล้วพูดออกมาว่า ช่วงนี้องค์ชายสามได้จัดการปัญหาหนักหลายเรื่อง ฝ่าบาททรงทำงานหนักทั้งกลางวันและกลางคืน ทำไมพระองค์จะมาขอเข้าเฝ้าพระสนมไม่ได้?
เอ่อ… สาวใช้คิดไม่ถึงเลยว่าซูหวานหว่านจะพูดแบบนี้ออกมา นางก้มหน้าเงียบลงไป และไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดออกมาคัดค้าน
กระทั่งผ่านไปสัก เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นฉีเฉิงเฟิงและซูหวานหว่านเดินไปที่สวนหลังตำหนัก ทำให้สาวใช้รีบเดินตามมาทันที องค์ชายสาม! อย่าออกไปข้างนอกเลยเพคะ อากาศข้างนอกหนาวมาก อย่าไปเดินเลย! ระวังพื้นลื่นเพคะ!
ที่สาวใช้กล่าวออกมาเช่นนี้ เพราะกลัวความลับอะไรบางอย่างจะรั่วไหลออกมา จึงรีบเดินตามไปในทันที แต่พอเดินตามไปนางก็ไม่เห็นใครสักคน! แม้แต่รอยเท้าที่พื้นก็ไม่มี!
สาวใช้รู้สึกแปลกใจและกลัวมาก จึงรีบกลับเข้าไปข้างในทันที
ตอนนี้ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงได้เดินมาถึงสวนหลังตำหนักแล้ว ซูหวานหว่านไม่ต้องแอบอะไรต่อไป นางนำนกออกมาหลังจากที่มันกินขนมในมิติฟาร์มเพียงพอแล้ว และซูหวานหว่านก็ขอให้พวกมันออกไปช่วยตามหาเบาะแสของแม่จ้าวอีกแรง
ส่วนพวกเขาทั้งสองคนก็ทำการเดินสำรวจไปรอบ ๆ ฉางเล่อ แต่ไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติอะไร แต่เมื่อพวกเขาเดินไปเห็นโขดหิน ซูหวานหว่านยืนพิงอยู่มันอยู่สักครู่หนึ่ง ก่อนที่หญิงสาวจะปัดหิมะออกจากโขดหิน!
ในเมืองหลวงมีหิมะตกหนักมาหลายวัน และเป็นไปไม่ได้ที่หิมะจะสะสมตรงนี้จำนวนมาก ซูหวานหว่านก็รู้สึกว่ามันแปลก ๆ เมื่อนางสังเกตดูดี ๆ นางก็รู้สึกว่ามันเหมือนจะมีอะไรบางอย่าง ซ่อนอยู่ข้างใน
ซูหวานหว่านครุ่นคิดไปสักครู่ และจู่ ๆ ก็มีหิมะยื่นออกมาดูเหมือนจะมีบางอย่างบิดตัวไปมาอยู่ข้างใต้ ฉีเฉิงเฟิงดึงซูหวานหว่านเข้ามากอดเอาไว้ทันที ทั้งสองจ้องมองมันอยู่สักพักก็มีนกกระจอกบินโผล่ออกมา!
บังเอิญมันเป็นนกกระจอกของซูหวานหว่านที่เอาออกมาจากในมิติฟาร์มนั่นเอง!
ซูหวานหว่านรู้สึกมีความสุขมาก นางถามพวกมันทันทีด้วยพลังวิเศษของตนเอง และนกกระจอกบอกกับซูหวานหว่านว่ามีบางอย่างอยู่ข้างล่าง!
และทางเข้าก็อยู่ที่ด้านบนนั่นเอง!
ซูหวานหว่านบอกกับฉีเฉิงเฟิงทันที แล้วเมื่อทั้งสองกระโดดขึ้นไปด้านบนก็พบว่ามีรูขนาดไม่ใหญ่ ความลึกประมาณห้าหมี่ได้ บนปากรูมีบัดไดพาดลงไป ซึ่งนกกระจอกก็ได้บินนำทางไป และทั้งสองรีบตามลงไปทันที
ในเวลานี้ในห้องโถงใหญ่ของตำหนักฉางเล่อ สือซีเอ๋อร์เอ่ยอย่างอารมณ์เสียว่า ว่าอย่างไรนะ หาตัวองค์ชายสามไม่พบ แล้วคนอื่นล่ะ?
พวกคนรับใช้เองก็ไม่รู้… องค์ชายสามและสาวใช้ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย มันแปลกมากเพคะ! สาวใช้คนสนิทพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อน
จะเป็นไปได้อย่างไรกัน! รีบหาตัวพวกเขาให้พบเร็ว! สือซีเอ๋อร์โกรธมาก ทำให้เปลือกตาของนางกระตุกถี่ไม่หยุด นางรู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องเลวร้ายบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อได้รับคำสั่ง นางก็รีบออกไปหาร่องรอยพวกเขาทันที แต่พวกนางไม่รู้ว่าซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงใช้พลังล่องหน ทำให้พวกเขาทั้งสองไม่ได้ทิ้งรอยเท้าอะไรไว้เลย!
ทางด้านสือซีเอ๋อร์เองก็กำลังตามหาฉีเฉิงเฟิงด้วยความยากลำบาก แต่ตอนนี้ฉีเฉิงเฟิงกำลังเดินเข้าไปภายในโขดหินปลอม และแน่นอนว่าใต้หินนี้จะต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่!
เมื่อพวกเขาเดินลงบันไดมา พลันพบว่าด้านในมีบริเวณกว้างใหญ่มาก มีตะเกียงน้ำมันอยู่เจ็ดถึงแปดดวงถูกจุดขึ้น ทำให้ใต้หินนี้มีแสงสว่างพอควร
หากแต่ด้านในไม่มีผู้ใดอยู่เลย ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจมาก นกกระจอกก็บินไปยังสถานที่หนึ่ง และกระพือปีกไปมาอยู่บนผนัง ซูหวานหว่านรีบเดินเข้าไปและพบช่องว่างในผนัง ปรากฏแสงรั่วออกมาเล็กน้อย! หลังกำแพงนั้นยังมีห้องลับซ่อนอยู่!
แต่พวกเขาไม่สามารถหาทางเข้าไปด้านในได้!
ทว่าทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นข้างใน ซูหวานหว่านพิงกำแพง ใช้พลังวิเศษยืนมองทะลุผ่านกำแพงทันที และพบว่าข้างในมีชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีดำ กำลังทำอะไรบางอย่างกับเตาอั้งโล่!
หญิงสาวได้กลิ่นไหม้ลอยคลุ้งออกมา ซูหวานหว่านจ้องไปที่สิ่งของที่อยู่ในมือของชายคนนั้น และเกือบจะอาเจียน!
สิ่งที่ชายคนนั้นถืออยู่คือผิวหนังมนุษย์!
พวกเขาเสียเวลาไปตามหาผิดคน!
หลังจากนั้นผ่านเวลาไปประมาณหนึ่งเค่อ เสียงการคั่วในห้องนั้นก็หยุดลง และก็มีเสียงของคนดังขึ้นมาแทนว่า เจ้าคิดจะทำอะไรกับข้า? ข้าคือแม่จ้าว! เจ้าของกิจการค้าเกลือทางฉีเป่ย! ข้าเป็นคนโปรดของฮ่องเต้!
แม่จ้าวอยู่ข้างในนั้นด้วย? ดูเหมือนว่าชายคนนี้กำลังจะลงมือทำบางอย่างกับแม่จ้าว!
ซูหวานหว่านขมวดคิ้ว นางจะช่วยแม่ของนางออกมาได้อย่างไร!