เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด - ตอนที่ 3.1 รวบรวมข้อมูล
- Home
- เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด
- ตอนที่ 3.1 รวบรวมข้อมูล
“พี่อายานะ นั่นพี่เหรอ?”
เสียงที่ฉันได้ยินจากด้านหลังทำให้ฉันหันกลับไปมอง
มีผู้หญิงคนนึงอายุน้อยกว่าเรานิดหน่อยน่าจะประมาณม.ต้น
“……โคโตเนะจัง”
อายานะเอ่ยชื่อของเธอว่าโคโตเนะชื่อเต็มของเธอคือ ซาซากิ โคโตเนะ และตามนามสกุลของเธอ เธอคือน้องสาวของชู
เธอไว้ผมบ็อบสีดำ ชุดนักเรียนที่เซอร์ๆ และตัวที่เล็กในหลายๆด้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถพูดได้เต็มปากนัก
ฉันเคยเห็นเธอไม่กี่ครั้งตั้งแต่ฉันมาเป็นโทวะ แต่โดยส่วนตัวแล้ว เธอไม่ใช่คนที่ฉันอยากเจอมากนัก
“นาย มาทำอะไรใกล้บ้านเรา”
เธอละสายตาจากอายานะมองมาที่ฉันแล้วพูดอย่างเย็นชา
เหตุผลที่ฉันไม่อยากเจอเธอมากขนาดนั้น เพราะทัศนคติของเธอดูเหมือนแสดงให้เห็นว่าโทวะจะถูกครอบครัวของชูเกลียด…….
ฉันแน่ใจว่าโทวะเข้ากับชูได้ดี แต่ทำไมเขาถึงเข้ากับครอบครัวของชูไม่ได้นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้กล่าวถึงในเกมและฉันก็ไม่รู้อะไรเลย
และอีกสิ่งหนึ่ง: เธอมีบทบาทสำคัญในโลกนี้
(โคโตเนะ ซาซากิ นางเอกในรูทน้องสาว)
ใช่ เธอเป็นผู้หญิงอีกคนที่ทิ้งชูเหมือนกับอายานะและอิโอริ
โคโตเนะรักชูมากและชูก็รักเธอมากด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
อย่างไรก็ตามแม้เธอจะมีชะตากรรมที่น่าเศร้ารอเธออยู่….. ฉันกำลังคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโคโตเนะ
ทันใดนั้นฉันรู้สึกปวดหัวอย่างแรงและกุมขมับ
“โทวะคุง เป็นอะไรไปนะ?!”
“……ม ไม่มีอะไรฉันสบายดี”
อายานะซึ่งอยู่ข้างๆ ฉันเป็นห่วงมากพอที่จะทำให้เธอเสียงดังมากกว่าปกติ แต่ความเจ็บปวดก็หายไปอย่างรวดเร็ว และฉันก็บอกเธอว่าฉันสบายดี
สำหรับวันนี้ฉันจะบอกลาอายานะที่นี้
ฉันรู้ว่าถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่อไป โคโตเนะคงจะสาปส่งฉันแน่ๆ
“อายานะเพิ่งพาฉันไปช้อปปิ้งมานะ”
เมื่อฉันบอกเธอ โคโตเนะก็มองฉันราวกับว่าเธอกำลังมองขยะ
ฉันยิ้มให้เธอและถามตัวเองว่าทำไมเธอไม่ชอบฉันมากขนาดนี้ แต่แล้วฉันก็หันความสนใจกลับไปที่อายานะและพูดต่อ
“ดีละ ถ้าอย่างนั้น ฉันขอขอบคุณความช่วยเหลือของเธอในวันนี้มากนะ”
“อา……คะ”
ฉันยิ้มให้เธอในตอนท้ายแล้วเดินผ่านโคโตเนะ ฉันได้รับการปลอบประโลมและเยียวยาใจด้วยรอยยิ้มของอายานะ
แต่เมื่อฉันผ่านไป เธอพูดกับอายานะขณะที่เธอเดินเข้าไปหาอายานะด้วยเสียงที่ดังพอที่ฉันจะได้ยิน
“พี่อายานะมันจะเป็นเรื่องเสียหายสำหรับพี่นะ พี่ถูกบังคับให้ทำใช่ไหม? หมอนั้นดูเหมือนพวกเจ้าชู้และพี่ควรอยู่ห่างจากเขาไว้นะ”
อายานะจะไม่มีวันเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ
ฉันไม่คิดว่าฉันสมควรได้รับการบอกเล่าขนาดนั้นเช่นกัน แต่ตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวโทวะแล้ว ดังนั้นในทางที่ดีฉันควรจะโต้แย้งไปบ้างแต่น่าเศร้าฉันทำแบบนั้นไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ฉันไม่รู้ว่าทำไมโทวะและชูถึงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ แต่ถึงกระนั้นฉันก็เป็นเพื่อนที่ไม่ดีในมุมมองของครอบครัวเขา
ลองคิดดูสิ ฉันจำได้ว่าในเกมมีการพรรณนาถึงชูที่มาเยี่ยมบ้านของโทวะ แต่มันไม่มีฉากที่โทวะไปบ้านชูเลยนิ
“…..ฉันไม่รู้อะไรเลย”
ฉันสงสัยว่ามีบางอย่างที่ไม่ได้ปรากฎในเกมหรือเปล่า และนั่นคือเหตุผลที่โทวะไม่เคยไปที่บ้านของชู
“อะไรวะเนี่ย ทำไมเรื่องต้องยุ่งอย่างงี้ด้วย”
ฉันกลับบ้านทันทีหลังจากนั้นเพราะฉันคิดว่าฉันทำให้แม่รออยู่
“กลับมาแล้ว~”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน โทวะ”
ฉันเปิดประตูหน้าและเดินเข้าไป แม่ทักทายฉัน
ฉันสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวของโทวะได้ในเกม แต่ตอนนี้ฉันได้กลับชาติมาเกิดแล้ว ฉันก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่รู้จักได้
“ผมขอโทษที่มาสายนะ อะ จริงด้วยอายานะช่วยผมซื้อของละ”
“ว้าว ลูกสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันดีจังเลยนะ”
เมื่อฉันบอกเธอว่าฉันอยู่กับอายานะเธอหัวเราะอย่างร่าเริง
เธออายุเกือบจะสี่สิบแล้ว แต่เธอดูเด็กและสวยจนใครๆก็เชื่อเธอแม้ว่าเธอจะบอกว่าอายุยี่สิบก็ตาม
อาเคมิ ยูกิชิโระ นั่นคือชื่อของเธอ
“ไปอาบน้ำก่อนนะ อาหารเย็นจะเสร็จทันพอดีที่ลูกออกมา”
“ครับ”
หลังจากนั้นฉันก็อาบน้ำและกินข้าวเย็นตามที่แม่บอก
ฉันบอกเธอว่าฉันไปซื้อของกับอายานะและสิ่งที่เราคุยกันส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับอายานะ
ฉันสามารถตอบคำถามบางข้อที่เป็นคำถามแบบเจาะจงได้ แต่เมื่อกลับถึงห้องฉันนั่งลงบนเก้าอี้และหยิบสมุดบันทึกออกมาเพราะมีบางอย่างที่ต้องทำ
“ก็…พูดตามตรง ฉันรู้ว่ามันเสียเวลา แต่ฉันจะพยายามจัดระเบียบข้อมูลที่มีอีกครั้ง …… แต่ก่อนอื่น ฉันจะส่งข้อความขอบคุณไปให้อายานะอีกครั้งก่อน”
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความขอบคุณไปให้อายานะ จากนั้นหันความสนใจกลับมาที่สมุดบันทึกอีกครั้ง
อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ว่านี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดระเบียบข้อมูล ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจจดข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้ลงในสมุดบันทึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“…… วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับอายานะกันแน่?”
เช่นเดียวกับที่เธอเรียกฉันว่ามาสเตอร์ และการที่เธอลงระยะห่างระหว่างเราเมื่อเราอยู่กันสองคน พูดตามตรงมันมากเกินไปอย่างเห็นได้ชัดที่จะคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีบางอย่างที่ฉันไม่รู้ แต่แปลกที่ตอนนี้ฉันพยายามเชื่อว่าทัศนคติของอายานะเป็นเรื่องปกติและไม่มีอะไรผิดปกติกับเรื่องนี้
เพราะฉันถูกดึงเข้ามาในร่างของโทวะ ฉันเกรงว่าฉันจะไม่สามารถตั้งคำถามแบบนี้ได้อีกนานนัก…
“เอาละ มาเขียนกันต่อดีกว่า”
ด้วยปากกาในมือ ฉันจดสิ่งที่อยู่ในใจลงในสมุดบันทึก
“ชู ซาซากิ อายานะ โอโตนาชิ อิโอริ ฮอนโจ โคโตเนะ ซาซากิ …….”
ฉันจะเขียนรายละเอียดบางอย่างพร้อมกับชื่อของผู้คนที่ฉันพบล่าสุด
ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษในระหว่างนั้น และไม่มีข้อมูลใดที่จะทำให้คนที่มาเจอสงสัยได้
สำหรับชูตัวละครหลักก็เหมือนกับในเนื้อเรื่อง ส่วนอายานะและคนอื่นๆ สิ่งเดียวที่ออกมาคือสไตล์ บุคลิก สิ่งที่พวกเธอชอบและไม่ชอบ
ไม่มีทางที่จะมีข้อมูลเกี่ยวกับ [ฉันถูกชิงไปทุกอย่าง] ในโลกนี้
โดยธรรมชาติแล้วไม่มีเว็บไซต์ทางการของเกมในโลกนี้ แต่ฉันสามารถจำภาพแนะนำตัวละครได้ค่อนข้างชัดเจน
ฉันยิ้มเมื่อนึกถึงความทรงจำเก่าๆและรู้สึกคิดถึงอดีตเล็กน้อย
ทันใดนั้นฉันก็ตระหนักว่าหน้าของสมุดบันทึกที่ฉันเขียนอยู่นั้นเต็มไปด้วยข้อมูลอย่างรวดเร็ว
ฉันหัวเราะเบา ๆ โดยคิดว่าฉันตั้งใจมากเกินไป และเมื่อฉันมองไปที่สมุดบันทึกความคิดของฉันก็เริ่มฟุ้งซ่าน
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับชูจริงๆ นั่นไม่ใช่วิธีการที่ดีสำหรับตัวเอกของเกมเอโรเกะ”
ไม่มีข้อมูลที่น่าทึ่งใดๆเกี่ยวกับชูและตรงกันข้ามฉันรู้สึกโล่งใจมากที่ได้เห็นชูเป็นชู
นางเอกอิโอริกับโคโตเนะก็เหมือนกัน ส่วนอีกสองคนที่ฉันยังไม่เคยเจอในร่างนี้ก็คล้ายๆ กัน
“…… นี่คือลักษณะของอายานะ”
ฉันเขียนเกี่ยวกับอายานะในบทนำของเธอ
ฉันรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าฉันสามารถเขียนคำนี้แบบคำต่อคำได้เหมือนกับที่เขียนบนเว็บไซต์ทางการทุกประการ
“เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กและเพื่อนบ้านของชู รูปร่างหน้าตาของเธอดูดีและบุคลิกของเธอก็เป็นคนใจดี และเธอก็เป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนร่วมชั้นของเธอ เธอและโทวะเข้ากันได้ดี เช่นเดียวกับชู และมักจะเห็นเธอไปและกลับจากโรงเรียนด้วยกันกับชูสองคน อายานะมีความรู้สึกพิเศษกับชูและกำลังมองหาโอกาสที่จะสารภาพรักกับเขา”
“ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดา……ฮะ นั่นคือสิ่งที่ทราบอย่างเป็นทางการว่าอายานะมีความรู้สึกที่ดีต่อชู”
หากเป็นกรณีนี้ ฉันรู้ว่าทัศนคติของเธอที่มีต่อฉันนั้นแปลกไปไม่ว่าฉันจะคิดอย่างไร
ฉันวางปากกาและกอดอก พยายามนึกถึงทุกสิ่งที่ฉันจำได้ แต่สิ่งที่อยู่ในใจคือสีหน้าและท่าทางของอายานะที่ปรากฎในเกม
[ชูคุง วันนี้ฉันกลับบ้านกับเธอ ได้ใช่ไหม?]
[ชูคุง นายทำอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มีฉัน ตรงส่วนนี้ขอให้เธอหนักแน่นหน่อยนะ]
[ชูคุง นายชอบฉันไหม……?]
[ฉันจะรักนายเสมอ……เสมอ……]
อายานะในความทรงจำของฉันนั้นส่วนใหญ่เกี่ยวกับการแสดงออกบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ
ในชีวิตประจำวันของชูที่ฝันร้ายค่อยๆ บุกเข้ามาในชีวิตของเขา เธอเป็นคนเดียวที่คอยให้กำลังใจเขาอยู่เคียงข้างเขาโดยไม่เปลี่ยนแปลง
“……ฉันเดาว่านั่นเป็นฉากโปรดของฉัน”
ฉันระลึกได้ขณะที่ค่อยๆ จมลงไปในทะเลแห่งความทรงจำ
ฉันคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือฉากนั้น
แม้ว่าในที่สุดอายานะจะเดินจากชูไป แต่ก็มีหลายฉากที่ฉันจำได้ว่าชอบมัน ในหมู่พวกเขา ฉากนั้นอาจดีที่สุด
ฉากนี้ค่อนข้างเร็วในเนี้อเรื่อง นอกจากนี้ยังเป็นฉากที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเข้ากันได้ดีเพียงใดหลังจากอยู่ด้วยกันมาหลายปี
ฉากนี้แสดงให้เห็นอายานะพูดคุยกับชูในวันหนึ่งหลังเลิกเรียนโดยมีดวงอาทิตย์ยามเย็นเป็นฉากหลัง
[นายอยากทำอะไรในอนาคตเหรอ ชูคุง?]
[อืม …… ฉันคิดว่าฉันจะอยู่กับอายานะต่อไป]
ช่วงเวลาที่อายานะมองดูคำพูดที่กล้าหาญของชู
เธอเงยหน้าขึ้นและหัวเราะคิกคัก อาจเป็นเพราะความเขินอาย จากนั้นเธอก็ตอบชูกลับไป
[นายไม่เคยเปลี่ยนไปเลยชูคุง นายมักจะพูดแบบนี้เสมอ…… ฟุฟุ ไม่ว่าฉันจะเป็นคนแบบไหนชูคุงนายจะรู้สึกแบบนั้นกับฉันไหม”
[นะ แน่นอน! ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร!!]
ฉันจำได้ว่ามุมปากของฉันยกขึ้นเมื่อฉันนึกถึง ฉากของหนังโรแมนติกคอมเมดี้ซึ่งไม่เหมาะกับเกมแนวNTR
ในเวลานั้น ยังไม่มีคำอธิบายว่าใครบ้างที่ออกจากฝั่งของชูและตอนนั้นยังไม่มีอะไรมารบกวนในมุมของสาวๆ เช่นกัน
และที่สำคัญที่สุดคือโทวะยังอยู่ในตำแหน่งที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดจริงๆ
[ชูคุง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอย่างที่นายคิด มีบางอย่างที่ฉันพูดไม่ได้ สิ่งที่ฉันซ่อนไว้ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ถึงกระนั้นฉันก็ชอบนายมากที่บอกว่านายจะยอมรับฉัน]
[…..!]
ทั้งสองยุติการแลกเปลี่ยนด้วยคำพูดเหล่านี้ แต่ถ้าใครลองคิดดู บทสนทนาของ อายานะในตอนนั้นทำให้คิดอะไรได้หลายอย่าง
อายานะเป็นผู้หญิงใจดีและรักอิสระ
เธอเป็นผู้หญิงประเภทนี้มาเสมอ เมื่อชูโทรหาเธอและเธอเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเมื่อเขาเจ็บปวดและปลอบโยนเขา…….
[เมื่อคนอื่นๆออกไปอายานะขอให้ฉันไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ]
ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนอายานะจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
เพลงนั้นอบอุ่นและร่าเริง ไม่ต้องพูดถึงว่ามันเป็นช่วงเวลาแห่งความหวัง ไม่เพียงแต่สำหรับชูเท่านั้น แต่รวมถึงพวกเราที่เล่นเกมด้วย
อย่างไรก็ตาม ฉากนั้นก็ทำลายความคาดหวังของพวกเราเช่นกัน
[โทวะคุงคือคนเดียวที่ฉันต้องการ ฉันไม่ต้องการเพื่อนสมัยเด็กที่ขี้อายและน่าสมเพชคนนั้น ]
พลังทำลายล้างของเสียงนั้นเหมือนห่ากระสุน
เธอเคยเป็นคนอ่อนโยน แต่ตอนนี้เธอมีสีหน้ายุ่งเหยิงบนใบหน้าราวกับว่าเธอกำลังละลายด้วยความสุข และเธอกำลังแสดงความดีใจไปทั้งร่างเมื่อร่างของ
โทวะกระแทกเข้ามาหาเธอ
“……ก็ ตอนจบชูไม่สามารถกอบกู้อะไรได้เลย แต่ฉันก็ยังอยากจะเล่นอีกครั้งเพื่อล้างความทรงจำด้วยวิธีต่างๆ”
แม้ว่าความปรารถนานั้นจะไม่เป็นจริงแล้วก็ตาม
หลังจากเปรียบเทียบความเป็นจริงกับอายานะในความทรงจำของฉันมาระยะหนึ่งแล้ว ฉันพบว่าไม่มีการเปิดเผยอะไรใหม่ๆที่สำคัญ ดังนั้นฉันจึงเขียนเท่าที่จำได้เกี่ยวกับตัวเอง — เกี่ยวกับโทวะ ยูกิชิโระ
“…..อะไรอย่างนี้”
{เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชูและเป็นนักเรียนชายที่เชื่อถือได้ของอายานะ เขาเป็นคนที่ได้รับความนิยมจากทั้งชายและหญิงเนื่องจากรูปร่างหน้าตาและบุคลิกของเขา และเป็นที่จับตามองของเพื่อนร่วมชั้นพอๆ กับอายานะเขาเคยเล่นฟุตบอลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นปีที่สอง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาเลิกเล่นและตอนนี้เป็นสมาชิกชมรมกลับบ้าน}
ขณะที่ฉันจ้องไปที่ประโยคนี้ ฉันก็มองหน้าตัวเองในกระจก
ผู้ชายหล่อที่ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนก็ดูดี แม้แต่ใบหน้าที่กำลังลำบากในตอนนี้ก็ยังแต่งแต้มด้วยความเศร้าหมองที่จะทำให้เขามีเสน่ห์ที่จะดึงดูดใจสาวๆ
เมื่อฉันเริ่มเกมครั้งแรก ฉันจินตนาการไม่ออกว่าโทวะเป็นตัวละครที่มาเป็นชู้จากภาพยืนและการแนะนำตัวของเขาได้อย่างไร
“เอ๊ะ เขาเป็นชู้เหรอเนี่ย! คาดไม่ถึงเลย”
ฉันจำช่วงเวลานั้นได้อย่างชัดเจน
ฉันคิดเรื่องนี้ตอนที่จำได้ว่าโทวะเคยเล่นฟุตบอล แต่ดูไม่สมเหตุสมผล ฉันเลยไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
“ฉันสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์บางอย่าง แต่…… อืม~ อืม”
ฉันบอกตัวเองว่าไม่ต้องกังวล แล้วฉันจะทำอย่างไรกับมันดี?
แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “ฟุตบอล” ฉันรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก
ในท้ายที่สุด มันก็แค่ชั่วครู่เท่านั้น ดังนั้นฉันจึงไม่สนใจมันเป็นพิเศษ
“หลังจากนั้นก็มีรุ่นน้อง มาริ อุชิดะ และ ฮัตสึเนะ ซาซากิ แม่ของชู ……เอาจริง ๆ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนี่หน่า!!”
ฉันเกาหัวแล้วร้องเสียงดัง
โชคดีที่ดูเหมือนเสียงของฉันจะไปไม่ถึงแม่ของฉัน ซึ่งฉันก็โล่งใจ แต่ฉันไม่มีแรงเหลือให้คิดแล้ว
ฉันตัดสินใจพับกระดาษที่มีข้อมูลและเก็บไว้
“ฉันไม่คิดว่าจะได้เห็นมันอีก”
ฉันหัวเราะเบา ๆ ขณะที่ฉันพูดแบบนี้ และวางมือบนลิ้นชักของโต๊ะทำงานเพื่อดูว่าร่างกายฉันคิดอะไรอยู่
มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันรู้ตัวจริงๆ แต่ราวกับว่าร่างกายของฉันเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ฉันเปิดลิ้นชักและหยิบอัลบั้มออกมา
“อัลบั้ม ฮะ……ฮะ”
ฉันมองเข้าไปข้างในและพบรูปถ่ายของโทวะ ชู และอายานะในวัยเยาว์
สำหรับฉัน นี่เป็นภาพแรกที่ฉันเคยเห็น และเป็นอีกภาพที่ฉันไม่เคยเห็นในเกมเลย
ฉันรู้สึกทึ่งมาก ไม่คิดว่าจะเห็นภาพแบบนี้ของชูและอายานะเมื่อตอนที่พวกเขายังเด็ก และฉันก็หมกมุ่นอยู่กับอัลบั้มนี้มากจนเริ่มพลิกดู
“อาฮ่าฮ่า อันนี้หายากนะเนี่ย”
สิ่งที่ดึงดูดสายตาของฉันคือภาพของเราสามคนกำลังเล่นฟุตบอล
อายานะกำลังจะเตะลูกบอลและอาจจะเตะมันขึ้นไปในอากาศและล้มลงบนพื้น ส่วนโทวะและชูกำลังมองดูเธอและหัวเราะขณะที่พวกเขากุมท้อง
[มู่ หยุดหัวเราะได้แล้ว ทั้งสองคน!]
“……?”
ครู่หนึ่งฉันคิดว่าฉันได้ยินเสียงของใครบางคน
ฉันมองไปรอบๆ และสงสัยว่าฉันจินตนาการไปเองหรือเปล่า แต่แล้วฉันก็สงสัยว่านั่นอาจจะเป็นความทรงจำจากอดีตที่ซึมเข้าไปในร่างกายของโทวะ
“……อายานะ……ฮะ”
ฉันไม่มีความทรงจำในอดีตกับอายานะ
ถึงกระนั้น การได้ดูภาพถ่ายแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกคิดถึง และบางทีอาจเป็นเพราะฉันเห็นภาพแบบนี้ ฉันจึงอยากได้ยินเสียงของเธอ
มีบางอย่างทำให้ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วแตะข้อมูลติดต่อของอายานะ
“….อะ ว่าไง โทวะคุง!?”
แล้วการคุยยามดึกก็ได้เริ่มขึ้น