เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 104 คำโกหกของหวังเจียเหยา!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 104 คำโกหกของหวังเจียเหยา!
เม็ดฝนโปรายปรายตกกระทบหน้าต่างรถ ตำแหน่งที่รถของหลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยาจอดอยู่นั้นไม่มีแสงไฟ
บวกกับที่ฟิล์มติดกระจกของรถแอสตันมาร์ตินคันนี้สีค่อนข้างเข้ม ทำให้คนด้านนอกมองไม่เห็นเหตุการณ์ภายในรถ
หนำซ้ำหลิ่วอวี่เจ๋อยังปิดไฟรถไปอีก
ทั้งสองคนเหมือนอยู่ในห้องมืดสนิทจนปลอดภัยอย่างยิ่ง ไม่น่าจะถูกคนสังเกตเห็นได้ง่าย
สภาพแวดล้อมแบบนี้ทำให้หวังเจียเหยารู้สึก ‘ปลอดภัย’ อย่างมาก
เพราะต่อให้หล่อนทำอะไรกับหลิ่วอวี่เจี๋ยในรถคันนี้ คนด้านนอกก็ไม่มีทางมองเห็น
หวังเจียเหยาสอดนิ้วประสานกับหลิ่วอวี่เจ๋อแนบแน่นเหมือนคู่รักกันแล้วตอบ
“อวี่เจ๋อ ที่จริงแล้วฉันก็รู้สึกดีกับนายมากนะ นายทั้งหล่อทั้งหุ่นดี พื้นฐานครอบครัวก็ดี ผู้หญิงคนไหนจะไม่ชอบนายล่ะ? แต่เวลาที่เรารู้จักกันสั้นเกินไป อีกอย่างตอนนี้สามีของฉันก็ดีกับฉันมาก ขอโทษด้วยนะฉันคงทำได้แค่ปฏิเสธนาย”
พอได้ยินคำตอบของหวังเจียเหยาแล้ว หลิ่วอวี่เจ๋อก็พอจะเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวพยายามจะสื่อ เขาจึงกล่าวถามอีกฝ่าย
“ถ้าหากว่าพวกเรารู้จักกันเป็นระยะเวลานานแล้วเกิดมาวันหนึ่งถ้าสามีคุณไม่ดีกับคุณ คุณพอจะรับผมไว้พิจารณาได้ไหมครับ?”
ครั้งนี้หวังเจียเหยาไม่ปฏิเสธแต่เงียบไม่ตอบคำถามเท่านั้น
ซ่งหงเย่ที่เป็นเหมือนกุนซือของหญิงสาวเอาแต่คอยเตือนหญิงสาวว่าทางที่ดีให้ใช้หลิ่วอวี่เจ๋อเป็นตัวสำรอง เผื่อวันหน้าเลิกกับเย่เฉินหรือหากไม่ได้รับสืบทอดสมบัติของตระกูลเย่ก็ยังมีลูกคนรวยอายุยังน้อยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรมาไว้ในกำมือ
หวังเจียเหยากล่าวว่า “ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ นายคงจะมีแฟนไปนานแล้ว”
ใครจะรู้หลิ่วอวี่เจ๋อกลับกล่าวด้วยใบหน้าที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ “ไม่หรอกผมไม่มีทางหาแฟนหรอกครับ ผมจะรอคุณ จะสามปี ห้าปีหรือสิบปีผมก็ยินดีรอ! ต่อให้คุณมีลูกผมก็ไม่รังเกียจ!”
หวังเจียเหยามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยอย่างซาบซึ้งใจ คิดไม่ถึงเลยว่าลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยมีเงินแสนล้านคนนี้ว่าจะยอมเป็นตัวสำรองให้หล่อน?
ซึ่งอันที่จริงแล้วเมื่อเดือนก่อนหวังเจียเหยาเคยขอให้เย่เฉินเป็นตัวสำรอง โดยให้เขารอตนเองอีกสามปี รอหล่อนแต่งงานมีลูกกับฟางเชาแล้วทั้งสองคนหย่ากัน หลังจากที่แบ่งทรัพย์สมบัติกับฟางเชาแล้วหล่อนจะกลับมาอยู่กับเย่เฉิน
แต่เย่เฉินปฏิเสธทันที!
เป็นทายาทเศรษฐีเหมือนกันแต่เย่เฉินกลับไม่ยอมเป็นตัวสำรองให้หล่อน แต่หลิ่วอวี่เจ๋อยินยอม!
“ชิ เย่เฉินควรได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของหลิ่วอวี่เจ๋อ ทรัพย์สินที่มีก็พอๆ กันแล้วทำไมหลิ่วอวี่เจ๋อยอมรอฉันแต่เขาไม่ยอมรอฉัน!”
ในวินาทีนี้หวังเจียเหยาถึงกับกล่าวโทษเย่เฉินขึ้นมาน้อยๆ!
ดังนั้นหล่อนจึงเป็นฝ่ายกำมือเขาแน่นขึ้น “อวี่เจ๋อนายนี่มันโง่จริงๆ”
แต่แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนโง่ คำพูดคลั่งรักของเขาเมื่อครู่ก็พูดไปแค่เพื่อหลอกให้หวังเจียเหยาดีใจ
เศรษฐีแสนล้านจะยอมเป็นตัวสำรองได้ยังไง!
คนที่โง่ก็คือหวังเจียเหยาต่างหาก!
ที่คิดว่าแค่รูปโฉมที่งดงามของตนเองจะสามารถทำให้ชายหนุ่มทั่วหล้ายอมสยบอยู่ใต้แทบเท้าหล่อนอย่างว่าง่าย!
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “มีผู้หญิงที่ทำให้ผมยอมเป็นคนโง่ได้แบบนี้ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองมีความสุขมากเลย”
พูดพลางอาศัยจังหวะนี้จุมพิตหญิงสาว ทว่ากลับโดนอีกฝ่ายปฏิเสธ
“ไม่ได้ ฉันไม่สามารถทำเรื่องที่ผิดต่อสามีฉันได้”
น้ำเสียงหวังเจียเหยาห้วนสั้น เหมือนจะเตือนหลิ่วอวี่เจ๋อเป็นนัยๆ ว่าจับมือหล่อนได้แต่อย่าคิดจะจุมพิตหล่อนเด็ดขาด
หวังเจียเหยาไม่ใช่คนแบบซ่งหงเย่ หล่อนยังมีหลักการที่ตนเองยึดถือ
“ก็ได้ครับ” หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ทู่ซี้ เขายังคงแสร้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ
“ฉันจะไปละนะ” หวังเจียเหยาปล่อยมือหลิ่วอวี่เจ๋อ
ฝนด้านนอกยังตกอยู่ หลิ่วอวี่เจ๋อรีบเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งไปฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ก่อนจะกางร่มให้หวังเจียเหยาลงจากรถ
แล้วส่งร่มให้หวังเจียเหยา
“บ๊ายบาย”
“บ๊ายบาย เจอกันพรุ่งนี้นะครับ ผมจะไปที่อีผิ่นเจียเหยาตอนตีห้า!”
หวังเจียเหยาระบายยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก หล่อนเดินตรงไปยังอีกฝั่งถนนทันที
หลิ่วอวี่เจ๋อร้อนรนจนแทบทนไม่ไหวเมื่อเห็นแผ่นหลังที่งดงามของหญิงสาว
“แม่งเอ้ย เมื่อไหร่จะได้ครอบครองหล่อนเนี่ย! แต่ว่าวันนี้ถือว่ามีพัฒนาการนะ อย่างน้อยก็ยอมจับมือกับฉันแล้ว ฮึ เย่เฉิน แกเหยียดหยามตระกูลหลิ่วเราฉันจะต้องเอาคืนแกแน่!”
……
ตีห้าครึ่งของวันรุ่งขึ้น เย่เฉินเพิ่งจะตื่น เขาพลิกตัวไปด้านข้างตั้งใจจะกอดภรรยาสุดที่รักของเขาเสียหน่อย
แต่เมื่อพลิกตัวมาก็พบว่าหญิงสาวไม่อยู่บนเตียงแล้ว
เย่เฉินลงจากเตียงก็พบว่าหวังเจียเหยากำลังแต่งหน้าแต่งตาอยู่ที่กระจกด้านนอก หนำซ้ำหล่อนยังแต่งตัวเสร็จแล้ว แถมไม่พอแต่งตัวสวยมากทีเดียว
เย่เฉินรู้สึกแปลกใจ ก่อนนี้เย่เฉินยังจำได้ว่าหวังเจียเหยาจะตื่นนอนในช่วงเก้าโมหรืออาจสิบโมงด้วยซ้ำ
ทำไมวันนี้หล่อนถึงได้ตื่นเช้าแบบนี้?
“ที่รักทำไมคุณตื่นเช้าจัง?” เย่เฉินถาม
หวังเจียเหยาเห็นสามีจึงวางลิปสติก YSL ในมือ จากนั้นจึงเดินมากุมมือสองข้างของเขาเอาไว้ ก่อนจะจรดริมฝีปากลงไปแล้วตอบ“ที่รักตื่นแล้วเหรอคะ? ฉันนอนไม่หลับก็เลยว่าจะไปที่อีผิ่นเจียเหยาเร็วหน่อย”
เย่เฉินมองไปด้านนอกก็พบว่าฝนตก
เขาบีบจมูกหล่อนด้วยท่าทีสนิทสนมแล้วถาม “ทำไมช่วงนี้คุณชอบทำงานจังเลย? ตื่นเช้ากลับดึกทุกวันเลย ตอนนี้เป็นแม่คนแล้วนะ ต้องรักษาสุขภาพ อีผิ่นเจียเหยาก็เริ่มสร้างแล้ว ผมเป็นห่วงคุณมากเลยนะ”
หวังเจียเหยาออดอ้อนสามี “แหมตอนนี้ฉันเพิ่งท้องได้เดือนเดียวเองนะคะ แล้วนี่ก็ไม่ใช่การออกกำลังกายหนักเสียหน่อยไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ นายไปทำงานที่บริษัททุกวัน ฉันอยู่บ้านคนเดียวก็เบื่อๆ ไม่สู้ไปดูพวกเขาทำงานดีกว่า ฉันอยากให้อีผิ่นเจียเหยาเป็นรูปเป็นร่างก่อนลูกจะคลอด”
เย่เฉินรู้สึกว่าตนเองเอาแต่ทำงานจนละเลยหญิงสาว ตอนนี้เจ้าหล่อนก็กำลังท้องกำลังไส้ น่าจะต้องการการดูแลเอาใจใส่
แต่แบบทดสอบในด้านธุรกิจที่ตระกูลมอบหมายให้เขานั้น ก็มีเงื่อนไขให้เขาบริหารกิจการให้ได้ผลกำไรให้ได้มากๆ ทำให้เขาจำใจทำงานทุกวัน มิฉะนั้นคงยากจะผ่านการทดสอบในระยะเวลาปีสองปี
“หรือไม่อย่างนั้นวันนี้ผมไม่ไปทำงานแล้วอยู่บ้านเป็นเพื่อนคุณดีไหม?” เย่เฉินถาม
ถ้าเป็นสามวันก่อน ได้ยินสามีกล่าวแบบนี้หล่อนคงดีใจมาก
ทว่าตอนนี้หล่อนรู้จักกับหลิ่วอวี่เจ๋อ ถึงเขาจะไม่มีความเป็นผู้ใหญ่มากเท่าเย่เฉิน และรูปร่างหน้าก็ยังด้อยกว่าเย่เฉินเล็กน้อย แถมความสามารถเขาก็ไม่ได้แม้แต่เสี้ยวของชายหนุ่ม。
แต่หล่อนเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเย่เฉินมาสามปี แล้วเรียกได้ว่าเห็นจนเบื่อแล้ว
ส่วนหลิ่วอวี่เจ๋อนั้นเป็นของใหม่สำหรับหล่อน อีกทั้งเขาถ่อมตัวกว่าสามี และมักจะพูดจาเอาอกเอาใจหล่อนเสมอ
ทันทีที่คิดว่าหลิ่วอวี่เจ๋อกำลังรออยู่ที่อีผิ่นเจียเหยา หล่อนก็รีบห้ามสามี “อย่าเลยค่ะที่รัก ไปทำงานเถอะ ฉันอยากให้นายผ่านการทดสอบเร็วๆ ให้คุณปู่ตกตะลึงในตัวนาย!”
พูดจบหล่อนก็ผลักหลังสามีไปที่ห้องนอน “อย่าดื้อนะคะนอนต่ออีกหน่อยเถอะ ไม่ต้องสนใจฉันหรอก คิดถึงก็โทรมาเข้าใจไหม?”
เย่เฉินไม่พูดอะไรต่อมากมายแล้วเข้านอนต่อ
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ อีผิ่นเจียเหยา อากาศปลอดโปร่ง สายฝนโปรายปราย
ภายในป่าใบไม้แดงมีบ้านน็อคดาวน์ตั้งอยู่
ภายในห้องมีเสียงหัวร่อต่อกระซิกของหนุ่มสาวดังลอยออกมา