เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 132 หย่าจริงๆ!
หวังเจียเหยาและเย่เฉินสบตากัน
หวังเจียเหยาก็ยังงดงามเหมือนเดิม ไม่ว่าหญิงสาวจะโกรธเกรี้ยว ยิ้มแย้ม ร้องไห้หรือตอนเปียกปอน
แต่เย่เฉินรู้ว่าพวกเขาสองคนไม่อาจย้อนกลับได้แล้ว
หวังเจียเหยาเอาแต่พูดว่าเย่เฉินตะขิดตะขวงใจเรื่องของตนเองกับฟางเชา ทั้งที่จริงไม่ใช่แบบนั้น
เรื่องของหวังเจียเหยาแล้วฟางเชาเกิดขึ้นในตอนที่เย่เฉินยังไม่ได้เปิดเผยตัวตน
เรื่องนี้ทำร้ายจิตใจเย่เฉินอย่างมาก แต่ไม่ใช่ว่าจะให้อภัยกันไม่ได้
สิ่งที่ทำให้เย่เฉินรู้สึกว่าทั้งสองคนไม่มีทางจะอยู่ด้วยกันจนวันสุดท้ายของชีวิตได้จริงๆ นั้นเป็นเพราะเรื่องของหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อ
พอถึงตอนนั้นหวังเจียเหยาเป็นภรรยาท่านประธานบริษัท อีกทั้งใกล้จะได้เป็นทายาทของตระกูลเย่แล้ว
บางทีหวังเจียเหยากับหลิ่วอวี่เจ๋ออาจจะไม่มีอะไรจริงๆ อาจจะแค่จับมือกันเท่านั้น แต่ก็เป็นเรื่องไม่สมควร
บวกกับหลังจากที่เย่เฉินไม่มีเงินแล้ว ท่าทีที่หวังเจียเหยาปฏิบัติต่อเขาก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว
ผู้หญิงที่ร่วมสุขแต่ไม่ยินดีจะร่วมทุกข์แบบนี้ เย่เฉินไม่อยากได้!
“หย่าครับ!”
ตอนที่เย่เฉินกล่าวเช่นนี้ หวังเจียเหยาก็ตอบคำเดียวกันด้วยน้ำเสียงที่ต่างกัน
ช่ายหมิ่นเห็นทั้งสองมีท่าทีแน่วแน่ก็ผงกศีรษะ “ทั้งสองท่านเชิญตามมา”
ช่ายหมิ่นพาพวกเขาเข้าไปในห้อง แล้วคุยกับคนที่นั่งอยู่ในห้อง “เสี่ยวจาง คุณลุกขึ้นหน่อย ฉันจะเป็นคนทำเอกสารหย่าให้พวกเขาสองคนสามีภรรยาด้วยตัวเอง”
“อ้อ” พนักงานผู้หญิงที่ถูกเรียกชื่อว่าเสี่ยวจางมองหวังเจียเหยาและเย่เฉินด้วยความประหลาดใจ
ผอ.ช่ายทำเอกสารหย่าให้พวกเขาสองคนด้วยตัวเอง เย่เฉินและหวังเจียเหยาก็ได้รับสมุดเล่มเล็กสีม่วงอีกครั้ง
ผอ.ช่ายกล่าวว่า “คุณเย่ คุณหวัง พวกคุณสองคนหย่ากันแล้วอย่างเป็นทางการ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้วต่อไป ครั้งนี้ดิฉันขอเอาตำแหน่งผอ.ของดิฉันมารับประกัน เอกสารการหย่านี้มีผลตามกฎหมายจะไม่เกิดปัญหาเมื่อครั้งก่อนอีกแล้ว”
เย่เฉินเองก็รู้ว่าไม่ว่าอย่างไรผอ.ช่ายเป็นผอ. จะไม่มีทางให้เกิดความผิดเดิมๆ อีก
ในวินาทีนี้เขาและหวังเจียเหยาหย่ากันแล้วอย่างแท้จริง!
สามปี เป็นระยะเวลาสามปีแล้วเต็มๆ!
ภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาปรากฏขึ้นในสมองของเย่เฉินไม่หยุด
ตั้งแต่การรู้จักครั้งแรกไปจนเริ่มรักกัน และโดนคนรักหักหลัง จนต่างฝ่ายต่างเห็นกันเป็นศัตรูคู่แค้น
ทำให้คนรู้สึกเสียดาย
ตั้งแต่เดินออกมาจากสำนักงานกิจการพลเรือน หวังเจียเหยาก็ไม่ได้พูดอะไรกับเย่เฉินอีก หญิงสาวก็ขับรถออกไป
เย่เฉินเปิดวีแชทแล้วไถโมเม้นท์ในวีแชทด้วยความเคยชิน แล้วก็พบว่ารูปภาพที่จะปรากฏในเวลาสามวันย้อนหลังไม่มีอีกแล้ว
นี่แปลว่าหวังเจียเหยาได้ลบเย่เฉินออกจากเพื่อนแล้วหรือไม่ก็บล็อคกันไปแล้ว
“พู่ว…”
เย่เฉินผ่อนลมหายใจ ก่อนจะเรียกรถคันหนึ่ง แล้วหาโรงแรมราคาถูกคืนละร้อยกว่าหยวนแถวๆ นี้
ครั้งนี้เขาไม่ได้ไปพักที่โรงแรมเจียหัวที่ซีจื่อหูเหมือนครั้งก่อน
เขาสามารถทำให้หวังเจียเหยาเสียใจภายหลังที่หย่ากับตนเอง บอกหล่อนว่าเรื่องที่ตนเองโดนขับออกจากตระกูลเเป็นเรื่องโกหก
แต่เย่เฉินไม่คิดจะทำแบบนี้
“ถ้าหากว่าเป็นไปได้ ผมหวังว่าชีวิตนี้หวังเจียเหยาจะคิดว่าผมเป็นแค่ยาจก ทั้งชีวิตรู้สึกว่าการจบชีวิตแต่งงานครั้งนี้คือเรื่องที่ถูกต้อง”
เมื่อมาถึงห้องพักในโรงแรม เย่เฉินก็พึมพำกับตนเอง
ก๊อกๆ
จู่ๆ ก็มีคนเคาะประตู
เย่เฉินเหนื่อยหน่ายแล้วถาม “ใคร?”
“คุณผู้ชายต้องการบริการอะไรไหมคะ?” มีเสียงแปลกๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งดังจากนอกประตูเหมือนว่าจะพูดพร้อมกับบีบจมูก
เย่เฉินขมวดคิ้ว โรงแรมราคาถูกวุ่นวายเลอะเทอะมาก
“ไม่ต้องการ!”
เย่เฉินตะโกนใส่ประตู
“เปิดประตูออกมาดูหน่อยสิคะ”
เหมือนผู้หญิงด้านนอกไม่ใคร่จะยินยอม
เย่เฉินที่เดิมหงุดหงิดอยู่นั้นก็ลุกขึ้นแล้วตะโกนใส่ประตู “ถ้าไม่ไปอีกผมจะแจ้งความแล้วนะ!”
ในเวลานี้ผู้หญิงที่อยู่ด้านนอกประตูก็พูดด้วยเสียงปกติ “พี่เย่เฉิน ฉันเองค่ะ!”
“เสียงของหวังหยวนหยวน?”
เย่เฉินถึงได้ยอมไปเปิดประตู เป็นหวังหยวนหยวนจริงๆ
“ฮ่าๆ ล้อเล่นเฉยๆ ลองทดสอบนิสัยของว่าที่สามีของฉันสักหน่อย พี่เป็นผู้ชายที่ดีไม่มั่วผู้หญิงจริงๆ ด้วย ฉันชอบพี่จริงๆ เลยค่ะ!”
หวังหยวนหยวนกล่าวอย่างดีอกดีใจ
เย่เฉินปล่อยให้หวังเจียเหยาเข้ามาในห้อง เขาปิดประตูแล้วถาม “รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่? แอบสะกดรอยตามผมเหรอ?”
หวังหยวนหยวนหัวเราะคิกคัก “ใช่สิ ฉันสะกดรอยตามพี่มาตั้งแต่ที่พี่กับหวังเจียเหยาออกจากสำนักงานกิจการพลเรือนแล้ว พี่เย่เฉิน ในที่สุดพี่ก็หย่าเสียที ตอนนี้พอจะคิดเรื่องคบหาดูใจกับฉันได้หรือยัง?”
ดวงตาโตกลมที่สุกสกาวของหวังหยวนหยวนมองเย่เฉินอย่างเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
เย่เฉินกล่าว “หยวนหยวน พวกเราไม่เหมาะสมกันจริงๆ อีกทั้งตอนนี้ผมเป็นแค่ยาจก ส่วนคุณคือลูกคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลยิ่งใหญ่ ผมไม่คู่ควรกับคุณหรอก คุณย่าก็ไม่มีทางเห็นด้วย”
หวังหยวนหยวนกล่าว “เลิกเสแสร้งเถอะ ฉันรู้ว่าพี่ยังเป็นคนตระกูลเย่อยู่ พี่รีบกลับไปเป็นประธานบริษัทเร็วๆ สิแล้วมาแต่งงานกับฉัน ฉันอยากเป็นภรรยาประธานบริษัท!”
เย่เฉินก็รู้ว่าหวังหยวนหยวนอยากจะคบหากับตนเอง เพราะสถานะของเขา
เย่เฉินกล่าวว่า “ผมสามารถบอกคุณได้อย่างมั่นใจว่าผมในอนาคตไม่มีทางเป็นประธานบริษัทอีก ต่อไปภายหน้าผมจะเป็นแค่พนักงานธรรมดาคนหนึ่ง มีชีวิตแบบคนธรรมดาที่มีเงินเดือนเดือนละไม่กี่พัน”
เขาไม่ได้หลอกหวังหยวนหยวน แต่นี่เป็นความคิดที่แท้จริงของเย่เฉิน
หลังจากเจอเรื่องของหวังเจียเหยาแล้ว เย่เฉินพบว่าผู้หญิงในประเทศของตนเองชักจะรักในชื่อเสียงเงินทองมากเกินไปแล้ว
พวกหล่อนชอบคนมีเงิน ชอบเจ้านาย ชอบหัวหน้า ชอบคนใหญ่คนโต
ตอนที่คุณเป็นคนใหญ่คนโต จะไม่สามารถตัดสินได้เลยว่าผู้หญิงคนหนึ่งรักคุณจริงๆ หรือว่าหลงรักสิ่งที่อยู่เบื้องหลังคุณ
ดังนั้นเย่เฉินจึงตัดสินใจว่าจะไม่เป็นประธานบริษัทอีก อยากมีความรักโดยใช้สถานะเป็นคนธรรมดา
ถ้าหากว่าเป็นเพียงคนธรรมดา หลังจากได้พบรักแท้แล้ว ค่อยบอกสถานะที่แท้จริงกับหล่อน
ผู้หญิงที่ยินยอมจะต่อสู้ฝ่าฟันไปกับตนเอง ยินยอมจะทนทุกข์ไปกับตนเองถึงจะคู่ควรกับทรัพย์สินแสนล้านของตระกูลเย่
คนอย่างหวังเจียเหยา หวังหยวนหยวนไม่คู่ควร
หวังหยวนหยวนดูเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด “เป็นคนธรรมดาอะไรกัน เป็นผู้บริหารดีจะตายไป พี่เจียเหยาทำร้ายพี่แบบนี้ พี่ไม่อยากจะกลับไปเป็นประธานบริษัทเพื่อให้หล่อนเสียใจภายหลังเหรอ?”
เย่เฉินส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ไม่อยาก”
เรื่องแบบนี้ครั้งเดียวก็พอแล้ว เขาไม่อยากจะเห็นหวังเจียเหยาคุกเข่าอ้อนวอนตนเอง ไม่อยากให้หล่อนวอแวเขาไม่เลิกรา
เย่เฉินกล่าวว่า “หยวนหยวนกลับไปเถอะ เรื่องครั้งนี้ต้องขอบคุณมากนะที่ยอมให้ความร่วมมือหลอกลวงเจียเหยาด้วยกัน ผมจะต้องส่งของขวัญเพื่อแสดงความขอบคุณแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีเงิน รอได้เงินเดือนแล้วจะซื้อให้นะ”
หวังหยวนหยวนดูไม่ค่อยเชื่อว่าเย่เฉินไม่มีเงินจริงๆ แล้วกล่าว “พี่เพิ่งหย่าไปคงอารมณ์ไม่ดี ไว้วันหลังจะมาหาพี่ใหม่นะคะ”
หลังจากหวังหยวนหยวนไปแล้วเย่เฉินก็สูบบุหรี่
หลังจากนั้นเขาก็โทรหาหลิวเจิ้งคุน
ละครฉากใหญ่แบบหลังจากหย่าแล้วกลายเป็นประธานบริษัท วางมาดใหญ่โตแบบนั้น เย่เฉินไม่อยากทำอีกแล้ว
แต่ว่าความแค้นครั้งนี้จำเป็นต้องได้เอาคืน
ฟางเชาและหลิ่วอวี่เจ๋อ ทั้งสองคนที่ล่วงเกินเย่เฉินจะต้องชดใช้อย่างสาสม!