เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 253 ก่อเรื่องในงานเลี้ยงตระกูลหลิ่ว
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 253 ก่อเรื่องในงานเลี้ยงตระกูลหลิ่ว
ตอนที่ 253 ก่อเรื่องในงานเลี้ยงตระกูลหลิ่ว!
ประธานเฉินเย่กรุ๊ป!
ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ทุกคนที่นั่นก็ตกใจไปกันหมด!
ก็ต้องรู้ว่าในหลายวันที่ผ่านมานี้ คนที่ติดเทรนด์โซเชียลไม่ใช่ดาราที่ไหน แต่เป็นประธานเฉินเย่กรุ๊ป!
“อะไรนะ? เขาคือประธานบริษัทเฉินเย่เหรอ? เศรษฐีที่รวยที่สุดคนใหม่ของประเทศเราเหรอ?”
“สวรรค์ทั้งหล่อทั้งอายุน้อยเกินไปแล้วล่ะมั้ง! ฉันยังคิดว่าเศรษฐีที่ลึกลับคนนี้อย่างน้อยก็น่าจะอายุ 60 ปี”
“อ๊าๆ ประธานบริษัทไป๋ลี่แต่งงานกับ CEO ของเฉินเย่กรุ๊ป นี่พวกคุณสองคนคงจะยิ่งใหญ่กว่าใครในโลกธุรกิจแล้วล่ะ!”
ดังนั้นทุกคนจึงวิ่งไล่ตามสัมภาษณ์ ‘ประธานบริษัทที่สวยที่สุด’ และ ‘เศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ’
คิดไม่ถึงว่าดาราโด่งดังคนนั้นจะถูกทิ้งให้ยืนงงอยู่ด้านข้างแทน!
และแล้วเทรนด์ค้นหา ‘ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในประเทศและประธานบริษัทหญิงที่สวยที่สุดแต่งงานกัน’ และ ‘เย่เฉินฉินหงเหยียน’ ก็ติดเทรนด์!
……
ณ วิลล่าเฝยชุ่ย
ในเวลานี้หวังเจียเหยาเพิ่งจะกล่อมลูกแฝดของตนเองนอนหลับไป เจ้าหล่อนจึงคว้าโทรศัพท์มาไถ Weibo ดูในเวลาว่างที่แสนจะมีน้อยนิดนี้
เพิ่งจะกดเข้า APPLICATION เมื่อเจ้าหล่อนเห็นหัวข้อติดเทรนด์ก็ตกใจทันที
เพราะหัวข้อที่ติดอันดับหนึ่งนั้นกลับกลายเป็น ‘เย่เฉินและฉินหงเหยียน!”
“แปลกจัง ทำไมเย่เฉินกับฉินหงเหยียนถึงติดเทรนด์ได้? อีกทั้งชื่อเย่เฉินยังอยู่หน้าฉินหงเหยียนด้วย!”
จะต้องรู้ว่าการเรียงลำดับรายชื่อพวกนี้มีหลักการอยู่
ฉินหงเหยียนเป็นประธานของบริษัทไป๋ลี่ เย่เฉินเป็นแค่ผู้จัดการแผนกอบรมบุคคลเท่านั้น ในเมื่อทั้งสองคนติดเทรนด์ก็ควรจะเป็นชื่อฉินหงเหยียนก่อนของเย่เฉิน
และเมื่อกดเข้าไป หวังเจียเหยาก็ต้องตกตะลึง
“ประธานเฉินเย่กรุ๊ปคือ…เย่เฉินเหรอเนี่ย?!”
เมื่อเห็นเนื้อหาข่าว หวังเจียเหยาก็ตกใจจนแทบจะหยุดหายใจ!
เฉินเย่กรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีศักยภาพมากที่สุดในประเทศ CEO ของเฉินเย่กรุ๊ปถูกเรียกเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ!
ในช่วงนี้หวังเจียเหยาเอาแต่ถวิลหาประธานเฉินเย่กรุ๊ปคนนี้ อยากจะหาโอกาสรู้จักเขาสักครั้ง
แต่วันนี้หล่อนกลับรู้มาว่าเศรษฐีที่แสนร่ำรวยที่หล่อนถวิลหาและเฝ้าเว้าวอนคนนี้จะเป็นอดีตสามีของหล่อน เขยที่ตระกูลหวังทอดทิ้ง เย่เฉิน!
“เฉินเย่…เย่เฉิน!”
“ไม่นะ!”
หวังเจียเหยาหมดสติแล้วล้มพับไปบนพื้นทันที!
……
และในตอนนี้เองเย่เฉินและฉินหงเหยียนเพิ่งจะสลัดพวกนักข่าวที่น่ารำคาญพวกนี้แล้วนั่งใน Maybach
ใช่แล้วรถ Maybach ที่มีจำนวนไม่กี่คันที่เขาเคยใช้ตอนอยู่อวิ๋นโจว!
เย่เฉินกุมมือฉินหงเหยียนขณะนั่งหลังรถพลางกล่าว
“หงเหยียนผมจะส่งคุณกลับไปพักผ่อนที่วิลล่าก่อน ผมมีที่ต้องไป”
ฉินหงเหยียนถามอย่างประหลาดใจ “ที่รักคุณจะไปไหน?”
เย่เฉินกล่าว “เมื่อครู่เสี่ยวหวังเพิ่งบอกผมว่าวันนี้ตระกูลหลิ่วจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้ลูกแฝดของผม ผมต้องไปสักหน่อย”
ฉินหงเหยียนรู้ดีว่าการกระทบกระทั่งกันระหว่างเย่เฉินและตระกูลหลิ่วคงจะเลี่ยงไม่ได้
แต่ว่าด้วยสถานะในวันนี้ของเย่เฉินนั้น ทำให้หล่อนไม่เป็นกังวลอีกต่อไป
“ค่ะ” ฉินหงเหยียนรับคำอย่างว่าง่ายแล้วไม่ได้ขัดขวางอะไรอีก
……
ณ โรงแรม Sheenjoy เทียนไห่
ตระกูลหลิ่วกำลังจัดงานฉลองลูกแฝดสองคนของหลิ่วอวี่เจ๋อ
แขกมีจำนวนมากและครื้นเครง บนเวทีแขวนภาพของเด็กทารกทั้งสองคนเอาไว้ แถมยังมีชื่อเด็กสองคนแปะไว้
หลิ่วเจียอิน หลิ่วเจียเยว่
ทันใดนั้นเองเย่เฉินในชุดสูทสีขาวปรากฏตัวขึ้นในงาน ด้วยมาดที่ไม่ธรรมดาพร้อมๆ กับหวังเอ้อร์เชอและลูกน้องกลุ่มหนึ่ง
“คุณผู้ชาย หากไม่มีบัตรเชิญเข้างานไม่ได้นะครับ!”
พนักงานคนหนึ่งเข้าขวางทางพวกเย่เฉินเอาไว้
หวังเอ้อร์เชอรีบควักเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วปาใส่หน้าพนักงาน “นี่คือเงินค่าน้ำใจไสหัวไป! อย่าขวางทางคุณเย่!”
จากนั้นเย่เฉินก็เดินเข้าไปในบริเวณงาน
เพิ่งจะปรากฏตัวขึ้น สูทแบรนด์เนมของเย่เฉินรวมไปถึงมาดของเขา ก็ตกเป็นเป้าสายตาทันที!
แต่หลิ่วอวี่เจ๋อจำเขาได้อย่างรวดเร็ว
“เย่เฉินเหรอ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อที่กำลังวุ่นๆ กับการทักทายแขกเหรื่อยังไม่ทันได้ดูข่าว ดังนั้นจึงยังไม่รู้เรื่องที่ว่าประธานของเฉินเย่กรุ๊ปก็คือเย่เฉิน
หลิ่วอวี่เจ๋อเดินมาหาเขาด้วยใบหน้าไม่พอใจนัก “เย่เฉินมาทำอะไรที่นี่? ฉันไม่ได้เชิญนายเสียหน่อย นายไสหัวไปเดี๋ยวนี้เลย!”
เด็กไม่ใช่ลูกหลิ่วอวี่เจ๋อแต่เป็นลูกของเย่เฉิน หลิ่วอวี่เจ๋อย่อมไม่อยากต้อนรับเขา!
เย่เฉินยังไม่ทันตอบ หวังเอ้อร์เชอก็โพล่งออกมา “บังอาจ! คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเรียกชื่อคุณเย่!”
หลิ่วอวี่เจ๋อปรายตามองปวังเอ้อร์เชอก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฉันก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็ไอ้คนสารเลวแซ่หวังนี่เอง ทำไม ไม่ขับรถให้ฉันแล้วไปเป็นหมารับใช้เย่เฉินเหรอ? เขามีเงินให้นายหรือไง? ยังจะเรียกคุณเย่อีก? เยินยอตัวเองเก่งจริงๆ เป็นประธานแผนกอบรมบุคคลเหรอ? ฮ่าๆ”
หวังเอ้อร์เชอหยิบโทรศัพท์ออกมา พลางเปิด The eye แล้วส่งให้หลิ่วอวี่เจ๋อดู
“แหกลูกตาโง่ๆ ของนายดู! คุณเย่เป็นประธานเฉินเย่กรุ๊ป! เฉินเย่กรุ๊ปที่ช่วงนี้ซื้อหุ้น ซื้อบริษัทเยอะแยะไปหมด คงไม่ต้องให้แจกแจงใช่ไหม!”
ตอนนี้ถ้าค้นหาใน the eye จะเจอว่าเย่เฉินคือประธานบริษัทเฉินเย่!
หลิ่วอวี่เจ๋อเห็นข้อมูลในมือถือก็ตกตะลึง!
แค่บริษัทเดลิเวอรี่ถวนถวนแห่งเดียวในเครือเฉินเย่กรุ๊ป ก็สามารถล้มบริษัทชุนเฟิงได้แล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องที่เขายังซื้อบริษัทขนส่งอื่นๆ อีก!
ตอนนี้ในสายงานขนส่งและเดลิเวอรี่ บริษัทเอ็กซ์เพรสชุนเฟิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเย่อีกต่อไป!
หลิ่อวี่เจ่อชี้ไปที่เย่เฉิน “นาย…นายยังไม่ถูกไล่ออกจากตระกูล!”
ในวินาทีนี้บรรดาแขกเหรื่อในงานคนอื่นๆ ต่างก็ลุกขึ้นแล้วเริ่มซุบซิบกัน
“สวรรค์ เด็กหนุ่มคนนี้คือประธานเฉินเย่กรุ๊ปเหรอเนี่ย? เหลือเชื่อจริงๆ!”
“เขาก็คือลูกพี่ที่รวบรวมสายงานเดลิเวอรี่ต่างๆ เหรอ เขาผูกขาดบริษัทสายขนส่งต่างๆ นี่นา!”
“ใช่แล้วต่อให้เป็นชุนเฟิงของคุณหลิ่ว ไม่ช้าก็เร็วคงตกอยู่ในเงื้อมมือเขา!”
เย่เฉินไม่แยแสคำพูดที่คนอื่นพูดถึงเขา ใบหน้าเขายังคงเย็นชา “หลิ่วอวี่เจ๋อคุณสบายใจได้เลย ผมไม่ได้จะมาล่มงานคุณ”
“งั้น…จะทำอะไร” ตอนนี้หลิ่วอวี่เจ๋อหวาดกลัวจับใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย!
เย่เฉินชี้ไปที่ภาพขนาดใหญ่ของคู่แฝดที่ถูกแขวนไว้บนเวทีแล้วแล้วกล่าว “เขียนแซ่เด็กๆ ผิดน่ะ”
พูดจบเย่เฉินก็ยื่นมืออกมารับปากกาด้ามหนึ่งที่หวังเอ้อร์เชอควักออกมาให้เขาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเย่เฉินก็สาวเท้าเดินขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางสายตาของคนในงาน ที่ตกอยู่ในความเงียบและไม่มีใครกล้าขวางเขา!
จากนั้นเย่เฉินก็ขีดฆ่าคำว่า ‘หลิ่ว’ บนภาพทิ้ง!
แล้วแก้เป็นคำว่า ‘เย่’ แทน!
ในเมื่อเด็กสองคนชื่อเจียอินกับเจียเยว่ ก็ควรจะชื่อเย่เจียอินและเย่เจียเยว่!
ทันทีที่เขาทำเช่นนี้งานก็ตกอยู่ในเสียงจอแจทันที!
หลิ่วหย่วนหางรวมไปถึงพ่อแม่ของหลิ่วอวี่เจ๋อที่นั่งอยู่ที่แถวแรก หน้าแดงก่ำทันที!
“สวรรค์ ทำไมคุณเย่ถึงแก้แซ่ของเด็กจากหลิ่วเป็นเย่ล่ะ?”
“นี่มันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามกันชัดๆ! เขามาเพื่อดูถูกตระกูลหลิ่วเหรอ?”
แขกในงานต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเผ็ดร้อน
และในตอนนี้หลิ่วหย่วนหางก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ เขาตบโต๊ะเสียงดังแล้วพุ่งพรวดเข้ามาหาเย่เฉิน
“คุณเย่! คุณเป็นถึงประธานเฉินเย่กรุ๊ปแถมยังเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศนี้! ผมขอถามคุณหน่อยเถอะว่าทำไมต้องมาแก้แซ่ของเหลนๆ ผมด้วย! วันนี้คุณต้องให้คำตอบผม!”