เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 276 ซูมู่หลินประสาทเสียแล้ว
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 276 ซูมู่หลินประสาทเสียแล้ว
ตอนที่ 276 ซูมู่หลินประสาทเสียแล้ว!
ในระยะเวลา 10 ชั่วโมงที่เดินทางมาที่นี่ ซูมู่หลินฝืนเก็บอาการ จงใจทำเหมือนว่าตนเองไม่ได้หวาดกลัวการทัวร์อวกาศเท่าไหร่นัก
แต่พอมาถึงสถานที่จริง ได้ยินว่าจะต้องไปกาวอังคารจริงๆ เหงื่อก็ผุดขึ้นบนหน้าผากของซูมู่หลินไม่หยุด
“ทำไมถึงจะไปดาวอังคารอีกแล้วล่ะ? ไปที่นั่นใช้เวลาเท่าไหร่?” ซูมู่หลินถาม
Musk อธิบาย “พวกเราไปดาวอังคารต้องใช้เวลา 6 เดือน หลังจากถึงที่นั่นแล้วจะอยู่ต่ออีก 26 เดือน”
ซูมู่หลินภาษาอังกฤษดีใช้ได้ เขาโวยวายด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงเป๊ะ
“อยู่ที่นั่นทำไม 26 เดือน! ที่ดาวอังารผู้หญิงก็ไม่มี แถมไปก็ไม่ได้จะไปรบกับใคร! อย่าบอกนะว่าพวกนายจะสร้างฐานที่นั่น ฉันจะอยู่แค่หนึ่งสัปดาห์ก็จะกลับ!”
Musk กล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณซู คือแบบนี้นะครับพวกเราจะไปดาวอังคารตอนที่ดาวอังคารอยู่ใกล้เราที่สุด แต่ตอนถึงดาวอังคารเราอยู่ไกลโลกมากแล้ว ดังนั้นพอคำนวณจากต้นทุน พวกเราก็ต้องรอตอนที่ดาวอังคารอยู่ไกลโลกที่สุดถึงกลับมาได้ แต่ทุก 26 เดือนดาวอังคารถึงจะเข้าใกล้โลกอีกที ดังนั้นพวกเราถึงต้องอยู่ที่นั่น 26 เดือน”
เย่เฉินตบบ่าซูมู่หลินแล้วกล่าว “คุณชายซู แค่สองปีเอง คุณอายุน้อยจะตายกลัวอะไร ถือเสียว่าเป็นการฝึกฝนประสบการณ์ชีวิตก็ได้”
ซูหลินสะบัดตัวออก “ฉันไม่ไป! ส่งฉันกลับเลยเร็วๆ!”
เย่เฉินกล่าวอย่างไม่เกรงใจเขา “ซูมู่หลิน เหมือนนายจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้นะ นายในตอนนี้น่ะยังไงก็ได้ไปอยู่แล้ว ต่อให้ไม่อยากไปก็ต้องไป! นอกเสียจากว่านายจะบอกฉันมาดีๆ ว่าสรุปแล้วนายทำแบบนี้ไปทำไม!”
ซูมู่หลินหัวเสีย ตอนนี้เขาไม่ได้มีบาดแผลบนร่างกายเท่านั้น แต่ถึงจะไม่ได้บาดเจ็บแต่เขาก็ไม่มีอาวุธติดมือสักชิ้น รอบตัวเป็นคนของเย่เฉินทั้งนั้น
ส่วนโทรศัพท์ของเขาก็โดนริบไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อคนในครอบครัวได้
ต่อให้คนที่บ้านรู้ตำแหน่งที่อยู่ของเขา แต่ที่นี่คืออเมริกา เป็นอาณาเขตของ Musk ตระกูลซูของเขาไม่สามารถทำอะไรที่อเมริกาได้เลยด้วยซ้ำไป!
ใประเทศ ตระกูลซูอาจะพอสู้กับเย่เฉินได้บ้าง แต่ที่เมืองนอกพวกเขาไม่อาจสู้อีกฝ่ายได้เลย!
ซูมู่หลินกัดฟันกรอด “ได้! ไปดาวอังคารก็ไปสิ! ลูกหลานตระกูลซูของเราไม่มีทางกลัวพวกสารเลวแซ่เย่หรอก!”
ซูมู่หลินมักจะด่าเย่เฉินเป็นคนสารเลว ทุกครั้งที่มองเขาแววตาของอีกฝ่ายมักเต็มไปด้วยไอสังหาร
เย่เฉินรู้ว่าซูมู่หลินจะต้องมีอะไรกับตนเองแน่ เขาแค้นตนเอง หนำซ้ำแค้นนี้น่าจะใหญ่โตมากทีเดียว
เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ออก ว่าตนเองไปล่วงเกินอีกฝ่ายตอนไหน
“ลากเขาไป!”
เย่เฉินสั่งแค่คำเดียว ซูมู่หลินก็โดนคนสองคนลากตัวออกไป เพราะกำลังจะไปดาวอังคาร เขาจึงถูกแยกตัวไปไว้ในห้องเดียวกับนักบินอวกาศ
นักบินอวกาศเป็นคนแคนาดารัฐ Quebec เขาจึงพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส บังเอิญที่ซูมู่หลินเองก็พูดภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศสได้พอดี ทั้งสองคนจึงคุยกัน
ซูมู่หลินถาม “เพื่อน ที่ Musk พูดเรื่องย้ายประชากรไปดาวอังคารมันเป็นไปได้เหรอ? เราไปดาวอังคารครั้งนี้จะมีอันตรายอะไรไหม?”
นักบินอวกาศชาวต่างชาติคนนั้นกินขนมไปพลางกล่าว “สบายใจเถอะเพื่อนๆ พวกเราปลอดภัยมากๆ เลยล่ะ”
ซูมู่หลินยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มแล้วลอบกล่าวกับตัวเองในใจ “เย่เฉิน ฉันนอนกับเมียนาย นายไม่กล้าฆ่าฉันเลยสส่งฉันไปดาวอังคาร แต่ว่าต่อให้ฉันไปที่นั่นฉันก็จะกลับมาอย่างปลอดภัย! พอถึงตอนนั้นนายก็จะไม่กล้าแตะต้องฉันอีก! ฉันจะถือเสียว่าไปเที่ยวแล้วกัน!”
ซูมู่หลินดีใจอย่างมาก รู้สึกว่าเทียบกับการโดนฆ่า โดนตอน โดนหยามเกียรติแล้ว จุดลงเอยแบบนี้น่าจะดีกว่า
ต้องรู้ว่าพวกคนที่ล่วงเกินเย่เฉินก่อนหน้านี้ ทั้งฟางเชา หลิ่วอวี่เจ๋อ ไม่มีใครจบสวยสักคน
แต่ว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นเองนักบินอวกาศกลับกล่าวต่อ “แต่ว่าพวกเราอยู่ที่อาวอังคารนานเกินไป ทำให้อันตรายที่ต้องเจอมีมากขึ้น”
“อันตรายเหรอ? มีอันตรายอะไร!” ซูมู่หลินรีบร้อนถามนักบินอวกาศอธิบาย “พวกเราเดินทางในอวกาศ เพราะไม่ได้ออกกำลังกายและไร้แรงโน้มถ่วง อาจจะส่งผลกับโครงสร้างกระดูกและความแข็งแรงของร่างกาย ตอนเรากลับมา กล้ามเนื้อจะลดลง 40%”
“อะไรนะ?”
ซูมู่หลินชะงักไป ถึงแม้ว่าเขาจะมีใบหน้าที่สะสวย แต่สิ่งที่ทำให้เขาภูมิใจนักหนาไม่ใช่หน้าตาแต่เป็นพละกำลังของเขา!
เขาเป็นคนที่มีแรงเยอะและมีความสามารถในวิชาป้องกันตัวต่างๆ ดังนั้นจึงคอยออกกำลังงหายอยู่เสมอ!
แต่ทันทีที่ไปดาวอังคาร พอกลับมาความขยันตลอดหลายปีมานี้ของเขาก็จะสูญเปล่า!
นักบินอวกาศกล่าวต่อ “แล้วก็สมองของเราก็จะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างมากด้วย ถ้าอยู๋ในอวกาศนานเกินไป สมองก็จะมีของเหลวอยู่เยอะ”
ซูมู่หลินใจหายอีกครั้ง หลังจากกลับมาแล้วจะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนหรือเปล่านะ?
เย่เฉินไอ้คนสารเลว!
นักบินอวกาศจึงกล่าวต่อ “แล้วก็ไตก็จะอ่อนแอลง ถ้าหากว่าตอนนี้นายมีแฟนล่ะก็ รีบฉวยโอกาสตอนที่ยังไม่ได้ไปดาวอังคารนอนกับแฟนเยอะๆ กลับมาแล้วนายอาจจะไม่ไหวแล้วก็ได้”
“…”
ซูมู่หลินโกรธจนจะด่าแม่เย่เฉินได้อยู่แล้ว!
ที่จริงแล้วนักบินอวกาศคนนี้ก็เป็นคนของเย่เฉิน เย่เฉินจงใจให้เขาพูดถึงความน่ากลัวของอวกาศเพื่อเขย่าประสาทซูมู่หลินเล่นๆ
“ฉันว่าแล้วเขารู้ว่าฉันรังแกเมียเขา เขาเลยไม่ยอมปล่อยให้ฉันได้มีชีวิตสบายๆ!”
ซูมู่หลินนั่นเชื่อคำพูดที่ออกจะเกินความจริงไปมากอย่างสนิทใจ
นักบินอวกาศเห็นซูมู่หลินไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับอวกาศแม้แต่น้อยก็ยิ่งพูดให้น่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม
“ที่จริงแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวที่สุด นายรู้ไหมว่าที่ย่ากลัวที่สุดคืออะไร?”
“คืออะไร!” ซูมู่หลินถลึงตามอง
นักบินอวกาศถอนหายใจ “ในอวกาศมีหลุมดำที่ลึกลับแล้วยากจะคาดเดาเต็มไปหมด! ทันทีที่เราโดนดูดเข้าไปในหลุมดำ เราจะตายแน่ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังจะติดอยู่ข้างในตลอดไป ออกมาก็ไม่ได้ แต่ต่อให้ถูกดูดเข้าไปด้านใน ทันทีที่เราเข้าใกล้หลุมดำ เวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็วราวติดปีก! นายรู้ไหมว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วราวติดปีก หมายความว่าอย่างไรสำหรับพวกเรา?”
ซูมู่หลินกลืนน้ำลาย “หมายความว่า…อะไรเหรอ?”
นักบินอวกาศกล่าวต่อไปว่า “นายเคยดูหนังเรื่อง ‘Interstellar’ ของผู้กำกับ Nolanไหม? พระเอกเดินไปทางอวกาศ แล้วตอนกลับมาลูกสาวเขาก็กลายเป็นยายแก่แล้วน่ะ! และเหมือนกันนั่นแหละตอนเรากลับมา เราอาจจะอยู่นอกโลกแค่สองสามปี แต่ที่ดาวโลกอาจจะผ่านไปหลายสิบปีแล้วก็ได้!
เท่ากับว่าในตอนนั้น ญาติของนายอาจจะแก่แล้ว หรือไม่ก็ไม่อยู่แล้วก็ได้! เฮ้อ เพื่อนเอ้ย ก่อนจะไปโทรหาญาติๆ เถอะนะ อาจจะเป็นสายสุดท้ายก็ได้”
ซูมู่หลินฟังมาขนาดนี้ก็ตกใจจนสติกระเจิดกระเจิง
“ไม่นะ คุณปู่ของฉันอายุตั้ง 70 กว่าปีแล้ว รอฉันกลับมา ฉันก็อาจจะไม่เจอปู่ของฉันก็ได้ หรืออาจจะไม่เจอพ่อด้วยซ้ำไป! แล้วไหนจะมีแฟนฉันที่รอฉันกลับมาอีก พอฉันกลับมาหล่อนคงกลายเป็นยายแก่แล้ว! แล้วยังมีพี่สาวฉันอีก… ไม่นะ ไม่ ฉันทนรับเรื่องนี้ไม่ไหวหรอกนะ ฉันไปดาวอังคารไม่ได้!”
คนอย่างซูมู่หลินที่เป็นชายชาตรีโตในกองทัพแบบนี้ บางครั้งการใช้ความตายมาข่มขู่อาจจะไม่ได้ผล
แต่ว่าในโลกนี้มีสิ่งที่น่ากลัวมากกว่าความตายมากนัก
ซูมู่หลินอาจจะไม่กลัวความตาย แต่ไม่อาจทนรับโลกที่ไม่มีพ่อและญาติทั้งหมด ไม่เหลือใครในตอนที่กลับมา!
“เย่เฉิน! เย่เฉิน! นายมาหาฉันเดี๋ยวนี้เลย!”
ซูมู่หลินตะเกียกตะกายเรียกหาเย่เฉินที่ประตู