เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 346 ซูมู่ชิงจะแต่งงานแล้ว
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 346 ซูมู่ชิงจะแต่งงานแล้ว
ตอนที่ 346 ซูมู่ชิงจะแต่งงานแล้ว!
ซูเจิ้นหางกล่าวว่า “เท่าที่ฉันรู้ เย่เซวียนและเย่เฉินไม่ใช่พี่น้องพ่อแม่เดียวกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เหมือนกับมู่หลินและมู่ชิวที่พ่อเดียวกัน แต่คนละแม่ แกดูสิ มู่หลินกับมู่ชิวมักจะทะเลาะกันบ่อยๆ ก็คงพอจะนึกออกว่า ความสัมพันธ์ของเย่เซวียนกับเย่เฉินก็คงไม่ได้ดีมากเหมือนกัน”
ชายหนุ่มพยักหน้า เขาไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับตระกูลเย่ แต่เขารู้เกี่ยวกับลูกชายสองคนของตระกูลซูทั้งสามรุ่นทุกเรื่อง
ไม่ใช่แค่ซูมู่หลินและซูมู่ชิวที่ขัดแย้งกันบ่อยๆ แม้แต่ซูมู่ชิงกับซูมู่เสวี่ยก็มักจะมีเรื่องจ่อล้อต่อเถียงกัน และหาเรื่องกันอยู่บ่อยๆ
ชายหนุ่มกล่าวว่า “เพื่อแย่งมรดกเหรอครับ? แต่ก็ไม่น่าจะต้องโหดร้ายขนาดนี้ ถึงกับฆ่าเย่เฉินหรอกมั้งครับ?”
ซูเจิ้นหางส่ายศีรษะ แล้วพูดว่า “ฉันเดาว่าคงไม่ใช่แค่เรื่องการแย่งมรดกเท่านั้นหรอก ตระกูลใหญ่ๆ อย่างตระกูลซูของเราและตระกูลเย่ ลูกหลานไม่ฆ่ากันเพื่อแย่งมรดกหรอก เพราะว่าเงินของทั้งสองตระกูล ลูกหลานทุกคนใช้ไปทั้งชาติก็ยังไม่หมดด้วยซ้ำ ต่อให้พวกเขาครอบครองมรัพย์สมบัติทั้งหมดก็ไม่มีความหมายอะไร อาจจะเป็นเพราะเรื่องความลับของตระกูลเย่ ฉันเดาว่าเย่เซวียนอาจจะรู้ความลับของตระกูลเย่เข้า เขาถึงได้ชิงลงมือกำจัดเย่เฉินก่อน”
ชายหนุ่มครุ่นคิดตามอย่างละเอียด “เหมือนเย่เฉินกับเย่เซวียนจะมีพี่ชายอีกคนใช่ไหมครับ?”
ซูเจิ้นหางขมวดคิ้วเมื่อพูดถึงพี่ใหญ่ของทั้งคู่ “พี่ใหญ่ของพวกเขาลึกลับมาก ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร ฉันเดาว่าเขาน่าจะเป็นเด็กที่ประพฤติตนอยูในกรอบ เป็นเด็กนิ่งๆ ไม่ชอบสร้างเรื่อง”
“เสี่ยวหลิว แกส่งคนไปให้ทั่วเมืองหลวง จะต้องควานหาตัวเย่เซวียนให้เจอให้ได้!”
“ครับผม!”
“อีกอย่างฉันเหลืออดกับ UFO บ้านั่นของเย่เฉินแล้ว หาทีมสอดแนมมืออาชีพที่สุดให้พวกเขาหาเครื่องบิน UFO ให้เจอ และทำลายมันซะ! นอกจากนี้ก็ตามหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอยควบคุม UFO ด้วย!”
“ครับผม!”
“เอาล่ะ แกไปจัดการเถอะไป”
ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องทำงาน ก็เห็นซูมู่ชิงที่มีสีหน้าเศร้าหมอง “คุณหนูซู”
ซูมู่ชิงพยักหน้า ไม่ได้เอ่ยอะไรแล้วก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน
“คุณปู่คะ”
ตอนที่ซูมู่ชิงเดินเข้าไป ซูเจิ้นหางเห็นสีหน้าที่ยังเปื้อนคราบน้ำตาของหลานสาวจึงถาม “เป็นอะไร?”
ซูมู่ชิงตอบว่า “คุณปู่ หนูยอมรับการแต่งงานตามที่คุณปู่จัดการให้คะ”
ซูเจิ้นหางประหลาดใจทันที “แกพูดว่าอะไรนะ?”
ช่วงหลายปีมานี้ ซูมู่ชิงดื้อรั้นมาก หญิงสาวไม่แม้แต่จะพบหน้าคู่ดูตัวที่ทางบ้านจัดหามาให้ด้วยซ้ำ
วันนี้พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกหรือเปล่านะ? หญิงสาวถึงได้ยอมรับการแต่งงานที่ทางบ้านจัดให้?
ซูมู่ชิงพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “แล้วแต่คุณปู่เลยค่ะ จะให้แต่งกับใครก็ได้ หนูยอมหมด”
ซูเจิ้นหางถามด้วยความสงสัย “จิตใจโดนอะไรกระทบมาหรือเปล่า? วันนี้แกไม่ได้ไปช่วยเย่เฉินหาฉินหงเหยียนไม่ใช่เหรอ? หรือเป็นเพราะเย่เฉิน?”
ซูมู่ชิงก้มหน้าก้มตา เมื่อนึกถึงคำพูดเหล่านั้นที่เย่เฉินพูดกับหล่อนแล้วก็รู้สึกน้อยใจ
“หนูไม่อยากให้เขาคิดว่า หนูยอมทำทุกอย่างเพื่อจะได้แต่งงานกับเขา คุณปู่คะได้โปรดให้หนูได้แต่งงานเถอะนะคะ!” ซูมู่ชิงพูดด้วยความน้อยใจ
ซูเจิ้นหางรู้สึกแปลกใจ “หลายปีมานี้ พูดอย่างไรแกก็ไม่ยอมแต่งงาน วันนี้แกยอมที่จะแต่งงานกับคนอื่นเพื่อจะไม่ให้เย่เฉินเข้าใจแกผิดเนี่ยนะ? มู่ชิง ดูท่าแล้วแกน่าจะชอบเจ้าหนุ่มนั่นเข้าให้แล้วจริงๆ!”
เดิมทีซูเจิ้นหางคิดว่าซูมู่ชิงไม่ได้มีความรู้สึกอะไรให้เย่เฉิน อย่างมากก็อาจจะแค่คิดว่าเขาเป็นคุณชายสูงศักดิ์ของตระกูลลึกลับ
แต่ในวินาทีนี้ ซูเจิ้นหางก็ตระหนักได้ว่า หลานสาวของตัวเองมีใจให้เย่เฉินแล้วจริงๆ แถมยังเป็นผู้ชายที่เคยทำให้หลานสาวของเขาเคยเสียใจมาแล้วอีกด้วย
“ตระกูลเย่บ้าเอ๊ย! ตระกูลซูของฉันมีอะไรที่ไม่คู่ควรกับพวกนาย! ผู้หญิงเก่งๆ อย่างมู่ชิง หาอีกห้าร้อยปีก็หาไม่เจอหรอก! ถ้าเป็นสมัยก่อน หลานสาวฉันเป็นผู้หญิงที่จะต้องได้แต่งงานกับฮ่องเต้แน่ๆ! คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะไม่ชอบ!”
ซูเจิ้นหางรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ยุติธรรมกับหลานสาว
ส่วนซูมู่ชิงเองก็รู้สึกอับอายขายขี้หน้า หญิงสาวกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว “คุณปู่ ขอร้องนะคะอย่าพูดอีกเลย”
ซูเจิ้นหางทอดถอนใจ “มู่ชิง แกแน่ใจนะว่าจะแต่งให้กับผู้ชายที่แกไม่ได้รัก? ฉันขอเตือนแกก่อนว่าผู้หญิงที่แต่งงานไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกไปแล้วเก็บกลับมาไม่ได้นะ เมื่อแต่งงานออกไปแล้ว แกจะมาหย่าตามอำเภอใจไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรต้องเห็นแก่ประโยชน์ของตระกูลเป็นสำคัญ ต่อให้ถูกรังแกก็ต้องอดทน! แก จะทำได้ไหม?”
ซูมู่ชิงย้อนนึกถึงผู้ชายที่ไปดูตัวมาครั้งนั้น หลี่เฉิงเจี๋ยชายตัวสูงใหญ่แต่ทำให้เธอกลับรู้สึกรังเกียจ
ซูมู่ชิงกัดฟันแล้วกล่าว “หนูทำได้ค่ะ!”
“ได้ ฉันจะไปโทรหาหลี่เฉิงเจี๋ย แกกลับไปรอฟังข่าวเถอะ”
ซูมู่ชิงเช็ดน้ำตา แล้วก็หันหลังเดินออกจาห้องงทำงานไป
ซูเจิ้นหางส่ายศีรษะ เดิมเขาอยากให้ซูมู่ชิงแต่งงานกับเย่เฉิน แล้วจะได้ล้วงความลับของตระกูลเย่ผ่านทางเย่เฉิน
หลังจากที่เป็นทองแผ่นเดียวกัน ตระกูลซูก็จะแข็งแกร่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
น่าเสียดาย ที่เป็นเพียงฉากเพ้อฝันฉากหนึ่ง
ซูเจิ้นหางโทรหาหลี่เฉิงเจี๋ยอย่างไม่เต็มใจนัก
ในเวลาเดียวกัน ณ วิลล่าแห่งหนึ่งที่เขตวิลล่าซุ่นอี้เปี๋ยในเมืองหลวง
ดาราสาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศอยู่ในบ้าน สวมเสื้อผ้าของนางสนมในราชวงศ์ชิง เอนกายลงข้างชายร่างรูปร่างสูงใหญ่
ชายร่างสูงที่ว่าคนนี้ก็คือหลี่เฉิงเจี๋ย
นี่ไม่ใช่บ้านของเขาแต่เป็นบ้านของดาราสาว เนื่องด้วยเขตวิลล่าอยู่ใกล้กับสนามบิน และยังมีสภาพแวดล้อมที่ดี ดังนั้นดาราสาวที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเมืองหลวงต่างก็ซื้อบ้านที่นี่
ดาราสาวคนนี้ชื่อหยางไฉ่เอ๋อ หญิงสาวเป็นเทพธิดาในดวงใจของชายหลายคนในประเทศนี้ นอกจากนี้ยังเคยแสดงในละครสมัยราชวงศ์ชิงหลายเรื่องด้วย และบทบาทเป็นที่ชื่นชอบของคนดูอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ หลี่เฉิงเจี๋ยถึงให้หญิงสาวสวมเสื้อผ้านางสนมในสมัยราชวงศ์ชิง เหตุผลเดียวกับคนมักจะให้แฟนของตัวเองสวมชุดพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
หลี่เฉิงเจี๋ยที่กำลังเพลิดเพลินกับสาวงามในอ้อมกอด ทันใดนั้นก็ได้รับสายจากซูเจิ้นหาง
หลี่เฉิงเจี๋ยรีบนั่งตัวตรง ผลักหยางไฉ่เอ๋อไปอีกทาง แล้วรับสาย
“ท่านซู”
“ไม่เลยครับ ไม่เลย ผมกำลังออกกำลังหาย มีเรื่องอะไรครับ ท่านซูว่ามาได้เลยครับ”
“อ้อ ฉันมีข่าวดีจะบอกแก มู่ชิงรับปากจะแต่งงานกับเธอแล้วนะ”
เมื่อหลี่เฉิงเจี๋ยได้ยินเช่นนี้ ก็ดีใจจนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง!
“คุณว่าอะไรนะครับ? มู่ชิง…ตกลงจะแต่งกับผมเหรอครับ?”
ซูเจิ้นหางตอบ “ใช่ เฉิงเจี๋ยเอ๊ย ต่อไปเราก็คือครอบครัวเดียวกันแล้วนะ พวกแกไปปรึกษากัน กำหนดวันที่จะแต่งงานแล้วกัน”
หลี่เฉิงเจี๋ยดีใจมาก “ได้ครับ ผมว่างานแต่งยิ่งจัดเร็วยิ่งดีครับ สิ้นเดือนหรือไม่ก็ต้นเดือนหน้าได้ไหมครับ?”
ซูเจิ้นหางกล่าวว่า “นายไปปรึกษากับมู่ชิงดูแล้วกัน หาวันดีๆ จะแต่งเร็วๆ นี้หรือรอสักพักค่อยแต่งก็ได้”
“ขอบคุณครับคุณปู่!” หลี่เฉิงเจี๋ยดีใจจนเปลี่ยนสรรพนามที่เขาใช้เรียกซูเจิ้นหาง!
ซูมู่ชิงเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมือง ถ้าได้แต่งงานกับหญิงสาว เขาก็จะได้หน้าในวงสังคมเศรษฐีในเมืองหลวง
อีกอย่าง หลี่เฉิงเจี๋ยชื่นชมซูมู่ชิงมานาน
เมื่อกดวางสาย ดาราสาวนามหยางไฉ่เอ๋อ กลับเริ่มถอดเครื่องประดับศีรษะของนางสนมอันหนักอึ้ง ที่หล่อนสวมใส่ออก แถมท่าทางยังโกรธเล็กน้อย
“เธอถอดมันออกทำไม?” หลี่เฉิงเจี๋ยถามขึ้น
หยางไฉ่เอ๋อตอบเคืองๆ “ก็คุณจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่นแล้ว ฉันจะใส่ไว้ทำไมกัน?”
หลี่เฉิงเจี๋ยเดินเข้ามาหากอดหยางไฉ่เอ๋อที่เรือนร่างอรชรส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ ร้าย “ที่รัก การที่ผมแต่งงานกับซูมู่ชิงไม่ได้ย้อนแย้งกับการที่ผมจะรักคุณ”