เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 363 คุณด้อยกว่าผมหนึ่งระดับ
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 363 คุณด้อยกว่าผมหนึ่งระดับ
ตอนที่ 363 คุณด้อยกว่าผมหนึ่งระดับ!
เย่เฉินล้วงเอาบัตรหลากประเภทออกมาในคราวเดียว ทำเอาพนักงาน FAO ต่างตกใจกันหมด
ตอนที่เพิ่งเห็นเย่เฉิน พวกเขาเห็นเย่เฉินถือถุงของ Bloveswan อยู่ยังคิดว่าเย่เฉินเป็นแค่คนจนเท่านั้น
อย่างไรเสียร้านอย่าง Bloveswan ก็เป็นสถานที่ที่คนจนและคนอายุน้อยๆ เท่านั้นจะเข้าไป
สิ่งของในร้านราคาไม่เกินร้อยทั้งนั้น ซึ่งถือว่าถูกมาก ซึ่งถือว่าต่างกันราวฟ้ากับเหวจากร้านหรูหราอย่าง FAO แห่งนี้
ที่จริงเย่เฉินไม่ได้ซื้อของอะไรที่ร้านนั้น เพียงแต่หยิบถุงในห้องพักพนักงานรักษาความปลอดภัยเพื่อเอามาใส่ตุ๊กตาหมีของลูกสาวเท่านั้นเอง
พนักงานรับกองบัตรเน่าๆ มาแล้วค่อยๆ พลิกดูทีละใบ แล้วอ่านทวนตามที่เห็น แล้วความตกใจบนใบหน้าของหญิงสาวก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย
“บัตรทองห้างสรรพสินค้า JFS บัตรเงินของ TAIKOO ที่ซานหลี่ถุน บัตรสมาชิกระดับทองของ studio21 แล้วก็บัตรสมาชิกระดับสุดยอดเพชรของ FAO!”
เมื่อได้ยินเสียงพนักงานอ่านออกมา เย่เฉินก็กล่าว “เจอแล้วเหรอครับ?”
พนักงานหญิงถือบัตรสมาชิกระดับสุดยอดเพชรของ FAO ใบนั้นแล้วชะงักนิ่งไป “ไม่สิ สมาชิกระดับสูงสุดของเราคือระดับ
พนักงานหญิงคิดว่าเย่เฉินที่ถือถุงพลาสติกของร้านขายของราคาถูกอย่าง Bloveswan แต่ในถุงนั้นกลับใส่บัตรทองเอาไว้เป็นจำนวนมาก บัตรทองทุกใบในถุงใบนั้นถ้าอยากจะทำเกรงว่าต้องใช้เงินหลายล้าน!
บัตรจำนวนมากขนาดนี้แปลว่าเขาซื้อของในร้านค้าต่างๆ รวมๆ แล้วหลายสิบล้าน!
แต่ในสายตาพนักงานหญิงนั้น ไม่ว่าจะมองยังไงเย่เฉินก็ไม่เหมือนคนที่ใช้เงินหลายสิบล้านมาก่อนด้วยซ้ำ!
เย่เฉินที่ตกเป็นเป้าสงสัย ก็เริ่มไม่พอใจ “คุณมาใหม่ใช่ไหมล่ะ? หรือว่าอำนาจคุณน้อยเกินไป? ถ้าคุณไม่รู้คุณลองไปถามผู้จัดการร้านได้นะ ถามเขาว่ามีบัตรสมาชิกระดับสุดยอดเพชรหรือเปล่า!”
พนักงานชะงักไปแล้วรับคำ “ก็ได้ คุณรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันจะโทรหาผู้จัดการร้านของเรา”
พนักงานร้านกดโทรศัพท์ต่อหน้าเย่เฉิน
“ฮัลโหล ผู้จัดการ ขอโทษนะคะที่รบกวนค่ะ มีแขกท่านหนึ่งมีบัตรสมาชิกระดับสุดยอดเพชรของเรา เขาจะเข้ามาในร้าน ไม่ทราบว่าร้านเรามีบัตรสมาชิกระดับนี้ไหมคะ?”
พนักงานถามปลายสาย
น้ำเสียงปลายสายตกใจทันที “สมาชิกระดับสุดยอดเพชรเหรอ? ถามหน่อยว่าเขาชื่ออะไร?”
พนักงานหญิงคนนั้นก็หันมาถามเย่เฉิน “ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายชื่ออะไรคะ?”
เย่เฉินคิดแล้วตอบ “เย่เซวียน!”
พนักงานหันกลับไปตอบปลายสาย “ผู้จัดการคะ เขาบอกว่าชื่อเย่เซวียน”
แล้วสียงปลายสายก็กำกับหญิงสาวทันที “รับรองเขาให้ดีที่สุด! ถ้ากล้าทำอะไรผิดพลาดล่ะก็ ฉันจะไล่เธอออกทันที! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
พนักงานก็ดูกังวลชึ้นมาทันที “ค่ะ ผู้จัดการ ฉันจะรับรองคุณเย่ให้ดี!”
เมื่อวางสายเสร็จ พนักงานก็รีบหันมาค้อมตัวลงเพื่อขอโทษเย่เฉินทันที “ขอโทษด้วยนะคะ คุณผู้ชาย ฉันมีตาหามีแววไม่ค่ะ ไม่รู้ว่าเรามีสมาชิกระดับสุดยอดเพชรด้วย เลยรบกวนเวลาอันมีค่าของคุณ คุณผู้ชายเชิญเข้าไปในร้านได้เลยค่ะ”
“อืม”
เย่เฉินเอื้อมมือไปรับบัตรแล้วยัดทั้งหมดใส่กระเป๋าเงิน ดูแล้วบัตรพวกนี้ของเย่เซวียนจะมีประโยชน์มากทีเดียว
หลังจากที่เข้ามาแล้ว พนักงานหญิงก็รีบถามทันที “คุณเย่คะ คุณทานอาหารเช้าแล้วหรือยังคะ? จะให้เราเตรียมอาหารเช้าให้คุณไหมคะ?”
“อ้อ ผมกินแล้ว ขอบคุณครับ”
เย่เฉินกินน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋แถวๆ ห้างเรียบร้อยแล้ว รสชาติก็อร่อยดีใช้ได้
“งั้นคุณคอแห้งไหมคะ? จะดื่มน้ำอะไรไหม กาแฟหรือน้ำเปล่าดี?” พนักงานยังคงรักษาระดับการให้บริการแบบโรงแรมห้าดาวเอาไว้
เย่เฉินหัวเราะ “ไม่ต้องหรอกครับ ผมมาหาลูกสาว”
เย่เฉินสาวเท้าเดินไปโผล่หน้าซือซือที่กำลังเลือกของเล่นอยู่ “ซือซือจ้ะ”
เด็กหญิงหันหน้ามาเห็นเย่เฉิน ก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที วิ่งมาหาเขาพลางตะโกน “คุณพ่อ!”
ส่วนในตอนนี้ทั้งซูมู่ชิงและหลี่เฉิงเจี๋ยต่างก็ตื่นตกใจ
“แปลกจัง เขาเข้ามาได้ยังไง?”
หลี่เฉิงเจี๋ยแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
“ลูกรักเมื่อวานหลับสนิทดีไหม”
ซือซือพยักหน้ารับ “ใช่ค่ะ เมื่อวานแม่กอดหนูหลับ แล้วเล่านิทานให้หนูฟังเยอะเลย”
และในเวลานี้เองพนักงานข้างๆ เย่เฉินก็ถาม “คุณเย่ นี่ลุกสาวคุณเหรอ?”
เย่เฉินหยักหน้ารับ
พนักงานชมเด็กหญิงไม่ขาดปากทันที “สวยจริงๆ ตอนที่แม่หนูน้อยคนนี้เข้ามา ฉันก็คิดแล้วว่าลูกาวหน้าตาสวยขนาดนี้ คุณพ่อคงต้องหล่อมากเหมือนกัน! แหม รองเท้าของลูกสาวคุณเหมือนจะเปื้อนนะคะ คุณรอสักครู่ เดี๋ยวฉันจะเช็ดให้เจ้าหญิงของเราหน่อยนะคะ”
พูดพลางหยิบผ้าผืนหนึ่งออกมา แล้วก้มตัวลงเช็ดรองเท้าให้ซือซือจนสะอาดด้วยตนเอง
ซูมู่ชิงและหลี่เฉิงเจี๋ยต่างตกใจ พนักงานที่นี่เย็นชาอย่างมาก เพราะว่าพนักงานที่นี่นั้นเป็นลูกคนรวยทั้งนั้น มาทำงานที่นี่เพียงเพราะหาอะไรสนุกๆ ทำเท่านั้น
ดังนั้นปกติแล้วพวกหล่อนเจอลูกค้าก็จะเย็นชา ไม่มีทางลดตัวมาทำอะไรแบบนี้แน่
แต่ว่าหลังจากที่เย่เฉินเข้ามาแล้ว พนักงานก็ทั้งเตรียมอาหารเช้าให้เขา แถมยังเช็ดรองเท้าให้ซือซือด้วย ท่าทีในการให้บริการนี้แตกต่างจากที่บริการให้พวกหล่อนเหมือนคนละเรื่องราวฟ้ากับเหว!
“ขอบคุณค่ะคุณน้า” ซือซือเองก็กล่าวขอบคุณพนักงานในร้านอย่างมีมารยาท
แล้วตอนนี้จู่ๆ หลี่เฉิงเจี๋ยก็เดินมา แล้วถามพนักงานในร้าน “ไม่ใช่เวลาทำการเสียหน่อย มีแค่สมาชิกระดับเพชนเท่านั้นที่จะเข้ามาในร้านได้ ทำไมพวกคุณถึงปล่อยให้เขาเข้ามา? ต่อให้เขารู้จักกับเรา คุณก็ต้องถามความเห็นของพวกผมหน่อยใช่ไหมหรือไง?”
หลี่เฉิงเจี๋ยดันคิดไปเองว่าพนักงานเห็นเย่เฉินทักทายซือซือผ่านทางหน้าต่าง คิดว่าเย่เฉินน่าจะรู้จักกับพวกเขาถึงได้ยอมปล่อยอีกฝ่ายออกมา
หลังจากนั้นหลี่เฉิงเจี๋ยเองก็หันมองเย่เฉินอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก “ฉันว่านายนี่ออกจะเอาเปรียบคนอื่นไปหน่อยหรือเปล่า? เมื่อวานก็เนียนกินข้าวฟรีที่บ้านของมู่ชิง วันนี้ก็มาเนียนใช้บัตรสมาชิกระดับเพชรของฉัน ผู้ชายอกสามศอกอย่านายช่วยรักศักดิ์ศรีตัวเองบ้างเถอะนะ? ฉันยอมให้นายเนียนใช้หรือยัง?”
เย่เฉินยังไม่ทันตอบ พนักงานก็เป็นฝ่ายอธิบายเอง “คุณหลี่ คุณอย่าเข้าใจผิดนะคะ คุณเย่ไม่ได้ใช้สิทธิ์ของคุณค่ะ”
หลี่เฉิงเจี๋ยกล่าวอย่างเหยียดหยามทันที “ไม่ได้ใช้บัตรฉัน? หรือเขามีบัตรสมาชิกระดับเพชรของร้านเหรอ?”
พนักงานส่ายหน้า หลี่เฉิงเจี๋ยก็กล่าวด้วยใบหน้าลิงโลด
ทว่าพนักงานกลับชิงอธิบายทันที “คุณเย่ไม่ใช่สมาชิกระดับเพชรค่ะ แต่เป็นสุดยอดเพชร เป็นสมาชิกที่ระดับเหนือกว่าของคุณ!”
“พูดอะไรน่ะ?” พอเขาได้ยินก็นิ่งไปทันที “สุดยอดเพชรเหรอ? ทำไมไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน! ต้องใช้เงินเท่าไหร่?”
พนักงานตอบ “ฉันเองก็ไม่แน่ใจหรอกค่ะ อาจจะไม่เพราะใช้เงินเยอะ แต่อาจจะเพราะเป็นคนใหญ่คนโต ผู้จัดการร้านถึงให้บัตรเขา”
หลี่เฉิงเจี๋ยหัวเสียทันทีที่ได้ยิน “บ้า! งั้นเธอหมายความว่าฉันไม่ใช่คนใหญ่คนโตเหรอ?”
พนักงานหญิงไม่กล้าล่วงเกินอีกฝ่าย จึงรีบอธิบาย “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนี้…”
ทว่าเย่เฉินกลับพูดตรงๆ “ก็หมายความว่าระดับสมาชิกของผมเหนือคุณไง! น้องพนักงานก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนะ!”