เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 387 คุณพ่อมาช้าเกินไป
ตอนที่ 387 คุณพ่อมาช้าเกินไป!
“แย่แล้ว!”
เฉียนช่วนจื่อเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี ก็รีบวิ่งไปรายงานหลี่เฉิงเจี๋ยทันที
“คุณชาย! คุณชาย! แย่แล้ว ไอ้เด็กเย่เฉินเรียกพวกมาแล้ว!”
เฉียนช่วนจื่อลนลานวิ่งเข้าไปในห้องรับแขก สะดุดขาตัวเองล้มคุกเข่าลงบนพื้น
หลี่เฉิงเจี๋ยเองก็เริ่มลนลานขึ้นมา เขาเองก็พอจะได้ยินเสียงผิดปกติจากด้านนอก “พวกเขามากันกี่คน?”
เฉียนช่วนจื่อตอบ “พวกเขาทั้งหมดเป็นคนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
หลี่เฉิงเจี๋ยกล่าว “ไม่ต้องกลัว พวกเขาบุกเข้ามาไม่ได้หรอก!”
และในเวลานี้เองพ่อของหลี่เฉิงเจี๋ยเองก็รีบเดินมาหาลูกชาย กล่าวด้วยท่าทีตึงเครียด “เฉิงเจี๋ย แกไปทะเลาะกับใครกันแน่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะพาพวกมาถล่มบ้านเรา! ถ้าข่าวแพร่ออกไปฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!”
มารดาของหลี่เฉิงเจี๋ยกล่าว “ต้องเป็นฝีมือนังเด็กบ้าซูมู่ชิงแน่นอนที่โทรหาชู้รัก นังแพศยานี่ฉันสั่งสอนไม่เท่าไหร่ คิดไม่ถึงว่าจะวิ่งโร่ไปฟ้องให้คนมาถล่มบ้านเรา คราวนี้ฉันจะต้องสั่งสอนหล่อนให้ดีๆ!”
พูดพลางมารดาหลี่เฉิงเจี๋ยก็วิ่งโร่ไปหาซูมู่ชิงที่บนบ้าน
หลี่เฉิงเจี๋ยละอายใจ ถ้าเขาไม่ชะล่าใจแล้วรังแกอีกฝ่าย ถ้าเขาแค่ปล่อยอีกฝ่ายเข้ามาบางทีอาจจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับบิดาของเขา “ขอโทษด้วยนะครับพ่อ ผมประมาทไปหน่อย”
“ฮึ ประมาทศัตรูถือเป็นเรื่องใหญ่ แกอายุก็ตั้งสามสิบกว่าแล้ว ทำไมถึงยังทำผิดแบบนี้อีก!”
บิดของหลี่เฉิงเจี๋ยสบถด่าอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “แต่ไม่เป็นไร ใครให้แกเป็นลูกฉัน ฉันจะช่วยแกคิดแล้วกัน”
เขาลองโทรศัพท์หาใครคนหนึ่ง แต่ปลายสายไม่มีใครรับ เขาเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกเทคโนโลยีจึงหันไปถามลูกชาย “เฉิงเจี๋ย ทำไมโทรออกไม่ได้ล่ะ?”
หลี่เฉิงเจี๋ยหยิบโทรศัพท์มาดูก็พบว่าโทรศัพท์นี้ไร้สัญญาณ!
หลี่เฉิงเจี๋ยหยิบโทรศัพท์ตนเองออกมา ซิมของทั้งสองเครือข่ายที่มีในประเทศนี้ต่างก็ไร้สัญญาณ!
อีกทั้งสัญญาณ WIFI ในบ้านก็ต่อไม่ได้ สัญญาณเน็ตก็ใช้ไม่ได้!
“ซวยแล้ว!”
ในขณะที่หลี่เฉิงเจี๋ยลนลานอยู่นั้น สิ่งที่ทำให้เขาคาดคิดไม่ถึงก็คือเย่เฉินและซีกวาได้บุกกลุ่มคนเข้ามา กรูกันเข้ามาในสวนของตระกูลหลี่!
“อะไรนะ? นี่เป็นไปไม่ได้! นี่มันยังไม่ถึงสิบนาทีเลย ทำไมเขาบุกเข้ามาได้แล้วล่ะ!”
หลี่เฉิงเจี๋ยและเฉียนช่วนจื่อต่างก็ตกใจจนตัวสั่นเทิ้ม
พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเองมาเกินไป!
คนพวกนี้เป็นนักเลงที่หลิวเจิ้งคุนตั้งใจฟูมฟักอย่างตั้งอกตั้งใจมาตลอดสิบปี!
คนพวกนี้โดนฟูมฟักดูแลแต่ละคนมีค่าตัวหลายล้าน พวกนักเลงหัวไม้ที่วันๆ ไปขลุกที่บาร์จะสู้กับพวกเขาได้ยังไง!
พวกเขาคนเดียวสามารถรับมือคนห้าคนได้อย่างสบายๆ!
ดังนั้นแค่ไม่กี่นาทีจึงต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบแน่นอน!
แล้วถ้าตระกูลหลี่อยากจะเรียกกำลังเสริมงั้นเหรอ?
ขอโทษด้วยนะ พวกคุณคงโทรหาใครไม่ได้!
นี่คือเย่เฉิน!
เขาที่กลับมาจากสงคราม ทันทีที่ลงมือเขาไม่มีทางให้อีกฝ่ายมีโอกาสได้พักหายใจ เขาจะต้องทำให้ฝ่ายตรงข้ามหมดเรี่ยวแรงจนไม่มีหนทางจะพลิกสถานการณ์โต้กลับ!
“หลี่เฉิงเจี๋ย!”
เย่เฉินที่เดินเข้ามาในตัวบ้าน เจอหลี่เฉิงเจี๋ยที่ยืนอยู่ในห้องรับแขก จึงตะโกนเรียนชื่อเขาขณะเดินดุ่มๆ ไปหา
เฉียนช่วนจื่อตะโกนลนลาน “ใครก็ได้ ช่วยปกป้องคุณชายกับนายท่านหน่อย!”
เหล่าลูกน้องของตระกูลหลี่ รีบเดินไปด้านหน้าบิดาของเขาและหลี่เฉิงเจี๋ย แล้วปกป้องพวกเขา
เย่เฉินและซีกวาสอยหมัดใส่พวกเขาทีละคน สาวเท้าเดินตรงเข้าไปในประตูห้องรับแขกช้าๆ
เพิ่งมาถึงประตูบ้าน ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กหญิง
“คุณพ่อ คุณแม่…”
เย่เฉินรู้ทันที “ซือซือ!”
เขาฟังออกว่าเสียงนี้เป็นเสียงร้องไห้ของซือซือลูกสาวเขา!
เสียงนี้ดังมาจากชั้นสอง!
เย่เฉินไม่มีแก่ใจจะมาทะเลาะวิวาทกับหลี่เฉิงเจี๋ย เขาต้องการจะดูก่อนว่าลูกสาวเขาเป็นอย่างไรบ้าง จึงพุ่งพรวดขึ้นไปชั้นสอง!
ส่วนลูกน้องของตระกูลหลี่นั้น ส่วนมากต้องคอยเฝ้าปกป้องหลี่เฉิงเจี๋ยและพ่อของเขา ดังนั้นถึงไม่สามารถไปขวางเย่เฉินขึ้นไปด้านบนได้
เย่เฉินเดินไปเปิดประตูห้องตามเสียงร้องไห้ แล้วก็พบว่าบุตรสาวเขาอยู่ในนั้นจริงๆ!
ซือซือกำลังนอนบนพื้นร้องไห้ตาปูดตาบวม ส่วนคนที่ยืนตรงหน้าเด็กหญิง เป็นคุณป้าคนหนึ่งคิดว่าน่าจะเป็นคนใช้ของตระกูลหลี่
หล่อนยืนสั่งสอนซือซือไม่หยุด “ร้องไห้อะไรนักหนา เด็กอนาถาของเธอ ร้องไห้อีกเดี๋ยวแม่จับไปโยนให้หมาป่ากินในป่าเลยนะ!”
เย่เฉินที่เห็นภาพนี้และได้ยินเช่นนี้ หมัดของเขาก็กำแน่นก็สั่นระริก!
ไม่มีใคร ไม่มีใครทั้งนั้นที่จะพูดแบบนี้และทำแบบนี้กับลูกสาวของเขา!
คนใช้แก่ๆ ยังไม่รู้ว่าเย่เฉินยืนอยู่ตรงประตู เขาเดินตรงไปคว้าแขนของหญิงรับใช้แล้วกระชากหล่อนออกไปอีกทาง!
หญิงแก่กระเด็นไปที่ประตู แล้วไถลลงบันได
“คุณพ่อ!”
ซือซือเห็นเย่เฉินก็ร้องไหขี้มูกโป่งทันที เด็กหญิงชันตัวลุกขึ้นมาจากพื้น เพื่อจะวิ่งเข้าไปหาอ้อมอกบิดา
แต่ว่าทันทีที่หล่อนเพิ่งจะลุกขึ้น ขาก็ไร้เรี่ยวแรงและล้มลงกองพับพื้นทันที
เย่เฉินรีบร้อนทรุดตัวนั่งยองๆ เขากอดบุตรสาว “ซือซือ ลูกเป็นอะไรไป? ขอโทษด้วยนะที่พ่อมาช้า”
ซือซือที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดบิดา น้ำหูน้ำตาไหล เด็กหญิงที่อายุไม่ถึง 4 ปีจะพูดแบบนี้กับบิดาตนเองด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
“พ่อหนูไม่ใช่ขยะ พ่อหนูไม่ใช่ขยะ…! ฮือๆ…”