เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 470 หลิ่วอวี่เจ๋อตามจีบซูมู่ชิง
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 470 หลิ่วอวี่เจ๋อตามจีบซูมู่ชิง
ตอนที่ 470 หลิ่วอวี่เจ๋อตามจีบซูมู่ชิง!
ในค่ำคืนวันต่อมา ในร้านเหล้า ONYX ณ กรุงเทพ ประเทศไทย
ในร้านเหล้าโดยมี DJ เปิดเพลง แล้วทั้งร้านเหล้าก็ต่างก็ครึกครื้น ผู้ชายผู้หญิงต่างก็กระโดดโลดเต้นไปตามทำนองของบทเพลงอิเล็กโทรนิค
มีแค่หลิ่วอวี่เจ๋อที่นั่งเงียบๆ ที่นั่น จิบวิสกี้อยู่ เขาไม่ได้มีอารมณ์ไปกระโดดโลดเต้นเพราะเขากำลังรอฟางเชา
คืนวานหลังจากที่ติดต่อกับฟางเชาแล้ว ฟางเขาก็นัดมาเจอเขาที่นี่
ผู้หญิงเรือนผมยาวสลวยเดินมาอย่างรวดเร็ว ตบบ่าหลิ่วอวี่เจ๋อแล้วชี้ไปที่นอกประตู
เหมือนมีเรื่องอยากจะคุยกับเขา
หลิ่วอวี่เจ๋อคิดไปว่าตนเองหล่อ สาวในร้ายเหล้าคนนี้ชอบเขาก็รีบโบกมือ “ขอโทษครับ ผมรอคนอยู่”
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับดึงดันจะลากมือเขาออกไปข้างนอก
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวอย่างไม่พอใจ “ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรเนี่ย ก็บอกแล้วว่ากำลังรอคนอื่นอยู่ ไม่เข้าใจภาษาจีนแล้วก็ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษด้วยหรือไง?”
หลิ่วอวี่เจ๋อนั่งดื่มเหล้าต่อ
แต่ใครจะรู้ว่าหญิงสาวทำหน้าเหนื่อยหน่ายแล้วตะโกนใส่หูเขา “ฉันคือฟางเชาโว้ย!”
พรูด!
หลังจากที่หลิ่วอวี่เจ๋อได้ยินแล้วก็พ่นเหล้าในปากออกมา!
เขามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาหวาดกลัว
นี่มันฟางเชาเหรอเนี่ย?
เสียงเพลงในร้านโหวกเหวก อีกทั้งไฟก็มืด ทั้งสองคนเดินออกจากร้าน หลิ่วอวี่เจ๋อก็มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างละเอียด
“แม่ง! ฟางเชา นาย…นายแปลงเพศเหรอเนี่ย! มิน่าล่ะนายถึงไม่ยอมกลับบ้าน นี่ถ้าพ่อแม่นายรู้เข้า โกรธตายชักเลย!”
หลิ่วอวี่เจ๋อพบว่าฟางเชาเปลี่ยนไปราวคนละคน ผอมลง ขาวขึ้น แล้วศัลยกรรมหน้าด้วย
ถ้ามองจากที่ไกลๆ นี่คือผู้หญิงเซ็กซี่คนหนึ่งชัดๆ!
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ฉันได้ยินเรื่องของนายแล้ว เย่เฉินไอ้เดียรัจฉานนี่คิดไม่ถึงว่าจะลงมือทำร้ายนายแรงขนาดนี้! สบายใจได้เลย ฉันจะล้างแค้นแทนนายแน่!”
ฟางเชาหยิบบุหรี่ของผู้หญิงบออกมาจากกระเป๋าชาแนลแล้วกล่าว “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องในอดีตแล้ว เย่เฉินไม่ใช่คนที่เราจะล่วงเกินได้ อีกอย่างเป็นผู้หญิงฉันว่าก็ดีออก”
หลิ่วอวี่เจ๋อ “…”
ฟางเชาเหมือนว่าดูแล้วจะพอใจในสภาพในตอนนี้มากทีเดียว!
“จริงสิ นายมาหาฉันทำไม?” ฟางเชาพ่นควันออกมาเป็นวงแล้วถาม
หลิ่วอวี่เจ๋อย้อนถาม “ตอนนี้เย่เฉินตาบอดแล้ว นายรู้ไหม?”
หางเขาจงใจทำท่าทางตกใจ “ตาบอดเหรอ? ไม่รู้ ใครทำเหรอ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ตอนนี้เย่เฉินสงสัยว่านายเป็นคนวางยาทำร้ายเขา”
สีหน้าฟางเชาเหรอหรา “สวรรค์ ฉันไม่ได้ทำร้ายเขาสักหน่อย ตอนนี้ฉันเป็นสาวสวยแบบนี้จะเอาอะไรไปสู้กับคุณชายในตระกูลใหญ่ๆ แบบเขา”
หลิ่วอวี่เจ๋อตบบ่าฟางเชาแล้วกล่าว “ฉันรู้ว่านายไม่ได้ทำ แต่หวังว่านายจะยอมรับสารภาพ!”
ฟางเชาผลักมืออีกฝ่ายทิ้งอย่างรังเกียจ “ฉันไม่ได้ทำ ทำไมต้องรับด้วย?”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “จะพูดกับนายตรงๆ เลยแล้วกันนะ เย่เฉินตอนนี้มีภรรยาชื่อซูมู่ชิง เป็นลูกสาวของตระกูลใหญ่โตที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของเมืองหลวงหน้าตาสวยด้วย หลังจากที่เย่เฉินตาบอด เลยตั้งใจว่าจะหย่ากับซูมู่ชิง เขารับปากฉันว่าจะยอมยกซูมู่ชิงให้ฉัน ฟางเชาถ้านายยอมช่วยฉัน ฉันจะให้พ่อนายกลับไปรุ่งเรืองเหมือนที่ผ่านมา แล้วจะช่วยให้เขากลายเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองอวิ๋นโจวจะรุ่งเรืองกว่าที่ผ่านมาด้วย! แล้วก็ลูกนายด้วยฉันจะดูแลพวกเขาเหมือนลูกของตัวเอง ฉันยอมจะยกหุ้นของชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสให้พวกเขา นายคิดว่ายังไงบ้าง?”
ฟางเชาตอนนี้เป็นคนขี้กลัวมาก “แต่ปัญหาก็คือฉันไม่ได้ทำเสียหน่อย ต่อให้ฉันยอมรับ เย่เฉินก็ไม่เชื่อหรอก”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “นายสบายใจเถอะ ฉันจะเอาตัวพนักงานที่วางยาเย่เฉินไปด้วย พอตอนนั้นนายก็แค่บอกว่านายเป็นคนสั่งก็พอ ฉันจะขอร้องเขาแทนนาย อย่างมากเขาก็คงจะซ้อมนายไม่กล้าทำอะไรนายหรอก”
ฟางเชาสงสัยอย่างมาก “ทำไมนายถึงได้รู้จักพนักงานที่วางยาเย่เฉินล่ะ? หรือว่านายเป็นคนทำเรื่องนี้เหรอ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อคิดว่าอย่างไรเสียฟางเชาก็เกลียดเย่เฉินเหมือนตนเองจะบอกความจริงเขาไปก็ไม่เป็นไร
“ถูกต้อง ฉันเป็นคนสั่งให้วางยาเขา! ไอ้เดียรัจฉานเย่เฉินนี่ทำนายกับฉันไม่ใช่ผู้ชายอกสามศอก ทำเขาตาบอดก็ยังเบาเกินไป!”
ฟางเชาถอนหายใจอย่างเสียดาย ถึงแม้ว่าเขาจะอยากล้างแค้นเย่เฉิน แต่เขารู้ว่าถ้าล่วงเกินเย่เฉินอีก เขาไม่มีทางจบดีแน่นอน
เขาเองก็รู้ดีว่าลูกพี่ลูกน้องคนนี้จบเห่แล้ว!
ทั้งสองคนนัดแนะกันว่าเช้าวันต่อมาจะกลับไปเจอเย่เฉินที่เมืองหลวง คืนวันนั้นหลิ่วอวี่เจ๋อกลับไปที่โรงแรมที่เขาพักในกรุงเทพ
ทันทีที่คิดว่าพรุ่งนี้จะสามารถจัดการเรื่องที่เย่เฉินมอบหมายให้ได้สำเร็จ แล้วได้ครอบครองซูมู่ชิงก็ดีใจอย่างมาก!
หลิ่วอวี่เจ๋อก็เปิดวีแชทคุยกับซูมู่ชิงอีกครั้ง เขายังจงใจตั้งค่าพื้นหลังเป็นรูปภาพของหญิงสาว ทุกครั้งเห็นใบหน้าสะสวยของหล่อนก็อดใจเต้นระรัวไม่ได้!
พูดกันตามตรงในสายตาเขาแล้ว หวังเจียเหยากับซูมู่ชิงหน้าตาสะสวยพอกัน แต่ว่าหวังเจียเหยาไม่เคยให้เขาตื่นเต้นจนอยากเข้าหาขนาดนี้!
เพียงแต่เพราะว่าที่บ้านซูมู่ชิงยิ่งใหญ่กว่าหวังเจียเหยามากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านของหล่อนยังยิ่งใหญ่กว่าเขาด้วย ความสวยของซูมู่ชิงเลยชนะหวังเจียเหยา!
เหมือนกับที่ผู้หญิงชอบคนรวย ผู้ชายเองทำไมจะไม่คิดจะเกาะผู้หญิงบ้างล่ะ อย่างผู้หญิงที่มีเงื่อนไขครอบครัวที่ดีบ้าง?
หลิ่วอวี่เจ๋อค่อยๆ พิมพ์บอกแล้วส่งข้อความบอกซูมู่ชิง
“มู่ชิง ผมหาตัวคนวางยาสามีคุณแล้วนะครับ เป็นฝีมือของไอ้เดียรัจฉานฟางเชาจริงๆ ด้วย! ผมจับตัวเขาได้แล้ว พรุ่งนี้จะพาตัวเขาไปเมืองหลวงให้พี่เย่เฉินจัดการเขา!”
ซูมู่ชิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ดีจังเลย ขอบคุณนะคะ!”
ในความจริงแล้วคนที่ตอบเขาไม่ใช่ตัวซูมู่ชิงแต่อย่างใด แต่เป็นซวงเอ๋อร์สาวใช้ของซูมู่ชิง
ตั้งแต่หลังจากที่ทั้งสองคนเพิ่มวีแชทกันแล้วคนที่คุยกับหลิ่วอวี่เจ๋อก็คือซวงเอ๋อร์
เพราะหล่อนอายุยังน้อย จึงพูดจาน่ารักอย่างมาก แถมยังชอบส่งอีโมจิมาด้วย ทำให้หลิ่วอวี่เจ๋อเข้าใจผิดไปว่านี่คือสัญญาณที่บอกว่าซูมู่ชิงชอบเขามาก
หลิ่วอวี่เจ๋อได้รับข้อความตอบกลับ แล้วตื่นเต้นอย่างมากเขาจึงพิมพ์ถาม “พี่เย่เฉินเขานอนหลับแล้วเหรอ?”
ซูมู่ชิง “หลับแล้ว!”
หลิ่วอวี่เจ๋อ “มู่ชิง ผมโทรหาคุณได้ไหมครับ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อดื่มเหล้า เมามายไปเล็กน้อยบวกกับที่คุยกับหล่อนมาทั้งวัน หลิ่วอวี่เจ๋อเห็นซูมู่ชิงตอบเขาอย่างรวดเร็ว ก็รู้สึกได้ว่าถึงเวลาพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้น!
ตัวอย่างเช่นพลอดรักกันทั้งคืน
ซวงเอ๋อร์ที่อยู่ในห้องคนรับใช้ในเรือนสี่ประสานที่เมืองหลวงก็พิมพ์ตอบ “ฉันเจ็บคอค่ะ ไม่อยากคุยโทรศัพท์…”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ไม่เป็นไร คุณไม่พูดก็ไม่เป็นไร แค่ได้ยินเสียงลมหายใจของคุณผมก็พอใจแล้ว…. มู่ชิง คุณเป็นเหมือนนางฟ้าในใจผม ต่อให้เป็นเพียงแค่เสี้ยวลมหายใจ หรือรอยยิ้มเล็กๆ ก็ทำให้ผมพอใจมากแล้ว…”
ทันใดนั้นเองซวงเอ๋อร์ก็ขนลุก พึมพำกับตัวเอง “หลิ่วอวี่เจ๋อคนนี้เป็นหมามองเครื่องบินจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าตามจีบคุณหนูของพวกเรา!”