เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 477 ซูมู่ชิงไม่ใช่เจ้าของเหรอเนี่ย
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 477 ซูมู่ชิงไม่ใช่เจ้าของเหรอเนี่ย
ตอนที่ 477 ซูมู่ชิงไม่ใช่เจ้าของเหรอเนี่ย?
เป็นรถเบนท์ลี่ย์คันหนึ่ง ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นรถหรูหรา แต่เป็นรถรุ่นเก่า อีกทั้งตัวรถยังไม่ได้สะอาดนักหนา
ไม่เหมือนโรลซ์-รอยซ์สิบกว่าคันของหล่อนเมื่อครู่ ทุกคันเหมือนรถตัวอย่างที่จอดอยู่ในโชว์รูม มันปลาบเหมือนใหม่ทุกคัน
หลังจากที่รถจอดลงมาแล้ว ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ
พ่อบ้านฟางนั่นเอง
“พ่อบ้านฟาง!”
เย่เฉินและซูมู่ชิงเคยเจอพ่อบ้านฟางมาก่อน พวกเขาเดินปรี่เข้าไปหาอีกฝ่าย โดยมีซูหมิงเจ๋ออุ้มซือซือเดินตามไปติดๆ
“คุณชายสาม ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ!”
พ่อบ้านฟางยิ้มกว้าง จนเห็นริ้วรอยของความแก่ชราบนใบหน้าได้อย่างชัดเจน
ซูมู่ชิงเองก็ได้ยินชื่อเสียงของพ่อบ้านฟางมานานแล้ว ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นแค่พ่อบ้านแล้วหล่อนเป็นคุณนายน้อยของตระกูลเย่ แต่หล่อนไม่ได้มีท่าทีเหมือนหวังเจียเหยาที่ชอบวางท่าข่มคนอื่น
ซูมู่ชิงค้อมตัวทักทายอีกฝ่าย “สวัสดีค่ะพ่อบ้านฟาง ฉันคือภรรยาของเย่เฉินค่ะ ซูมู่ชิง”
พ่อบ้านฟางเองรีบร้อนค้อมตัวลงทักทายอีกฝ่าย “คุณนายที่สามน้อย
พอได้ยินพ่อบ้านฟางเรียกตนเองว่าคุณนายน้อย ได้ยินคำพูดต้อนรับของอีกฝ่าย ซูมู่ชิงก็ดีใจมากแล้ว
ในที่สุดก็มาถึงบ้านของสามีตนเอง ในที่สุดก็จะได้พบคนในครอบครัวของสามีตนเอง!
ซูหมิงเจ๋อรีบร้อนจับมืออีกฝ่าย “คุณฟางครับ สวัสดีครับ ผมคือซูหมิงเจ๋อ เป็นพ่อตาของเย่เฉิน”
พ่อบ้านรีบร้อนทักทายอีกฝ่ายอย่างสุภาพ “สวัสดีครับคุณซู”
ซือซือเองก็เรียกอีกฝ่ายอย่างร่าเริง “คุณปู่ซูสวัสดีค่ะ!”
“สวัสดีครับๆ คุณหนูซือซือ คุณท่านเห็นคุณหนูจะต้องดีใจมากแน่ๆ ทุกท่านเชิญขึ้นรถเถอะครับ” พ่อบ้านฟางกล่าว
ตอนที่คนตระกูลซูกำลังคุยกับพ่อบ้านฟางอยู่นั้นเอง พวกเพื่อนๆ ของซูมู่ชิงที่อยู่ไกลๆ ก็คุยกัน
ฟางชิงพูดเหยียดๆ “รถคันนั้นเป็นรถของที่บ้านสามีมู่ชองเหรอ? ส่งรถมาแค่คันเดียวเองเหรอเนี่ย? งกไปหรือเปล่า?”
จางเหมิงกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ก็ใช้ได้นะ เบนท์ลี่ย์เชียวนะ”
ฟางชิงหัวเราะ “โอ้ย นั่นมันรุ่นเก่าเข้าใจไหม? ที่นี่ขายรถรุ่นนี้มือสองถูกจะตายรู้ไหม? ฉันล่ะสงสัยจริงๆ ว่าสามีของเพื่อนเราจะเป็นคนหลอกลวง!”
หลินเป้ยเป้ยรีบเตือน “นี่เบาๆ อย่าไปพูดต่อหน้ามู่ชิงเชียวล่ะ หล่อนชอบเย่เฉินมากนะ”
“ชิ” ฟางชิงแค่นเสียงเย็น
เย่เฉินให้ซูหมิงเจ๋อและซือซือขึ้นรถกันไปก่อน จากนั้นก็เดินกลับไปส่งภรรยาแล้วตั้งท่าจะบอกลาเพื่อนๆ ของภรรยา
พอเห็นเย่เฉินเดินกลับมาบนใบหน้าของฟางชิงก็ฉาบด้วยรอยยิ้มจอมปลอบทันที “อ้าว คุณชายเย่นี่คุณเป็นเศรษฐีนี่นา ส่งเบนท์ลี่ย์มารับด้วย แต่รถรุ่นนี้ไม่ค่อยเห็นในลอนดอนเลยนะ”
เย่เฉินพอจะฟังออกว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะเยาะเย้ยเขา
ฟางชิงเอารถมารับเป็นสิบคัน แต่เขาเอารถมาคันเดียว จะสู้หล่อนได้อย่างไรกัน?
เย่เฉินอธิบาย “รถคันนี้อาจจะเก่าไปหน่อย แต่พ่อบ้านฟางเขาแก่แล้วเลยชอบรถเก่า คงจะผูกพันกับรถก็เลยไม่ยอมเปลี่ยนเสียที”
ฟางชิงแสร้งทำท่าทีตกใจ “แหม ตระกูลเย่นี่เจ๋งจริงๆ มีพ่อบ้านด้วย แถมพ่อบ้านยังขับรถหูขนาดนี้เชียว งั้นพ่อคุณคงต้องขับรถหรูกว่านี้อีกล่ะสิใช่ไหม? จริงสิ คุณชายเย่ บ้านคุณอยู่ที่ไหนเหรอ? ฉันกับสามีอาศัยอยู่ในเขตคนรวยของอังกฤษ ไม่แน่ว่าเราอาจจะเป็นเพื่อนบ้านกันก็ได้นะ!”
เย่เฉินย่อมไม่สามารถบอกที่อยู่ของคุณปู่ให้คนอื่นไปเรื่อยได้
เย่เฉินกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “บ้านผมไม่ได้อยู่ย่านคนรวยครับ”
“คิก”
ฟางชิงแค่นเสียง ในที่สุดเย่เฉินก็ยอมรับว่าตนเองไม่ใช่ทายาทคนรวย!
ส่วนเย่เฉินเองก็คร้านจะอธิบายจึงถาม “พวกคุณจะไปดื่มเหล้าที่ Gilbey’s Bar ตรงถนน Whitehall ใช่ไหม? มู่ชิง ผมไปส่งพ่อคุณก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปรับ”
“ใช่ค่ะ Gilbey’s Bar ที่ถนน Whitehall ค่ะ” ฟางชิงกล่าว “ได้ยินมาว่ามู่ชิงของเราเป็นควีนของบาร์ในอังกฤษใช่ไหม? งั้นวันนี้ฉันไม่ต้องเลี้ยงแล้วใช่ไหม?”
ถึงแม้ว่าฟางชิงจะทำท่าทีเป็นมิตรเมื่อยู่ต่อหน้าเย่เฉิน ไม่พูดจาน่าเกลียดเกินเลย แต่กลับลอบเชือดเฉือนอีกฝ่าย โดยทุกคำพูดของเจ้าหล่อนนั้นเหมือนจะเต็มไปด้วยการหยั่งเชิงและหลอกถามเขา
เย่เฉินจึงกล่าว “ใช่ ไม่ว่าจะบาร์เล็กหรือใหญ่ของที่นี่เป็นของมู่ชิงหมดเลย คืนนี้พวกคุณสั่งเหล้าดื่มที่ Gilbey’s Bar ได้เต็มที่เลย ไม่ต้องจ่ายเงิน”
พวกฟางชิงดีใจจนเนื้อเต้น “จริงหรือเปล่า? พวกเราเชื่อแล้วนะ!”
ซูมู่ชิงเองก็ดีใจอย่างมาก ตื้นตันใจมากเหมือนกัน!
ตั้งแต่แต่งงานกันมาหล่อนก็ได้รับสมญานามว่า : ควีนแห่งบาร์ของประเทศอังกฤษ!
เพื่อนนักเรียนพวกนี้ล้วนแต่แอบเรียกหล่อนลับหลังแบบนี้
นานวันเข้าซูมู่ชิงเองก็เริ่มชินกับสมญานามนี้ อีกทั้งฉายานี้สามีก็เป็นคนตั้งให้ สามีที่หล่อนรักสุดหัวใจ หล่อนย่อมต้องชอบมากอยู่แล้ว!
ซูมู่ชิงถึงแขนเสื้อสามีอย่างเขินอายแล้วถามเขาเสียงแผ่ว “เป็นเรื่องจริงเหรอ? คนในบาร์เขาคงไม่รู้จักฉันหรอกมั้งคะ?”
เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “ที่รัก อย่าบอกนะครับว่าคุณคิดว่าผมหลอกคุณ? สบายใจเถอะ บาร์เหล้าทั้งหมดเป็นของบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง แล้วเจ้าของบริษัทนั้นก็คือคุณกับผม ดังนั้นผู้จัดการร้านเหล้าล้วนแต่รู้จักชื่อคุณกันหมด พอถึงตอนนั้นคุณแค่เอาเอกสารของคุณให้เขาดู ผมรับรองได้เลยว่าเขาจะต้องปรนนิบัติคุณเหมือนเจ้านายของพวกเขาเลยล่ะ”
ใบหน้าซูมู่ชิงมีรอยยิ้ม
ฟางชิงไม่พอใจแต่ก็ยังคงยิ้มแย้ม “งั้นพวกเรารีบไปที่ร้านเหล้าของมู่ชิงกันเถอะ อยากจะกินเหล้าฟรีไม่ไหวแล้ว”
จางเหมิงเองก็กล่าวพลางหัวเราะ“ฉันไปด้วยๆ ฉันอยากจะสั่งเหล้าที่แพงที่สุดบ้างเหมือนกัน!”
หลินเป้ยเป้ยแย่งพูด “สั่งทำไมแค่ขวดเดียว อย่างน้อยๆ ต้องสามขวดแล้ว ฮ่าๆ”
ซูมู่ชิงเองก็กล่าวอย่างใจกว้าง “เพื่อนๆ สั่งได้เลย ฉันเลี้ยงเอง!”
แล้วเห็นซูมู่ชิงและเพื่อนนักเรียนของหล่อนออกจากสนามบินอย่างดีใจ เย่เฉินก็มีความสุขมากเช่นกัน
“ที่รัก พาเพื่อนคุณไปสนุกให้เต็มที่เถอะ คุณคือควีนของบาร์ที่นี่ บางร์ทั้งหมดที่นี่เป็นกิจการของคุณ!”
เย่เฉินไม่ได้ซื้อบ้าน ซื้อรถให้หญิงสาว แขาเองก็เกลียดชังพวกผู้หญิงในประเทศที่ไขว่คว้าดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อของพวกนี้
แต่สิ่งที่เย่เฉินให้ซูมู่ชิงมากกว่านั้น!
ผู้หญิงแสนสวยทั้งสี่นั่งรถโรลซ์-รอยซ์สีขาวไปที่ Gilbey’s Bar ณ ถนน White Hall
หลังจากเดินเข้าไปในร้านแล้วก็พบว่าคนในร้านไม่เยอะ
ทั้งสี่คนนั้นตรงบริเวณบาร์ สาวสวยหน้าเอเชียสี่คน ตกเป็นเป้าสายตาของผู้=ายจำนวนไม่น้อย
จางเหมิงเคาะโต๊ะบาร์ แล้วกล่าวกับพนักงานเป็นภาษาอังกฤษ “ขอเหล้าที่แพงที่สุดในร้านให้เราหนึ่งขวด!”
หลินเป้ยเป้ยกล่าว “ขอเราสี่ขวด!”
ชายผิวขาวเช็ดแก้วไวน์ไปพร้อมๆ เตือน “คุณผู้หญิงแสนสวยทั้งสี่ท่าน เหล้าที่แพงที่สุดของเราราคาหลายพันปอนด์เลยนะครับ”
จางเหมิงกล่าวพลางหัวเราะ “หลายพันปอนด์แล้วทำไม เราไม่ต้องจ่ายเสียหน่อย เจ้าของร้านอยู่ที่นี่ นายไม่รู้จักเหรอ?”
“เจ้าของร้านเหรอครับ?” พนักงานชายงุนงง
ซูมู่ชิงมองพนักงานอย่างเป็นกังวลก่อนจะแนะนำตัวเอง “เอ่อ…สวัสดีค่ะ ฉันชื่อซูมู่ชิง หรือซินดี้ ซูเจ้าของเก๋อหลินหวังกรุ๊ป”
ทว่าหลังจากที่ได้ยินชื่อซูมู่ชิงแล้วพนักงานชายคนนั้นกลับกล่าวว่า “แล้วยังไงล่ะ? นี่คือสาเหตุที่พวกคุณกะจะเนียนกินเหล้าฟรีเหรอ?”