เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] - ตอนที่ 174 สะเทือนใต้หล้า
กองทัพเหมิงหยวน
ซูฉินกวาดตามองทหารกว่าห้าล้านที่เคลื่อนที่เข้ามา จาก นั้นจึงส่ายหัวเล็กน้อย “ช่างไม่รู้จักคุณค่าชีวิต”
ช่วงเวลาต่อมา
เปลวไฟก็ลุกโชนขึ้นที่ส่วนลึกของดวงตาซูฉิน เหมือ นกับดวงอาทิตย์กําลังแผดเผาผืนโลก
เปลวไฟอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมาจากรู้ม่านตาของซูฉินตอนแรกมันเผาไหม้ในรัศมีไม่กี่ร้อยเมตร แต่แล้วไฟก็ลุกลาม ไปอย่างรวดเร็วตราบใดที่กองทหารสัมผัสถูกประกายไฟแค่ เพียงเล็กน้อย ทั่วทั้งร่างก็จะลุกโชนด้วยเปลวเพลิงจนเป็นเหมือนกับกองไฟ
ท้ายที่สุดเปลวเพลิงทั้งหมดก็มาบรรจบกัน เผาไหม้อย่างรุนแรงสุมรวมกันจนกลายเป็น “ดวงไฟลูกใหญ่” เก้า ดวงหมุนวนไปโดยรอบ
ดวงไฟทั้งเก้า เผาผืนปฐพี ต้มทะเลจนเดือดพล่าน
ความแข็งแกร่งของซูฉินในขณะนี้ได้กระตุ้นเคล็ดคัมภีร์เก้าสุริยันออกมาแม้ว่าจะไม่สามารถสร้างดวงอาทิตย์ ได้จริงๆ แต่ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างลูกไฟเก้าลูกเผาผลาญ ทุกสรรพสิ่ง
ฟูม!
ทันใดนั้นเปลวเพลิงอันน่าสยดสยองก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งสนามรบทหารเหมิ่งหยวนจํานวนนับไม่ถ้วนไม่สามารถกระ ทําได้แม้แต่กรีดร้องพวกมันโดนแผดเผาจนกลายเป็นอา กาศธาตุ
“นี่มันคืออะไรกัน!”
ผู้นําอาณาจักรเหมิงหยวนตกใจอย่างยิ่ง ทันทีที่เขาหันศีรษะกลับมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในสนามรบ กองทหารเหมิงหยวนทั้งห้าล้านนายถูกแผดเผาด้วยดวงไฟลูกใหญ่อย่างสมบูรณ์
“ไม่!!!”
ผู้นําเหมิ่งหยวนหันหน้ากลับมาและต้องการจะวิ่งหนีไปแต่เปลวเพลิงนั้นลุกลามรวดเร็วจนเกินไป มันตามติดตัวเขามาได้ในทันทีด้วยเปลวเพลิงอันนั้น ร่างกายของผู้นํา เหมิ่งหยวนกําลังจะกลายเป็นเถ้าธุลีหยุดนิ่งอยู่กับที่
จังหวะที่สติของเขาเกือบจะเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์นั้นความสํานึกผิดก็ปรากฏขึ้นในใจของผู้นําแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนหากเขาไม่ระดมพลมาประกาศสงครามกับอาณาจักรถังผลที่เกิดจะแตกต่างไปจากนี้หรือไม่?
“ราชครูแห่งอาณาจักรเล่นงานขาเสียแล้ว…”
ผู้นําแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนก็พลันสลายหายไป
ในเวลานี้สถานการณ์รบค่อยๆ สิ้นสุดลง กองทัพเหยิ่งหยวนทั้งห้าล้านนายไม่อาจหนีพ้น พวกเขาทั้งหมดถูกห้อมล้อมไปด้วยเปลวเพลิงที่ส่งพวกมันให้กลายเป็นความว่าง เปล่า
“นี่มันไฟอะไรกันนี่?”
ในเมืองฉางอัน ขุนนางทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร จํานวนมากมองเห็นฉากนี้ก็ได้แต่ลอบกลืนน้ําลาย ตัวสั่นงันงก
พวกเขาคิดไว้แล้วว่าตํานานยุทธนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่สนใจว่าจะต้องต่อสู้กับผู้คนจํานวนมากเท่าไหร่ แม้จะเป็นกองทัพนับล้านก็สามารถทะลวงฝ่าไปได้อย่างง่ายดายโดยไม่ได้เปลืองแรงมากมายนัก
แน่นอนว่าไล่ล่าสังหารได้ แต่ตอนนี้ ชั่วระยะเวลาเพียงไม่นานกองทัพทั้งห้าล้านนายกลับถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่านใน ทันทีสิ่งนี้มันคืออะไรกัน?
“ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว”
ซูฉินเหลือบมองไปที่สนามรบและคิดใคร่ครวญอยู่กับตนเอง
อันที่จริงเคล็ดเก้าสุริยันนั้นทรงพลัง แม้แต่ผู้คิดค้นวิชานี้ก็คงไม่สามารถที่จะเผากองทัพกว่าห้าล้านนายในคราวเดียว ได้เช่นนี้
นี่คือจุดแข็งที่น่าหวาดกลัวของซูฉิน เขาทําให้เคล็ดเก้าสุริยันเพิ่มระดับขึ้นหลายระดับในคราวเดียว
“น่าเสียดาย
“การใช้เปลวเพลิงปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้นทําให้พลังลดลงไปอย่างมหาศาล มันสามารถนํามาใช้กับจอ มยุทธที่อยู่ในขอบเขตวิทยายุทธทั้งเก้าระดับชั้นได้เท่านั้น”
ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อย ประเมินวิชานี้อยู่ภายในใจ
หากนําดวงไฟอันยิ่งใหญ่ทั้งเก้ามารวมอยู่จุดเดียว สามารถทําลายตํานานยุทธได้เลยทีเดียว
แต่ถ้ามันกระจายกําลังกันออกไปเช่นนี้ ย่อมไม่เป็นภัยคุกคามใดต่อตํานานยุทธ และแม้แต่ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งบางคนก็สามารถต้านทานมันได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ในตอนนี้กองทัพเหมิ่งหยวนมียอดยุทธระดับสูงหลาย คนที่พอจะทนต่อการแผดเผาของเปลวไฟได้ แต่ในเวลาต่อมา เมื่อเปลวเพลิงค่อยๆ รวมตัวกันพวกเขาก็สลายกลาย เป็นความว่างเปล่าโดยสมบูรณ์
“ได้เวลากลับไปแล้ว”
ซูฉินเหลือบมองที่สนามรบอีกครั้งก่อนที่จะหันกลับไปยังเมืองฉางอันก้าวออกเพียงหนึ่งก้าวก็หายตัวไปจากจุดเดิม
เหมิ่งหยวนพ่ายแพ้แล้ว
ราชครูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนสิ้นชีพในสนามรบ
ไม่มีคนหนึ่งคนใดในกองทัพเหมิ่งหยวนทั้งห้าล้านรอดชี
ขาวนี้แพร่กระจายไปทั่วทวีปด้วยความรวดเร็วดุจพายุ
การที่กองทัพเหมิ่งหยวนกว่าห้าล้านนายเคลื่อนพลลงใต้นั้นส่งผลต่อความมั่นคงภายในโลกหน้า ไม่รู้ว่ามีสายลับจํานวนเท่าใดที่แอบซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงเมืองฉางอันแล้วส่ งข้อมูลกลับไปยังอาณาจักรต่างๆรายงานต่อจักรพรรดิใน อาณาจักรของตน
“เหมิ่งหยวนพ่ายแพ้?”
“ราชครูอาณาจักรเหมิ่งหยวนสิ้นชีพแล้ว?”
ใบหน้าจักรพรรดิซึ่งดูเหยเก่าเกลียด มองไปยังหน่วย สอดแนมที่กลับมารายงานจู่เสียงคํารามก้อง “เรื่องนี้เป็นค วามจริงหรือไม่?”
“รายงานฝ่าบาท เรื่องนี้ได้รับการยืนยันหลายรอบ แล้วพ่ะย่ะคะมันควร..ควร…”
หน่วยสอดแนมคุกเข่าลงหน้าพระพักตร์ ก้มหน้าตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า“มันควรจะเป็นความจริง”
ผับ!
ดูเหมือนจักรพรรดิซ่งจะสูญสิ้นเรี่ยวแรงโดยพลัน ทรุดตัวลงบนบัลลังก์มังกรด้วยเสียงอันดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวัง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เหตุใดเหมิงหยวนถึงล้มเหลว กล่าวมาโดยละเอียด?”
เยวอี้ยนคิ้วเข้าหากันแล้วเอ่ยถามทันที
ในความเห็นของเขาเหมิงหยวนและอาณาจักรถังเมื่อน้ํานั่นกันแม้ว่าจะได้ผู้ชนะ แต่อย่างมากสุดก็เป็นชนะโดยการปราบปรามขับไล่อีกฝ่ายหนึ่ง
แต่ตอนนี้เหมิ่งหยวนกลับพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์กองกําลังทหารนับล้านไม่มีใครรอดชีวิต ตํานานยุทธอย่างราชครูแห่ งอาณาจักรเหมิ่งหยวนก็เสียชีวิตคาที่
นี่มันเรื่องไร้สาระอันใด
ไม่มีทหารที่รอดชีวิตเลยจากกองกําลังทั้งหมดห้าล้านนาย?
สําหรับสิ่งนี้มีเพียงเหตุผลเดียวคือหนึ่งในสองกองทัพมีข้อได้เปรียบมากกว่าอีกฝ่ายอย่างท่วมท้น ทําให้ฝั่งที่ด้อยกว่าต้องพ่ายแพ้ยับเยินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่สถานการณ์ของอาณาจักรถังนั้น พวกเขาใช้อะไรในการจัดการปัญหากองทัพทั้งห้าล้านนายของเหมิงหยวน
ไม่ต้องกล่าวถึงกองทัพห้าล้านนาย ต่อให้เป็นสุกรห้าล้านตัวที่วิ่งกระจายตัวหนีกันอย่างรวดเร็ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจับพวกมันทั้งหมดเอาไว้ได้ไม่ใช่หรือ?
“ท่านแม่ทัพใหญ่”
“หน่วยสอดแนมกล่าวว่าเป็นฝีมือของตํานานยุทธของอาณาจักรถังที่ลงมือสังหารราชครูอาณาจักรเห มิ่งหยวนด้วยนิ้วเดียว จากนั้นก็เรียกดวงอาทิตย์ดวงโตกว่าเก้าดวงออกมาเผาทุกสิ่งโดยรอบรวมถึงกองทัพทั้งห้าล้าน นายก็โดนเผาจนกลายเป็นอากาศธาตุ…”
่ ่
เมื่อหน่วยสอดแนมคนนั้นกล่าวออก ฟันของเขาก็สั่นกระทบกันแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในสนามรบด้วยตนเอง เขาก็พอคาดเดาได้ว่าเปลวเพลิงที่สามารถสังหารกองทัพทหารกว่า ห้าล้านนายได้นั้นมันน่ากลัวเพียงใด
“ตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถัง…”
เยวอี้เงียบไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กล่าวอย่างขมขี่นว่า “แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?”
ไม่ใช่แค่อาณาจักรซึ่งเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน เกือบทุกอาณาจักรทั่วทวีปต่างก็ได้รับทราบขาวหนานหมิง
จักรพรรดิหมิงนั่งหลับตาอยู่บนบัลลังก์มังกร
นับตั้งแต่การสิ้นพระชนม์ของราชาหรูหยางในเมืองฉางอันฐานกําลังของหนานหมิงก็ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และจักรพรรดิหมิงก็แทบจะไม่สามารถควบคุมราชสํานักได้เมื่อสูญเสียตัวตนระดับสูงไปเช่นนี้
โชคดีที่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่รู้เพราะเหตุใดในหนานหมิงถึงมียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งถึงสองคนที่ประสบความสําเร็จในการบุกทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุด และสิ่งนี้ทําให้ความทะเยอทะยานของจักรพรรดิหมิงถูกจุด ประกายอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม
ก่อนที่จักรพรรดิหมิงจะกลับมาผงาดอีกครั้ง เขาก็ได้ยินข่าวร้ายในสงครามระหว่างอาณาจักรถังและอาณาจักรเห มิ่งหยวน เหมิ่งหยวนพ่ายแพ้อย่างหมดรูปไม่เพียงแต่ราชค รูแห่งอาณาจักรเหมิ่งหยวนเท่านั้นที่สิ้นชีพแต่ทหารกว่าห้าล้านนายของอาณาจักรเหมิ่งหยวนก็ต้องนอนทอดร่างอยู่นอกเมืองฉางอัน
เหมิ่งหยวนประสบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และจักรพรรดิหมิงก็มีความสุขที่ได้เห็นสิ่งนั้น
แต่นับจากวันนี้ไป เงาของอาณาจักรถังจะทาบทับปกคลุมไปทั่วหล้า
“ตํานานยุทธ…”
จักรพรรดิหมิงเป็นบุคคลที่มองโลกในแง่ร้าย
ด้วยความสามารถที่ตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถังแสดงออกมา ไม่ใช่แค่เพียงยุคนี้ แม้จะมองย้อนกลับไปในอดีตก็จะไม่พบว่ามีใครที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับเขาผู้นั้นได้เลยมิใช่หรือ?
่ ่
เมื่อยามที่ทั่วโลกสั่นสะเทือน
ภายในเมืองฉางอัน จักรพรรดิถังก็สั่งการทหารให้เข้าไปเก็บกวาดสนามรบเรียกคืนพื้นที่ที่สูญเสียไป
ในเวลานั้น ขันที่คนหนึ่งเดินอย่างเร่งรีบเข้ามาที่เบื้องหน้าของจักรพรรดิถังแล้วกระซิบคําอยู่สองสามคํา
“อะไรนะ?”