เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] - ตอนที่ 297 (I) ร่างศักดิ์ สิทธิ์อีกาท...
- Home
- เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]
- ตอนที่ 297 (I) ร่างศักดิ์ สิทธิ์อีกาท...
Sign in Buddha’s palm 297 (I) ร่างศักดิ์ สิทธิ์อีกาทองคํา
ภายในแหล่งกําเนิดธาตุไฟ
เมื่อจุดแสงดวงที่หนึ่งร้อยสว่างขึ้น ภาพมายาของแผ่นหินดวงตะวันขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของซูฉิน ทันใดนั้น แผ่นหินก็ระเบิดอ อกกลายเป็นประกายหมอก รัศมีอันเก่าแก่และยิ่งใหญ่ก็ค่อยๆแทรกซึม ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่ง และเวลาเดินถอยหลังกลับ
ทันใดนั้นจิตใจของซูฉินก็พลันระเบิดพลังของภาพดวงตะวันขนาดมหึมาซึ่งลึกซึ้งยิ่งกว่าเปลวไฟธรรมดาออกมา มากยิ่งกว่าแหล่งกําเนิดธาตุไฟเสียอีก
ข้าได้กลืนโอสถศักดิ์สิทธิ์และโอสถปีศาจธาตุ ไฟเข้าไปเป็นจํานวนมาก กอบโกยจากเมืองใหญ่ที่สืบทอดมานับพันปีในโลกถ้ําปีศาจจนเกลี้ยง ท้ายที่สุดยังกลืนกินแหล่งกําเนิดธาตุไฟเข้าไปทั้งหมด ความสําเร็จระดับเล็กในภาพดวงตะวันฯ เกรงว่ามันกําลังจะเกิดขึ้นในครานี้……
ดวงตาของซูฉินปิดลง มองเข้าไปในจิตใจ เขาเห็นภาพดวงตะวันขนาดมหึมากําลังระเบิดพลังงานธาตุไฟที่ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
แม้จะมีความแตกต่างเพียงขั้นเดียวเท่านั้น ระหว่างความสําเร็จระดับเริ่มต้นและความสําเร็จระดับเล็กของภาพดวงตะวันขนาดมหึมา
แต่มันแทบจะเป็นคนละเรื่องกันเลย
ความสําเร็จระดับเริ่มต้นในภาพดวงตะวันขนาด มหึมาเพียงทําให้ซูฉินมีกลิ่นอายของอีกาทองคําสามขา ทั้งยังเป็นกลิ่นอายที่อ่อนแอที่สุดจากดวงตะวันขนาดมหึมาด้วย แต่ก็ทําให้ซูฉินมีความเข้าใจในพลังธาตุไฟในระดับหนึ่งและมีภูมิคุ้มกันต่อเปลวไฟ
แต่ก็เท่านั้น
มันมีค่า แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่พิเศษอะไร อย่างน้อยในยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดก็มีสมบัติธาตุไฟจํานวนมากที่สามารถบรรลุผลลัพธ์เช่นนี้ได้
ทว่าการสําเร็จวิชาภาพดวงตะวันฯ ระดับเล็กทําให้ซูฉินสามารถสืบทอดความสามารถและทิพยอํานาจบางส่วนของอีกาทองคําสามขามาได้โดยตรง ทิพยอํานาจของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แม้จะเป็นประเภทที่อ่อนแอที่สุดก็เพียงพอจะทําให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง และนอกจากจะได้รับความสามารถและทิพยอํานาจแล้ว เมื่อก้าวเข้าสู่ความสําเร็จระดับเล็กของภาพดวงตะวันขนาดมหึมา ร่างกายของซูฉินจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ เป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทิศทางของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านเปลวไฟ
เมื่อความคิดของซูฉินกําลังแล่นไป
แก่นพลังงานธาตุไฟที่ลึกซึ้งและกว้างใหญ่ก็แผ่พุ่งออกมาจากส่วนลึกของภาพดวงตะวันขนาดมหึมา ผสานเข้ากับร่างของซูฉินอย่างรวดเร็ว
บูม!!!
ซูฉินรู้สึกได้ถึงการระเบิดอย่างกะทันหัน ราวกับเขาได้เห็นฉากที่สวรรค์และโลกก่อกําเนิด ดวงตะวันดวงหนึ่งค่อยๆปรากฏออกมา
ทันทีหลังจากนั้น
ร่างกายของซูฉินที่ยังคงมีพลังงานจากแหล่งกําเนิดธาตุไฟหลั่งไหลเข้ามา พลันระเบิดก้องราวกับฟ้าร้อง ทั่วทั้งร่างเริ่มบวมเป่ง เหมือนกับมีพลังงานมหาศาลกําลังก่อกําเนิดขึ้น
ร่างกายของข้ากําลังถูกปรับแก้?
ใบหน้าของซูฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เมื่อฝึกภาพดวงตะวันขนาดมหึมาสําเร็จ จะสามารถแปลงเป็นอีกาทองคําสามขา สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านเปลวไฟ แต่สําหรับร่างกายของมนุษย์แล้ว หากอยากจะแบกรับพลังของอีกาทองคํา แม้จะเป็นเพียงอีกาทองคํา สามขาวัยเยาว์ก็ยังห่างไกลพอสมควร ต้องปรับเปลี่ยนจากภายในสู่ภายนอก
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่ได้ทําให้ซูฉินเปลี่ยนไปเป็นเผ่าพันธุ์อื่นโดยสมบูรณ์ แต่จะทําให้ร่างกายเหนือกว่ามนุษย์ขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรองรับพลังของอีกาทองคําผู้ยิ่งใหญ่ได้
แน่นอน
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ เริ่มต้นขึ้นเมื่อสําเร็จ ภาพดวงตะวันฯ ระดับเล็ก นั่นจึงเป็นผลให้เกิดฉากเช่นนี้ขึ้น
เมื่อซูฉินรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในกายของตนเอง
ปัง!!
มือทั้งสองข้างระเบิดออกพร้อมกัน ทั้งผิวหนังและเนื้อเยื่อระเบิดออก แต่ในเวลาต่อมา เลือดเนื้อก็กระจายไปในอากาศ ไฟจํานวนมากพวยพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง คอยจัดระเบียบเลือดเนื้อของซูฉิน
ในเวลาเพียงชั่วครู่ มือสีขาวราวกับหยกก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง นิ้วทั้งห้าเรียวยาว พวกมันสามารถควบคุมทิศทางพลังงานธาตุต่างๆบนโลก ได้อย่างง่ายดาย และในตอนที่มือเรียวก่อตัวขึ้นมาสําเร็จ แหล่งกําเนิดธาตุไฟทั้งหมดก็สั่นสะเทีอน พลังงานธาตุไฟจํานวนนับไม่ถ้วนก็พากันหลั่งไหลเข้ามา
นี่คือ?
ซูฉินมองมือของตนที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้งอย่างไม่อยากเชื่อ
มือคู่นี้ถ้ามองดูก็ไม่แตกต่างไปจากเมื่อก่อน แต่มันมีรายละเอียดเล็กๆที่เปลี่ยนไป ด้วยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทําให้ซูฉินรู้สึกว่าสามารถ ควบคุมพลังงานฟ้าดินธาตุไฟในโลกหล้านี้ได้
แม้ว่าซูฉินจะสามารถบังคับพลังงานฟ้าดินได้ โดยอาศัยจิตวิญญาณแรกกําเนิดและอาณาเขต แต่หากปราศจากพลังเหล่านั้น เช่น ซูฉินสูญเสียพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดอาณาเขต หรือความแข็งแกร่งลดลง ความสามารถเช่นนั้นก็จะหายไปเป็นธรรมดา
แต่ในตอนนี้
เมื่อซูฉินขยับมือคู่นี้ เขาก็รู้สึกเหมือนว่าเขากลายเป็นร่างสถิตของเทพเจ้าแห่งไฟ แม้จะไม่ได้ใช้พลังจากจิตวิญญาณแรกกําเนิดหรืออาณาเขต ก็สามารถบังคับเปลวไฟได้ น่าเหลือเชื่อยิ่ง
อย่างไรก็ตาม
ในช่วงเวลาต่อมา
ซูฉินยังไม่ทันได้ตั้งตัว
แขนทั้งสองข้างของเขาก็ระเบิดออก เลือดเนื้อรินไหล ทว่าท่ามกลางกระแสพลังงานธาตุไฟที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แขนของเขาก็กลับคืนสู่รูปร่างเดิมอย่างว่องไว ยังคงเพรียวบางแต่ทรงพลังมากขึ้น นอกจากนี้มันยังเป็นเหมือนกับมือ ทั้งสองข้างที่มีความเชื่อมโยงกับพลังงานฟ้าดิน ธาตุไฟอันไร้ที่สิ้นสุด
ต่อมา
ฝ่าเท้าพลันแตกออก น่องระเบิด ต้นขาก็แตกกระจาย ตัวแตก อกแตก…..
ร่างของซูฉินเริ่มระเบิดออกมา ราวกับว่าตัวเขาอยู่ภายใต้พลังแห่งกฎที่แสนโหดร้าย แม้ด้วยจิตใจอันมุ่งมั่น ซูฉินก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก ภายใต้การขัดเกลาด้วยพลังงานธาตุไฟอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการรับรู้ก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ความเจ็บปวดที่ซูฉินได้รับก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเป็นร้อยเท่าเช่นกัน
นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากความสําเร็จระดับเล็กของภาพดวงตะวันขนาดมหึมา
ร่างกายของซูฉินเริ่มปรับแก้ และรวมตัวกันใหม่ ควบแน่นขึ้นมาภายใต้อํานาจของแผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมา แม้ว่าจะยังคงเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทําให้ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุด เหนือกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เสียแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
พลังโบราณกาลที่ล้ําลึกยังคงหลั่งไหลออกมาสร้างกายเนื้อและเส้นเลือดของซูฉินขึ้นใหม่ ซ่อมแซมผิวหนังและเส้นผม จนกระทั่งกลับสู่สภาพเดิมจากนั้นจึงหยุดลง
ซูฉินในยามนี้
แม้จะดูคล้ายกับก่อนหน้า แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆ ในเชิงโครงสร้าง การเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ถูกซ้อนทับกัน ทําให้ทั้งร่างของซูฉินดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เป็นเสมือนเทพสุริยัน ทั่วทั้งร่างมีกลิ่น อายเร่าร้อนรุนแรง โดยเฉพาะกึ่งกลางระหว่างคิ้ว มีรอยประทับจางๆ ปรากฏขึ้น สื่อถึงพลังแห่งไฟ อันไร้เปรียบใต้ผืนฟ้าเหนือผืนดินนี้
นี่คือความสําเร็จระดับเล็กของภาพดวงขนาดม หึมางั้นรึ?
ซูฉินค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ม่านตาของเขาดําสนิทเหมือนเด็กทารก แต่มองลึกเข้าไปในดวงตา ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่กําลังลุกไหม้สุกสว่าง ฉายรัศมีพลังอันน่ากลัวออกมาอย่างต่อเนื่อง
ซูฉินยืนขึ้นและมองไปที่ฝ่ามือของเขาอีกครั้ง 694 เห็นว่าฝ่ามือนั้นเรียบเนียนและละเอียดอ่อน เหมือนบัณฑิตผู้อ่อนแอ แต่เมื่อเขาโบกมือ พลังไฟที่อยู่รอบๆ ก็เข้ามาล้อมตัวเขาโดยธรรมชาติ ราวกับว่ามันกําลังบูชาองค์จักรพรรดิอยู่
ในตอนนี้ เกรงว่าร่างกายของข้าคงเลื่อนขั้น เข้าสู่กายแห่งธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แล้ว…
ซูฉินถอนหายใจออกมาเบาๆ ใบหน้าสื่ออารมณ์ที่อธิบายเป็นคําพูดไม่ถูก
กายแห่งธรรมชาติที่เขาต้องการ กลับได้มันมาโดยธรรมชาติทันทีที่สําเร็จภาพดวงตะวันฯ ระดับเล็ก
ไม่ถูกต้อง
ตอนนี้ร่างกายของข้าน่าจะแบ่งแยกออกจากขอบเขตกายแห่งธรรมชาติ จะเหมาะสมกว่าถ้าจะเรียกว่า ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา
ซูฉินคิดอยู่เงียบๆ ในใจ
ตั้งแต่ที่สําเร็จภาพดวงตะวันฯ ระดับเล็ก ก็มีความทรงจําไหลเข้ามาเพิ่มในจิตใจของเขา ความทรงจําประเภทนี้คล้ายกับความทรงจําที่สืบทอดผ่านกลิ่นอาย แต่กลับหยั่งรากลึกลงในจิตใจของซูฉิน ราวกับเขาเคยประสบพบเจอด้วยตนเอง
ในความทรงจําใหม่นี้ ซูฉินได้รู้ว่าร่างกายใน ปัจจุบันของเขานั้น ได้ถูกปรับแก้ โดยพลังงานธาตุไฟ มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากร่างกายธรรมดาที่ถูกชําระล้างด้วยทะเลปราณ แต่มันมีความเอนเอียงไปทางร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําเสียมากกว่า
ร่างศักดิ์สิทธิ์เรียกได้ว่าเป็นร่างแห่งกฎเกณฑ์ธรรมชาติอีกอย่างหนึ่ง เทียบเท่ากับอีกทิศทางหนึ่งอย่างกายแห่งธรรมชาติ
น่าเสียดายที่ฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาได้เพียงความสําเร็จระดับเล็ก ยังห่างไกลจากความสําเร็จชั้นยอด
จิตใจของซูฉินผสานเข้าไปภายในจิต และมองไปยังแผ่นหินภาพดวงตะวันขนาดมหึมา ที่สูงทะลุผ่านผืนฟ้าผืนดิน
บนแผ่นหินมีจุดไฟนับหมื่นจุด และท่ามกลาง จุดไฟนับหมื่นจุดนี้ มีหนึ่งร้อยจุดบริเวณขอบของแผ่นหินที่สว่างขึ้นอย่างสมบูรณ์ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าฝึกภาพดวงตะวันฯ สําเร็จระดับเล็ก
ต่อจากนี้ หากซูฉินต้องการจะฝึกภาพดวงตะวัน ขนาดมหึมาให้ถึงความสําเร็จชั้นยอด เขาจะต้องจุดดวงไฟที่เหลืออีกเก้าพันเก้าร้อยจุด
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของซูฉินในการจุดไฟหนึ่งร้อยดวง ทรัพยากรที่จําเป็นต้องใช้นั้นมากกว่าตอนที่สําเร็จขั้นเริ่มต้นของภาพดวงตะวัน ขนาดมหึมาเป็นร้อยเท่า
จากการลงชื่อเข้าใช้ของซูฉิน เขาต้องใช้เวลา เป็นสิบปีเพื่อฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาให้ ถึงความสําเร็จระดับเล็กอย่างยากลําบาก หากต้องการจะไปถึงความสําเร็จชั้นยอดในภาพดวงตะวันขนาดมหึมา เขาจะต้องใช้เวลาลงชื่อเข้าใช้มากกว่าพันปีจึงจะประสบความสําเร็จ
แน่นอน
นี่ไม่ใช่วิธีการคํานวณที่ถูกต้อง
เมื่อความแข็งแกร่งของซูฉินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขามีโอกาสที่จะลงชื่อเข้าใช้ในสถานที่ที่อันตรายมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ได้รับกลับมาก็จะห่างไกล จากที่เคยได้รับเป็นธรรมดา แต่กระนั้น ตามการประมาณการของซูฉิน ก็อาจจะต้องใช้เวลาหลายสิบหรือหลายร้อยปี ไม่มีความคิดว่าการประสบความสําเร็จในการฝึกฝนภาพดวงตะวันฯ จะเป็นเรื่องง่าย
มาดูการเปลี่ยนแปลงหลังจากฝึกภาพดวงตะวันฯ จนถึงความสําเร็จระดับเล็ก
ซูฉินหลับตาลงช้าๆ รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวในทุกทิศทาง
ไม่ใช้อาณาเขต ไม่ได้ใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิด เพียงอาศัยการรับรู้ของร่างกาย ค่อยๆ แผ่ขยายมันออกไปในระยะไกล
ทันใดนั้น ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าของซูฉิน โลกทั้งใบก็ต่างออกไป เขาสามารถควบคุมพลังแห่งไฟได้ และสัมผัสได้ถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆ ภายในระยะทางหลายร้อยลี้ ตั้งแต่กลิ่นอายของจอมยุทธขอบเขตตํานานยุทธไปจนถึงเสียงกระซิบของมด แมลงวัน แมลงหวี่ ทั้งหมดนั้นดูเหมือนจะอยู่ใกล้หูของซูฉินอย่างมาก
ยิ่งกว่านั้น ซูฉินยังสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขา คล้ายจะหลอมรวมเข้ากับพลังอันไร้ที่สิ้นสุดของธาตุทั้งห้า แม้ในขณะที่เขานอนหลับ พลังงานธาตุไฟจํานวนมากก็ยังหลั่งไหลเข้ามาบํารุงการบ่มเพาะของเขาอย่างช้าๆ
ในหนังสือโบราณบันทึกไว้ว่า ลูกของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์บางชนิดไม่จําเป็นต้องฝึกฝนเลย ทําเพียงแค่นอนหลับตลอดทั้งวัน เมื่อพวกมันโตเต็มที่ พวกมันก็จะมีพลังที่สามารถทําลายล้างโลกได้…
ซูฉินลืมตาขึ้น ดูประหลาดใจ
เดิมที่เขาคิดว่าคํากล่าวเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด การฝึกฝนวิทยายุทธไปทีละก้าวยากเย็นเพียงไร? เป็นไปได้อย่างไรที่จะเพิ่มฐานกา รบ่มเพาะเพียงแค่นอนหลับ?
แต่ตอนนี้ ด้วยการรับรู้ของตัวซูฉินเอง เขาก็เริ่มเชื่อเรื่องราวทั้งหมดแล้ว