เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 112 ซื้อเฟอร์นิเจอร์
บทที่ 112 ซื้อเฟอร์นิเจอร์
“ว้าว ช่างสวยอลังการงานสร้างอะไรอย่างนี้”
เซี่ยจิ้งเป็นคนที่นิสัยตรงๆ เวลาแค่ไม่นานก็ลืมเรื่องที่ไม่สบายใจละ เธอวิ่งไปที่ข้างหน้าต่างข้างล่างก็เป็นเมืองแวดวงธุรกิจ ทิวทัศน์ของเมืองที่มีบรรยากาศคึกคักพลุกพล่านมีให้เห็นเต็มตา ยังสามารถใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้เลยส่วนการตกแต่งภายในเอาตามสีขาวที่ดูอบอุ่นและสีเทาอ่อนเป็นหลัก เรียบง่ายและสง่ามาก สอดคล้องกับความงามของเธอ ภายในใจมีความชอบมาก
“ที่นี่ไม่เลวจริงๆ ประธานคะ”เฉารุ่ยยิ้มเล็กน้อย รู้สึกพึงพอใจกับสถานที่นี้
“สอบถามหน่อยค่ะที่นี่มีบรอดแบนด์กิกะบิตไหมครับ?”
ฉิงจื๋อเทาชายผู้อยู่ติดบ้านได้ด้วยความห่วงถึงเรื่องเครือข่าย
“มีหมดครับ ในอาคารของเรามีการเชื่อมต่อไฟเบอร์หลายแบบ รับประกันการใช้งานแบนด์วิดท์”พนักงานชายจางเลี่ยงตอบ
ฉะนั้น สามคนฝั่งเฉินห้าวนั้นก็พึงพอใจแล้ว พวกเขามองไปที่เฉินห้าวด้วยสายตาอย่างมีความหวัง เหลือเพียงแต่เขาตอบตกลงย้ายเข้าเท่านั้น
“ได้ครับ เลือกตรงนี้เลย” เฉินห้าวก็ได้ทำตามที่ประชาชนเรียกร้อง ตัดสินใจอย่างมีความสุข
“เย้ ดีจังเลย!” ทั้งสามคนประสานเสียงกันอย่างมีความสุข
“ได้เลยครับ ผมจะไปจัดการบัตรเข้างานให้นะครับ ต่อไปก็สามารถเข้าออกตึกได้ตามปกติเหมือนพนักงานบริษัทโจวซื่อ”
จางเลี่ยงกับหวังเหมิงเหมิงทำงานละเอียดอ่อนมาก พาทั้งสี่คนไปถ่ายรูป กรอกแบบฟอร์มเล็กน้อยจากนั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น ต่อไปพวกเขาก็จะได้มีที่ทำงานจริงๆจังๆซะที ประวัติส่วนตัวของทุกคนก็ได้ใส่เข้าในระบบบริษัทโจวซื่อแล้ว กระทั่งยังสามารถยืมใช้ระบบเข้าร่วมบริษัทของพวกเขาเข้าเช็คอินได้
ภายใต้คำสั่งของโจวซีถงนั้น บริษัทโจวซื่อได้เปิดไฟเขียวให้เฉินห้าว แม้แต่ค่าเช่าชั้นตึกที่มีขนาดใหญ่นี้ว่าค่าเช่าเท่าไหร่ ความเป็นไปได้น่าจะฟรีค่าเช่าแล้วล่ะ
“โจวซีถงนี่สุดยอดจริง” เฉินห้าวคิดในใจอย่างมีความสุข ความสัมพันธ์ของพวกเขา มันห่างออกจากคุณค่าต่ำของเงินไปแล้ว
แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะเริ่มงานได้เลย เพราะนอกจากการตกแต่งโดยพื้นฐานแล้ว พวกโต๊ะเก้าอี้และเครื่องใช้สำนักงานภายในก็ยังขาดอยู่
การที่จะเริ่มก่อตั้งห้องทำงานในอันดับแรกนั้น ก็คือไปหาซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ใน app เงินอุดหนุนหมื่นล้านของเฉินห้าวนั้นก็มีของพวกนี้ขาย สั่งซื้อแล้วก็สามารถเริ่มต้นการเปิดออกได้ แต่นี่เป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้สายตานับหมื่นจ้องอยู่ เวลาไม่นานก็เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงานนับสิบออกมาอย่างนี้ ประมาณว่าเดี๋ยวก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวแล้วเอาไปผ่าท้องวิจัย
ดังนั้นเฉินห้าวจึงตัดสินใจ ไปซื้อชุดเฟอร์นิเจอร์หนึ่งชุดจากร้านขายจริงในเมือง ยังไงซะเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน ถ้าหากไม่มีเงินซื้อเครื่องใช้สำนักงานจริงๆ แค่ไปหามู่ต้าเหวยไอ้นักธุรกิจเจ้าเล่ห์นั่น ใช้บัตรคนรวยที่ได้เท่าเทียมกันก็มีเงินแล้ว
ต่อมา เซี่ยจิ้งได้กลับไปที่ร้านอาหาร เพราะพะโล้ที่โน่นขายออกครึ่งหม้อใหญ่ละ นอกร้านอาหารฝรั่งเศสมีผู้คนต่อแถวยาวมากแล้ว มีความไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว และยังมีลูกค้าที่เรียกร้องอย่างรุนแรงเพื่อซื้อช่วนช่วนเซียง(เสียบไม้ แล้วจุ่มในหม้อน้ำซุปรสเผ็ดชา )กับข้าวสวยใบบัวอีก เชฟใหญ่อย่างเธอนั้นต้องรีบกลับไปคุมสถานการณ์แล้ว
ฉิงจื๋อเทาก็จะกลับไปเล่นคอมพิวเตอร์แล้ว อย่ามองว่าในชีวิตจริงเขามีเพื่อนไม่กี่คน แต่ในโลกออนไลน์นั้นเป็นถึงระดับลูกพี่ใหญ่แล้ว มีสถานะระดับผู้ดูแลระบบในกลุ่มแฮ็กเกอร์ ออกมาสักพักอย่างนี้ ในqqก็มีหลายข้อความรอไปจัดการอยู่
ฉะนั้นงานสำคัญของการซื้อเครื่องใช้สำนักงานก็ตกเป็นหน้าที่ของเฉินห้าวและเฉารุ่ยไปแล้ว เขาขับรถพาเฉารุ่ยมาถึงเมืองเฟอร์นิเจอร์ มีร้านค้ามากมายในห้างสรรพสินค้าที่สูงนี้ ที่นี่สามารถซื้อเครื่องใช้สำนักงานทั้งหมดที่ต้องการได้แบบครบวงจร
เฉินห้าวและเฉารุ่ยได้ขับรถโรลส์รอยซ์ในราคาหลายสิบล้านมุ่งหน้ามา และมาในชุดแบรนด์เนมทั้งตัว ลำพังบนตัวก็มีกลิ่นของผู้ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเดินเข้าประตูห้างสรรพสินค้า ก็ถูกพ่อค้าสายตาคมมากมายจับจ้องเป็นคนรวย เซลแต่ละคนก็เดินตามพูดชักชวนให้ไปร้านของตัวเอง สินค้าในร้านของพวกเขาคุณภาพดีสมกับราคา
แต่พ้อค้าเหล่านี้จะมีทั้งดีและไม่ดี เพื่อคุณภาพของสินค้าแล้ว เฉินห้าวตัดสินใจไปร้านที่มีชื่อเสียงของเมืองเฟอร์นิเจอร์
เขาได้ถามพนักงานในห้างมาหลายคน พวกเขาต่างบอกว่าร้านเฟอร์นิเจอร์ฮุยมู่ดีที่สุด ฉะนั้นเฉินห้าวก็ได้ไปตามหาร้านที่พวกเขาแนะนำมา
แต่สิ่งที่เฉินห้าวไม่ทราบนั้นก็คือ รอจนเขาจากไปนั้น คนพวกนั้นก็รีบส่งข้อความไปยังเบอร์โทรคนหนึ่ง ว่าได้แนะนำลูกค้ารายใหญ่ไปที่ร้านแล้ว อย่าลืมที่จะให้ส่วนแบ่งค่าเหนื่อยให้พวกเขา
เมื่อเฉินห้าวได้ก้าวเข้าในร้านเฟอร์นิเจอร์นั้น เซลล์ขายกลุ่มใหญ่ที่แต่งตัวดีๆก็ล้อมรอบเข้ามา ในทางตรงกันข้ามนั้น ลูกค้าที่กำลังชมดูอยู่นั้น มันน้อยมาก
เซลล์ขายที่ล้อมรอบเข้ามานั้นมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ถามเฉินห้าวด้วยความเอาใจใส่ว่าต้องการซื้ออะไรบ้าง
“เถ้าแก่ คุณมาร้านของพวกเรามาถูกร้านแล้วครับ ทางเรามีเฟอร์นิเจอร์ที่ครบวงจรทุกอย่าง บริการดีที่สุด”
“ราคาต่อรองกันได้ ปริมาณเยอะมีส่วนลด”
เซลล์ขายพวกนี้ได้นำเอาความดีเข้าหาตัวเองหมดเลย
เฉินห้าวดูไปรอบหนึ่ง รู้สึกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่นี่จัดระเบียบได้ดี เลยถามเฉารุ่ยว่า:“มีที่ชอบไหม?”
“ฉันขอดูอีกหน่อยนะคะ” เฉารุ่ยได้ใช้ความงามของผู้หญิงในการประเมิน อยู่ในแผนกเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้สำนักงาน เลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วน
เซลขายพวกนั้นก็เป็นคนฉลาดรอบรู้ เห็นการแต่งตัวของเฉินห้าวและเฉารุ่ย บวกกับการเห็นอกเห็นใจที่เฉินห้าวมีต่อเฉารุ่ย ตระหนักได้ทันทีเลยว่าความคิดเห็นของเฉารุ่ยเป็นหลัก จากนั้นพวกเซลขายก็ไปล้อมรอบเฉารุ่ยเอาไว้
“สาวสวย ดูโต๊ะเก้าอี้สำนักงานนี้สิ มีแบบไม้จริง มีแบบพลาสติก มีเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระ ได้รับการรับรองจากนานาชาติ ของพวกนี้รับรองงานดี”
นอกจากนี้ยังมีเซลล์ขายสาวคนหนึ่งได้มาชื่นชมรูปลักษณ์ภายนอกของเฉารุ่ยเพื่อเป็นกันใกล้ชิด: “สาวสวยท่านนี้คะ ผิวพรรณและบุคลิกของคุณดีมากเลยค่ะ โดยปกติแล้วดูแลยังไงคะ?”
เฉารุ่ยหัวเราะเล็กน้อย: “ก็ไม่ได้ใช้อะไร ก็แค่เครื่องสำอางธรรมดาเท่านั้น”
ผู้หญิงด้วยกันย่อมมีคำพูดที่เหมือนกัน ในระหว่างที่ดูเฟอร์นิเจอร์นั้น พวกเธอใกล้ชิดสนิทกันได้เร็วมาก
จากที่ได้เลือกในสถานที่จริง คุณภาพเครื่องใช้สำนักงานร้านนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน แต่ราคาสูงเกินค่ามาก ชุดโต๊ะทำงานไม้ ก็ปาไปสองหมื่นแปด โต๊ะพลาสติกแข็งรูปแบบธรรมดาก็เอาตั้งเจ็ดพันหยวน หากวางขายในร้านอื่นราคาแค่ครึ่งเดียว หรืออาจน้อยกว่า
แน่นอน พนักงานฝั่งตรงข้ามก็มีวาทศิลป์ในการพูด กล่าวว่าวัสดุเหล่านี้นำเข้าจากต่างประเทศ ราคาย่อมจะสูงหน่อย และที่สำคัญราคาที่ติดไว้ไม่ตรง จะมีส่วนลดต่ำจริงในตอนที่ชำระเงิน รับรองราคาเดียวกันในตลาด