เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 148 ตีบวกพลังท่าเสือ
บทที่ 148 ตีบวกพลังท่าเสือ
“เซี่ยจิ้ง คุณอยู่บนรถนะ ไม่ต้องลงมา” เฉินห้าวพูดด้วยความเย็นชา จากนั้นจึงเปิดประตูรถลงไป ก่อนที่คนพวกนั้นจะปรี่เข้ามาหาเขา
เซี่ยจิ้งไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่าย เพราะเธอรู้ถึงกำลังของเฉินห้าวดี วันนี้จะได้เห็นการต่อสู้ครั้งใหญ่อีกครั้งแล้ว
กลุ่มวัยรุ่นพวกนั้นยังไม่ทันจะลงไม้ลงมืออะไร ก็มีคนที่มีใบหน้าที่คุ้นเคยเดินออกมาจากฝูงชน ใบหน้านั้นมีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะ พลันมีสีหน้าที่ไร้ซึ่งความปรานี เขาก็คือเฮียสือ
“คุณยังร้ายไม่เบาเลยนะ เป็นอย่างไรล่ะ ให้ฉันดูแผลให้ไหม?” เฉินห้าวพูดจาแดกดัน
“คุณแซ่เฉิน ฉันไม่มีเวลามาพูดจาไร้สาระกับคุณนะ บาดแผลในวันนี้ และค่าใช้จ่ายของคุณที่สถานบันเทิงจื้อจูนในคืนนั้น ถ้าไม่มีสองล้าน อย่าคิดว่าจะได้หนีไปไหน ฉันจะเตือนเป็นครั้งสุดท้ายนะ”
เฮียสือพูดด้วยความน่าเกรงขาม
“สองล้านงั้นเหรอ?คุณจะมาล้อเล่นก็ต้องรู้จักลิมิตบ้าง ถึงฉันจะไม่ได้จน แต่ก็ไม่มีทางให้คุณหรอก” เฉินห้าวพูดกลับ
“นี่คุณบังคับฉันเองนะ!” เฮียสือกัดฟันพลางถอยหลังไปก่อนจะวาดมือขึ้น จากนั้นพวกวัยรุ่นก็เข้ามารายล้อมในทันที
เมื่อรู้ว่าวันนี้คงจะไม่มีทางเจรจาดีๆ ได้แล้ว เฉินห้าวเลยส่งสัญญาณมือให้เซี่ยจิ้ง บอกให้เธอหลบให้ดี เขาจะต้องสั่งสองพวกนักเลงหัวไม้พวกนี้
“OK ขอให้สนุกก็แล้วกัน” เซี่ยจิ้งทำมือสู้ๆ ให้บนรถ
เฉินห้าวเกือบจะหัวเราะไม่ออกอยู่แล้ว เซี่ยจิ้งถือว่ามีพรสวรรค์ด้านความตลกเสียจริงๆ ทำให้ความตึงเครียดมันลดลงไปได้เยอะเลย
“จัดการมัน ทำให้เขาพิการไปเลย!”
เฮียสือตะโกนออกไปด้วยความโกรธ พวกลิ่วล้อเองก็ร้องโห่พลางปรี่เข้ามาทำร้าย
อันที่จริงการชกต่อยกัน ใช้กระบวนท่าเดียวก็ได้ ขอเพียงแค่สามารถล้มพวกด้านหน้าได้ เมื่อฝ่าเข้าไปได้ พวกเขาก็จะเริ่มกลัวกันเอง แล้วมันก็จะลดระดับความรุนแรงลงไปเอง
หลังจากที่เฉินห้าวถอยหลังไปตั้งหลักเพื่อรักษาระยะห่าง แล้วใช้รถที่อยู่ด้านหลังในการหลบคู่ต่อสู้ ให้พวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรไม่ได้ และรถสองข้างทางก็ทำให้เขาปะทะกับลิ่วล้อด้านหน้าน้อยลงได้
เฉินห้าวเล็งไปที่ลิ่วล้อทั้งสองคนที่ปรี่เข้ามา จู่ๆ ก็แสดงกระบวนท่าทีแปลกประหลาดออกมา ถ้าเกิดว่าลุงหูอยู่ที่นี่ ต้องมองออกแน่นอน ว่านี่คือท่าเริ่มต้นของท่าเสือ เฉินห้าวโน้มตัวลงต่ำ เหมือนเสือที่กำลังเล็งเหยื่ออยู่ก็ไม่ผิด
“เกรงว่าไอเด็กนี่มันจะกลัวจนขาอ่อนน่ะสิ คุณลองดูสิว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
ลิ่วล้อด้านหลังที่ไม่ได้เข้ามาปะทะ พูดกับเฮียสือด้วยความเสียดสี
“หึ ต่อสู้เป็นแล้วอย่างไรล่ะ จะมาสู้พวกพ้องของฉันได้เหรอ?”
เฮียสือพูดด้วยความไม่แยแส เขาใช้กลยุทธ์ในการสั่งสอนคนมาเป็นสิบคนแล้ว ก็สามารถสู้จนคู่ต่อสู้ตายกันไปข้างหนึ่งได้เลย วันนี้ก็ต้องเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
เฉินห้าวที่เก็บแรงมามากพอก็เริ่มออกตัวแล้ว เขาเหมือนกับเสือที่ดุร้าย พลางใช้ท่าเสือแบบใหม่ที่เพิ่งฝึกมา ก็คือ “ฝ่ามือเสือควักใจ” อีกด้วย หมัดที่ออกไปนั้นต่อยไปโดนลิ่วล้อคนหนึ่งพอดี
มีดในมือของลิ่วล้อคนนั้นยังไม่ทันจะฟันลงมา ก็เบิกตาโพลง เพราะรู้สึกเหมือนมีแรงเข้ามาปะทะอย่างจัง เขากระเด็นไปไกล ราวๆ สามสี่เมตรได้ ก่อนจะนอนอยู่บนพื้นอย่างขยับไปไหนไม่ไหว
แรงกับท่าทางของเฉินห้าวนั้นถือว่าได้แสดงพลังของท่าเสือฝ่ามือเสือควักใจออกมาได้เป็นอย่างดี มันสั่นสะเทือนไปถึงไส้ในของเขา จนสลบเหมือดไป
เฉินห้าวล้มไปได้หนึ่งคน นั่นเป็นเพียงแค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น เขายังไม่ทันจะได้คิดอะไร ก็เล็งหมัดไปที่ลิ่วล้อสองคนข้างๆ อีก ก่อนจะออกหมัดพร้อมๆ กัน จนทั้งสองคนนั้นกระเด็นลอยไป เขาใช้ฝ่ามือเสือควักใจอีกแล้ว เป็นท่าทีเหมือนกันไม่มีผิด แต่เพราะครั้งนี้ศิลปะการต่อสู้ยังไม่เร็วพอ ลูกน้องเลยไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้อะไร ทั้งสามคนก็กระเด็นลอยไปทันที บางคนถึงกับชนเข้ากับลิ่วล้อคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังด้วยล่ะ
ลิ่วล้อคนอื่นๆ ยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นพวกพ้องของตัวเองกระเด็นไปแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปตามๆ กัน และหยุดการเข้าปะทะโดยทันที
“วิชาท่าห้าสัตว์นี่มันเจ๋งจริงๆ เลย!”
เฉินห้าวรู้สึกชอบอกชอบใจอยู่ไม่น้อย คิดไม่ถึงเลยว่าท่าเสือของวิชาท่าห้าสัตว์นั้นจะใช้ได้จริงขนาดนี้ การได้ผลลัพธ์ที่ดีขนาดนี้ ทำให้เขามั่นใจมากยิ่งขึ้น ว่าพละกำลังในการต่อสู้ของตัวเองนั้นเพิ่มมากขึ้นแล้ว
ถ้าเกิดเป็นเมื่อวานซืน แล้วต้องมาปะทะกับลิ่วล้อเยอะขนาดนี้ เขาคงขาดความมั่นใจไปไม่น้อย และไม่รู้ว่าจะชนะได้หรือไม่ แต่ในวันนี้ที่มีวิชาท่าห้าสัตว์ติดตัวมาแล้ว ก็เก่งขึ้นไม่น้อยเลย เฉินห้าวเลยใช้เวลาที่อีกฝ่ายยังอึ้งอยู่ ในการจู่โจม พลางใช้ฝ่ามือเสือควักใจต่อยลิ่วล้อสองคนกระเด็นไปอีก ทุกๆ การจู่โจมนั้นทำให้คนล้มตายตลอด พละกำลังของเฉินห้าวกับความเร็วนั้นไม่มีคนธรรมดาที่ไหนสามารถต้านทานได้เลย
“โฮก!”
เมื่อต่อสู้ติดต่อกันมาสักพัก เฉินห้าวก็เหมือนได้เข้าถึงจิตใจแห่งความเป็นเจ้าป่าแล้ว ก่อนจะคำรามออกมาเหมือนเสือไม่มีผิด จนทำให้ลิ่วล้อแถวๆ นั้นขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน
“อะไรน่ะ?มีเสือเหรอ?ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงเสือคำรามนะ?อีกอย่างทำไมคนคนนี้เก่งจริงๆ เลย ทำร้ายพวกพ้องของพวกเราได้ในพริบตาเดียว?”
ในหัวของลิ่วล้อเกิดคำถามขึ้นมากมาย จากนั้นขนก็ลุกไปตามๆ กัน ภายใต้ฉากที่มืดดำยามค่ำคืนนั้น รู้สึกเหมือนมีเสืออยู่ข้างๆ เลยล่ะ
“ให้ตายเถอะ เขาร้องอะไรนักหนา รีบไปจัดการเขาเร็ว!”
ทางเฮียสือนั้นด่าพวกลิ่วล้อด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเร่งให้พวกเขาเข้าไปจัดการอีกครั้ง ขนาดตัวเขาเอง ยังไม่อยากจะลงมือเอง เพราะถ้าลงมือก็อาจจะติดร่างแหของการดำเนินคดีนี้ได้ด้วย ถึงจะทำร้ายพวกคนเลวจนเกิดเรื่อง อย่างมากก็แค่ถูกจับข้อหาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง จ่ายเงินให้พวกลิ่วล้อ และติดคุกแทนเขาไม่กี่ปี ซึ่งมันคุ้มกว่ามาก
พวกลิ่วล้อพวกนี้ไม่เหลือแรงอีกต่อไปแล้ว แม้แต่แรงตวัดมีดก็ไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว เฉินห้าวเลยใช้โอกาสนี้ ในการจู่โจมอย่างต่อเนื่อง ในตอนที่ฝ่ายตรงข้างยังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกทำร้ายจนกระเด็นไปอีกแล้ว