เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 156 ส่งของถึงที่
บทที่ 156 ส่งของถึงที่
ถึงบริษัทห้าวหรานจะสามารถขายออนไลน์ได้ แต่การสั่งสินค้าออนไลน์ยังมีอีกปัญหาหนักหนึ่งอย่าง นั่นก็คือจะส่งของยังไง
บริษัทปกติจะส่งของปกติหรือ express deliveryก็ได้แล้ว แต่ราคากล้วยไม้ผีนี่แพงมากเกินไป และไม่สะดวกส่งของแบบนั้น ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทาง เงินหนึ่งแสนสองหมื่นนี่ก็จบกันแล้ว
สองเมืองอยู่ไม่ไกลกันนัก จานอี้เฟยเลยเสนอว่า ถ้าไม่ให้ลูกค้ามาเอาของเองถึงที่ ดูจากความร้อนใจอยากได้ของลูกค้า น่าจะยอมแน่ หรือไม่พวกเขาก็ส่งของถึงที่ ส่งคนนั่งเครื่องบินหรือขับรถไป เพียงแค่ค่าเดินทางไปกลับเป็นปัญหาเนี่ยแหละ จานอี้เฟยยังเสนอให้ลูกค้ารับผิดชอบค่าเดินทาง
“ไม่ต้องหรอก” เฉินห้าวมีเงินเยอะ เลยโบกมือว่า “สำหรับของราคาสูง ให้ส่งของถึงที่ให้หมด ค่าขนส่งพวกเราออกกันเอง กลับมาแจ้งฝ่ายบัญชี ในเวลาเดียวกันก็ซื้อค่าประกัน เอาแบบให้รับรองอุบัติเหตุทุกอย่างนะ”
แบบนี้เท่ากับมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่เฉินห้าวไม่แคร์ เพราะแค่มีแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านนี่ก็ได้กำไรมากเกินพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเงินเล็กน้อยพวกนี้อีก สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งคือเปิดช่องทาง อัพระดับประสบการณ์ให้ลูกค้าถึงจะถูก
วิธีแบบนี้ทำให้พวกพนักงานรู้สึกครั่นคร้าม เถ้าแก่ใหม่คนนี้ไม่แคร์กำไรขาดทุนอะไร ถึงจะเป็นคนทำมาค้าขายที่แท้จริง
พอลูกค้ารู้ว่าจะส่งของให้ถึงที่ ก็จ่ายเงินมาทันทีเลย
จานอี้เฟยในฐานะคนติดต่อออเดอร์นี้ เลยรับหน้าที่ส่งของเอง เขารีบซื้อแพคเกตประกันโดยเฉพาะ จากนั้นก็นั่งเครื่องบินไป เย็นนั้นเลยถึงจุดหมาย
ลูกค้าเองก็ให้ความสำคัญมาก ขับรถมารอรับที่สนามบิน รอเช็คกล้วยไม้ผีเสร็จแล้ว ก็คอนเฟิร์มรับของอย่างง่ายดาย
พอเห็นเงินเข้าบัญชี ปี่เจวียนที่เป็นบัญชีก็บันทึกรายรับวันนี้ลงไปทันที
บุหรี่ Lucky strikeหนึ่งกล่อง หนึ่งหมื่นดอลลาร์ ผันเป็นเจ็ดหมื่นหยวน
กล้วยไม้ผีสามกระถาง ราคาต่อกระถางหนึ่งแสนสองหมื่นหยวน ทั้งหมดสามแสนหกหมื่นหยวน
สรุปรายรับวันนี้ สี่แสนสามหมื่น ระบุกำไรทั้งหมดเหมือนที่เฉินห้าวบอก คือกำไรที่บริษัททำได้ในวันนี้ เหยียบบริษัทขนาดกลางปกติติดดินไปแล้ว
“ดูเหมือนฉันจะเจอเถ้าแก่ที่ร้ายกาจเข้าให้แล้ว”
ปี่เจวียนคิดอย่างตื่นเต้นในใจ ยอดขายวันนี้ทั้งวันมากกว่าที่เธอเคยทำมาครึ่งเดือนอย่างยากลำบากในที่เก่าซะอีก
บริษัทเริ่มดำเนินการไปในครรลองคลองธรรม เฉินห้าวเลยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศตลอดแล้ว มีออเดอร์เมื่อไหร่เขาก็สามารถนำเสนอสินค้าให้ได้เมื่อนั้น แถมการค้าระดับท็อปที่เขาทำ เป็นประเภทไม่เปิดทำการมาสามปี พอเปิดก็กำไรพอกินไปได้สามปี ต้นทุนต่ำราคาขายสูง ดังนั้นเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปในการรอ เขาใช้เวลารอเนี่ยแหละทำเรื่องสำคัญ
ที่ว่าทำเรื่องสำคัญ ก็คือคิดบัญชีกับตัวการที่คิดทำลายพิธีเปิดบริษัทของเขา
เฉินห้าวมาถึงห้องการ์ดรักษาความปลอดภัยที่บริษัทโจวซื่อ ที่นั่นยังขังชายหนุ่มที่จับได้ในงานวันพิธีเปิด เฉินห้าวคุยกับเขาตามลำพัง
ตอนเผชิญหน้าเฉินห้าว หนุ่มน้อยยังกร่างมาก เขาเอียงคอถลึงตาใส่เฉินห้าวด้วยท่าทีประหนึ่งว่า “ถ้าฉันไม่พูด แล้วแกจะทำไงได้”
เฉินห้าวหัวเราะ ผลดีจากภาพยนตร์และละคร เขามีวิธีเป็นร้อยชนิดในการทำให้อีกฝ่ายเปิดปาก อย่างเช่น ทรมาน ราดน้ำพริกเป็นต้น แต่วิธีพวกนั้นมันเชยแล้ว แถมยังเรื่องมากด้วย เฉินห้าวคิดถึงวิธีเร็วที่สุดวิธีหนึ่ง
สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ ต้องมีความแค้นกับเขาหนักมาก ฝีมือต่ำช้าแบบนี้ ต้องเป็นพวกหน้าด้านที่ซ่อนตัวอยู่ในสังคม ถ้าอย่างนั้นที่เข้าข่ายก็มีอยู่ไม่กี่คน ถ้าช่วงนี้ก็เฮียสือ จากนั้นก็น้องชายเฮียหนิว จากนั้นก็พี่เซิน พ่อเจิ้งตงเป็นต้น
แต่ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเฮียสือนี่แหละ เพราะครั้งที่แล้วทั้งคู่ทะเลาะกันแทบจะหันมีดเข้าใส่กันแล้ว แถมวิธีการต่ำช้าแบบนี้ มันช่างเข้ากับนิสัยคิดเล็กคิดน้อยของเขามาก
คิดถึงตรงนี้ เฉินห้าวถามขึ้น “พูดดูสิ ใครส่งแกมา”
“ไม่มีใคร ฉันมาเล่นสนุกๆ แกก็จับฉันซะงั้น ฉันจะฟ้องแกข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว” หนุ่มน้อยดันรู้กฎหมายซะด้วย ดูท่าจะเล่นยากสักหน่อย
เฉินห้าวกลับยิ้มเย็นว่า “อย่าเวอร์ คิดจะเป็นแพะรับบาปให้เจ้านายงั้นหรอ? เฮียสือขายแกนานแล้ว บอกกับคนภายนอกว่าเป็นความคิดแกคนเดียว ที่แกทำนี่ถือว่าทำลายระบบสาธารณะ ต้องเข้าไปในคุกหลายวันนะ แถมยังค่าปรับอีก”
“เป็นไปไม่ได้ เฮียสือของฉันน่ะรักลูกน้อง…”
พอพูดออกมา หนุ่มน้อยรู้ทันทีว่าตัวเองหลุดปากแล้ว รีบปิดปากไม่พูด แต่เขาก็ได้บอกคำตอบกับเฉินห้าวแล้ว
ใช่ คนที่จะมาก่อความวุ่นวายเป็นคนของเฮียสือ เฉินห้าวแกล้งแหย่นิดเดียวก็พรู่ออกมาหมดแล้ว คงได้แต่พูดว่าลูกน้องเฮียสือนี่โง่เกินไป
เฉินห้าวออกจากสถานที่ ให้การ์ดปล่อยตัวหนุ่มน้อยคนนั้นไป
เฉินห้าวมองไปที่ไกลๆ สายตาเริ่มเข้มขึ้น ในเมื่อเฮียสือกล้ามากระตุกหนวดเสือ งั้นก็มีแต่ต้องทำเขาล้มไม่เป็นท่า ถึงจะสามารถชำระแค้นครั้งนี้ได้
ที่ว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง จะล้มเฮียสือ ก็ต้องรู้เรื่องเขาทั้งหมดก่อน อีกอย่างหลายวันนี้ฉิงจื๋อเทาได้เก็บหลักฐานมาไม่น้อย กลับไปรอเขามาหยิบก็พอ
เฉินห้าวขับรถกลับไปที่เขต ฉิงจื๋อเทาได้ปริ๊นท์ข้อมูลไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลโดยละเอียดคราวนี้ร้ายกาจกว่าครั้งก่อนที่หาแบบเร่งรีบมากนัก แทบจะเป็นใบตัดสินของเสอจวิ้นวี่หรือเฮียสือไปแล้ว
แค่มองปราดเดียวก็เห็นคำฟ้องร้องการกระทำความผิดยี่สิบกว่าข้อหา ทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ข่มขู่ ลักพาตัว ฟอกเงินอะไรพวกนี้ ขอเพียงศาลมีการลงโทษอย่างหนัก ก็แทบจะโดนทั้งหมดเลย เรียกได้ว่าไม่เลวไม่ทำ แถมที่ยิ่งหนักเข้าไปอีกคือ กิจการเมืองบันเทิงจื้อจูนที่เขาดูแลอยู่เป็นแหล่งซ่อนวัตถุผิดกฎหมายเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นยาอะไรมีหมด
เฉินห้าวเห็นแล้วอดสบถด้วยความโกรธไม่ได้ ต่อให้ศีลธรรมพุ่งปรี๊ดก็ต้องให้เฮียสือโดนจับให้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องความแค้นของทั้งคู่ไม่มีทางประสานได้อีกแล้ว
“ได้ ขอบใจมาก ผมจะไปจัดการเขาแล้ว นายต้องช่วยด้วยนะ” เฉินห้าวพูด
“ไม่มีปัญหา วันนี้เอามันให้ตายเลย!” ชนาดคนนิ่งอย่างฉิงจื๋อเทายังทนไม่ไหวเลย
จากนั้นเพื่อนรักสองคน ในเมื่อจะร่วมมือกัน แต่ว่าศีลธรรมอย่างเดียวดูจะไม่พอ ต้องหาวิธีที่ทำให้เฮียสือทั้งโกรธทั้งร้อนใจแต่ก็ไม่มีทางขัดขืนได้