เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 171 ท่านประธานมาแล้ว
บทที่ 171 ท่านประธานมาแล้ว
“แกแน่ใจหรือว่าเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆนี้จะสามารถทำให้ฉันมึนงงได้”เฉินห้าวถามกลับ
เฉียนหรงข่ายพูดว่า:“เชอะ เป็นเพียงแค่ทายาทเศรษฐีที่มีเงินไม่มากนัก วันนี้ฉันจะสอนเด็กคนนี้ให้รู้ว่า จะอยู่รอดในสังคมได้ไม่ใช่พึ่งแค่ความร่ำรวยอย่างเดียว แต่ยังต้องมีเส้นสายด้วย!”
“ทุเรศจริงๆ ใช้วิธีต่ำช้าแบบนี้ได้ยังไง”
ตอนนี้แม้แต่นักข่าวจูหมิ่นก็ไม่สามารถทนดูเฉยได้อีกต่อไป เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ของศูนย์นิทรรศการ:“ศูนย์นิทรรศการของพวกคุณจะรับฟังคำสั่งของบุคคลภายนอกอย่างเดียวหรือ?หาเหตุผลมาอ้างเพื่อไม่ให้ผู้อื่นสมัครเข้าร่วมการประมูลงั้นหรือ?”
“ผมแค่ทำตามคำสั่ง หากคุณมีข้อสงสัยใดๆคุณก็ไปทำหัวหน้างานของเราได้” เสมียนพนักงานคนนี้เล่นเป็นทางการ และท่าทีของเขาก็น่ารังเกียจสุดๆ
จูหมิ่นโกรธมาก จึงโทรไปที่หมายเลขของหัวหน้างานศูนย์นิทรรศการที่ได้พิมพ์ไว้บนป้ายประกาศ และเบอร์นี้โทรไม่ติดอย่างที่คิดไม่มีผิด
เฉินห้าวหยุดการพยายามที่ไร้ประโยชน์ของจูหมิ่น เขาหันไปทางเฉียนหรงข่าย และพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งว่า: “คิดจะแข่งเส้นสายงั้นหรือ?ก็ได้ ถ้างั้นเรามาแข่งเส้นสายกัน”
ในการที่จะหาเส้นสายของตัวเอง ควรค้นหาจากผู้ที่มีอำนาจที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างญาติและเพื่อน ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด ต้องเป็นความสัมพันธ์ระหว่างโจวซีถงกับเฉินห้าวแน่นอน โจวซีถงเป็นทายาทของบริษัทโจวซื่อ ซึ่งรู้จักบุคคลสำคัญหลายคน หากคุณใช้ชื่อเสียงเขาต้องมีคนให้ความเคารพแน่
แต่ตอนนี่คนที่กำลังซื้อบ้านคือตัวเอง ขอให้โจวซีถงใช้เส้นสายช่วยเขา เฉินห้าว รู้สึกเกรงใจเขานิดหน่อย ในขณะนี้เขาคิดวิธีใหม่ขึ้นมาด้วยตัวเอง จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรหาชุยหย่องปิงประธานหอการค้า
ชุยหย่องปิงได้เห็นความแข็งแกร่งของเฉินห้าวจาก พิธีตัดริบบิ้นของการซื้อขาดลิขสิทธิ์ในการผลิตบุหรี่ และแขกที่มาร่วมงานก็เต็มไปด้วยคนที่มีอำนาจในสังคมทั้งนั้น ไม่กี่วันที่ผ่านมาทั้งคู่ได้ติดต่อหลายครั้ง เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างบริษัทของทั้งสอง ตอนนี้เฉินห้าวพบปัญหาของเส้นสาย และก็นึกถึงเขาเป็นคนแรก ชุยหย่องปิงเป็นคนมีชื่อเสียงมากกว่าโจวซีถงในวงการการค้า
“ประธานเฉินมีธุระอะไรครับ?” ชุยหย่องปิงรับสาย และทักทายเขาอย่างสนิทสนม
เฉินห้าวเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับเฉียนหรงข่าย
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?เฉียนหรงข่ายใช่ไหม ฉันรู้จักเขา ฉันจะไปตอนเลย”ชุยหย่องปิงวางโทรศัพท์และขับรถไปทันที
“คนที่คุณหามาช่วยเราคือใคร?”จูหมิ่นถามด้วยความสนใจ
“เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นน่ะ” เฉินห้าวกล่าว
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะยืนรอเฉยๆ เดาว่าคุณน่าจะจัดการกับทุกอย่างได้ ฉันมีลางสังหรณ์เช่นนี้ หมู่คฤหาสน์จงหัวต้องเป็นของคุณแน่” จูหมิ่นกระพริบตาและพูดอย่างขี้เล่น
เฉินห้าวมองเธออย่างไม่คาดคิด ซิกซ์เซนส์ของนักข่าวหญิงคนนี้ถือว่าแม่นยำดี ไม่มีใครสามารถแย่งหมู่คฤหาสน์จงหัวที่เขาต้องการได้
เฉินห้าวนั่งพักบนเก้าอี้ตรงทางเดินของศูนย์นิทรรศการ ในขณะที่จูหมิ่นไปถ่ายทำวัสดุ และถามเฉินห้าวอย่างเลี่ยงๆว่าเขาเตรียมเงินสดไว้สำหรับการประมูลในตอนกลางคืนเท่าไหร่
“เรื่องเงินสดไม่ใช่ปัญหา ขอแค่ฉันได้เข้าร่วม หมู่คฤหาสน์จงหัวจะต้องเป็นของฉันแน่นอน” เฉินห้าวพูดด้วยความมั่นใจ
จูหมิ่นรู้สึกอึ้ง มีลางสังหรณ์ว่าทรัพยากรทางการเงินของเฉินห้าว อาจมากกว่าจินตนาการของเธอเยอะ
หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานในศูนย์นิทรรศการก็วิ่งออกจากแต่ละห้องในเวลาเดียวกัน และมีคนตะโกนว่า: “ประธานของหอการค้าชุยหย่องปิงมาเข้าร่วมด้วย ทุกคนควรเตรียมการต้อนรับล่วงหน้า”
เฉินห้าวยิ้มเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเลขาจางมีความรับผิดชอบมาก มาเร็วกว่าที่คิดนะนี้
“ประธานหอการค้า?ชุยหย่องปิง?” จูหมิ่นประหลาดใจเล็กน้อยมองไปที่เฉินห้าว และถามอย่างไม่เชื่อสายตา: “เขาคงไม่ใช่คนที่คุณเรียกมาใช่มั้ย?”
“ใช่แล้ว” เฉินห้าวยอมรับอย่างตรงไปตรงมา และยืนขึ้นกะไปดูสถานการณ์ตอนนี้หน่อย
“แม่เจ้า คุณชักจะเก่งเกินไปละ ชุยหย่องปิงไม่ใช่คนที่เชิญมาได้ง่ายๆ โดยปกติเขามักจะเป็นแขกรับเชิญของเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดเท่านั้น เพียงได้รับโทรศัพท์จากเฉินห้าว ก็สามารถทำให้เขามาได้ เขามีภูมิหลังหนักแน่นขนาดไหนกันเนี่ย?”
จูหมิ่นตกตะลึงมาก และเดาคำตอบไม่ได้ เธอรู้สึกว่าเฉินห้าวลึกลับมาก มันเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมาก ที่เธอติดตามเฉินห้าวในวันนี้
เมื่อเฉินห้าวมาถึงทางเข้าศูนย์นิทรรศการ เขาเห็นชุยหย่องปิงพาลูกน้องสองสามคนเดินตรวจตราในห้องโถงนิทรรศการ และผู้รับผิดชอบศูนย์นิทรรศการที่ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ก่อนหน้านี้ ได้ยืนอยู่ข้างเขาแล้วในขณะนี้
“ประธานชุยมาที่นี่เพื่อทำให้ศูนย์นิทรรศการของเราเจริญรุ่งเรือง……”ผู้รับผิดชอบพูดซ้ำซากจำเจ
แม้ว่าชุยหย่องปิงไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่เขาก็รู้จักนักธุรกิจระดับสูงและเศรษฐีนักธุรกิจมากมาย คำพูดของเขามีน้ำหนักมากในหอการค้า และยังสามารถกำหนดทิศทางในอนาคตของอุตสาหกรรมได้ด้วย ดังนั้นบุคคลที่รับผิดชอบคนนี้จึงมีความเคารพต่อเขาอย่างมาก
“ฮ่าๆ วันนี้ฉันไม่ได้มาเพื่อเยี่ยมชม ฉันได้ยินมาว่าคืนนี้จะมีการประมูลหมู่คฤหาสน์จงหัวเหรอ?” ชุยหย่องปิงยิ้มและถามอย่างมีมุ่งหมาย
“ใช่ครับ คุณก็มาเพื่อหมู่คฤหาสน์จงหัวเหรอครับ?” คนรับผิดชอบประหลาดใจ
“อืม เพื่อนฉันได้ยินมาว่าหมู่คฤหาสน์ไม่เลว และอยากจะเข้าร่วมการประมูลด้วย ยังมีเวลาอีกไหม?” ชุยหย่องปิงถาม
“ทันแน่นอนครับ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เอง เชิญทางนี้ครับ!”
ผู้รับผิดงานจะกล้าละเลยได้อย่างไร รีบนำทั้งกลุ่มไปที่หน้าเคาน์เตอร์สำนักงาน แล้วขอให้ชุยหย่องปิงกรอกแบบฟอร์มด้วยตนเอง
ชุยหย่องปิงยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นเฉินห้าว และเคลื่อนไหวให้เขาเดินตามเฉินห้าวจึงมาอยู่ข้างหลังชุยหย่องปิง
“ประธานชุย คุณมาแล้วหรือครับ”
จนกระทั่งมาถึงตรงหน้าประตู เฉียนหรงข่ายมองเห็นชุยหย่องปิง ก็รีบเข้ามาทักทายทันที เพราะเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของหอการค้ามณฑลเหอได้เจอสมาชิกใหญ่ของหอการค้า ก็ต้องเข้าไปประจบสอพลอเป็นตามธรรมชาติ
“อืม”
ชุยหย่องปิงตอบอย่างเฉยเมย และไม่สนใจเขาอีกเลย เมื่อเทียบกับสมาชิกหอการค้าทั่วไป เฉินห้าวผู้ลึกลับและมีพลังเป็นคนที่เขาสนใจมากกว่า
ในเวลานี้ ผู้รับผิดชอบของศูนย์นิทรรศการได้นำแบบฟอร์มใบสมัครมา และถามชุยหย่องปิง:“ประธานชุย เพื่อนคุณอยู่ที่ไหนครับ?”
“โอ้ เป็นคนนี้” ชุยหย่องปิงชี้ไปข้างหลังที่เฉินห้าว
เฉินห้าวเดินมาหยิบปากกาและเริ่มกรอกแบบฟอร์ม
“อ้าว เป็นเขาเหรอ?” ผู้รับผิดชอบงานประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เขาได้รับคำสั่งจากเฉียนหรงข่ายให้ปฏิเสธใบสมัครเขาร่วมการประมูลของคนที่ชื่อเฉินห้าว แล้วจงใจหลบหน้าเขา ไม่คิดว่าเขาจะเป็นถึงแขกของชุยหย่องปิง ไม่คาดคิดจริงๆ
เฉียนหรงข่ายก็ตกตะลึงเช่นกัน ในสายตาของเขาเองประธานชุยเป็นผู้มีอำนาจมหาศาล มาออกตัวเพื่อช่วยเฉินห้าวแบบนี้ได้ ดังนั้นภูมิหลังของเฉินห้าวจึงไม่อาจหยั่งรู้ได้
ในเวลานี้ชุยหย่องปิงปรากฏตัว เลยไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ดังนั้นผู้รับผิดชอบงานที่สอดคล้องกับเฉียนหรงข่าย ตอนนี้ทำได้แค่ข่มใจอนุมัติการประมูลให้กับเฉินห้าว