เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 191 บัตรความจนเท่ากัน
บทที่ 191 บัตรความจนเท่ากัน
“ขอบคุณแล้ว ที่จัดหาบูธให้ผม” เฉินห้าวยิ้มเอ่ย
“นายเกรงใจอะไรกัน” โจวซีถงยิ้ม ความรักความห่วงใยของทั้งสอง ชัดเจนโดยไม่ต้องพูดออกมา
พวกเขาทั้งสองกำลังแอบกระซิบกระซาบ เอ่ยคำพูดคลุมเครือเล็กน้อย พื้นที่จัดแสดงที่นี่พลันมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งมาถึง
ชายวัยกลางคนสวมชุดสูทรองเท้าหนังคนหนึ่งสาวเท้าก้าวเดินเข้ามา เบื้องหลังเขามีกลุ่มคนที่มีลักษณะเหมือนกันตามมา
โจวซีถงสายตาจ้องมองไปที่จุดเดียว เผยสีหน้าเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าผู้ที่มาไม่มีเจตนาดี
“ประธานโจว ไม่เจอกันนาน ธุรกิจของคุณดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว” ชายวัยกลางคนดูเหมือนถามไถ่อย่างมีไมตรี โจวซีถงกลับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาดี ตอบกลับลวกๆ สองประโยค
“คนคนนี้เป็นใคร? ”
เฉินห้าวไปถามผู้ช่วยหญิงของโจวซีถง
“เขาคือเว่ยเทียนยีประธานของกลุ่มเฟยเซี่ยง คู่แข่งเก่าของพวกเราบริษัทโจวซื่อเลยล่ะ” ผู้ช่วยสาวหน้าตางดงามพูดอย่างระมัดระวัง
“เว่ยเทียนยี? ”
เฉินห้าวคิดออกแล้ว ตอนนั้นเรื่องการรื้อถอนบ้านตะปูผืนนั้น ก็เป็นเว่ยเทียนยีคนนี้ที่เล่นสกปรกอยู่เบื้องหลัง ดูแล้วโลกกลมจนเจอศัตรูคู่แค้นแล้ว
“เทคโนโลยีการสื่อสารควอนตัมของประธานโจวก้าวล้ำในอุตสาหกรรมจริงๆ แต่ว่าดูจากภายนอกแล้วเหมือนกับว่าชิปและตำแหน่งชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆเกี่ยวเนื่องไปถึงของสิทธิบัตรบางส่วนของบริษัทเรา หวังว่าพวกคุณสามารถพัฒนาแก้ไขไปได้โดยเร็ว ทำจนถึงขั้นที่สามารถใช้ของตนเองได้ทั้งหมดอย่างแท้จริง”
เว่ยเทียนยีพูดโดยมีรอยยิ้มจอมปลอม
ผู้ช่วยหญิงก็โมโหมากเช่นกัน จึงเสริมกับเฉินห้าวว่า “พวกเขากลุ่มเฟยเซี่ยงตั้งใจเล่นสกปรก ใช้เงินจำนวนมากโยกย้ายเอาหัวหน้าผู้ออกแบบเทคโนโลยีของพวกเราบริษัทไฮเทคโจวซื่อไป ทำให้เกิดการรั่วไหลของแผนงานออกแบบบางส่วน ผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดช้าไปหนึ่งปี แต่อีกฝ่ายกลับใช้ผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันเกือบทั้งหมดมาแข่งขัน เลวร้ายเกินไปแล้ว”
เฉินห้าวหรี่ตาลง เว่ยเทียนยีคนนี้รังแกผู้หญิงของเขา วันนี้ยังมาหาถึงที่อย่างไร้ยางอายอีก ได้เวลาสั่งสอนเขาสักหน่อยแล้ว
“ไอหยา ท่านนี้คือเว่ยเทียนยีสินะ เลื่อมใสมานานๆ! ”
ตอนที่เว่ยเทียนยีกำลังเยาะเย้ยเสียดสีโจวซีถงอยู่ เฉินห้าวพลันปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายของเขา ราวกับเป็นเพื่อนเก่าเช่นนั้น ตรงเข้าไปจับมือของเขา
เฉินห้าวเปลือกนอกยิ้มกว้างเหมือนได้พบเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอมานาน ที่มือกลับพลันเพิ่มแรงขึ้น
เว่ยเทียนยีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที บนมือเจ็บปวด ทำให้บนหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีตับหมู อยากจะร้องอย่างเจ็บปวดแต่ว่าคนที่ตามมาด้านหลังทั้งหมดล้วนเป็นลูกน้อง เขาไม่อยากเสียท่าทีต่อหน้าลูกน้อง ทำได้เพียงอดทนไว้อย่างถึงที่สุด เส้นเลือดบนหน้าผากล้วนปูดออกมาแล้ว สีหน้าแข็งเกร็ง
ด้านหลังมีบอดี้การ์ดเห็นสถานการณ์แปลกไป จึงเร่งรีบขึ้นมาสอบถาม
เวลานี้เฉินห้าวหัวเราะเหอๆ ปล่อยมือออก ทักทาย “เพื่อนเก่า” เสร็จสิ้น
เว่ยเทียนยีมองที่มือตนเองอีกครั้ง ด้านบนมีรอยนิ้วมือกดลึกเพิ่มขึ้นมา เมื่อครู่เป็นเพราะว่าเฉินห้าวไม่ได้ลงมือโหดร้าย ไม่เช่นนั้นกระดูกมือคงต้องถูกบีบแตก
“สารเลว แกเป็นใคร? ”
เว่ยเทียนยีนวดคลึงมือเอ่ยขึ้นอย่างโมโห
“ฉันเป็นหุ้นส่วนของประธานโจว ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนของประธานโจว เช่นนั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว” เฉินห้าวหัวเราะเหอะๆ ตอบกลับ ทำให้เว่ยเทียนยีในใจเต็มไปด้วยไฟโกรธที่ปล่อยออกมาไม่ได้
“ใครเป็นเพื่อนกับแก! ” เว่ยเทียนยีตอบอย่างโมโห
“ไม่ใช่เพื่อนหรือ? เช่นนั้นคุณมาที่พื้นที่จัดแสดงของบริษัทโจวซื่อทำไม ขอข้าวหรือไง ให้สั่งอาหารเดลิเวอรี่มาให้คุณสักหน่อยมั้ย? ” เฉินห้าวยิ้มเย็น
“สารเลว พูดเช่นนี้กับประธานเว่ยของพวกเราได้ยังไง! ”
ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังเว่ยเทียนยีเข้ามาตำหนิ แต่เฉินห้าวเลิกคิ้วทำหน้าไม่แยแสทันที ในดวงตาปะทุไอดุร้ายออกมา ทำให้พวกหัวกะทิที่ปกตินั่งทำงานอยู่แต่ในห้องเหล่านั้นตกใจจนไม่กล้าเปล่งเสียง
บอดี้การ์ดของเว่ยเทียนยีอยากขึ้นหน้ามาลงมือ แต่กลับถูกเว่ยเทียนยีหยุดไว้ ที่นี่มีนักข่าวมากมาย คนใหญ่คนโตแบบเขาไม่อาจตกอยู่ในข่าวในทางไม่ดีอย่างการใช้กำลังได้
“เหอะ พวกนายคอยดูเถอะ! ”
เว่ยเทียนยีพ่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง หลังจากถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้ก็พาลูกน้องจากไป ด้านหน้าของพื้นที่จัดแสดงของบริษัทโจวซื่อในที่สุดก็กลับมาสงบเงียบอีกครั้ง
“ขอบคุณนาย ที่ระบายอารมณ์ให้ฉัน” โจวซีถงกล่าวอย่างซาบซึ้ง
“นี่พูดคำพูดอะไรกัน พวกเราเป็นหุ้นส่วน เรื่องของคุณก็เป็นเรื่องของผม ไอ้หมอนี่น่าหมั่นไส้ขนาดนี้ รอมีโอกาสผมจะตั้งใจซ้อมเขาสักรอบ คุณพูดมา ซ้อมให้ฟันเขากระเด็นกี่ซี่ถึงจะดี? ”
เฉินห้าวสอบถามอย่างเอาจริงเอาจัง
โจวซีถงกลั้นยิ้ม ทำท่าทางว่า32ซี่ นี่ก็คือฟันทั้งปาก
“ไอหยา สาวงามโจวเป็นผู้ที่มีความคิดคล้ายคลึงกันจริงๆ ” เฉินห้าวหัวเราะเสียงดัง ความโกรธของโจวซีถงที่เมื่อครู่ถูกเว่ยเทียนยีทำให้โมโหก็สลายหายไปทันที
ปลอบโยนโจวซีถงเสร็จ เฉินห้าวมองไปยังทิศทางที่เว่ยเทียนยีจากไป สายตาดุดันขึ้นมา
ในเมื่อพบเจอแล้ว เช่นนั้นก็ไม่อาจให้เขาอยู่สบายๆ ได้ บัญชีที่เขามุ่งเป้าไปที่โจวซีถง ต้องคิดบัญชีสักหน่อยแล้ว
เฉินห้าวมองเห็นแต้มสะสมเกือบร้อยในบัญชีของตน ก็เผยรอยยิ้มที่มีความหมายออกมา
……
พื้นที่จัดแสดงของกลุ่มเฟยเซี่ยง ที่แสดงคือโทรศัพท์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นหลัก เว่ยเทียนยีประธานของพวกเขา กำลังพูดจาฉะฉานมีหลักการอยู่กับนักข่าวสื่อมวลชน ดูแล้วเหมือนมีความเป็นผู้ใหญ่สุขุม ที่จริงแล้วเป็นพ่อค้าหน้าเลือดที่ไม่เลือกวิธีการคนหนึ่ง ตั้งแต่เขาใช้วิธีการอันน่ารังเกียจหลายครั้งใส่ร้ายโจวซีถงก็รู้แล้ว
เฉินห้าวคิดที่จะใช้การดำเนินการ พ่อค้าหน้าเลือดประเภทนี้ เพื่อหากำไรแล้วไม่เลือกวิธีการ เช่นนั้นก็ต้องทำให้เขาเจ็บปวดใจในบนด้านการเงินถึงจะดี
ครั้งนี้เป้าหมายที่เขาใช้ดำเนินการ ก็ถูกกำหนดไว้ในบัตรมหัศจรรย์ชนิดหนึ่งของพื้นที่พิเศษในแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้าน
บัตรความจนเท่ากัน : ทำให้เป้าหมายและผู้ใช้ยากจนเท่ากัน ถ้าเป้าหมายร่ำรวยกว่าผู้ใช้ สิ่งนี้จะกำจัดเงินฝากส่วนเกินออก ถ้าผู้ใช้มั่งคั่งมากกว่า บัตรนี้ก็ไม่มีผล การแลกเปลี่ยนต้องการ 15 แต้มสะสม
บัตรความจนเท่ากันนี้กับบัตรความมั่งคั่งเท่ากันในตอนนั้นมีผลลัพธ์คล้ายคลึงกัน แต่ว่าอีกอันจัดหาความมั่งคั่ง อีกอันมีทุกข์ร่วมกัน ทำให้เป้าหมายและผู้ใช้มีเงินฝากที่เท่ากัน แต่ถ้าผู้ใช้เป็นผู้ที่ไม่มีเงินติดตัวสักนิดเดียว เช่นนั้นเงินฝากทั้งหมดในบัญชีของเป้าหมาย ก็จะหายวับไป
นี่เป็นบัตรชนิดหนึ่งที่เหมาะจะใช้ในตอนนี้อย่างมาก กำหนดให้มีงิ้วดีๆ ให้ดูแล้ว