เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 209 แม่ฉันอยากเจอนาย
บทที่ 209 แม่ฉันอยากเจอนาย
“อ้อ ช่วงนี้นายว่างช่วงเย็นไหม” จู่ๆ โจวซีถงก็ถามขึ้น
เฉินห้าวเข้าใจว่าเธอเปลี่ยนใจจะให้โอกาสเขาหารายได้พิเศษ เขารีบพยักหน้าทันที เขาได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว
เห็นได้ชัดเจนว่าคนฉลาดอย่างโจวซีถงดูออกว่าเฉินห้าวเข้าใจผิดแล้ว เธอรีบอธิบายทันทีว่า “ไม่ใช่อย่างที่นายคิด แม่ฉันอยากเจอนาย”
“หา? แม่ยายอยากเจอผมเหรอ งั้นผมต้องเตรียมตัวให้ดีแล้วล่ะ”
จู่ๆ เฉินห้าวก็รู้สึกถึงหน้าที่อะไรบางอย่าง ถึงจะมีคำโบราณที่ว่าแม่ยายมักจะชอบลูกเขย แต่ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์กับโจวซีถงจะราบรื่นไปจนถึงตอนขอแต่งงานหรือเปล่า เขาจึงไม่สามารถละเลยได้
“โสมที่นายซื้อเมื่อครั้งก่อน แม่ฉันกินแล้วร่างกายดีขึ้น เธอเลยอยากรู้จักนาย”
ใบหน้าขาวของโจวสีถงแดงระเรื่อ เธอมีท่าทีเขินอายเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอยิ่งพูดยิ่งเบา แม้แต่เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อข้ออ้างนี้
การที่คุณแม่โจวให้เฉินห้าวไปหาครั้งนี้ จริงๆ เธออยากเห็นแฟนใหม่ของลูกสาวว่าหน้าตาเป็นยังไง ถึงโจวซีถงจะปิดบังเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเฉินห้าวกับทุกคน แต่แม่ที่เข้าใจลูกที่สุด ทำไมจะดูไม่ออกว่าลูกสาวของตัวเองเปลี่ยนไป
แต่เดิมโจวซีถงมักออกจากบ้านแต่เช้าและกลับมาดึกดื่น ใส่สูทและกระโปรงเหมือนสาวออฟฟิศทุกวัน แต่งหน้าแบบง่ายๆ ทำงานหนักทุกวันและพูดแต่เรื่องงานกับแม่
แต่ทว่าครึ่งเดือนก่อน ราวกับว่าโจวซีถงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอชอบซื้อชุดสวยๆ ชอบแต่งตัว บุคลิกอ่อนโยนขึ้นมาก แถมบางทีก็ดูมือถือแล้วหัวเราะ นี่มันเป็นอาการของผู้หญิงที่กำลังตกหลุมรักชัดๆ ถึงแม้โจวซีถงจะอายุยี่สิบกว่าปีแล้ว แต่เธอยังไม่เคยมีความรัก ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่เธอจะเป็นแบบนี้
และคนที่เห็นอย่างคุณแม่โจว จะดูไม่ออกได้อย่างไร บวกกับตอนที่โจวซีถงกลับบ้านมาเมื่อวาน เธอเดินไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ คนเป็นแม่ก็รู้ทันที จึงบอกให้โจวซีถงพาเฉินห้าวมาพบเธอสักหน่อย โจวซีถงไม่มีโอกาสอธิบาย และไม่สามารถปิดบังได้ และจำใจทำตามที่แม่บอก
เฉินห้าวกลับเข้าใจดี การที่ไปพบแม่ยายในอนาคตครั้งนี้ เขาต้องแสดงออกให้ดี ดังนั้นเขาจึงถามโจวซีถงว่าแม่ยายชอบอะไร
“แม่ยายของฉันเลื่อมใสในพุทธศาสนา กินเจ ออกไปข้างนอกก็ไปเจอกับเพื่อนที่เลื่อมใสในพุทธศาสนาเช่นกัน เธอไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ” โจวซีถงเอ่ยขึ้น
คนที่ไม่ต้องการอะไรและเคร่งในพุทธศาสนา ความต้องการจึงน้อย ครั้งก่อนเฉินห้าวไปซื้อประคำข้อมือเป็นเพื่อนโจวซีถง ถ้าครั้งนี้จะให้อีกครั้งก็ต้องคิดเสียหน่อย
การจะมอบของขวัญก็ต้องมอบให้ถูกใจผู้รับ โจวซีถงตอบแบบกว้างๆ เฉินห้าวจำเป็นต้องคิดเอง
“งั้นมีรูปแม่ของเราไหม ผมขอดูหน่อย” เฉินห้าวพูดอย่างหน้าไม่อายและขยับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
“เรายังไม่ถึงขั้นนั้น ตอนไปเจอแม่ฉัน นายอย่าไปเรียกแบบนี้นะ” โจวซีถงทั้งเขินทั้งกระวนกระวาย
“ฮ่า ฮ่า”
เฉินห้าวมีความสุขเป็นอย่างมาก เขาชอบหยอกโจวซีถง คิดไม่ถึงว่าเธอจะติดกับได้เร็วขนาดนี้ สาวแกร่งที่มีอำนาจในโลกธุรกิจ ยังมีมุมเหมือนสาวน้อย น่าสนุกจริงๆ
โจวซีถงกลัวว่ามันจะไปกันใหญ่ เธอตั้งสติแล้วจ้องเฉินห้าวด้วยสายตาดุๆ แต่แววตาของเธอไม่ค่อยต่างจากการยั่วยวนสักเท่าไรเลย
แต่ทว่าเธอก็หยิบมือถือออกมาให้เฉินห้าวดูรูปของแม่
ในภาพเป็นผู้หญิงที่มีอายุในชุดสีม่วงกำลังนั่งอย่างสง่างาม อายุน่าจะประมาณห้าสิบปี ใบหน้ามีเสน่ห์เหมือนโจวซีถง เป็นแม่แท้ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย แค่ว่าสีหน้าของเธอไม่ค่อยดีนักเพราะป่วยมาตลอดทั้งปี อีกทั้งยังซูบผอมมาก
“ทำไมแม่ของเราถึงผอมขนาดนี้” เฉินห้าวถามขึ้น
“แม่ป่วยมาตลอด และกินเจด้วย แม่ไม่ค่อยอยากอาหารเลยขาดสารอาหารเล็กน้อย” โจวซีถงพูดขึ้นอย่างหดหู่ แต่เธอไม่ทันได้ฟังว่าเฉินห้าวเรียกว่า ‘แม่ของเรา’ เธอจึงไม่ได้ตอบโต้อะไร บางทีเธออาจยอมรับความสัมพันธ์ของเธออยู่ในใจ
“เอางี้ นอกจากผมจะให้ของล้ำค่าทางพุทธศาสนาเป็นของขวัญของแม่เรา ผมจะชวนแม่ทานอาหารเจด้วยกันสักมื้อ คุณว่าเป็นยังไง” เฉินห้าวถามด้วยความอยากรู้
“ได้สิ แต่แม่ฉันไม่ค่อยอยากอาหารอะไรเลยน่ะสิ ทานแค่ข้าวสวย ยิ่งพวกอาหารเจมันๆ เธอกินไม่ลงหรอก” โจวซีถงพูดอย่างเป็นกังวล
“งั้นต้องดูว่าใครเป็นคนทำ ผมรู้จักแม่ครัวที่เก่งมากอยู่คนหนึ่ง”
“หา? จริงเหรอ”
“จริงสิ คุณยังจำตอนที่เราเปิดกิจการได้ไหม แม่ครัวคนสวยที่ผมเคยบอกคุณ เธอเป็นแม่ครัวของผม” เฉินห้าวหมายถึงเซี่ยจิ้ง
ความคิดของผู้หญิงแปลกประหลาด จะกรองข้อมูลสำคัญโดยอัตโนมัติ และจะมีความรู้สึกต่อ “เพศตรงข้าม” ของคนที่ชอบเป็นพิเศษ
โจวซีถงหึงขึ้นมาทันที “นายหมายถึงสาวนมใหญ่คนนั้นเหรอ พวกผู้ชายชอบแต่รูปร่างของผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ”
เฉินห้าวพูดอะไรไม่ออก “คุณโยงไปเรื่องไหนแล้ว ผมจะบอกว่าบรรพบุรุษของเซี่ยจิ้งเป็นคนครัวในวัง ทำแต่อาหารชั้นยอด ผมจะให้เธอมาทำอาหารเจ แม่ของเราจะต้องชอบแน่นอน”
“ตอบฉันมาว่าชอบผู้หญิงอึ๋มใช่ไหม”
โจวซีถงไม่พูดอะไร เธอจ้องไปที่เฉินห้าวตาเป็นประกาย เธอยังสับสนกับคำถามเมื่อครู่
เฉินห้าวยักไหล่ “โอเค ผมตอบอย่างจริงจังเลย ของคุณก็ใหญ่ ผมพอใจมาก”
“ไอ้เลว!”
โจวซีถงสบถออกมา แต่เธอเห็นด้วยกับความคิดของเฉินห้าวที่จะชวนแม่ไปทานอาหารเจ
เรื่องนี้จบลงอย่างที่คุยกัน พรุ่งนี้ตอนเย็น เธอให้เฉินห้าวเตรียมของขวัญและอาหารเอาไว้ล่วงหน้า รวมถึงสถานที่ทานข้าวด้วย สรุปแล้วคงจะเป็นที่หมู่คฤหาสน์จงหัว ถึงเวลานั้นจะได้ให้แม่ของตัวเองเห็นอุตสาหกรรมของเฉินห้าวด้วย
ดังนั้น ทั้งสองจึงเดินออกจากห้องประชุม แต่ก่อนที่จะออกไป เฉินห้าวประทับจูบลงบนแก้มหอมๆ ของโจวซีถง
“โอ๊ย มีแต่น้ำลายของนาย!”
คำด่าของโจวซีถงทั้งอ่อนหวานและหงุดหงิด เหมือนกับวิธีการอ้อนที่พิเศษอย่างหนึ่ง