เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 262 คนที่มีเงินมากกว่า
สวีซื่อเสียนขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่แน่ใจ“ประธานโจว ประธานเฉิน ถ้าพวกคุณมีปัญหาอะไรกับรายละเอียดที่ผมกล่าว เชิญบอกมาได้เลยครับ!”
โจวซีถงเหลือบมองเฉินห้าว ใช้สายตาถามความคิดเห็น หลังจากการเจรจาพูดคุยนี้ เห็นได้ชัดว่า สวีซื่อเสียนคาดหวังให้พวกเขาลงทุนในท้องถิ่นนี้เป็นอย่างมาก
เฉินห้าวคิดว่าได้เวลาแล้วที่ควรพูดเรื่องความต้องการของการร่วมมือของทั้งสองฝ่าย และผลประโยชน์จากการร่วมมือก็ควรพูดได้แล้ว
ดังนั้นเฉินห้าวจึงพูดขึ้น“การลงทุนของเราติดปัญหาเรื่องที่ดิน คุณช่วยพูดกับผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยได้ไหม?”
“ได้แน่นอน ผมจะไปขอให้เพื่อนที่ทำงานในฝ่ายทรัพยากรที่ดินช่วย”
สวีซื่อเสียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาคนคนหนึ่ง
แต่เฉินห้าวได้ยินไม่ค่อยชัด เขตวงล้อมของถนนเมี่ยวเจียค่อนข้างพิเศษ ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจการบริหารของหน่วยงานทรัพยากรที่ดินของอำเภอ แต่อยู่ในอำนาจของผอ.เลี่ยวในสำนักงานพัฒนา
“หัวหน้าสวี คุณช่วยเชิญผอ. เลี่ยวมาพูดคุยที่นี่ได้ไหม?” เฉินห้าวกล่าวตรงตาม
“โอ้ อยากพบผอ.เลี่ยวอย่างนั้นหรือ พวกคุณอยากดูพื้นที่วงล้อมของถนนเมี่ยวเจีย” สวีซื่อเสียนเข้าใจเจตนาของเฉินห้าวทันที
“ใช่ เพราะมันอยู่ในเขตการลงทุน การลงทุนในถนนเมี่ยวเจียถือว่าเป็นการลงทุนในอำเภอลี่ทงเช่นกัน ผมหวังว่าหัวหน้าสวีจะไม่ปฏิเสธนะครับ?” เฉินห้าวถามกลับอย่างจริงจัง
“ไม่ปฏิเสธแน่นอน แต่ว่าถนนเมี่ยวเจียค่อนข้างพิเศษ ลำเทที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวอำเภอลี่ทงมาก อำนาจการปกครองเข้าถึงยากมาก!”
ความปรารถนาของสวีซื่อเสียนคือการให้บริษัทโจวซื่อมาลงทุนในอำเภอลี่ทง ด้วยวิธีนี้จะทำให้สภาวะเศรษฐกิจของอำเภอดีขึ้น และการลงทุนในถนนเมี่ยวเจีย พื้นฐานการพัฒนาคือต้องจ้างแรงงานคนในเมืองไป๋เหอ เงินการลงทุนส่วนใหญ่ก็ต้องไหลเข้าเมืองไป๋เหอ อำเภอลี่ทงไม่ได้รับผลประโยชน์มากนัก ดังนั้นทำให้สวีซื่อเสียนไม่มีแรงจูงใจมากนัก
เฉินห้าวพูด“ถนนเมี่ยวเจียเป็นตัวเลือกแรกที่พวกเราจะลงทุน แต่อำเภอลี่ทงก็มีโอกาสเช่นกัน ถ้าหากการเจรจาเป็นไปด้วยดี อย่างนั้นโอกาสในการลงทุนในอำเภอลี่ทงก็มีไม่น้อยเช่นกัน”
เฉินห้าวตัดสินใจโยนผลประโยชน์ให้เล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ถึงจะทำให้สวีซื่อเสียนมีแรงผลักดันที่จะเป็นสะพานทางธุรกิจ
ได้ยินเช่นนั้น สวีซื่อเสียนจึงมีแรงผลักดันขึ้น รีบโทรเรียกผอ.เลี่ยวมาทันที
รอสักครู่ ผอ.เลี่ยวก็เปิดประตูเข้ามา นี่คือเสนาธิการอวุโสในวัยห้าสิบปี ศีรษะมีผมขาวเล็กน้อย สวมชุดสูทเรียบๆ ดูเป็นหัวหน้าในทางปฏิบัติ
“คุณคนนี้คือคุณโจวจากบริษัทโจวซื่อ ส่วนท่านนี้คือคุณเฉินห้าวเป็นเพื่อนของเธอ” สวีซื่อเสียนแนะนำทั้งสองคน
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับผอ.”
ทั้งสองฝ่ายทักทายจับมือ และนั่งลง สวีซื่อเสียนและผอ.เลี่ยวนั่งฝั่งเดียวกัน เฉินห้าวและโจวซีถงนั่งฝั่งตรงข้าม
หลังจากทักทายพอเป็นพิธี ผอ.เลี่ยวก็ถามขึ้น“คุณเฉินหรือว่าคุณโจวซีถงที่ต้องการซื้อที่ดินเขตถนนเมี่ยวเจีย?”
ชื่อคนซื้อสำคัญมาก เพราะในสายตาพวกเขาโจวซีถงถือเป็นคนใหญ่คนโต แต่เฉินห้าวไม่มีชื่อเสียง จากนามบัตรของเฉินห้าวพบว่าเขามีตำแหน่งเป็นเพียงประธานบริษัทการค้าห้าวหราน เห็นได้ชัดว่าเทียบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าบริษัทโจวซื่อได้เลย พวกเขาเอนเอียงไปทางการลงทุนกับบริษัทโจวซื่อมากกว่า
“คุณเฉินห้าวเป็นหุ้นส่วนสำคัญของบริษัทโจวซื่อ มูลค่าสินทรัพย์ของเขามากกว่าฉันมาก” โจวซีถงมองความกังวลของอีกฝ่ายออก จึงแก้ชื่อเสียงให้เฉินห้าว
แท้จริงแล้ว แม้บริษัทโจวซื่อจะมีเงินมาก แต่นั่นก็เป็นเงินจากการร่วมลงทุน กล่าวตามจริงคือล้วนเป็นเงินของผู้ร่วมหุ้นรายใหญ่รายเล็กรวมกัน และโจวซีถงเป็นเพียงประธานผู้บริหารเท่านั้น จากรายได้บริษัทจำนวนร้อยล้านต่อปี เธอได้ส่วนแบ่งผู้ถือหุ้นเพียง 3 %
ปัจจุบันผู้ถือหุ้นที่ใหญ่มีสุดในกลุ่มคือบิดาของเฉินห้าว ดังนั้นจึงพูดได้ว่าโจวซีถงรวยน้อยกว่าเฉินห้าว สินทรัพย์ของเธอรวมๆแล้วมีมูลค่าประมาณไม่กี่พันล้าน
แต่เฉินห้าวมีธุรกิจต่างๆ อาทิ ร้านอาหารฝรั่งเศส โรงเหล้าเจียเฟิ่ง บริษัทการค้าห้าวหราน ศูนย์การค้าหวนอวี่ เป็นต้น ในทางอสังหาริมทรัพย์ก็มีคอนโดเฟ่ยชุ่ย อาคารสไตล์โบราณอย่างหมู่คฤหาสน์จงหัว มีรถหรูหลายคันในชื่อชื่อเขา และยังมีแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นเงินทุนสำรอง สินทรัพย์ทั้งหมดนี้รวมกันมีมูลค่ามากกว่าของโจวซีถงเป็นอย่างมาก
ในบรรดาพวกเขาทั้งสอง เฉินห้าวจึงเป็นคนที่ร่ำรวยกว่า
เมื่อได้ยินโจวซีถงพูดแบบนี้ หัวหน้าทั้งสองต่างมีปฏิกิริยาตอบสนอง ที่จริงแล้วเฉินห้าวมีอำนาจมากขนาดนี้ สามารถทำให้โจวซีถงกล่าวยกย่องได้ เช่นนี้ก็สามารถคุยกับเขาได้อย่างเต็มที่
ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามรับรู้อำนาจที่แท้จริงของเขา จึงสามารถเข้าสู่การเจรจาที่แท้จริงได้ เฉินห้าวถามอย่างตรงไปตรงมาว่าสามารถขายที่ดินในเขตถนนเมี่ยวเจียได้ไหม เขาต้องการซื้อที่ดินส่วนนี้
“ถนนเมี่ยวเจียเป็นปัญหาทางประวัติศาสตร์ สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน ที่ดินไม่เหมาะที่จะขายตรง เป็นเรื่องยากมากที่จะดำเนินการ”
คำพูดของผอ.เลี่ยวมีบางอย่างซ่อนอยู่ เขาไม่ได้พูดว่าไม่มีทาง แสดงว่ามีช่องทางอยู่
“คงต้องขอให้ผอ.เลี่ยวและหัวหน้าสวีช่วย เฉินห้าวคนนี้จะขอบคุณมาก และจะแบ่งกำไรจากการลงทุนบางส่วน มาลงทุนในอำเภอลี่ทง”
เฉินห้าวได้ทำข้อตกลงเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน แม้ว่าสภาพอำเภอลี่ทงจะแย่มาก แต่เขาเห็นโอกาสทางธุรกิจอีกอย่างแล้ว นั่นก็คือโครงสร้างพื้นฐานของเขตเมือง
ถนนเหล่านั้นควรรื้อและซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนเตี้ยตามริมถนน เมื่อเขาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การเงินของอำเภอก็จะดีขึ้น สามารถลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้ นอกจากนี้บริษัทโจวซื่อยังมีทีมวิศวกร สามารถร่วมลงทุนในการก่อสร้างและฟื้นฟูบางส่วน อีกทั้งอำเภอลี่ทงใช้การลงทุนที่ได้มาซ่อมแซมอำเภอทั้งภายในตัวเมืองและนอกตัวเมือง การเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่านี้ ประชาชนในเมืองต้องพอใจเป็นอย่างมาก ประชาชนต่างกล่าวสรรเสริญทั่วทิศทาง นี้เป็นที่วินวินทั้งสองฝ่าย
โอกาสที่สวยงามเช่นนี้ แต่ก็มีอุปสรรคในการดำเนินการอยู่บ้าง ผอ.เลี่ยวผู้รับผิดชอบดูแลเขตถนนเมี่ยวเจียตกอยู่ในภวังค์ความคิด ฉากนี้ดูน่าเบื่อเล็กน้อย