เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 273 ไปหาน้าเขยสาม
“เจ็บทนไม่ไหวแล้ว พี่ชาย พวกเรายอมแล้ว!”
พวกสี่คนแรกที่อยู่ใต้โต๊ะก่อนแล้วทนไม่ไหวก่อนเลย เริ่มขอร้อง
กางจื่อโดนเตะไม่เบาเลย เขาเองไม่เคยผ่านการทะเลาะเบาะแว้งมาก่อนทั้งตกใจและหวาดกลัว น้ำตาน้ำมูกไหลไม่หยุด พูดเสียงแหบพร่าว่า “ไม่ดูแล้ว ผมจะไม่ดูหนังอีกแล้ว ใครไปดูเป็นหลานไปเลย”
เฉินห้าวแค่นเสียงฮึ วัยรุ่นสมัยนี้พ่อแม่ตามใจจนเคยตัวแล้ว ไม่รู้จักถ่อมตน อวดเก่งไปวันๆ ไม่ช้าก็เร็วต้องโดนสังคมประณามแน่ เพียงแต่ว่าตอนนี้เฉินห้าวให้บทเรียนพวกเขาล่วงหน้าเท่านั้น เรียกได้ว่าสั่งสอนพวกเขาแทนสังคมไปเลย
“ไปขอโทษแฟนฉันซะ!” เฉินห้าวถีบเขาอีกที
ตอนนี้กางจื่อยืนไม่ขึ้นเลย ได้แต่ร้องตะโกนอยู่บนพื้นว่า “พี่สาว ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ปากดีอีกแล้วครับ”
“เอาล่ะอาห้าว ปล่อยเด็กพวกนี้ไปเถอะ” โจวซีถงรู้สึกว่าพอแล้ว อีกฝ่ายได้รับบทเรียนแล้ว เธอเองก็หายโกรธแล้ว
“เรียกว่าไม่โดนไม่จำสินะ”
เฉินห้าวแค่นเสียงเย็น เขายกเท้าขึ้นกระโดดลอยจากโต๊ะ พวกวัยรุ่นถึงได้โดนปล่อยตัว พวกเขาพร้อมใจกันล้มลุกคลุกคลานจากพื้น แต่ละคนไม่ใช่ขาเจ็บ ก็เอวเจ็บ เรียกได้ว่าเฉินห้าวสั่งสอนได้ถึงใจจริงๆ
ตอนนี้วัยรุ่นทั้งเจ็ดคนว่าง่ายหมดแล้ว พวกเขายืนเกาะกลุ่มกันอยู่ด้านข้าง
โจวซีถงยิ้มเดินเข้ามา ยื่นทิชชูเปียกให้เฉินห้าวสองแผ่น ให้เขาเช็ดมือ สั่งสอนพวกเด็กนี่ไป เขาก็แค่มือเลอะเท่านั้น ไม่เรียกว่ามีบาดแผลอะไร
เฉินห้าวรับทิชชู่ เช็ดคราบเลือดที่มือไปจนหมด จากนั้นหมุนตัวกลับมายิ้มให้โจวซีถง
“ตกใจหรือเปล่า?” เฉินห้าวถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เลย ฉันกลัวแต่คุณจะอัดคนอื่นจนเละ เกิดเป็นข่าวขึ้นมาจะไม่ดีน่ะ” โจวซีถงพูดกลั้วหัวเราะ
จริงๆตอนนี้พวกเขาเป็นคนในวงการจริงๆ ถ้าโดนเอาไปลงอินเทอร์เน็ต ต่อให้พวกเขาเป็นฝ่ายถูก ก็คงได้รับการวิพากย์วิจารณ์จากคนที่ไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริงแน่
“ผมจะจัดการเอง” เฉินห้าวบอก
พวกเขากินปิ้งย่างเสร็จแล้ว สั่งสอนวัยรุ่นไปแล้ว เตรียมตัวไป แต่เถ้าแก่ปิ้งย่างกลับยังยืนอึ้งอยู่กับที่ บ่นพึมพำว่า “ไหงทะเลาะกันได้ล่ะนี่ แบบนี้ก็เละสิ?”
ใช่ ที่นี่คนที่เสียหายหนักที่สุดก็คือเถ้าแก่แผงลอยปิ้งย่างนี่แหละ
เฉินห้าวเป็นคนบุญคุณความแค้นแยกชัด เขาหยิบเงินออกมาปึกหนึ่งจากกระเป๋าเงิน ประมาณสองพันหยวนได้ยัดใส่มือเถ้าแก่
“ค่าเสียหายคิดที่ผมนะ”
พูดจบ ก็พาโจวซีถงจากไป
เถ้าแก่ปิ้งย่างยืนมองเฉินห้าวจากไปอึ้งๆ ก่อนจะรู้ได้ว่าเฉินห้าวต้องเป็นคนดังแน่ ทะเลาะเก่ง แถมยังสปอร์ตด้วย แถมแฟนที่สวยระดับนางงามนั่นอีก คนแบบนี้ไม่ใช่ใครที่พวกวัยรุ่นข้างถนนพวกนี้จะหาเรื่องได้หรอก เขาอดหันไปสั่งสอนพวกวัยรุ่นพวกนั้นไม่ได้ว่า “พวกแกนะ ต่อไปจำบทเรียนนี้ไว้ล่ะ”
“เหอะ ยังมีหน้ามาสอน กล้ายุ่งมากๆเดี๋ยวกูจะ…โอ๊ย!”
เฉินห้าวจากไปแล้ว กางจื่อก็กลับมากร่างเหมือนเดิม แต่พอเขาจะปากดีอีก ดันไปโดนบาดแผลเข้า เลยร้องโอดโอยเสียงดัง
“กางจื่อ จะยอมอย่างนี้หรือไง?” วัยรุ่นที่อาเจียนจนกระเพาะแทบทะลุถามอย่างไม่ยอม
กางจื่อกัดฟันกรอดพูดว่า “เรื่องอะไรจะยอม ฉันจะไปหาน้าเขยสามของฉัน!”
พอได้ยินว่ากางจื่อจะไปหาน้าเขยสามของเขา พวกวัยรุ่นต่างมีสีหน้าสะใจกันขึ้นมาทันที พวกเขารู้ว่ากางจื่อมีเบื้องหลังใหญ่ที่นี่ น้าเขยเป็นข้าราชการ เรื่องเล็กเรื่องใหญ่จัดการได้หมด ออกหน้าแทนพวกเขาสั่งสอนคนต่างถิ่นสักหน่อยไม่เป็นปัญหาเลย
เขารีบโทรหาน้าเขยสามทันที ปลายสายยังไม่ทันรับก็โดนตัดสาย กางจื่อพยายามโทรต่อ จนโทรติดในการโทรครั้งที่สาม
พออีกฝ่ายรับสาย เขาแกล้งร้องไห้เสียงดัง เรียกคะแนนสงสารเต็มเหนี่ยว
ตอนนี้ที่ว่าการอำเภอ สวีซื่อเสียนซึ่งเป็นนายอำเภอการลงทุนกำลังเขียนรายงานล่วงเวลา การทำงานล่วงเวลาในช่วงดึกมักจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะวันนี้เขาพึ่งตกลงการลงทุนครั้งใหญ่ไปได้โครงการหนึ่ง ยอดการลงทุนของเขาในปีนี้ก็จะทะลุเป้าแล้ว
ในตอนนี้เองเขาได้รับโทรศัพท์จากหลานเข้า
สวีซื่อเสียนรู้ดีว่าหลานคนนี้ไม่เอาถ่าน วันๆเอาแต่ก่อเรื่อง เขาต้องคอยตามล้างตามเช็ดให้ตลอด ครั้งนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีอะไร เลยจงใจตัดสายทิ้ง ไม่ยอมรับสาย
แต่โทรศัพท์กลับดังไม่หยุด เขาเริ่มรำคาญ แต่จะไม่รับก็ทำงานไม่รู้เรื่อง สวีซื่อเสียนเลยได้แต่รับสายขึ้นมา
พอกดรับ ก็ได้ยินเสียงหลานร้องไห้เสียงดังมาเลย
สวีซื่อเสียนตกใจ ปกติตอนรับสาย จะเป็นหลานไปทำร้ายคนอื่น และโทรมาอวดเขาอย่างดีใจให้เขาส่งคนไปช่วย ทำไมครั้งนี้ร้องแบบนี้ หรือว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว?
“เกิดอะไรขึ้น?” สวีซื่อเสียนรีบถาม
“น้าเขย ผมโดนคนต่างถิ่นคนหนึ่งทำร้ายเอา มันทำผมน่วมเลย!” หลานพูดเสียงแหบเครือ
“สม น้าบอกเธอไม่รู้กี่ครั้งแล้ว หาเรื่องให้มันน้อยๆหน่อย ไม่งั้นต้องโดนดีเข้าสักวัน นี่ไงสมพรปากเลย” สวีซื่อเสียนตะคอกหลานอย่างไม่ไว้หน้า
“น้าเขย พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ ผมโดนรังแกแล้ว น้าจะไม่สนใจผมไม่ได้นะ ต้องจัดการมัน” หลานร้องคร่ำครวญ
สวีซื่อเสียนเดิมไม่อยากยุ่ง แต่เดี๋ยวกลับไปแล้ว หลานไปฟ้องน้าสาวมัน เขากลับไปก็โดนบ่นอีก
“ทะเลาะวิวาทแจ้งตำรวจก็พอแล้วนี่ ไว้ตอนดำเนินเรื่องฉันจะเข้าไปดูแลเอง” สวีซื่อเสียนพูดอย่างกลั้นความโกรธ
“ได้ ต้องช่วยผมจับชายหญิงคู่นั้นนะ เอาไปขังซักหลายเดือนเลย!”ตอนนี้หลานแถมอีกหนึ่งคำ
“เดี๋ยว? แกบอกอีกฝ่ายเป็นหนึ่งชายหนึ่งหญิง? หน้าตายังไง พูดมาให้ชัดๆสิ?”
สวีซื่อเสียนสมเป็นหัวหน้าทีม รู้สึกเรื่องมันพิกล ในใจรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี รีบถาม
“พวกเขาอายุประมาณยี่สิบกว่าปี ผู้ชายก็งั้น ส่วนผู้หญิงสวยมาก หยั่งกับดาราแหน่ะ” หลานชายบรรยาย
สวีซื่อเสียนใจกระตุกชั่ววูบ ถามสถานที่เกิดเรื่องกับเขา หลานชายบอกว่าแถวลาดคู่รัก