เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 274 น้าตบผมทำไม
“ซวยละ บางทีอาจจะเป็นเถ้าแก่เฉินกับเถ้าแก่โจว!”
สวีซื่อเสียนแทบจะแน่ใจในเรื่องนี้ได้เลย เพราะเขาได้ยินลูกน้องบอกแล้วว่า เฉินห้าวกับโจวซีถงอยู่ที่ลาดคู่รักตอนเย็นๆ
“แกอย่าพึ่งไป รอฉันไปก่อน!”
สวีซื่อเสียนน้ำเสียงเร่งร้อน ขู่หลานชายอย่างเข้มงวด รีบใส่เสื้อคลุมออกไป ตอนนี้มือถือเขาที่พึ่งปิดไปก็โชว์หน้าจอว่าคุยกับ”หลานชายกางจื่อ” เสร็จ…
ใช่ น้าเขยสามของกางจื่อคือสวีซื่อเสียน บังเอิญอะไรขนาดนี้
สวีซื่อเสียนเรียกลูกน้องหลายคนที่ยังทำโอทีอยู่ รีบวิ่งไปขับรถที่ชั้นล่างมาให้ ระหว่างลงไปรีบโทรหาเฉินห้าว เพื่อให้แน่ใจก่อน
“ประธานเฉิน ขอโทษที่รบกวนกลางดึกแบบนี้นะครับ ทางคุณยังโอเคดีอยู่ไหม?” สวีซื่อเสียนเลียบเคียงถาม
“ก็ดีนะครับ กำลังกินชานมกันอยู่”
ตอนนี้เฉินห้าวกับโจวซีถงเห็นร้านชานมมีเอกลักษณ์เจ้าหนึ่ง เดินแวะเข้ามานั่งพักสักหน่อย
“เอ๋? ดูสบายดีนะครับ งั้นตอนดึกประธานเฉินจะทานอะไรดีครับ ให้ผมแนะนำอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของอำเภอให้ไหมครับ?”
ในฐานะหัวหน้า น้อยมากที่จะถามตรงประเด็นแบบนี้ จะได้ไม่ต้องโดนผลกระทบ เขากำลังเลียบเคียงถามว่าเฉินห้าวทะเลาะกับหลานตัวเองหรือเปล่า
“กินปิ้งย่างน่ะ” เฉินห้าวตอบเสียงเรียบ
“งั้นตอนกินปิ้งย่าง มีเรื่องกับใครหรือเปล่าครับ?” สวีซื่อเสียนถามต่อ
เฉินห้าวเริ่มเซ็ง ทำไมสวีซื่อเสียนรู้เร็วขนาดนี้ หรือว่าพวกวัยรุ่นนั่นแจ้งตำรวจแล้ว เลยถามกลับว่า “อีกฝ่ายแจ้งความไป?”
สวีซื่อเสียนแน่ใจในบัดดลว่า ต้องเป็นหลานชายตัวเองทะเลาะกับเฉินห้าวแน่ เรื่องเลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นแล้ว หลานตัวเองดันไปหาเรื่องคนลงทุน เกิดจัดการไม่ดี สูญเสียเงินทุนไป มันจะเป็นการสูญเสียที่ประมาณค่าไม่ได้เลย
แต่ว่ายังดี ฟังจากน้ำเสียงเฉินห้าว เขาไม่ได้เป็นอะไร เรื่องน่าจะยังพอคุยกันได้
“เหอะๆ ขอโทษจริงๆครับ ทำให้ประธานเฉินกับประธานโจวตกใจแล้ว อีกฝ่ายไม่ได้แจ้งความ ผมจะอธิบายต่อหน้าคุณอีกครั้งเอง”
สวีซื่อเสียนถามที่อยู่ตอนนี้ของเฉินห้าวอย่างชัดเจน ก็รีบสั่งให้ลูกน้องรีบขับรถ ไปที่แผงลอยปิ้งย่าง
“เร็วหน่อย ขับเร็วขึ้นอีก!”
เรื่องไม่รอใคร สวีซื่อเสียนเร่งลูกน้องไม่หยุด รถของพวกเขาเร่งความเร็วสูงไปที่เกิดเรื่อง
พอถึงแผงลอยปิ้งย่าง ในที่สุดสวีซื่อเสียนก็เห็นพวกวัยรุ่นขากวนนั่น แต่ละคนหน้าเหงาหน้าหงอย บวมปูดหน้าเขียว ตัวแกนน้ำก็หลายชายไม่เอาถ่านของตนเหยนกางน่ะแหละ ชื่อเล่นว่ากางจื่อ
“น้าเขย น้าต้องจัดการให้ผมนะ!” กางจื่อเห็นน้าเขยมา ก็ปรี่เข้ามาเรียกร้องคะแนนสงสารทันที
จากนั้นสวีซื่อเสียนกลับหน้าตึง ยกมือถือเปิดรูปเฉินห้าวกับโจวซีถงให้เขาดู “คนที่แกทะเลาะด้วยน่ะ สองคนนี้หรือเปล่า?”
“ใช่ พวกมันน่ะแหละ น้าเขย ไปจับพวกมันเลย!” กางจื่อเร่งเร้า
“ไอ้บ้า แกทำเรื่องเละหมดแล้ว!”
สวีซื่อเสียนตบหน้ากางจื่อฉาดใหญ่ทันที
“น้าเขย ตบผมทำไม ผมต่างหากที่โดนทำร้าย มันคนเดียวอัดพวกผมทั้งเจ็ดคนเลย!” กางจื่อมือกุมหน้าพูดอย่างน้อยใจ
“อัดแก? ฉันก็จะอัดแกเหมือนกัน! ฉันให้แกทำตัวดีๆ แกไม่ยอมฟัง คราวนี้เสร็จละ ดันไปหาเรื่องประธานเฉินกับประธานโจวเข้าอีก!”
สวีซื่อเสียนโกรธจนอยากจะต่อยเขา โดนลูกน้องห้ามไว้
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” กางจื่องง ไม่เคยเห็นน้าเขยโกรธขนาดนี้มาก่อน
“จะเรื่องอะไร สองคนนั่นไม่ใช่คนทีแกจะหาเรื่องได้เลย มันเกี่ยวพันถึงการพัฒนาในอีกหลายปีข้างหน้าของอำเภอเราเลย!” สวีซื่อเสียนโกรธจัด คราวนี้ซวยละ
เขารีบถาม เฉินห้าวกับโจวซีถงได้รับบาดเจ็บไหม อยากจะดูว่ายังพอทำอะไรได้บ้าง
“พวกเราโดนอัดอยู่ฝ่ายเดียว ทำอะไรมันไม่ได้เลย สองคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำใมน้าพูดเครียดจัด?” กางจื่อยังไงก็ยังเด็กไม่ประสา เลยยังมองเรื่องไม่ออก
“ขึ้นรถก่อนค่อยว่ากัน ไปขอโทษกับฉัน!”
สวีซื่อเสียนดึงหลานตัวเองขึ้นรถไปด้วยกัน
ระหว่างทาง สวีซื่อเสียนบอกฐานะของเฉินห้าวและโจวซีถงให้หลานฟัง พอหลานได้ยินว่าทั้งสองคนทั้งมีเงินมีอำนาจขนาดนี้ ก็ตกใจหน้าซีดเผือด
เขาจะเกะกะเกเรอะไรในอำเภอนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะน้อยที่จะมีใครมีเบื้องหลังใหญ่กว้าเขา แต่พอไปเทียบกับมณฑลและเมืองไป๋เหอ เขาก็เป็นแค่กุ้งตัวน้อย ตอนนี้กุ้งตัวน้อยอย่างเขากลับไปหาเรื่องปลาตัวใหญ่เข้าแล้ว เตะเจอตอแล้วไง
“น้าเขย ทำยังไงดีล่ะ?” ตอนนี้กางจื่อถึงรู้สึกกลัว ถามเสียงเครือ
“อีกเดี๋ยวเจอประธานเฉินกับประธานโจว ทำท่าอ่อนน้อมเข้าไว้ ได้ยินไหม?” สวีซื่อเสียนตะคอก
“ได้ยินครับ…”
กางจื่อตอบเสียงอ่อย
เขาอดเสียใจไม่ได้ โดนอัดยับแล้วยังต้องไปขอโทษอีก มันเรื่องอะไรเนี่ย แต่เขาก็คิดไม่ตกว่า ทำไมสองคนที่มีเงินขนาดนั้นยังไปกินอาหารแผงลอยอยู่ดี คงได้แต่โทษตัวเองที่ดวงซวยจริงๆ
รอจนถึงร้านชานม สวีซื่อเสียนเข้าไปคนแรก กางจื่อกับลูกน้องเดินตามเข้าไป
อำเภอลี่ทงไม่ใหญ่ คนทั่วไปรู้จักนายอำเภอกันหมด เถ้าแก่ร้านชานมนี่พอเห็นสวีซื่อเสียนมา ก็รีบออกมาทักทาย
“ไล่คนไม่เกี่ยวข้องออกไป พวกเราจะประชุมกันที่นี่” สวีซื่อเสียนพูดเสียงต่ำ
“ได้ครับ!”
เถ้าแก่รีบให้ความร่วมมือ แถมยังแถมชานมให้ลูกค้าหลายคนในที่นั้น เชิญพวกเขากลับไป จากนั้นพวกสวีซื่อเสียนก็พากันมายืนหน้าเฉินห้าวกับโจวซีถง