เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 302 การรับสมัครคนในกลุ่ม
รอถึงตอนเย็น เฉินห้าวที่อยู่ไซต์ก่อสร้าง เพื่อมารับเครื่องจักรก่อสร้างที่มาถึง สำหรับคนธรรมดาอย่างหลี่ฉางเจียงถ้าเขาเก็บไว้ในใจ ก็อาจถือเป็นการประจบสอพลออีกฝ่าย ให้ผู้ให้คำปรึกษาหวงจัดการ
ในตอนกลางคืน อุปกรณ์วิศวกรรมขนาดใหญ่กว่า 20 ชิ้นที่เฉินห้าวซื้อภายใต้เงินอุดหนุนหลายหมื่นล้าน ขนส่งอย่างเรียบร้อยไปยังไซต์ก่อสร้างด้วยรถเทรลเลอร์ ความแวววาวเป็นประกายพิสูจน์ให้เห็นว่านี่คืออุปกรณ์ใหม่เอี่ยม
จางเฉาผู้รับผิดชอบดูแลไซต์ก่อสร้างจับมือกับเฉินห้าวอย่างตื่นเต้น พร้อมขอบคุณเขาที่ช่วยจัดการปัญหาเร่งด่วนนี่ให้ พอมีเครื่องจักรเหล่านี้ไซต์ก่อสร้างก็สามารถกลับมาเริ่มทำงานได้อย่างปกติในที่สุด
“ไม่เป็นไรครับ เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ” เฉินห้าวพูดถูกแล้ว เขาและโจวซีถงจะเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ ไม่ช้าก็เร็ว
“งั้นประธานเฉิน ผมขอตัวไปทำทำงานก่อนนะครับ” จางเชาเป็นผู้ชายที่ทำงานหนักแบบถวายหัวและซื่อสัตย์ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงล้วนต้องมาประจบเฉินห้าวอย่างแน่นอน แต่เขากลับกระตือรือร้นที่จะเริ่มทำงาน
ดังนั้น หลังจากที่เขาสั่งออกไปแล้ว เขตก่อสร้างก็ได้ดำเนินการข้ามคืนเพื่อคว้าความคืบหน้า
เซี่ยจิ้งเองก็อยู่ข้างๆ เธอมองไปที่ไซต์งานก่อสร้างอันร้อนระอุ และพูดด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ “ดีจังเลยนะ อีกไม่นานก็จะมีตึกสูงโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน แล้วอีกอย่างในนั้นก็จะมีฉันเป็นส่วนหนึ่ง”
เฉินห้าวถามเธอว่า “ที่ผมมอบหมายงานให้คุณจัดการได้หรือยัง?”
“งานอะไร?” เซี่ยจิ้งถามอย่างงุนงง
เฉินห้าวโกรธจนเกือบจะคลั่งออกมา เซี่ยจิ้งหัวเราะเยาะ “พอแล้วน่า ฉันรู้หรอก ว่ามันคือเรื่องของการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ เอกสารเหล่านั้นต้องเตรียมล่วงหน้า รอถึงวันทำงานฉันจะนำเอกสารทั้งหมดไปจัดการเอง”
“ต้องได้แบบนี้สิ”
เฉินห้าวเมื่อเห็นว่าเซี่ยจิ้งนับวันยิ่งทะเล้นขึ้นเรื่อยๆ ต้องหาโอกาส “สั่งสอน” ยัยคนนี้สักหน่อย
ในเมื่อเซี่ยจิ้งมีหน้าที่รับผิดชอบในการขอใบอนุญาตให้จัดตั้งบริษัทให้เช่าอุปกรณ์ทางวิศวกรรม เขาจึงต้องจัดการสรรหาบุคลากรด้วยตนเอง
โดยทั่วไปการรับสมัครจะดำเนินการโดย HR ซึ่งเป็นฝ่ายด้านจัดสรรบุคลากร โดยสรรหาบุคลากรจากสื่อ จากนั้นจึงคัดเลือก และสัมภาษณ์บุคคลที่คุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด
แต่ข้างกายเฉินห้าวนั้นยังขาดคนอยู่มาก และไม่มี HR ที่เป็นมืออาชีพ ตอนนี้ก็เลยทำได้แค่พึ่งพาตัวเอง
แต่ตอนนี้เขาก็มีข้อได้เปรียบอยู่ เฉินห้าวเคยพูดกับเพื่อนร่วมชั้นหลายครั้งว่าหามีข่าวคราวการรับสมัครงานจะส่งลงกลุ่มวีแชท แล้วพวกเขาเอาก็มีเต็มใจที่จะมาเป็นลูกน้องของเฉินห้าว ตอนนี้ตั้งบริษัทใหม่ แน่นอนว่าต้องดูแลเพื่อนร่วมชั้นก่อน
เฉินห้าวแก้ไขรายละเอียดข้อมูลการรับสมัครให้เป็นข้อความยาวๆ แล้วส่งลงในกลุ่มวีแชท
ครั้งนี้ บริษัทให้เช่าอุปกรณ์วิศวกรรมห้าวหราน เปิดรับสมัครพนักงานทั้งหมด 5 คน โดยแบ่งเป็นผู้จัดการ 1 คนพนักงานขาย 2 คน นักบัญชี 1 คน และฝ่ายโลจิสติกส์ 1 คน นอกจากนี้ เนื่องจากงานเกี่ยวข้องกับเครื่องจักรก่อสร้างต้องการรับสมัครวิศวกรซ่อมบำรุงเครื่องกลเพิ่มเติมอีก รวมถึงพนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานทำความสะอาด และพนักงานระดับล่างต่างๆ บางทีอาจจะต้องการคนอย่างน้อย 5 คนขึ้นไป แล้วก็รอให้ผู้จัดการคนใหม่ตัดสินใจด้วยตนเอง
สำหรับเงินเดือนและการลำลอง เรื่องนี้ยากมากที่จะกำหนด เฉินแสดงออกว่าเงินเดือนไม่ต่ำไปกว่าอุตสาหกรรมประเภทเดียวกันแน่ อย่างน้อยเงินเดือนก็ต้องสูงกว่า 15%
เกี่ยวกับเพื่อนร่วมชั้นเก่าล่ะก็ แน่นอนว่าต้องมีคูปอง จะว่าไปเฉินห้าวก็เข้าใจดีว่าตอนนี้เป็นสังคมเศรษฐกิจ เมื่อจ่ายเงินมากพอ ก็ทำให้คนมีความกระตือรือร้นในการทำงานได้
แน่นอนว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ความสัมพันธ์ของเพื่อนเก่ามาทำให้เกิดความวุ่นวายในบริษัท เฉินห้าวมีการประเมินผล ทุกๆไตรมาสละ1ครั้ง ถ้าไม่ผ่านการประเมินติดต่อกัน 2 ครั้ง ก็ต้องขอโทษด้วยที่จะไม่ได้เงินเดือนและไม่สามารถทำงานต่อได้
บริษัทเพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ ปริมาณงานไม่ค่อยเยอะ จึงรับสมัครคนงานน้อยและไม่ใช่อุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมเช่นการเงินและอินเทอร์เน็ต เฉินห้าวเดิมทีคิดว่าพอส่งข้อความไปแล้วจะมีผู้สมัครไม่กี่คน แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีเพื่อนนักเรียนมากกว่าสิบคนแชทส่วนตัวปรึกษาเขาและยินดีที่จะมาทำงาน หนึ่งในนั้นก็คือหวังเฉียง เพื่อนร่วมชั้นที่สนิทที่สุดของเขา
แบบนี้ก็ลำบากล่ะนะ ช่วงเริ่มต้นของบริษัทใหม่ไม่ได้ต้องการคนมากมาย ดูเหมือนคงทำได้แค่คัดเลือกจากการสัมภาษณ์ เมื่อได้เจอแล้วพูดคุยกันสักหน่อย ลองดูว่าความเข้าใจของพวกเขาต่อกฎและรูปแบบของบริษัท เพื่อเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุด
เฉินห้าวค่อนข้างเชื่อมั่นในความสามารถของหวังเฉียง และรู้จักเขาดีที่สุด หากเขายินดีก็จะพิจารณาให้ตำแหน่งผู้จัดการบริษัทใหม่แก่เขา
เฉินห้าวไม่อยากตอบทีละคนๆ เลยโพสต์ข้อความลงในกลุ่มเพื่อนร่วมชั้น เนื่องจากจำนวนคนที่ต้องการสมัครเกินจำนวนรับสมัครจริง ต้องมีการสัมภาษณ์ ซึ่งจะเริ่มตอนบ่ายสองของวันมะรืนนี้
เพื่อนทุกคนเข้าใจว่าวันมะรืนเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ต้องไปทำงาน และการสัมภาษณ์ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่องาน
ได้ยินมาว่าเฉินห้าวต้องการสัมภาษณ์ เซี่ยจิ้งจึงอาสาไปช่วย ครั้งก่อนที่เธอไปสัมภาษณ์นางแบบทำให้เห็นว่าเธอมีประสบการณ์
“ได้ เธอก็ตามมาแล้วกัน คนที่มาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผมหมด เธออย่าทำให้เรื่องแปลกๆล่ะ”
“ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันรู้ว่าควรทำอย่างไร” เซี่ยจิ้งตบลงตรงหัวใจเป็นการรับประกัน
เฉินห้าวถอนหายใจในใจ ไม่กลัวโดนตบ บางทีนี่อาจเป็นความลับของ “การเติบโตอย่างป่าเถื่อน” ของร่างกายเธอ
“ไปกัน พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
เฉินห้าวขับรถพาเซี่ยจิ้งกลับมาที่หมู่คฤหาสน์จงหัว
พอถึงประตูบ้าน เหล่านางแบบสาวก็มาเป็นสองแถวเพื่อรอต้อนรับพวกเขา
วันนี้พวกเธอไม่ได้ใส่กี่เพ้าแล้ว ถึงแม้ว่าใส่กี่เพ้าแล้วจะดูสวยมาก แต่ก็ดูมีความเหนื่อยล้าทางความงามอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเธอทั้งหมดจึงเปลี่ยนมาใส่ชุดจีนโบราณแทน พวกเธอแต่ละคนใส่ชุดลายก้อนเมฆ สไตล์แบบขงจื๊อ แขนยาวพลิ้วไสว มองดูแล้วมีอารมณ์แบบเทพธิดา เป็นเทพธิดาบนฟ้าเลยจริงๆ
“ยินดีต้อนรับท่านเทพเซียนกลับวังเพคะ!”