เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 310 เกณฑ์การเลือกคู่ครอง
“เซี่ยจิ้ง เกณฑ์ในการเลือกคู่ครองของเธอเป็นยังไง?”
เมื่อต่อสายติด เฉินห้าวก็เอ่ยถามต่อหน้าเพื่อนนักเรียน
คำตอบของเซี่ยจิ้งก็ตรงไปตรงมามาก “เกณฑ์ในการเลือกคู่ครองเหรอ อย่างน้อยๆ ก็ต้องรวยกว่าคุณนะคะท่านประธาน ต้องหล่อกว่าคุณ สูงกว่าคุณ ใจกว้างกว่าคุณ แถมยังต้องสูงเก่งกว่าคุณด้วย แถมยังต้องเข้าใจฉัน ต้องเอาใจฉัน ต้องโอ่ฉัน รักฉัน แล้วก็ต้องอดทนกับนิสัยแย่ๆ ของฉันด้วย ครบถ้วนสมบูรณ์ สรุปง่ายๆ คือ 1800 ตารางเมตร 180 เซนติเมตร 18 เซนติเมตร แค่ฉันคิดว่าคนแบบนี้คงมีอยู่แค่ในนิยายเท่านั้นแหละ ดังนั้น หาได้ดีที่สุดก็แค่คุณแล้ว”
นี่เป็นการแสดงความรักต่อเฉินห้าวอย่างโจ่งแจ้งชัดๆ เฉินห้าวอดกระแอมทีหนึ่งไม่ได้ คลายความเก้อเขิน ส่วนจำนวน 18 ทั้งสามที่เธอว่ามานั้น แบ่งเป็นบ้านพักขนาด 1800 ตารางเมตร ส่วนสูง 180 เซนติเมตร ส่วน 18 เซนติเมตร สุดท้ายนั้น ถ้าบรรยายคงจะโจ๋งครึ่มเกินไป ไม่เอ่ยถึงดีกว่า
เพื่อนนักเรียนได้ยินถ้อยคำของเซี่ยจิ้งแล้ว ก็โง่งมไปอีกครั้ง ความต้องการเช่นนี้ชั่วชีวิตนี้เขาคงไม่บรรลุ
ยิ่งไปกว่านั้นคือดูเหมือนว่าสาวสวยคนนี้ คล้ายจะมีความที่คลุมเครือไม่กระจ่างกับเฉินห้าวด้วย แย้งผู้หญิงกับว่าที่นายจ้าง เกรงว่างานนี้จะหลุดลอยไปเสียแล้ว
เพื่อนนักเรียนค่อนข้างนั่งไม่ติดอยู่บ้าง
เฉินห้าวมองเพื่อนนักเรียนแวบหนึ่ง เอ่ยถามในสายต่อ “ฉันมีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่ง ไม่ตรงตามเกณฑ์เลือกคู่ของเธอ แต่ว่าจริงใจมาก อยากใช้ความจริงใจพิชิตเธอดู อยากให้โอกาสเขาสักครั้งไหม?”
“ไม่เข้าเกณฑ์แล้วยังจะมาพูดอะไรอีก ฉันเซี่ยจิ้งไม่ต้องการ มีผู้ชายแบบนี้อยู่มากมายตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ทั้งวันเอาแต่ส่งกลอนรักเลี่ยนเอียนให้ฉัน ตอมอยู่รอบตัวฉันเหมือนแมลงวัน น่ารำคาญจะตาย” เซี่ยจิ้งที่อยู่ในสายบ่นอย่างหงุดหงิด
ในตอนนี้ ภายในห้องไม่ร้อนเลย แต่หน้าผากของเพื่อนนักเรียนกลับมีเหงื่อซึมออกมาแล้ว กำลังยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดอยู่
เฉินห้าวเห็นอยู่ในสายตา หัวเราะอยู่ในใจ “เขาเป็นเพื่อนนักเรียนของฉัน ไว้หน้ากันหน่อย”
“ถ้าพูดมาแบบนี้ล่ะก็ งั้นจะเห็นแก่หน้าคุณก็ได้” จู่ๆ เซี่ยจิ้งก็ยอมให้ทันที
นี่ทำให้เพื่อนนักเรียนยินดีเป็นล้นพ้น หูตั้งขึ้นมาทันที รอฟังต่อไป
เซี่ยจิ้งพูดต่อไปว่า “ฉันมีโอกาสหนึ่งให้เขาได้แสดงถึงความจริงใจอยู่พอดี ระยะนี้ฉันเรียนศิลปะการป้องตัวสำหรับผู้หญิงอยู่ แต่ว่าท่าเตะผ่าหมากจะยังไงก็ฝึกได้ไม่ดีเสียที ให้เขามาฝึกท่านี้เป็นเพื่อนฉันสิ แล้วฉันจะยอมให้เขาจีบฉัน”
วิธีปฏิเสธนี้ของเซี่ยจิ้งมีประสิทธิภาพมากจริงๆ คาดว่ากว่าจะฝึกท่านั้นเป็น คงไม่ต้องแต่งงานกันแล้ว เข้าวังไปเป็นขันทีได้เลย
เฉินห้าวกลั้นขำ กดวางสาย เอ่ยถามเพื่อนนักเรียน “เธอยอมให้โอกาสนายแล้ว นายต้องคว้าไว้ให้ได้นะ”
“เอ่อ ฉัน จู่ๆ ฉันก็คิดได้ว่าผู้ชายจะต้องซื่อสัตย์ ไม่ควรละทิ้งคู่ทุกข์คู่ยาก ฉันเตรียมจะกลับบ้านเกิดไปหาแฟนของฉันแล้วล่ะ”
เพื่อนนักเรียนคนนี้ไม่อยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว เช็ดเหงื่อเย็นๆ แล้ววิ่งออกไป แม้แต่คำบอกลาก็ไม่มี ประตูห้องถูกปิดเสียงดัง ‘ปัง’
เฉินห้าวส่ายหน้า วันนี้เริ่มต้นก็ไม่ราบรื่นแล้วจริงๆ เสียเวลาเขาไปตั้งยี่สิบนาที
ทว่าเซี่ยจิ้งพลันชะโงกหน้าออกมาจากด้านนอกประตู หัวเราะคิกๆ “คำตอบของฉันเยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ ไม่ทำให้ท่านประธานเสียหน้า แล้วก็ไล่พวกชีกอให้ล่าถอยไปได้ด้วย ยอดเยี่ยมทั้งสองทาง”
ความรู้สึกเช่นใดเธอล้วนสัมผัสได้ชัดเจนทั้งสิ้น เมื่อเฉินห้าวโทรมาเธอก็เข้าใจเจตนาได้ทันที เป็นจางเฟยสนเข็มโดยแท้ ในความหยาบกระด้างแฝงความละเอียดอ่อน
“ไม่เลวเลย มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่อย่างนั้น ต่อไปให้เธอมาสอบสัมภาษณ์ไหมล่ะ?” เฉินห้าวถามอย่างหยอกๆ
“ไม่เอาหรอก ฉันรู้ดีว่าตัวเองอยู่ระดับไหน ถ้าเล่นๆ ก็พอไหว ถ้าต้องรับสมัครจริงๆ คงไม่ไหว ยังคงให้คุณจัดการดีกว่า”
เซี่ยจิ้งก็รู้จักตัวเองดีเช่นกัน ปฏิเสธข้อเสนอของเฉินห้าว เธอให้เฉินห้าวเตรียมตัวเล็กน้อย ด้านนอกมีเพื่อนนักเรียนมาอีกสองสามคนแล้ว สามารถสัมภาษณ์ต่อได้เลย
“ใช่แล้ว หวังเฉียงมาหรือยัง?” เฉินห้าวถาม
เขาคิดจะมอบตำแหน่งผู้จัดการให้เขา ดีที่สุดคือต้องกำหนดตำแหน่งสำคัญที่สุดภายในบริษัทก่อน รถไฟยังต้องเลือกหัวขบวนเลย ต้องเลือกหัวขบวนดีๆ ถึงจะใช้ได้
“มาแล้ว งั้นฉันจะให้เขาเข้ามาก่อนเลยนะ” เซี่ยจิ้งยิ้มหวานแวบหนึ่ง ออกไปเรียกคนแล้ว
ผ่านไปครู่หนึ่ง หวังเฉียงก็เข้ามา เฉินห้าวมองเขา เดินเข้าไปสวมกอดหวังเฉียงอย่างอบอุ่น
สมัยก่อนตอนอยู่ที่หอพักความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเป็นแบบที่สวมกางเกงตัวเดียวกันได้ แตกต่างกับรองหัวหน้าชั้นคนก่อนหน้าอย่างลิบลับ
ในปัจจุบันความสัมพันธ์นี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะโชคชะตาที่พลิกผันไปอย่างกะทันหันของเฉินห้าว ระหว่างคนทั้งสองยังคงเก็บรักษาความจริงใจใสซื่อนั้นเอาไว้
“วันนี้มีคนมาค่อนข้างเยอะเลยนะ ฉันเห็นเพื่อนนักเรียนที่ปกติแล้วไม่ค่อยพูดคุยในกลุ่มก็มากันไม่น้อยเลย สวัสดิการเงินเดือนที่นายเสนอดึงดูดใจมากเลย!” หวังเฉียงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“การแข่งขันค่อนข้างสูง กังวลไหมล่ะ?” เฉินห้าวถามยิ้มๆ
“พอไหว ยังไงก็เป็นการหางานนี่นา เป็นไปตามความสามารถของตัวเองอยู่แล้ว” หวังเฉียงกล่าวอย่างไม่ถ่อมตนไม่ผยอง
เฉินห้าวพยักหน้า รู้ว่านิสัยของหวังเฉียงก็เป็นแบบนี้ รู้จักความสามารถของตัวเอง และยังมีสาเหตุมาจากการมองโลกในแง่ดีของเขาด้วย
“ดีแล้ว นั่งก่อนสิ พวกเราค่อยๆ คุยเถอะ”
เฉินห้าวกับหวังเฉียงนั่งลง ในตอนนี้เองเซี่ยจิ้งก็เข้ามาเสิร์ฟชาอีกครั้ง เมื่อหวังเฉียงเห็นเธอ เขาก็ยิ้มแล้วเอ่ยชม “คุณหนูเซี่ยสวยขึ้นมากเลยนะครับ”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ!” เซี่ยจิ้งยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง วางถ้วยชาลงแล้วออกไป
หวังเฉียงทำเช่นนี้ก็เป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว เอ่ยชมเชยสาวงามประโยคหนึ่ง ไม่มีท่าทีเช่นนั้นเหมือนรองหัวหน้าชั้นคนเก่าก่อนหน้านี้
หลังจากทักทายกันแล้ว ก็เริ่มสอบขั้นตอนสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ ย่อมไม่ต้องการเรซูเม่เช่นกัน เฉินห้าวก็ถามหวังเฉียง ถึงความเห็นที่มีเกี่ยวกับบริษัทปล่อยเช่าอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งนี้
หวังเฉียงพูดจาฉะฉาน “ฉันอ่านข้อมูลที่นายส่งมาบ้างแล้ว ปัจจุบันบริษัทมีอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่กว่ายี่สิบชิ้น ทรัพย์สินคงที่กว่าสิบล้าน แต่ก็ยังมีปัญหาหนึ่งอยู่ เมื่อพิจารณาถึงการหักค่าเสื่อมสภาพและสึกหรอของอุปกรณ์แล้ว ยังมีอัตราค่าเช่าบริการกับสัดส่วนการใช้สอยองวงการในปัจจุบันด้วย ถ้าจะอาศัยค่าเช่าเพื่อคืนทุน ยังมีค่าแรงของพนักงานด้วย อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสักหกเจ็ดปีถึงจะได้ทุนคืน เมื่อถึงเวลารถพวกนี้ล้วนจะกลายเป็นของเสื่อมสภาพ ส่วนเงินกว่าสิบล้านนี้หากว่าเอาไปลงทุนในด้านอื่น อาจจะได้กำไรมากกว่าหลายเท่า ดังนั้นฉันคิดว่า นายก่อตั้งบริษัทปล่อยเช่านี้ขึ้นมา เพราะมีจุดประสงค์อื่น”
“ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็ต้องการข้อมูลทั้งหมด แบบนี้ถึงจะวิเคราะห์ออกมาได้” หวังเฉียงเอ่ยเสริม
เฉินห้าวยิ้มนิดๆ ช่างสมกับเป็นเพื่อนนักเรียนที่เขาต้องตา พูดแป๊บเดียวก็จับจุดได้แล้ว