เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 38 วัดความทนทาน
ทที่ 38 วัดความทนทาน
“ไม่มีหนักกว่านี้แล้วครับ!”
เทรนเนอร์ส่ายหน้าเหมือนรัวกลอง ที่นี่คือโรงยิมไม่ใช่ศูนย์กีฬา น้ำหนักสูงสุดของบาร์เบลคือ 200 กิโลกรัม ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของลูกค้า 200 กิโลกรัมนั้นเพียงพอสำหรับคนทั่วไปที่จะฝึกฝนแล้ว ถ้าเป็นนักกีฬาอาชีพโดยทั่วไปจะไม่มาออกกำลังกายที่นี่
“โอเค” เฉินห้าวก้าวลงจากเบาะ เขาคาดว่าขีดสุดในการยกของเขาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 300 กิโลกรัมซึ่งได้บดขยี้ผู้คนส่วนใหญ่ไปแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเต็มที่เขาก็น่าจะยกได้ห้าสิบหกสิบกิโลกรัมเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
“ยาเสริมความแข็งแรงของร่างกายสุดยอดจริงๆ!”
เฉินห้าวรู้สึกทั้งตกใจและดีใจ ประสิทธิผลของยาตำรับโบราณนี้ยอดเยี่ยมที่สุด นี่เป็นเพียงผลลัพธ์จากการกินยาเม็ดแรกเท่านั้น ถ้าเขากินยาหลายเม็ดติดต่อกันตามที่หนังสือโบราณได้กล่าวไว้ กำลังของเขาน่าจะถึงระดับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
เฉินห้าวเช็ดตารอดู
ขณะที่เฉินห้าวกำลังจะออกไป ทันใดนั้นก็รู้สึกสะดุดตากับเงาร่างสวยงามในฝูงชน เขามองออกไปและรู้สึกว่าสายตาของเขาไม่สามารถขยับหนีได้
เธอคือสาวสวยผมสั้น หน้าผากมีผมม้าปรกไว้
เค้าโครงใบหน้าของเธอนั้นด้อยกว่าโจวซีถงและเฉารุ่ยเล็กน้อย แต่เธอมีข้อดีอย่างหนึ่งที่สามารถบดขยี้ทั้งสองคนนั้นคือหน้าอกของสาวผมสั้นนั้นใหญ่มาก ถ้าประเมินตามหลักสากลอย่างน้อยก็ต้องเป็นคัพ D หรืออาจจะถึงคัพ E ด้วยซ้ำ เฉินห้าวไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ แต่ด้วยสัญชาตญาณของผู้ชาย เขารู้ว่าสาวสวยผมสั้นคนนี้ในอนาคตจะไม่มีทางอดตาย สามีก็คงจะฟินจนบรรลุเซียนเลยล่ะ
แต่การจ้องมองผู้หญิงสวยไม่ใช่วิสัยของสุภาพบุรุษ ดังนั้นหลังจากที่กวาดสายตาไปที่เธอโดยสัญชาตญาณแล้ว เฉินห้าวก็ถอนสายตากลับคืนมา
“กำลังไม่ธรรมดาเลย เป็นนักกีฬาเหรอคะ?” สาวสวยผมสั้นมองเฉินห้าวพลางถามด้วยความสนอกสนใจ
“เปล่าครับ เป็นคนธรรมดา” เฉินห้าวตอบอย่างเยือกเย็น
“ไม่เลว ถ่อมตัวมาก คุณเป็นคนที่มีกำลังมากที่สุดที่ฉันเคยเห็นที่นี่ เมื่อกี้ฉันสังเกตเห็นคุณทำเครื่องวัดกำลังพังใช่หรือเปล่า?” เด็กสาวผมสั้นพูด
เฉินห้าวรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยพลางพูดอย่างเกรงใจ “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะไปคุยเรื่องค่าชดเชยกับพวกเขาตอนกลับ”
“ฉันไม่ได้ต้องการจะแฉคุณ แค่อยากรู้เฉยๆ ว่าคุณมีการระเบิดพลังที่ดี ไม่รู้ว่าความทนทานของคุณเป็นยังไง อยากไปประลองกับฉันสักหน่อยไหมล่ะ?” สาวผมสั้นเชื้อเชิญด้วยรอยยิ้มจางๆ
“ได้สิ คุณพาไปได้เลย!” เฉินห้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สาวผมสั้นยิ้มพลางหันหน้าเดินไปอีกทาง เวลาเธอหันไปรู้สึกว่าสองเต้านั้นกระเพื่อมเล็กน้อย ซึ่งทำให้หัวใจของผู้ชายสั่นไหวและกระเจิดกระเจิง
ผู้ชายโดยรอบส่วนใหญ่มองตามแผ่นหลังของสาวผมสั้นตาไม่กะพริบ บางคนก็กำลังกลืนน้ำลายอย่างทนไม่ไหว พ่ายแพ่อย่างหมดรูปให้กับสาวงามคนนี้
“ผู้ชายเนี่ยนะ” เฉินห้าวรู้สึกขบขันในใจ ทั้งหมดล้วนมีปฏิกิริยาเดียวกันอย่างประหลาด
ข้างๆ มีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกของฟิตเนสแห่งนี้เข้ามาซุบซิบถามเฉินห้าว “พี่ชาย นมใหญ่จิ้งเชิญคุณ คุณฟินแน่ๆ”
ชายอีกคนที่ค่อนข้างหึงหวงพูดว่า “มีอะไรน่าฟิน นมใหญ่จิ้งไม่ได้เชิญเขาไปทดสอบความทนทานบนเตียงเสียหน่อย?”
“หยุด!”
เฉินห้าวหยุดพวกเขาไม่ให้พูดจาเหลวไหลพลางถามว่า “นมใหญ่จิ้งที่พวกคุณพูดถึง คือชื่อของเธอเหรอ?”
ชายซุบซิบอ้าปากค้างถามด้วยความประหลาดใจ “เธอชื่อเซี่ยจิ้ง คุณไม่รู้แล้วคุณมาที่โรงยิมทำไม?”
ตอนนั้นเองที่เฉินห้าวเพิ่งเข้าใจจากคำพูดของพวกเขาว่าที่แท้สมาชิกชายส่วนใหญ่มาที่ยิมซานเฟิงเพื่อมาหาเซี่ยจิ้ง ทุกครั้งที่เซี่ยจิ้งสวมชุดกีฬารัดรูปออกกำลังกาย พวกเขาจะเข้ามารวมตัวกันเพื่อมองสาวสวยโดยใช้การออกกำลังกายมาอ้าง
ตอนนี้เฉินห้าวสงสัยอย่างจริงจังว่า ทางยิมได้เชิญเซี่ยจิ้งคนนี้มาช่วยเรียกลูกค้า
ปล่อยให้คนสวยรอนานคงไม่ดี เฉินห้าวจึงขอตัวจากผู้ชายขี้นินทาเหล่านี้ รีบสาวเท้าตามเซี่ยจิ้งเทพธิดาแห่งการออกกำลังกายที่แบกรับหน้าตาของยิมเอาไว้
เซี่ยจิ้งหยุดอยู่ข้างลู่วิ่ง แสดงว่าเธอต้องการแข่งวิ่งกับเฉินห้าวเป็นเวลา 30 นาทีเพื่อดูว่าใครที่มีความทนทานแข็งแกร่ง
“โอเค”
เฉินห้าวขึ้นไปบนลู่วิ่ง เปิดเครื่องปรับความเร็วแล้วเริ่มเดินช้าๆ
เวลาเซี่ยจิ้งวิ่ง ร่างกายของเธอจะสั่นเป็นจังหวะ เฉินห้าวรีบหลบสายตาเพราะกลัวว่าจะใจลอยตกลู่วิ่งลงมา จะขายหน้าไม่ใช่น้อย
เฉินห้าวรู้สึกว่าตนเองไม่ควรเอาเปรียบผู้หญิง เขาจึงปรับลู่วิ่งให้เร็วขึ้นเล็กน้อย หารู้ไม่ว่าเซี่ยจิ้งก็ปรับความเร็วขึ้นเช่นกัน ไม่ยอมให้ได้เปรียบ
“เธอคือเด็กสาวที่ชอบเอาชนะ” เฉินห้าวคาดคะเนอยู่ในใจ
ทั้งสองเริ่มวิ่ง เฉินห้าวปรับการหายใจ ร่างกายของเขาก็ได้รับการปฏิรูปใหม่ด้วยยาเม็ด มีกำลังมาก ความทนทานก็เพิ่มขึ้นอย่างสัมพันธ์กัน ดังนั้นหน้าผากจึงมีเหงื่อออกเพียงเล็กน้อยเมื่อวิ่งมามากว่าสิบนาที และไม่แบกรับภาระจนเกินไป
เมื่อเปรียบเทียบกัน เซี่ยจิงค่อนข้างกินแรง การหายใจของเธอไม่ค่อยเป็นระบบ แต่เธอไม่ยอมหยุดพัก ดึงดันที่จะวิ่งต่อไป
ยี่สิบห้านาทีต่อมา เฉินห้าวถึงเริ่มรู้สึกว่าปวดกล้ามเนื้อบริเวณขาเล็กน้อย ต้องหายใจเข้าลึกๆ เป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มปริมาณการดูดซึมออกซิเจน
ย้อนกลับไปดูทางด้านของเซี่ยจิ้ง หน้าผากเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ จังหวะก้าวขาโซเซเล็กน้อย ถึงอย่างไรการวิ่งครั้งนี้ก็เร็วกว่าปกติ ทำให้เธอรับมือได้ค่อนข้างยาก
เดิมทีเฉินห้าวต้องการอ่อนข้อให้หญิงสาวสักหน่อย แต่เขาคิดว่าคนที่ชอบเอาชนะเช่นเธอจะเกิดผลในทางตรงกันข้ามถ้าเขายอมอ่อนข้อ ดังนั้นเขาจึงวิ่งอย่างจริงจังเป็นเวลา 30 นาทีก่อนจะลงจากลู่วิ่ง