เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 387 เงินสดสี่ร้อยล้าน
ถึงแม้ว่าเฉินห้าวจะทำการชำระค่าสินค้าของบริษัทโจวซื่อภายใต้การเรียกร้องไปแล้ว แต่ว่าผู้ผลิตหรือพันธมิตรธุรกิจอื่นๆ เมื่อได้ยินข่าวนี้ ต่างก็กลัวว่าค่าสินค้าของบ้านตัวเองจะเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นรายการราคากี่ล้าน กี่แสน รวมทั้งแค่ราคากี่หมื่น ต่างก็โทรศัพท์เข้ามาขอให้จ่ายเงินทันที ไม่อย่างนั้นก็จะหยุดการให้บริการและให้สินค้า
ข่าวลือเท็จก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรง ก่อให้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง
ยิ่งยังมีผู้ผลิตที่อยู่ใกล้ๆคิดว่าโทรศัพท์ขอเงินนั้นเชื่อถือไม่ได้ จึงส่งคนมาที่ใต้อาคารโจวซื่อเพื่อทำการขอเงิน คล้ายกับซ้ำรอยเหตุการณ์ในตอนนั้นของ Le TV
เพียงแต่ว่าอีกที่นั้นติดเงินจริงๆ แต่บริษัทโจวซื่อนั้นถูกเข้าใจผิด
ภาพสถานการณ์ที่มาดักขอเงิน ถูกนักข่าวหลายที่ถ่ายและแชร์เข้าโลกออนไลน์ ทำให้เกิดการแสดงความคิดเห็นจากประชาชนหนักมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดสถานการณ์วงจรที่ร้ายแรงขึ้น
และการรวมตัวขอเงินขนาดใหญ่นี้ ทำให้บริษัทโจวซื่อที่เดิมทีเงินหมุนเวียนก็ไม่มากมายนั้นยิ่งลำบากมากขึ้น เดิมทีล้วนนัดกันเรียบร้อยแล้วว่าทำการโอนจ่ายเงินตามวันที่กำหนด พึ่งพากระแสเงินของบริษัทนั้นสามารถทำการจ่ายได้ แต่ตอนนี้ผู้ผลิตทั้งหมดต่างก็มาขอให้จ่ายเงินในทันที ทำให้ระบบวุ่นวาย บัญชีของบริษัทเอาเงินเยอะขนาดนี้ออกมาไม่ได้ในทันที ทำให้เกิดวิกฤติความเชื่อมั่นรุนแรงยิ่งขึ้น
หลายคนในบริษัทโจวซื่อต่างก็กังวลแล้ว เอกสารรายงานฉุกเฉินนำมาวางตรงหน้าของเฉินห้าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทีละใบ
เลขาซูลี่ก็ร้อนรนนิดหน่อย ถ้าหากไม่สามารถจัดการปัญหานี้อย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่รุนแรงดั่งสึนามิ รวมทั้งทำให้รากฐานของบริษัทไม่มั่นคง รวมทั้งเงินอุดหนุนสองพันล้านของพวกเขาก็ไม่พอ รวมทั้งสี่พันล้าน หกพันล้าน หรือแปดพันล้านก็อาจจะไม่พอใช้ ศัตรูก่วนอวิ๋นชางพึ่งพาการปล่อยข่าวลือ ใช้จำนวนราคาเพียงน้อยนิด เพื่อมาแลกเปลี่ยนการสูญเสียขอบริษัทอย่างมหาศาล
“อีกฝ่ายจะต้องมียอดฝีมือช่วยคิดวิธีแน่นอน การโจมตีทั้งหมดนี้เฉียบคมเกินไป ทั้งหมดล้วนถาโถมมาพร้อมกัน ท่านประธานป่วยหนัก ประธานก็ไม่อยู่ หลายแผนกทำการประสานงานกันไม่ได้”
เลขาซูลี่สีหน้าเคร่งเครียด เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงแล้ว
ก็จริงที่คำสั่งของเฉินห้าวก็ใช้ได้ดี แต่ยังไงซะเขาก็ไม่ได้รับตำแหน่งไหนในบริษัท เมื่อเกี่ยวข้องกับเอกสารที่ประธานจำเป็นต้องเซ็นชื่อ หรือจะใช้เงินจำนวนมาก ตามกฎของบริษัทก็ไม่สามารถดำเนินการได้แล้ว นอกเสียจากว่าโจวซีถงมาด้วยตัวเอง
“ไม่ก็ ฉันโทรหาประธาน?” ซูลี่พูดขอคำแนะนำ
เธออยากจะเรียกโจวซีถงกลับมา มารับมือกับสถานการณ์ที่ลำบากนี้ ก่อนหน้านี้เฉินห้าวห้ามเอาไว้ตลอด ไม่ให้ใครบอกข่าวกับโจวซีถง สิ่งนี้จะทำให้ความรู้สึกของเธอแย่มากขึ้น
“ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง”
เฉินห้าวพูดเสียงต่ำ เขาไม่อยากทำให้โจวซีถงมีความกดดันมากขึ้น
สถานการณ์ตอนนี้รุนแรงมากกว่าที่คิดไว้มาก วิกฤตของการมาขอเงินในครั้งนี้ ถ้าหากไม่จัดการ คาดว่าอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อไป ถ้าราคาหุ้นตก ถึงตอนนั้นก็ไม่สามารถจะช่วยได้แล้ว
“ซูลี่ เธอรวบรวมผู้ผลิตที่มาขอเงินในครั้งนี้หน่อย ว่ารวมกันทั้งหมดแล้วเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่” เฉินห้าวออกคำสั่ง
“ฉันรวบรวมออกมาแล้วค่ะ”
ไม่เสียแรงที่ซูลี่เป็นเลขาชั้นยอด ทำงานเสร็จไว้ล่วงหน้าแล้ว และเอาเอกสารฉบับหนึ่งวางไว้ตรงหน้าเฉินห้าว
เมื่อเฉินห้าวดูแล้วก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง ที่จริงแล้วรายการเงินพวกนี้รวมกันแล้วก็ไม่เท่าไหร่ ประมาณ 400 ล้านกว่า เฉินห้าวใช้เงินสำรองก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยสักนิด
เพียงแต่ว่าแค่การชำระเงินค่าสินค้า ไม่สามารถจัดการปัญหาที่เป็นอยู่ได้ ทางที่ดีคือสามารถดึงความเชื่อใจของผู้ถือหุ้นกลับมาได้ถึงจะโอเค ให้พวกเขาเห็นว่าการเงินของบริษัทโจวซื่อนั้นไม่มีปัญหา
“ซูลี่ เธอไปบอกกับผู้ผลิตด้านนอกพวกนั้นว่า หลังจากนี้ 1 ชั่วโมง เข้าแถวมารับเงินที่ชั้นหนึ่งของอาคารโจวซื่อ ฉันจะใช้เงินสดในการชำระจ่าย”
เฉินห้าวพูดอย่างจริงจัง เขากะจะใช้ไม้แข็งแล้ว
“ได้ค่ะ!”
ซูลี่รีบไปจัดการ และเฉินห้าวเริ่มทำการเตรียมตัว เขาต้องการใช้วิธีที่ทำให้ผู้คนตกตะลึง เพื่อมาสงบวิกฤตในครั้งนี้
เขาเรียกหัวหน้าทีมยามของอาคารมา ให้เขาเตรียมลูกน้องไว้จำนวนมาก เขาจะทำการวางธนบัตรเงินสดจำนวนมากไว้ที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง ให้พวกเขาปกป้องความปลอดภัยของเงินไว้
“ไม่ทราบว่าประธานเฉิน มีเงินสดประมาณเท่าไหร่ครับ พวกผมจะได้คำนวณได้ถูก”
หัวหน้าทีมยามคิดว่ามีสักประมาณไม่กี่ล้านเท่านั้น ถึงตอนนั้นมียามสัก 7-8 คนคอยปกป้องดูแลไว้ก็ไม่มีการผิดพลาดแน่นอน
“ประมาณ 400 ล้าน” เฉินห้าวบอกจำนวนเงินอย่างนิ่งเฉย
“แม่เจ้า!”
หัวหน้าทีมยามเข่าอ่อน เกือบตกใจจนล้มลง ชีวิตนี้เขาไม่กล้าคิดเลยว่า เงินสด 400 ล้านมีมากขนาดไหน คาดว่าถ้ากองขึ้นมาคงจะสูงเหมือนภูเขา ไม่กล้าคิดเลยสักนิด
หัวหน้าทีมยามกลัวว่าเงินมากขนาดนี้จะเกิดปัญหา จึงเรียกรวมตัวยามทุกคนที่อยู่ในหน้าที่มาที่ชั้นหนึ่ง และยังขอให้ยามที่จะทำการเปลี่ยนกะเข้างานก่อนเวลา มาทำการรักษาความสงบปลอดภัยด้วยกัน
ยังไงซะก็เงินมากถึง 400 ล้านหยวน สำหรับบางคนแล้ว เป็นแรงดึงดูดมหาศาล อาจจะทำให้เกิดการทำความผิดได้อย่างง่ายดาย
เฉินห้าวมาถึงห้องโถงชั้นหนึ่ง ด้านนอกก็ยังยุ่งวุ่นวายอยู่ เขาได้ยินเสียงของซูลี่ กำลังตะโกนปลอบใจผู้ผลิตพวกนั้น
เมื่อได้ยินว่าหลังจากนี้ 1 ชั่วโมงสามารถรับเงินได้ ในที่สุดพวกเขาก็เงียบลง และนั่งรอจ่ายเงิน
ส่วนเฉินห้าวตัดสินใจว่าจะให้คนพวกนี้มีความรู้สึกตกตะลึง เขาสั่งให้พวกยามปิดม่านบังไว้ก่อน จากนั้นก็เตรียมมุมหนึ่งไว้ เป็นพื้นที่วางเงินสด
พวกทีมยามทำตามคำสั่งของเฉินห้าว ยกโต๊ะชุดหนึ่งมา มีโน้ตบุ๊ควางอยู่เพื่อไว้ใช้ทำงาน
จากนั้นเฉินห้าวก็ให้พวกยามแยกย้ายไปล้อมรอบรักษาความปลอดภัย ให้พวกผู้ผลิตเข้าแถวให้เรียบร้อยเข้ามารับเงินทีละคน
หลังจากที่ห้องโถงโล่งไม่มีคนแล้ว เฉินห้าวก็ใช้ความสามารถในการแลกเปลี่ยนเงินสดในแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้าน และรับเงินสด 400 ล้านในบัญชีของตัวเองออกมา บางไว้บนพื้นหินอ่อน
แอพเงินอุนหนุนนั้นทำงานไวจริงๆ ภายในเวลาครึ่งนาทีก็เห็นเงินหยวนเป็นกองปรากฏออกมาอย่างไม่รู้ตัว เหมือนดั่งกำแพงอิฐที่ก่อตัวโดยอัตโนมัติ วางไว้เป็นกองเงินสดสี่กองขนาดใหญ่
เงินหยวน 400 ล้านที่ใหม่เอี่ยม วางอยู่บนพื้นเป็นกองขนาดใหญ่มาก มองดูแล้วเป็นประกาย ทำให้ผู้คนตกตะลึง เฉินห้าวเองก็เพิ่งเคยเห็นเงินสดมาขนาดนี้เป็นครั้งแรก รู้สึกอึ้งไปนิดหน่อย