เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 389 เรียกคืนความเชื่อมั่น
บนหัวของตัวแทนบริษัทยาคนนี้มีเหงื่อออก เขาเป็นเพียงแค่คนทำงานคนหนึ่ง ได้เห็นเงินล้านกว่าอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้สึกทำตัวไม่ถูก ขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัวมาก ถ้าหากว่าเกิดข้อผิดพลาดอะไร เขาชดใช้ไม่ไหว
ดังนั้นเขาจึงสอบถามเฉินห้าวเสียงเบาว่า สามารถใช้การโอนเงินได้มั้ย
“ไม่ได้” เฉินห้าวพูดอย่างเด็ดขาด “เลือกเอาเงินไปตอนนี้ หรือไม่ก็รอวันชำระเงินที่กำหนด บริษัทโจวซื่อของพวกเราไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน อย่าได้ถูกหลอกลวงจากข่าวมั่วเล็กๆ ลองถามตัวเองดูว่าพวกเราร่วมงานกันมานานขนาดนี้ มีครั้งไหนที่เคยค้างชำระบ้าง?”
ไม่เคยค้างชำระจริงๆ ซูลี่ตรวจสอบการยืนยัน ทั้งสองธุรกิจร่วมธุรกิจมามากกว่าสองปี ไม่เคยมีปัญหาทางด้านการเงินกันมาก่อน บริษัทยาของพวกเขาเพียงแค่เห็นข่าวลือในโลกออนไลน์ครั้งนี้ถูกโจมตีจึงได้ร้อนรน และส่งคนมาขอเงิน ไม่คิดเลยว่าเฉินห้าวจะให้เงินได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ เพียงแต่ว่าเงินพวกนี้นั้นมีความ “หนักอึ้ง” มากไปหน่อย ตัวแทนไม่กล้าเอา
ดังนั้นตัวแทนจึงรีบโทรไปขอคำแนะนำจากทางบริษัท และทำการถ่ายรูปเงินสดที่วางอย่างเป็นระเบียบส่งไปด้วย และให้หัวหน้าตัดสินใจ
“ช่างเถอะ ในเมื่อบริษัทโจวซื่อสามารถเอาเงินสดออกมาได้มากขนาดนี้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่มีปัญหาทางการเงิน ไม่ต้องเอาเงินสดแล้ว รอวันกำหนดชำระแล้วกัน”
หัวหน้าของบริษัทยาออกคำสั่ง ไม่พูดไม่ได้ว่า นี่คือการตัดสินใจที่ฉลาด บริษัทของพวกเขาอยู่เมืองใกล้ๆ ตัวแทนเอาเงินล้านกว่าหยวนกลับไป ไม่มีใครกล้ารับประกันความปลอดภัยของเงิน ถึงแม้จะไปฝากเงินในธนาคาร ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่างถิ่น ไม่คุ้มกับการเสียเงิน
“งั้นก็ขอโทษที่รบกวนกลับ รบกวนทำการชำระตามปกติเลยครับ” ตัวแทนบริษัทคนนี้ทำการโค้งคำนับเฉินห้าวหนึ่งทีแล้วก็จากไป
จูหมิ่นที่อยู่ด้านหลังยกนิ้วโป้งให้กับเฉินห้าว ชื่นชมเขาที่ใช้วิธีนี้ได้ผลดีมาก ใช้เงินสดมากมายขนาดนี้เป็นภาพเบื้องหลัง มีผลมากกว่าจัดงานแถลงข่าวสิบครั้งซะอีก ขณะเดียวกันก็ทำให้ธุรกิจพวกนี้ที่ฟังแต่ข่าวลือรู้ถึงความผิด
เฉินห้าวยิ้มอย่างถ่อมตน นี่ไม่ใช่อะไรมาก ตัวเขาเองไม่ได้ออกแรงอะไร เพียงแค่ใช้ความสามารถต่างๆของแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านมาใช้ก็เท่านั้น แน่นอนว่าในนี้ก็จำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เล็กน้อย
ตัวแทนธุรกิจคนก่อนจากไป คนที่สองก็เข้ามา ตัวแทนชายคนนี้อายุประมาณ 30 ปีเอาใบรับรองออกมา บอกว่าตัวเองเป็นคนของโรงงานผลิตเนื้อฮุยเกอ บริษัทอาหารสดโจวซื่อธุรกิจภายใต้บริษัทโจวซื่อค้างเงินพวกเขาไว้ห้าหมื่นกว่าหยวน เขาตั้งใจมารับเงิน
จำนวนเงินเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ หลังจากที่ซูลี่ว่าตรวจสอบแล้วจำนวนเงินเป็นจริง เฉินห้าวก็ไปเอาเงินหกมัดในจำนวนนับล้านออกมาให้อีกฝ่าย ให้เขาไปทำการนับเงินที่เครื่องตรวจจับธนบัตรเอง
ตัวแทนคนนี้เองก็ระมัดระวัง แล้วทำการใช้เครื่องตรวจจับธนบัตรเริ่มทำการตรวจสอบทันที แล้วยังดึงเอาออกมาหลายใบมองดูผ่านแสงพระอาทิตย์ เครื่องหมายป้องกันการปลอมแปลงล้วนไม่มีปัญหา ความรู้สึกการสัมผัสก็ปกติ ยืนยันว่าพวกนี้ล้วนเป็นของจริง
“โอเคครับ งั้นผมเอาไปแล้วนะครับ”
คนๆนี้ทำรายการธนบัตรแบงก์ร้อยหยวนไป 517 ใบ ตรงกับจำนวนเงิน เดิมทีกำลังจะทอนให้บริษัทโจวซื่อ 13.7 หยวน เฉินห้าวโบกมือว่าไม่เอาแล้ว ถือเป็นเงินค่ารถไฟของตัวแทนรับเงิน
ตัวแทนคนนี้ดีใจมาก เอาเงินเก็บเข้าในกระเป๋า แล้วก็เซ็นชื่อตัวเองบนใบเสร็จ หลังจากทำการแลกซื้อขายเสร็จ ก็รู้สึกสบายใจแล้ว
หลังจากที่เขาจากไป ก็พูดกับฝ่ายผู้ผลิตคนอื่นที่เข้ามาล้อมรอบว่า “ตรงนั้นกองไว้หลายล้านเลย บริษัทโจวซื่อนี่เป็นบริษัทใหญ่จริงๆ ไม่ขาดเงิน พวกนายที่จำนวนเงินน้อยก็ไม่ต้องเสียเวลาตรงนี้แล้ว ไม่คุ้มที่จะเสียเวลา”
ตัวแทนเบียดผู้คนจากไป ทำให้ก่อเกิดการพูดคุยขึ้น คนไม่น้อยที่หวั่นใจต่างก็สบายใจขึ้น
จากนั้นก็เป็นตัวแทนบริษัทที่สามเข้ามารับเงินในห้องโถง จากนั้นก็คนที่สี่ คนที่ห้า
ในคนพวกนี้ บางคนจำนวนเงินมาก บางคนจำนวนเงินน้อย เพียงแค่พวกเขายอมรับเงินสด ไม่ว่ามากน้อยแค่ไหนเฉินห้าวก็ให้
ที่สุดยอดที่สุดคือตัวแทนของธุรกิจในเมืองนี้คนหนึ่ง รับเงินสดสามล้านกว่าและจะเอาไป เครื่องตรวจจับธนบัตรถูกเขายึดไว้ตรวจสอบธนบัตร เฉินห้าวเห็นว่าช้ามาก จึงได้ทำการเลือกซื้อเครื่องตรวจจับธนบัตรในแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านมาอีกสิบเครื่อง และเรียกพนักงานหลายคนมาจากบนตึก ให้ช่วยเขาตรวจสอบ ไม่อย่างนั้นทั้งวันนี้ก็คงทำได้แค่ไม่กี่รายการ
ทุกคนตรวจสอบอยู่นาน คนๆนี้ตรวจสอบธนบัตรส่วนมาก ล้วนเป็นของจริง ที่เหลือรู้สึกว่าเสียเวลามากเกินไป จึงได้เลือกหยิบออกมาสิบกว่าใบล้วนเป็นของจริง จึงได้สบายใจ เขาใช้กระเป๋าใบใหญ่สีดำสองใบใส่เงิน แล้วยังขอให้เฉินห้าวจัดคนไปส่งเขาถึงสถานที่ตำแหน่งบริษัท
เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา เฉินห้าวยึดมั่นเห็นแก่การเป็นพันธมิตรธุรกิจ จึงให้หัวหน้าทีมยามจัดลูกน้องที่แต่งกายอุปกรณ์ครบครันสี่คนไปทำการคุ้มกัน เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของเงิน
ครั้งนี้เนื่องจากจำนวนเงินมาก จึงได้ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง แต่ว่าทุกคนต่างก็มองเห็นได้ว่าในห้องโถงยังมีเงินจำนวนมาก จึงได้สบายใจ และไม่มีใครไปเร่งรัด
ตัวแทนฝ่ายผู้ผลิตด้านนอก ต่างก็เริ่มโทรไปแจ้งสถานการณ์กับทางบริษัท หลังจากที่ได้รับข่าวว่าบริษัทโจวซื่อไม่ขาดแคลนเงินแล้ว ก็ให้ตัวแทนนั้นกลับออกมา เงินแค่นั้นไม่จำเป็นต้องมีปัญหาให้รู้สึกไม่ดีต่อกัน
แรกๆก็มีคนแค่คนสองคนที่กลับ หลังจากนั้นก็สามสี่คนพากันกลับ ขบวนการทวงเงินที่เดิมทีมีอยู่กว่าสองร้อยคน ไม่นานก็แยกย้ายกลับไปกว่าครึ่งหนึ่ง
พวกเขาไม่ได้ขาดความใจเย็นที่ต้องรอคอย แต่จากการที่แจกจ่ายเงินสดในครั้งนี้ รับรู้ได้ถึงกำลังของบริษัทโจวซื่อ กำลังเงินมากพอแล้วยังมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นจึงได้สบายใจและกลับไป รอเวลาการชำระปกติก็พอแล้ว
ต้องรู้ว่าการมารับเงินในครั้งนี้ เป็นผลกระทบจากวิกฤติความเชื่อมั่นทั้งนั้น เมื่อหลังจากที่ทุกคนได้เพิ่มความเชื่อมั่นอีกครั้งแล้ว ถึงได้รู้ตัวว่าบริษัทโจวซื่อเป็นธุรกิจใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศ ไม่มีประวัติการค้างชำระ ทุกคนต่างก็เต็มใจที่จะเชื่อมั่นในความน่าเชื่อถือของมัน
ตัวแทนแต่ละคนรับเงินสดและจากไป แต่คนส่วนมากที่รออยู่ด้านนอก เมื่อเห็นว่าทุกคนได้รับเงินสำเร็จ ต่างก็สบายใจ และค่อยๆแยกย้าย