เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 39 เชิญคุณมาเป็นบอดี้การ์ด
บทที่ 39 เชิญคุณมาเป็นบอดี้การ์ด
เซี่ยจิ้งยืนหยัดอยู่ได้อย่างเหนือความคาดหมาย หลังจากที่เธอปิดลู่วิ่งก็หอบหายใจเพื่อฟื้นคืนกำลังที่หมดเกลี้ยงของเธอ ผ่านไปครึ่งนาทีก็เข้ามาพูดกับเฉินห้าว “คุณเก่งมาก น่าเสียดายที่ไม่ไปเป็นนักกีฬา”
“ผมไม่สนใจเรื่องนักกีฬา ร่างกายแข็งแรงไม่จำเป็นต้องเป็นนักกีฬา” เฉินห้าวกล่าว
“คุณพูดถูก” เซี่ยจิ้งกล่าวพลางยื่นมือออกไป “ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อเซี่ยจิ้งค่ะ”
“เฉินห้าวครับ”
หลังจากเฉินห้าวจับมือกับเธอในใจก็ยังคิดว่า รู้จักชื่อของเธออยู่แล้ว ดังก้องหูอย่างชัดเจนในยิมแห่งนี้
“ไปดื่มกับฉันหน่อยได้ไหมคะ?”
ทั้งสองคนเหงื่อออกไปไม่น้อย รู้สึกกระหายน้ำมาก เซี่ยจิ้งพูดพร้อมกับชี้ไปทางเคาน์เตอร์น้ำชาตรงนั้น
“ได้สิครับ”
เฉินห้าวและเซี่ยจิ้งเดินมาถึงเคาน์เตอร์ เฉินห้าวเสนอตัวเลี้ยงน้ำมะนาวเย็นเซี่ยจิ้งตามสไตล์สุภาพบุรุษ และซื้อน้ำแร่หนึ่งขวดให้ตัวเอง หลังออกกำลังกายแค่สิ่งนี้ก็ดับกระหายที่สุดแล้ว
“บอกมาเถอะว่าคุณมีธุระอะไรกับผม?” เฉินห้าวถามรุกก่อน สาวสวยอย่างเธอจะไม่แข่งวิ่งกับเขาอย่างไม่มีเหตุผล
“คุณฉลาดมาก งั้นฉันขอพูดกับคุณตรงๆ เลยแล้วกัน”
ทันใดนั้นเซี่ยจิ้งก็ลดระดับเสียงพลางยื่นหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ “ฉันอยากเชิญคุณมาเป็นบอดี้การ์ดของฉัน”
เมื่อเธอเข้าใกล้ เฉินห้าวสัมผัสถึงรูปร่างที่สุดจะพรรณนาของเธอได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีกลิ่นหอมของเรือนร่างสตรีราวกับกล้วยไม้หรือชะมดซึ่งหอมมาก โดยทั่วไปแล้วหลังจากออกกำลังกายและมีเหงื่อออกควรมีกลิ่นเหม็น แต่เซี่ยจิ้งก็เป็นข้อยกเว้น ซึ่งทำให้เฉินห้าวอดทอดถอนใจไม่ได้ว่าเจ้าหญิงเนื้อหอมในตำนานนั้นมีอยู่จริง
แม้ว่าเซี่ยจิ้งจะสวย แต่เฉินห้าวก็ไม่เคยคิดเรื่องการเป็นบอดี้การ์ดมาก่อน ด้วยฐานะทางการเงินในปัจจุบันของเขานั้นไม่จำเป็นต้องหาเงินจากการเป็นบอดี้การ์ด
“ขอโทษนะครับ ผมไม่มีความตั้งใจในเรื่องนี้ อีกอย่างผมแค่มีกำลังมาก ไม่เคยรับการฝึกอบรมเฉพาะทางใดๆ คุณสามารถหาบอดี้การ์ดมืออาชีพได้” เฉินห้าวปฏิเสธอย่างสุภาพ
เซี่ยจิ้งส่ายหน้าช้าๆ พลางพูดว่า “บอดี้การ์ดมืออาชีพพวกนั้นหน้าตาน่าเกลียดเกินไป แถมยังแก่อีกต่างหาก”
เฉินห้าวพูดไม่ออก นึกสงสัยว่าเธอกำลังเลือกบอดี้การ์ดหรือมองหาแฟนหนุ่มกันแน่? แต่พอคิดอีกทีเธออาจจะมั่นใจในตัวเขาหรือเปล่า? รู้สึกมีความสุขเล็กๆ!
“ผมช่วยคุณไม่ได้ ผมค่อนข้างยุ่ง ไม่มีเวลาเป็นบอดี้การ์ดหรอก” เฉินห้าวกล่าว
“งั้นก็ช่างมันเถอะค่ะ” เซี่ยจิ้งรู้สึกไม่ค่อยพอใจ ก้มหน้าดื่มน้ำผลไม้ตามลำพัง
“เจอปัญหาอะไรหรือเปล่า? บอกได้นะครับ ผมช่วยคุณได้” เฉินห้าวถามด้วยความหวังดี
เซี่ยจิ้งมองเฉินห้าวอย่างถี่ถ้วน จากสายตาของเขาเฉินห้าวน่าจะเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่มองเธอด้วยความคิดชั่วร้าย เซี่ยจิ้งจึงกระซิบบอกว่า “ฉันเจอคนโรคจิตที่มักจะสะกดรอยตามฉัน”
เฉินห้าวพยักหน้าเข้าใจ แม้แต่เขาก็ยังอยากจะจ้องมองรูปร่างหน้าตาของเซี่ยจิ้งนานๆ เป็นเรื่องปกติที่จะพบกับผู้ชายหลายคนที่มีเจตนาแอบแฝง
“ถ้าเป็นแค่คนโรคจิตผมสามารถช่วยจัดการให้คุณได้” เฉินห้าวตัดสินใจที่จะเป็นผู้พิทักษ์ดอกไม้สักครั้ง เผื่อว่าเด็กสาวคนนี้จะถูกกลั่นแกล้งหรืออาจจะมีอันตรายยิ่งกว่านั้น
“จริงเหรอคะ?” เซี่ยจิ้งดีใจมาก “คุณแข็งแกร่งขนาดนี้ ต้องทำได้แน่นอน ช่วยอัดเขาสักทีแล้วชิงโทรศัพท์มือถือกลับมา เขาแอบถ่ายรูปฉันไปเยอะมาก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นฉันจะรับผิดชอบความเสียหายของคุณทั้งหมด”
“ไม่จำเป็นหรอก แค่สอนบทเรียนให้คนเลวเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย ถ้าเขากล้าแจ้งตำรวจ เขานั่นแหละที่จะต้องเดินเข้าไปในสถานีตำรวจก่อน”
เฉินห้าวยิ้ม เอาขวดน้ำแร่ชนแก้วเซี่ยจิ้งเพื่อฉลองการบรรลุความร่วมมือ
ต่อมาทั้งสองคนจึงออกจากยิมซานเฟิง
เซี่ยจิ้งเปลี่ยนเป็นชุดลำลอง ดูเหมือนเธอจงใจซ่อนหุ่นดีของตัวเองไว้ สวมเสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อปกปิดรูปร่างที่ผึ่งผายของเธอ นี่เป็นวิธีป้องกันตัวของเซี่ยจิ้ง ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่ชอบให้ผู้ชายจ้องมองบนท้องถนน
“เขาชอบสะกดรอยตามฉันหลังจากออกกำลังกาย ดังนั้นฉันจะออกไปก่อน ถ้าคุณเห็นชายหนวดที่อยู่ข้างหลังฉันประมาณ 1.7 เมตร อายุ 35-36 ปี นั่นคือเขาเอง”
หลังจากเซี่ยจิ้งและเฉินห้าวปรึกษากันเรียบร้อย เธอก็สะพายกระเป๋าเป้เดินออกไปบนถนนคนเดียว ในขณะที่เฉินห้าวซ่อนตัวอยู่ในที่ลับตาคน จ้องมองตามด้านหลังของเซี่ยจิ้ง
ตอนนี้เป็นเวลาพระอาทิตย์ตกดิน แสงของดวงอาทิตย์ที่กำลังลับจากขอบฟ้าทอดเงาของเซี่ยจิ้งยาว ช่วยเพิ่มความรู้สึกที่แตกต่างให้กับเธอ แม้จะเดินอยู่บนถนนก็ยังมีความสะดุดตา
สายตาของเฉินห้าวก็แข็งกร้าวทันทีเนื่องจากเขาเห็นชายคนหนึ่งเดินตามหลังเซี่ยจิ้งที่อยู่ไม่ไกลออกไปอย่างลับๆ ล่อๆ รูปร่างหน้าตาของเขาคล้ายกับที่เซี่ยจิ้งพรรณนาไว้มาก
“เขานี่แหละ!”
ผู้ชายจะเข้าใจผู้ชายด้วยกันเองมากที่สุด เฉินห้าวเดินเข้าไปสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ พบว่าผู้ชายคนนี้คือชายหนวดจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังทำหน้าหื่น ดวงตาจับจ้องไปที่บั้นท้ายของเซี่ยจิ้งตลอดเวลา แถมยังหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูป เป็นพวกชอบสะกดรอยตามอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นเฉินห้าวก็เอามือตบไหล่เขา ชายคนนั้นตกใจกลัวตัวสั่น พอหันกลับมาเห็นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เขาก็ถามด้วยความโกรธ “คุณจะทำอะไรน่ะ?”
“ทำอะไรเหรอ? คุณน่าจะรู้ดีนะ” เฉินห้าวยิ้มเยาะ “ทำไมคุณสะกดรอยตามเซี่ยจิ้งอยู่เป็นประจำ?”
“ใครบอกว่าผมตามเธอ ถนนกว้างขวางขนาดนี้ ผมไปได้ทุกที่ที่ผมต้องการ!” ชายหนวดปฏิเสธอย่างน้ำขุ่นๆ
เฉินห้าวเลิกคิ้ว “งั้นเหรอ? ในเมื่อมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด งั้นไปสถานีตำรวจกับผม!”
สำหรับคนที่ทำผิดกฎหมาย การไปสถานีตำรวจเป็นสิ่งที่พวกเขากลัวที่สุด ทันทีที่เฉินห้าวพูดว่าจะไปสถานีตำรวจ ชายหนวดก็ลุกลี้ลุกลนทำท่าจะวิ่งหนี
เขาลืมไปว่ามือของเฉินห้าวยังอยู่บนหัวไหล่ของเขา เฉินห้าวออกแรงบีบกระดูกหัวไหล่ของชายหนวดดัง ‘กึก’ ขยับเขยื้อนไม่ได้อีกแล้ว