เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 48 เชฟทั้งสาม
บทที่ 48 เชฟทั้งสาม
ไม่นึกเลยว่าเซี่ยจิ้งจะไปถึงร้านหารก่อน เธอได้หันหัวมามองไปที่เฉินห้าว พูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ร้านอาหารนายนี้ตลกจริงๆ ร้านอาหารฝรั่งยังจ้างคนต่างแดนมาเป็นเดนมาเป็น ”
แต่ว่าเมื่อเธอได้เห็นหลังเฉินห้าวนั้นได้ใส่ชุดเลขาสุดเซ็กซี่อย่างเฉารุ่ยๆ เขาเก็บรอยยิ้มขึ้นมาทันที ถามว่า:“คนนี้เป็นแฟนนายเหรอ”
“เป็นผู้ช่วย ”เฉินห้าวตอบ
“สวยมากจริงๆ ”เซี่ยจิ้งกล่าว,การติดตามของผู้หญิงนั้นต้องยุ่งละ
เฉินห้าวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงเฉินห้าว ให้เธอนั่งตามสบาย เพราะเธอเห็นแล้วว่าผู้ที่จะมาสัมภาษณ์เชฟ พวกเขาก็ได้ชุดสีขาวของพยาบาล
เฉินห้าวได้เดินเข้าไปจับมือกันต้อนรับเชฟสามคนนี้ ส่วนผู้หญิงสองคนนั้นก็ได้เจอกัน
“สวัสดีคะ ฉันเป็นเพื่อนสนิทของเฉินห้าวเซี่ยจิ้ง ดีใจมากที่ได้รู้จักกับคุณ” เซี่ยจิ้งทักทาย
เฉารุ่ยได้เห็นถึงหุ่นที่ดีมาก และหน้าตาก็ใช่ย่อยอย่างเซี่ยจิ้ง และยังคุ้นเคยกับเฉินห้าวเล็กน้อย สีหน้าก็เปลี่ยนไปนิดนึง แต่เธอก็ปรับความคิดได้เร็วมาก ยิ้มแล้วพูดว่า:“สวัสดีค่ะ ฉันเฉารุ่ย เป็นผู้ช่วยของผู้จัดการเฉิน ”
“สวัสดีค่ะ ฉันเฉารุ่ย เป็นผู้ช่วยของผู้จัดการเฉิน ”
“เธอสวยมากเลย ”
“เธอก็เหมือนกัน ”
ผู้หญิงสองยังชมกันไปมานั้น ฝั่งเฉินห้าวได้สั่งให้เชฟไปเริ่มแสดงทักษะลงครัวของเขา
กติกาง่ายมาก ก็คือทุกคนทำอาหารสามอย่างที่ตัวเองถนัด ห้องครัวก็คือร้านอาหารฝรั่งของหลังครัว
เฉินห้าวและผู้หญิงสองคนสังเกตอยู่ในห้องครัว เชฟสามคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆส่วนผสมทุกอย่างผ่านกรรมวิธีได้เร็วและดีมาก ทักษะมีดที่คล่องแคล่ว สามารถแกะสละเต้าหู้ให้เป็นดอกไม้ได้
เห็นแค่มีดของพวกเขาบินขึ้นลงไปมา พลิกทัพพีไปมาดั่งไฟบริสุทธิ์ ทำอาหารยังสามารถทำออกมาแบบความรู้สึกทางศิลปะ
“ว้าว พวกเขาสุดยอดจริงๆ!”
เฉารุ่ยมองจนตาตรง แม้เธอเองก็ทำอาหารเป็น ก็แค่ระดับพื้นฐานเท่านั้น สู้อะไรกับเชฟมืออาชีพไม่ได้หรอก
“ก็งั้นๆ ”
เซี่ยจิ้งไม่ได้เห็นด้วย เฉินห้าวเข้าใจดี เพราะเธอเคยบอกแล้วว่าทางบรรพบุรุษเขาเป็นเชฟกันมา การศึกษาครอบครัวแบบต้นกำเนิด คงเห็นและฟังมาตั้งแต่เด็กละ
แต่สำหรับเฉินห้าวนั้น เชฟพวกนี้ก็เหมือนกับที่เคยเห็นในทีวีเลย จากการกระทำของพวกเขาไม่สามารถหาจุดบกพร่องได้เลย
การทำอาหารครั้งนี้มีจำกัดเวลา1ชั่วโมง เวลาไม่ถือว่านาน ระหว่างที่รอนั้น ทั้งสามคนก็ได้คุยกัน เซี่ยจิ้งก็ได้ทราบถึงเงินเดือนมาตรฐานของเชฟที่เฉินห้าวรับสมัคร มีที่พักและอาหารให้ฟรี ขอแค่ผ่านการสัมภาษณ์ เงินเดือนแล้วแต่อีกฝ่ายขอ
“ข้อตกลงที่ดีขนาดนี้ ถ้าหากฉันถูกเลือกนั้น ฉันขอเงินเดือน1ล้านก็ได้งั้นเหรอ?”เซี่ยจิ้งถามด้วยความสนใจ
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว,”เฉินห้าวถามเธอ,“แต่มีเงื่อนไขว่าเธอต้องมีระดับที่สอดคล้องกัน แต่ที่ผมรู้มา เธอต้มเป็นแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นมันเมื่อก่อนไหม ฉันกลับบ้านไปฝึกกับคุณปู่และคุณพ่อของฉันให้ท่านสอนให้ พวกท่านสอนไม่กี่อย่าง ต้องอร่อยกว่าเชฟสามคนที่ทำนี้ ”เซี่ยจิ้งพูดอย่างเย่อหยิ่ง
เฉินห้าวหัวเราะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร คิดว่าเซี่ยจิ้งพูดโม้อยู่ การเป็นเชฟต้องใช้เวลานานในการฝึก ไม่งั้นคงไม่มีโรงเรียนเชฟให้เรียน ก็เอาเรื่องทักษะกาใช้มีดแล้วพลิกคว่ำทัพพีมาพูด คนที่ไม่เคยฝึกมาก่อนหั่นผักออกมาเล็กใหญ่ไม่เท่ากันส่งผลให้รูปลักษณ์ออกมาไม่สวย พลิกคว่ำทัพพีไม่ดีส่งผลให้ความร้อนไม่สม่ำเสมอและความรู้สึกมือไม่ดี
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เชฟทั้งสามได้ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย อาหาร9จานได้ยกขึ้นมาบนโต๊ะตามลำดับ เฉินห้าวได้เชิญเฉารุ่ยและเซี่ยจิ้งมาเป็นผู้ตัดสิน
ทั้งสามคนหยิบจับตะเกียบ พวกเขาได้ลิ้มรสอาหารเหล่านี้
อาหารที่เชฟได้ทำออกมามีปลากระรอก กุ้งเมา เนื้อคริสตัลดองโป ล้วนดูแล้วดูดีไปหมด แต่กินเข้าไปแล้วยิ่งหอมอร่อย
ยิ่งมีเชฟท่านหนึ่งได้ทำอาหารพื้นบ้านมันฝรั่งเส้น ดูแล้วก็ไม่ได้อะไร แต่เฉินห้าวกลับรู้ว่า นี่คือบททดสอบระดับต้นๆเลย เพราะว่ามันฝรั่งต้องหั่นออกด้วยมือ เส้นบางหนาเท่าเทียมกัน เคี้ยวขึ้นมามีรสชาติที่กรอบพอเหมาะ รสเปรี้ยวหวานกำลังดี เป็นอาหารที่กินไปคำแรกยังอยากกินต่อคำที่สอง
หลังเฉินห้าวชิมอาหารไปอย่างหนึ่ง ใช้น้ำสะอาดบ้วนปากก่อน ที่จะชิมอาหารจานที่สอง ชิมไปทั้งเก้าอย่างตามลำดับ เขาได้ให้คะแนนแกเชฟทั้งสามแบบเงียบๆ
และได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับสองสาว เฉารุ่ยคิดว่าเลือกยากจริงๆ ดูเหมือนว่าจะเลือกใครก็ได้
“เอาล่ะ การสัมภาษณ์วันนี้ก็ถึงตรงนี้ พวกท่านกลับไปก่อน รอการติดต่อกลับแล้วกัน ”
เฉินห้าวไม่ได้อยากตัดสินตอนนั้น เขายังอยากตรวจดูอีกที เขามีความรู้สึกอย่าง แม้ว่าความสามารถของเชฟทั้งสามนี้จะสูง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่เขาอยากได้ เหมือนยังขาดอะไรไปอย่าง
ยังไงก็ตามก็ได้ชิมฝีมือจากเชฟทุกท่านแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะจากไปนั้น เฉินห้าวได้ส่งของขวัญชิ้นเล็กให้กับทุกท่าน ถึงแม้จะไม่ผ่านการทดสอบ ก็ไม่ได้ให้เขาวิ่งเสียเที่ยว ฉะนั้นเชฟทั้งสามจึงมีความประทับใจดีต่อเฉินห้าว
รอให้เชฟไปก่อน สามคนถึงมาตัดสินใจว่าจะเลือกเชฟท่านไหน
คะแนนรวมที่สูงสุด ตกอยู่ที่เชฟจีนจากกวางตุ้งที่ได้คะแนนสูงสุด อาจเป็นเพราะอาหารที่เขาทำนั้น ถูกปากกับหญิงสาวทั้งสอง จากการเปรียบเทียบ เชฟเสฉวนได้คะแนนต่ำสุด ไม่ใช่เพราะเขาทำอาหารไม่อร่อย เป็นเพราะความเผ็ดมากกว่า หญิงสาวทั้งสองกินเผ็ดไม่ค่อยได้ คะแนนก็ต่ำตามไป
เฉินห้าวรู้ว่าการตัดสินนี้ต้องมีความเป็นส่วนตัว ฉะนั้นจึงไม่ได้ตัดสินในทันที