เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 50 ร้านพะโล้ฝรั่งเศส
บทที่ 50 ร้านพะโล้ฝรั่งเศส
เซี่ยจิ้งได้พูดต่อ: “เฉินห้าว นายพูดแล้วนะว่าพะโล้ที่ฉันทำอร่อย สู้เชฟสามคนนั้นได้ พูดแล้วห้ามกลับคำนะ”
“แต่เธอทำเป็นแค่เมนูเดียว ผมจะเปิดร้านหารใหญ่นะ ไม่ใช่ว่าลูกค้ามาแล้วสั่งอาหารไม่ได้ แล้วขึ้นแต่พะโล้งั้นเหรอ” เฉินห้าวได้จ้องเธอเหมือนว่าจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม
เซี่ยจิ้งตบหน้าอกตัวเอง แล้วพูดอย่างมั่นใจว่า: “ฉันสามารถเรียนรู้ได้ ให้เวลาฉันแค่วันเดียว ฉันก็สามารถฝึกทำได้หนึ่งอย่าง ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถกลายเป็นเชฟระดับสูงได้
เฉินห้าวได้แต่หัวเราะแต่ไม่พูดอะไร เซี่ยจิ้งนึกว่านี่เป็นการปฏิเสธ ก็ทำหน้าบูด แบะริมฝีปากแดงๆเอ่ยขึ้นว่า: “ฉันไม่สน ได้กินขาหมูพะโล้ฉันไปแล้ว นายก็ต้องรับผิดชอบ”
ฝั่งฉิงจื๋อเทาที่กำลังจะกินขาหมุชิ้นใหญ่ก็ได้หยุดชะงัก ได้แสดงความสุขออกมา บอกกับเซี่ยจิ้งจิ่งว่า: “ยังมีเรื่องดีๆอย่างนี้ด้วย? งั้นผมก็ได้กินขาหมูไปด้วย เห็นว่าเธอที่มีหน้าตาสวยขนาดนี้ ก็รับผิดชอบเธอไปก่อนละกัน เป็นแฟนเธอเลยดีไหม”
“ไปไกลๆไป กินขาหมูนายไป” เซี่ยจิ้งไม่ได้มีความรู้สึกดีกับผู้ชายที่หน้าเต็มไปด้วยสิวและอยู่ติดกับบ้านคนนี้ ทั้งหน้าบูดบึ้ง ฉิงจื๋อเทายิ้มแบบร้ายๆแล้วกินขาหมูในมือต่อ ที่จริงเขาดูออกตั้งนานละ เซี่ยจิ้งนี้เรื่องมาสมัครแค่ข้ออ้าง ความจริงคือชอบตัวคนมากกว่า เขาเฝ้าดูพัฒนาการภายในใจ
“รับเธอเข้าสมัครก็ได้” จู่ๆเฉินห้าวได้พูดคำที่ทำให้ตกตะลึงออกมา
“เจ้านาย แต่เธอทำเป็นแค่พะโล้เองนะคะ” เฉารุ่ยเตือนอยู่ข้างๆอย่างรีบร้อน หล่อนไม่อยากให้เฉินห้าวเสียตังโดยเปล่าประโยชน์
เฉินห้าวกล่าว: “รับเข้าสมัครมีการทดลองใช้งานอยู่ไม่ใช่เหรอ ลองทดลองใช้งานก่อนครึ่งเดือน อีกอย่างเงินเดือนร้านอาหารเราให้ตามความสามารถของแต่ละคน ในเมื่อเซี่ยจิ้งทำเป็นแค่พะโล้ เงินเดือนก็ต้องลดไปด้วย ช่วงที่ทดลองงานจ่ายเงินเดือน4000หยวนต่อเดือน ห้องพักให้แต่ห้องเดียว หากในครึ่งเดือนยัง ฝึกทำอาหารไม่ได้10อย่าง ถือว่าทดลองงานจบลง
“ได้”
เซี่ยจิ้งพยักหน้าตกลงข้อเสนอนี้
“งั้นดี นั่งลงกินข้าวก่อน หลังกินข้าวเสร็จให้เฉารุ่ยพาเธอไปดูห้องพัก ทั้งตึกเธอชอบห้องไหนก็พักห้องนั้น เป็นเจ้าของของตึกนี้ คำพูดที่เฉินห้าวพูดนั้นโอ้อวดมาก
“ดีมาก นายได้ตัดสินใจออกมาอย่างชาญฉลาดมาก” เซี่ยจิ้งหลงตัวเองไปนิด นั่งลงแล้วกินข้าวกับทุกคน
กินไปคุยไป หลังได้รู้จักกันพอควร เฉินห้าวพอที่จะเดานิสัยเซี่ยจิ้งได้ เข้มแข็ง และกล้าที่จะฝึกฝน บางครั้งอาจเข้าข้างตัวเองไปหน่อย แต่เป็นคนดี ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง เวลาเพียงไม่นานทุกคนก็สนิทกันแล้ว
หลังจากมื้ออาหาร เฉารุ่ยพาเซี่ยจิ้งไปเลือกห้อง สุดท้ายเธอก็เลือกห้อง103 ตามที่เธอบอก ชั้นสูงๆไม่มีคน พักอยู่คนเดียวน่ากลัว แต่ชั้นสองมีฉิงจื๋อเทา ขี้เหร่เกินไป ดึกดื่นออกจากห้องกลัวจะเข้าใจว่าเจอผี งั้นก็ต้องพักชั้นหนึ่งแล้วล่ะ
แล้วก็โชคดีที่ฉิงจื๋อเทากินข้าวเสร็จก็กลับห้องไปแล้ว ถ้าได้ยินคำพูดเหล่านี้คงโกรธน่าดูเชียว
เมื่อจัดการที่พักให้เซี่ยจิ้งเรียบร้อย เฉารุ่ยก็กลับมาหาเฉินห้าว เสนอแนะด้วยความอ้อมค้อม : “เซี่ยจิ้งทำเป็นแค่เมนูพะโล้ แต่ตอนนี้ร้านอาหารของเราคืออาหารฝรั่ง มันไม่ค่อยจะเหมาะสมนัก ฉันว่าเราต้องรับสมัครเชฟที่เป็นมืออาชีพนะ”
เฉินห้าวคิดๆดูแล้วก็กลับพูดว่า : “สิ่งที่เธอพูดมามันก็มีเหตุผล ชื่อร้านน่ะเปลี่ยนแปลงได้ พรุ่งนี้คุณติดต่อร้านป้ายหน่อยนะ ทำป้ายพะโล้ฝรั่งเศสแขวนขึ้นไป”
“อย่างนี้จะดีเหรอคะ?” เฉารุ่ยแสยะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนทั้งไม่ให้เสียมารยาทอีกด้วย
เฉินห้าวก็ยิ้มร่า : “ล้อเล่นน่ะ คุณยังดูไม่ออกเหรอ?”
เฉารุ่ยใช้สายตากลมโตจ้องมองไปยังชายรูปงามที่ยืนตรงหน้าอย่างฉงน
เฉินห้าวพูดว่า : “ผมเห็นเซี่ยจิ้งมีพลังขับเคลื่อน คงจะเรียนรู้ได้วันละเมนูจริงๆ ใช้เวลาไม่นาน เราก็จะสามารถมีเชฟสาวสวยคนหนึ่งที่ทำเมนูอาหารชั้นยอดได้แล้ว ผลจากการโปรโมทนี้ เกรงว่าจะดีกว่าเชิญเชฟใหญ่ๆชื่อดังมาซะอีกนะ? ค่าโฆษณาก็ประหยัดไปด้วย”
จากการอธิบายของเฉินห้าว เฉารุ่ยก็ให้ผ่านในทันใด ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มแล้ว แต่ทว่าเธอยังคงถามด้วยความกังวลใจเล็กน้อย : “ถ้าหากเซี่ยจิ้งเรียนรู้การทำอาหารมากมายนั้นไม่ได้ล่ะ? ร้านอาหารคือที่ทานข้าว หากอาหารไม่อร่อย เมนูน้อย ถ้างั้นแค่พึ่งพาการโปรโมทก็จะประคับประคองไว้ไม่ได้นานหรอกนะคะ”
เฉินห้าวพูด : “อาจเป็นไปเช่นนี้ได้ แต่คุณอย่าลืม บรรพบุรุษในครอบครัวเธอล้วนเป็นเชฟในวัง เชฟในงานเลี้ยงระดับชาติ จะปล่อยให้เชฟรุ่นหลังที่ไม่เอาไหนทำเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเหรอ? ถึงตอนนั้นคุณอาคนใดคนหนึ่ง ลุงคนใดคนหนึ่งของเซี่ยจิ้งทนดูไม่ได้ มาที่ร้านเราเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล อย่างงั้นพวกเราก็มีเชฟมือหนึ่งมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันคิดน้อยไป หรือว่าคุณคิดไกลไปคะเนี่ย” ในที่สุดเฉารุ่ยก็วางใจแล้ว ยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย
“ไม่เป็นไร ต้องจำไว้ ทองยังไงก็ต้องส่องสว่าง จากกำลังทรัพย์ของผมตอนนี้ ลงทุนกับใครสักคนไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย จะต้องมีที่ที่จะต้องใช้พวกเขาแน่นอน” เฉินห้าวกล่าว
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว” ความคับข้องใจของเฉารุ่ยได้ปลดปล่อย บอกลาเฉินห้าวด้วยความเบิกบาน
เฉินห้าวมองแผ่นหลังของเธอที่เดินจากไป ใบหน้าเผยถึงรอยยิ้มบางๆ วันนี้ได้รับลูกน้องสาวสวยมาอีกคนแล้ว ในใจรู้สึกพึงพอใจมากกว่าประโยชน์ที่จะใช้ได้จริง จู่ๆเขาก็มีความคิดนึงขึ้นมา ถึงตอนนั้นบ่วงที่รายล้อมไปด้วยสาวสวยมากมายเป็นผู้ช่วย เมื่อออกไปไหนมาไหนดอกไม้ก็จะเบ่งบานไปทั่ว บรรดานกน้อยใหญ่ จะต้องเป็นที่น่าตกตะลึงในสายตาผู้คนอย่างแน่นอน
“ก็ได้ตัดสินใจอย่างมีความสุขเช่นนี้แหละ!” เฉินห้าวคิดวิธีการอย่างแน่วแน่ในใจ
ก่อนนอน เฉินห้าวเปิดAPPไป่อี้ปู่เทีย ทันในนั้นก็เห็นว่าข้อความในระบบปรากฏเครื่องหมายอัศเจรีย์อยู่อันหนึ่ง หมายความว่ามีเมล์ใหม่ เขารีบกดเข้าไป ตรวจตราเนื้อหาข้อความดังกล่าวนั้นทันที