เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 56 คุณทำได้ยังไง
บทที่ 56 คุณทำได้ยังไง
เมื่อเฉินห้าวได้เปิดเล่มกรรมสิทธิ์ที่ดินใหม่ออกมา วางไว้ตรงหน้าของโจวซีถงนั้น เธอตกตะลึงไปเลย ถือไว้แล้วเปิดดูวนไปมา ไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง
เพื่อความปลอดภัยนั้น โจวซีถงได้ส่งคนไปตรวจสอบยืนยันความถูกเท็จจริงของกรรมสิทธิ์ที่ดินนี้เพราะข้อมูลในตอนนี้เป็นข้อมูลโปร่งใสอยู่ มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะพิสูจน์ในเว็บไซต์ระดับประเทศได้ว่ากรรมสิทธิ์นี้ถูกต้องตามกฎหมาย หมายเลข วันที่ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ ที่อยู่ตรงตามหมด โจวซีถงได้รับกรรมสิทธิ์ของที่ดินผืนนี้ทั้งหมด
“คุณทำได้ยังไง?”
โจวซีถงผู้เย็นชามาโดยตลอด ตอนนี้ก็อดใจไม่ไหวที่จะแสดงสีหน้าความดีใจด้วยความเซอร์ไพรส์ออกมา นี่มันช่วยได้มากจริงๆเลย
“หว่านล้อมนิดหน่อย ฝ่ายตรงข้างก็ขายให้ฉันแล้ว”ท่าทางเฉินห้าวสบายๆ แสดงว่าเรื่องนี้มันง่ายมาก
มันก็ง่ายจริงๆ เขาเขียนแค่ไม่กี่ปากกาก็สำเร็จเรียบร้อยแล้ว
โจวซีถงจ้องไปที่เฉินห้าว ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน ปัญหาที่คาใจเธอมาเป็นครึ่งเดือน ท้ายแล้วกลับถูกเฉินห้าวจัดการอย่างง่ายดาย ซึ่งใช้เวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้น
“เขา มีเวทมนตร์อะไรกัน ทำไมฉันรู้สึกว่าไม่ว่าเรื่องยากอะไร พออยู่ที่เขาแล้วสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย?”
ใจของโจวซีถงเกิดการระลอกขึ้น
“ทำไม?จ้องคนหล่อจนหลงใหลไปแล้ว?ผมว่านะรีบลงมือก่อนจะดีกว่านะ ล่าช้าไปวันหนึ่งเท่ากับเสียเงินไปวันหนึ่งนะ” เฉินห้าวพูดติดตลก
“ได้ ฉันจะรีบจัดการรื้อถอน”
โจวซีถงรอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว รวบรวมคนพร้อม รีบออกเดินทางไปสถานที่เกิดเหตุทันที
“ผมไปกับคุณด้วย”
เฉินห้าวได้ยืนขึ้นแล้วออกไปพร้อมกัน แล้วไปนั่งกับโจวซีถงในบนรถเบนท์ลีย์ของเธอ ขับมุ่งไปยังสถานที่เกิดเหตุ
ระหว่างทางนั้น โจวซีถงก็คุยกับเฉินห้าวว่า:“ครั้งนี้คุณซื้อที่ดินจ่ายไปเท่าไหร่?ฉันเพิ่มราคาเสริมให้คุณ”
เฉินห้าวส่ายหัว:“จ่ายไปไม่เท่าไหร่ อย่าลืมทำตามเงื่อนไขที่คุณสัญญาไว้ก็พอ”
เมื่อนึกถึงการแสดงของผู้ซื้อที่ใกล้จะมาถึงนี้ โจวซีถงกัดฟันเบาๆ ภายในใจทั้งอายและโกรธ เธอไม่เคยแสดงภาพลักษณ์ส่วนตัวให้ใครเห็นมาก่อน ดูเหมือนว่าครั้งนี้ต้องละเมิดกฎซะแล้ว อดใจไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่เฉินห้าวไปทีหนึ่ง เป็นเพราะเขาแท้ๆเลย!
แต่ว่าเฉินห้าวก็ทำเป็นไม่เห็น เขาตั้งหน้าตั้งตารอรางวัลที่จะได้จากภารกิจนี้แล้ว
เมื่อมาถึงสถานที่รื้อถอนเมืองภาคใต้ รถขุดสองคันกำลังเริ่มลงมือ พร้อมทุบตึกทิ้งแล้ว
เวลานี้ จู่ๆก็มีขบวนรถมาขบวนหนึ่ง ความเร็วรถของฝ่ายตรงข้ามเร็วมาก หนึ่งนาทีหลังจากนี้ ได้ขับตรงไปกั้นไว้ตรงหน้าของรถขุด ขัดขวางการรื้อถอน
ได้มีเด็กวัยรุ่นนักเลงหัวไม้ลงจากรถตู้สองสามคัน หนึ่งในนั้นมีกงจินหมิงด้วยคน เขาลงจากรถแล้วมาขัดขวางการรื้อถอน เด็กวัยรุ่นพวกนั้นก็ได้ใช้ท่อนไม้และแท่งเหล็กทุบตีไปที่รถยนต์และพนักงาน
“พวกคุณทำอะไร?”มีผู้ทีมรื้อถอนกำลังเตือน,“หากยังไม่หลบไปอีก พวกเราจะแจ้งความแล้ว!”
“ไม่ลำบากพวกคุณแจ้งความหรอก พวกเราต่างหากที่จะแจ้งความ ไม่เพียงแค่แจ้งความเท่านั้น ฉันยังได้ติดต่อกับสถานีโทรทัศน์นึกไม่ถึงว่าบริษัทโจวซื่อก็มีการบังคับรื้อถอน รังแกเราที่เป็นคนซื่อสัตย์งั้นเหรอ?”
เห็นได้ชัดว่ากงจินหมิงไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์ ไม่นาน รถสัมภาษณ์ที่เขาเรียกก็ได้มาถึง เป็นสำนักพิมพ์รายวันของในเมืองและนักข่าวสถานีโทรทัศน์ ได้ถือไมค์วิ่งไปฝั่งโจวซีถง
เฉินห้าวดูแล้ว ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องขึ้นมาทันที กันนักข่าวออกไป
“คุณโจวซีถง ตามที่มีคนรายงาน บริษัทโจวซื่อพวกคุณได้ทำการรื้อถอนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของ เป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
“คุณโจว ว่ากันว่าเจ้าของได้เสนอราคาห้าล้าน แต่พวกคุณยอมจ่ายแค่ห้าแสน ฝ่ายตรงข้ามไม่ยินยอม พวกคุณเลยบังคับรื้อถอน ขอถามหน่อยว่าอะไรที่ทำให้พวกคุณมีอำนาจอย่างนี้?”
เห็นได้ชัดว่านักข่าวพวกนี้ถูกจ้างมา สูญเสียอคติส่วนตัวและความยุติธรรม ไม่ถามสักคำ ก็ได้โจมตีไปที่โจวซีถง
สักพักเจ้าหน้าที่ของบริษัทก็ได้มา ช่วยเฉินห้าวกันนักข่าวไว้ข้างนอก
เฉินห้าวบอกกับโจวซีถงว่า:“ฝ่ายตรงข้ามได้วางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว กงจินหมิงนี้ได้ติดต่อกับเว่ยเทียนยี”
โจวซีถงประหลาดใจแล้วมองไปที่เฉินห้าวหนึ่งที นึกไม่ถึงเลยว่าแม้กระทั่งข้อมูลภายในอย่างนี้เขาก็รู้ชัดขนาดนี้ ด้วยไอคิวที่สูงของเธอ ก็ได้เข้าใจถึงที่มาและความเป็นไปในทันที
โจวซีถงได้พูดอย่างเย็นชาว่า:“ก็ว่าล่ะทำไมถึงเป็นแบบนี้ ในเมื่อพวกเขาต้องการเล่นแบบนี้ งั้นฉันก็จะเล่นกับพวกเขาให้ถึงที่สุด”
กงจินหมิงตั้งใจที่จะทำให้เรื่องใหญ่โต ไม่เพียงแต่เรียกนักข่าวมา ยังเรียกตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องฝ่ายบังคับใช้กฎหมายมาด้วย ว่าบริษัทโจวซื่อใช้อำนาจเอาเปรียบรังแกบังคับรื้อถอน ก็คือต้องการทำให้เรื่องให้ใหญ่โต
โจวซีถงกลับไม่กลัวอะไร เพราะในมือเธอนั้นมีใบรับรองกรรมสิทธิ์ เป็นการรื้อถอนบ้านตัวเอง ใครก็เข้ามายุ่งไม่ได้
เธอมีสมองไวมาก ก็ได้หานักข่าวที่มีความเป็นกลางมากลุ่มหนึ่ง(อุปมาว่าไม่ได้มีจุดยืนในฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง)อยู่ในสถานที่รื้อถอน เธอได้จัดการออกแถลงข่าวสั้นๆออกไป
“พวกเราบริษัทโจวซื่อได้ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศมาโดยตลอด การรื้อถอนครั้งนี้ ก็เป็นการรื้อถอนบ้านของตัวเองเท่านั้น”
โจวซีถงกล่าวจบ ก็ได้ประกาศหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์บ้านทรุดโทรม ข้างบนได้เขียนอย่างชัดเจนว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของทั้งหมดคือโจวซีถง
“บ้านเป็นบ้านส่วนตัวของโจวซีถง กงจินหมิงนั้นยังมาสร้างความเดือดร้อนทำไม?นี่มันไม่มีเหตุผลเลย?” พวกนักข่าวได้อภิปรายกันคนละคำสองคำ
มีนักข่าวที่ระมัดระหว่างก็ได้ตรวจสอบความถูกต้องเท็จจริงของหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์ในจุดเกิดเหตุ เพื่อมายืนยันว่าความขัดแย้งนี้ใครถูกใครผิด
กงจินหมิงได้เผชิญหน้ากับนักข่าวจำนวนหนึ่ง พูดอย่างไม่อายว่า:“ผมเป็นผู้ถูกกระทำ ทั้งครอบครัวอาศัยบ้านหลังนี้เพื่ออยู่รอด สุดท้ายบริษัทโจวซื่อจะจ่ายในราคาหนึ่งในสิบเพื่อซื้อบ้านของผม ผมไม่ขาย พวกเขาเลยใส่ร้ายป้ายสีประสงค์ร้าย บอกว่าผมแบล็กเมล์พวกเขา 100 ล้านหยวน!เป็นไปได้ยังไง บ้านหลังนี้ถึงจะมีราคาสูงขนาดไหนก็ไม่ถึง100ล้าน พวกเขาก็ไม่สร้างเหตุผลที่ดีกว่านี้ ผมขอสงวนสิทธิ์อำนาจที่จะดำเนินการ”
กงจินหมิงยังคงพูดคุยอย่างใจเย็นและมั่นใจส่วนผลสรุปยืนยันทางฝั่งนักข่าวก็ได้ออกมาแล้ว ข้อมูลกรรมสิทธิ์ได้ระบุว่า ผู้ที่จะรื้อถอนทั้งหมดนี้เป็นของโจวซีถง นั่นหมายความว่ากงจินหมิงได้สร้างปัญหาไม่มีเหตุผล
ตำรวจและฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ได้ยืนยันว่าหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์นี้เป็นของจริง ฉะนั้นเรื่องไร้สาระนี้ก็ควรจบลง ความจริงฟ้องชัดมาก โจวซีถงได้รื้อถอนบ้านของตัวเอง ส่วนกงจินหมิงมาสร้างปัญหาไม่มีเหตุผล รบกวนความสงบของประชาชน ดังนั้นตำรวจก็ได้จับเขาไว้