เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่ 64 ชายต่างชาติที่แข็งแกร่ง
บทที่ 64 ชายต่างชาติที่แข็งแกร่ง
“เติมจำนวนเงินเองจริงหรอ”เฉินห้าวถือเช็คไว้ ถามด้วยความสนใจ
“คำพูดของพี่เชิน มีครั้งไหนบ้างที่ไม่จริง”
พี่เชินหัวเราะอย่างได้ใจ เขาไม่เชื่อหรอกว่าในโลกนี้จะมีคนไม่หลงใหลเงิน และเฉินห้าวก็จะเป็นหนึ่งในนั้น แค่ให้เงินนิดหน่อยก็จะเป็นหมาเขา หมาที่เชื่อฟัง
มองดูเฉินห้าวใช้ปากกาเติมจำนวนเงินในเช็ค พวกลูกน้องที่เหลือก็มองเฉินห้าวด้วยสายตาดูถูก เมื่อกี้ยังทำเป็นเก่งอยู่เลย ตอนนี้ก็เหมือนกับพวกเขานั้นแหละ มาเป็นลูกน้องของพี่เชินเพราะเงิน
เฉินห้าวเติมเลข 9 ไปเต็มช่องเขียนจำนวนเงิน นี่เป็นจำนวนเงินสูงสุดที่เช็คนี้จะสามารถจ่ายได้ มีจำนวนทั้งหมดเก้าหลัก ดังนั้นก็คือเฉินห้าวเขียนไป 999,999,999 หยวน เท่ากับ 9.99 พันล้าน
เฉินห้าวถือเช็คแล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าต้องไปขึ้นเงินที่ธนาคารไหน? 9 พันล้านน่าจะพอให้ฉันใช้ได้สักพักแล้วละ”
“แกกวนตีนฉันหรอ”
พี่เชินโมโหมาก เขาคิดว่าเฉินห้าวจะเขียนแค่ไม่กี่แสนเท่านั้น เพราะปกติแล้วคนทั่วไปก็จะใส่แบบนี้ เพราะตำแหน่งของเขา คนอื่นอยากได้ราคาสูงแต่ก็ไม่ค่อยกล้าเขียน ใครจะไปรู้ว่าเฉินห้าวไม่สนใจอะไร เนื่องจากหวังเชินชอบเสแสร้ง งั้นเขาก็จะคอยดูว่าหวังเชินจะกล้าเสียเงินเก้าพันล้านมาจ้างเขามั้ย
เฉินห้าวพูดอย่างไรเดียงสาว่า “ก็แกให้ฉันเติมจำนวนตามใจชอบแล้วยังบอกว่าแกเป็นคนรักษาคำพูด แล้วทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนไปแล้วละ อ้อใช่สิ ที่ฉันใส่ไว้ 9.9 พันล้านคือรายชั่วโมงนะ จ่ายล่วงหน้าด้วย”
ฐานะทางบ้านของหวังเชินรวมๆกันก็สามารถจ่าย 9.9 พันล้านได้ แต่เขาไม่ยอมจ่ายเงินจำนวนนี้เพื่อมาจ้างเฉินห้าวเพียงหนึ่งชั่วโมงแน่นอน การกระทำของเฉินห้าวทำให้เขาอารมณ์จนได้
“ให้เกียรติแล้วไม่รับ อยากจะเป็นศัตรูของฉันใช่มั้ย”สายตาของหวังเชินแสดงออกถึงความโมโห
ในตอนนี้มีคนไปปิดประตู หลังจากนั้นลูกน้อง 20d กว่าคนก็ถืออาวุธจ้องเขม็งมาที่เฉินห้าวด้วยสายตาโหดเหี้ยม ที่แท้สถานบันเทิงแห่งนี้ก็เป็นของหวังเชินนี่เอง
กลุ่มนักเลงพวกนี้ล้อมเฉินห้าวไว้เพื่อจะลงมือทำร้าย
เฉินห้าวไม่ได้ตื่นตูม เขาเป็นคนใจกล้า เห็นคนพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ แถมยังจับสนับมือไว้และมีเสียง “พรึบพรับ” ดังออกมา หลังจากที่เขากินยาเสริมความแข็งแรงของร่างกายแล้วเขายังไม่รู้เลยว่าขีดจำกัดของตัวเองคือเท่าไหร่ ไม่แน่นักเลงพวกนี้อาจจะทำให้เขารู้สึกขีดจำกัดของตัวเขาเองก็ได้
ในตอนนี้ เจิ้งเจี้ยนกั๋วกำลังซุบซิบอยู่ข้างหูของหวังเชิน หวังเชินขมวดคิ้วขึ้น ยกมือห้ามพวกลูกน้องไว้ เขาหันไปมองเฉินห้าวอีกครั้งแล้วพูดว่า “เห็นว่าแกก็เป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่งเช่นกันฉันไม่ใช้คนมากมายมารังแกแก ฉันหาคนคนหนึ่งมาสู้กับแก ถ้าแกชนะ เรื่องของเจิ้งตงถือว่าจบสิ้น แต่ถ้าแกแพ้ แกก็ทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ซะเถอะ”
เฉินห้าวพูด “ข้อตกลงของแกไม่ผ่าน ถ้าฉันชนะ แกต้องก้มหัวขอโทษฉัน ฉันอยู่ดีๆก็ถูกพวกแกพามาเสียเวลาขนาดนี้ เวลามันมีค่านะ เมื่อกี้ฉันก็เกือบจะหาเงินได้เก้าพันล้านเชียว”
“หึ แกรอเข้าห้องฉุกเฉินเถอะ! ”
หวังเชินโบกมือไปทีหนึ่งก็มีเงาที่เหมือนคนเหล็กออกมาจากห้อง ที่แท้ก็เป็นชายแกร่งชาวยุโรปนี่เอง ชาวยุโรปคนนี้สูงถึง 2 เมตรได้ ดูแข็งแกร่งมาก น้ำหนักน่าจะมากกว่า 150 กิโลกรัม เหมือนกับรถถังรูปแบบคนที่มีชีวิต
“ปาผู่ลั่วฟูไปจัดการเจ้าหนุ่มคนนี้ซะ! ”หวังเชินพูดอย่างโหดร้าย
“ว้าก! ”
ปาผู่ลั่วฟูคนนี้ร่างใหญ่เหมือนลิงชิมแปนซี สองหมัดทุบเข้าหน้าอกตัวเอง เสียงดัง “ตึงตึง” เหมือนเสียงตีกลอง พนักงานสาวในห้องโถงตกใจจนหน้าซีด เพียงพอที่จะแสดงออกถึงความน่ากลัว
“ฮ่าๆ เหล่าปา(ปาผู่ลั่วฟู)มาแล้ว เจ้าหนุ่มแกรอตายได้เลย เขาจะตีแกให้กลายเป็นเนื้อบดเลยละ! ”พวกนักเลงรอบๆกำลังได้ใจ
“ที่แท้ก็ชนเผ่าแห่งการต่อสู้นี้เอง แกดึงดูดความสนใจของฉันนะ”
เฉินห้าวรู้สึกสนใจปาผู่ลั่วฟูคนนี้มาก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อใหญ่ๆพวกนี้ต้องมีพละกำลังมากแน่ๆ หลังจากที่เขามีพละกำลังมากขึ้น เขาก็หาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมได้ยากมาก เพียงใช้แรงมากหน่อย ไม่แน่คนพวกนั้นอาจจะบาดเจ็บหรือกระดูกหักก็ได้ แต่ในที่สุดตอนนี้เขาก็สามารถแสดงกำลังที่แท้จริงได้สักที
“หึ่ม! ”
ปาผู่ลั่วฟูคำรามเสียงดัง วิ่งเข้าใส่ พื้นกระเบื้องเซรามิกยังสั่นเล็กน้อย เขาวิ่งเข้าใส่ด้วยกำลังมหาศาล ยกกำปั้นใหญ่ๆนั้นขึ้นแล้วทุบเข้ามา
“มาได้ดี! ”
เฉินห้าวยกแขนทั้งสองข้างขึ้น เกิดเป็นความสูงที่ดูเกินจริงเหมือนกับป็อปอายที่กินผักขมเข้าไป เขาลดร่างกายต่ำลง แล้วใช้แค่มือรับกำปั้นของปาผู่ลั่วฟู เนื่องจากร่างกายของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันมาก เฉินห้าวก็เพียงแค่สามารถจับกำปั้นของปาผู่ลั่วฟูไว้เท่านั้น
ทั้งสองเพียงใช้แค่มือเปล่าในการสู้กัน แลกกันไปมาคนละหมัด
เฉินห้าวรู้สึกถึงพลังมหาศาลที่ไปอยู่ที่แขน กล้ามเนื้อและกระดูกที่เบียดกันยังส่งเสียงออกมาดัง “จึกจึก” ปาผู่ลั่วฟูคนนี้นี่กำลังเยอะจริงๆ เขาถึงกับเริ่มทนรับไม่ไหว โดนปาผู่ลั่วฟูดันไว้กับพื้นแล้วผลักถอยหลังไป
นี่ไม่ใช่เพราะว่าแรงของเฉินห้าวสู้ไม่ไหว แต่เป็นเพราะว่าพื้นความลื่นของพื้นหินอ่อนไม่อำนวยการต่อสู้ของทั้งคู่ โดยรวมแล้ว แรงของปาผู่ลั่วฟูนั้นมากกว่าเฉินห้าวอยู่เล็กน้อย
แต่เฉินห้าวไม่ได้หมดกำลังใจไป เขาถูกผลักถอยหลัง ทันใดนั้นเท้าของเขาก็ไปเหยียบโดนเสา แล้วก็มีที่ยึดไว้แล้ว เขาเองก็คำรามเสียงดัง ใช้แรงทั้งหมดในร่างกาย กล้ามเนื้อและเส้นเลือดปูดออกมาจนหมด เขาไม่เชื่อหรอกว่าการต่อสู้จีนโบราณจะสู้ชายแกร่งชาวรัสเซียไม่ได้
ทั้งสองใช้พลังทั้งหมดที่มีจนหน้าแดงก่ำ เส้นเลือดบนหน้าผากปูดออก ร่างกายเฉินห้างที่ถูกยาเสริมความแข็งแรงของร่างกายดัดแปลงค่อยๆออกฤทธิ์ พละกำลังไหลมาดั่งเหมือนแม่น้ำที่หยุดไม่อยู่
หลังจากการต่อสู้ของทั้งคู่ที่ขึ้นลง เฉินห้าวก็ค่อยๆได้เปรียบขึ้นมา และผลักปาผู่ลั่วฟูถอยหลังไปก้าวหนึ่ง