เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่131 โรงเหล้าเจียเฟิ่ง
บทที่131 โรงเหล้าเจียเฟิ่ง
โรงเหล้าเจียเฟิ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไม่ไกล เมื่อถึงที่จึงได้รู้ว่าโรงเหล้านี้ใช้พื้นที่เยอะมาก นี่เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด เปิดธุรกิจมานานถึง 10 กว่าปีแล้ว ได้ยินมาว่าเจ้าของก็คือนักหมักเหล้า เมื่อต้นทศวรรษที่เขาเกษียณจากองค์กรประเทศจึงได้มาเปิดโรงเหล้านี้
เฉินห้าวมาถึงหน้าประตูโรงเหล้า ถูกรปภ.ขวางไว้ เฉารุ่ยเข้าไปใช้ภาษาถิ่นพูดว่าพวกเขามาคุยธุรกิจกับเถ้าแก่โรงเหล้า
รปภ.เห็นว่าเฉินห้าวและเฉารุ่ยใส่เสื้อผ้าไม่ธรรมดา จึงได้ลงทะเบียนและแจ้งให้สาวน้อยคนหนึ่งในโรงเหล้ามาดูแลต้อนรับ
“พวกคุณมาซื้อเหล้าหรอคะ?ถ้าอย่างนั้นคุยกับพนักงานขายก็ได้แล้วค่ะ”สาวน้อยคนนี้พูด
“ไม่ได้มาซื้อเหล้า มาคุยธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ใช้”เฉินห้าวพูด “ต้องการพบเจ้านายเธอ”
“เถ้าแก่หูของพวกเราไปกินข้าวเที่ยงยังไม่กลับมาค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณรอสักครู่ ฉันโทรศัพท์ติดต่อสักครู่ค่ะ”
จากนั้นสาวน้อยคนนี้ก็ไปโทรศัพท์ สักพักก็มาแจ้งว่า เถ้าแก่ของพวกเขาจะกลับมาในอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ให้พวกเขารอที่นี่ก่อน แล้วก็รวดใช้แก้วแบบใช้แล้วทิ้งชงชาให้พวกเขา
เฉินห้าวมองดูฟองชาที่ลอยอยู่ในแก้ว ไม่รู้ว่านี่มันชาของกี่ปีแล้ว เขาและเฉารุ่ยจึงไม่ดื่ม
จากที่คุยกับสาวน้อยก็ทราบว่า ที่แท้เถ้าแก่คนก่อนเขาวางมือแล้วเนื่องจากปัญหาสุขภาพ จึงมอบโรงเหล้านี้ให้กับลูกชายดูแล ตอนนี้คือลูกชายของเถ้าแก่หูเสี่ยวหม่านเป็นคนรับผิดชอบ
เฉารุ่ยเข้าใจแล้ว ถึงว่าทำไมโรงเหล้านี้อยู่ปีนี้ถึงได้กลายเป็นเลือดเย็นขนาดนี้ คาดว่าคงจะเกี่ยวข้องกับเถ้าแก่คนใหม่นี้แหละ
บอกว่ารอครึ่งชั่วโมง แต่เฉินห้าวและเฉารุ่ยกลับรอแล้วเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ประตูห้องทำงานนี้ถึงได้ถูกเปิดออก มีชายหนุ่มที่มีแต่กลิ่นเหล้าทั้งตัวเดินเข้ามา เขาใส่ชุดสูทที่แกะกระดุมไว้ไม่เรียบร้อย เนกไทบิดเบี้ยว สายตามึนเมา
“พวกนายเป็นคนหาฉันอย่างนั้นหรอ อึก มีเรื่องอะไร?”
หูเสี่ยวหม่านสะอึกหนึ่งที เดินเซไปนั่งบนเก้าอี้เถ้าแก่ของเขา
“ผมมาเพื่อพูดคุยหารือ โรงเหล้าของคุณสามารถให้ราคาซื้อตามตลาดในการซื้อแอปเปิลของหมู่บ้านเฉาได้มั้ยครับ?”เฉินห้าวพูด
“ราคาตลาด?ราคา 2.5 เหมาก็คือราคาตลาดของฉัน”หูเสี่ยวหม่านกลอกตา พูดว่า “แอปเปิลของพวกเขาขนออกมาไม่ได้ อีกหน่อยก็จะเสีย ผมยอมจ่าย 2.5 นี่ก็ช่วยเหลือพวกเขาแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้สักบาท”
คนๆนี้ป่วนราคาตลาดแล้วยังทำหน้าตาเฉยแบบมีเหตุผล ทำเอาซะเฉินห้าวอยากสั่งสอนเขาสักที
เห็นว่าบรรยากาศไม่ดี เฉารุ่ยจึงพูดขึ้น “เถ้าแก่หูคะ ฉันคิดว่าธุรกิจนั้นก็คือการเมตตาและมีทรัพย์ ครั้งนี้พวกชาวสวนได้รับผลกระทบ แต่ว่าคุณให้ราคาซื้อต่ำแบบนี้ ปีนี้อาจจะได้กำไรสักหน่อย แต่ว่าทำร้ายจิตใจของชาวสวน ต่อไปถ้าอยากซื้อขายกันอีกก็คงยาก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือคุณยอมลดกำไรสักหน่อย ชาวสวนพวกนี้ก็จดจำไว้ในใจ ยังไงซะโรงเหล้าเจียเฟิ่งก็เปิดมานานขนาดนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ที่เถ้าแก่คนก่อนอยู่ ทุกคนซื้อขายกันอย่างมีความสุขดีนะคะ”
“ฉันจำเป็นต้องให้เธอมาสอนฉันหรอ?เงินซื้อเธอจ่ายหรอ…..”
หูเสี่ยวหม่านยักคิ้ว ตอนแรกไม่พอใจมาก แต่หลังจากที่สายตามึนเมาของเขามองเห็นความสวยของเฉารุ่ยแล้ว ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น “น้องสาวหน้าตาดีนี่นา ในเมื่อเธอพูดแล้ว ไม่ไว้หน้าหน่อยก็คงไม่ดี ไม่ก็คืนนี้มาดื่มเหล้ากับพี่สักหน่อย เรามาคุยกันบนโต๊ะเหล้า ดูแลพี่ให้ดี ราคาซื้อก็ตามที่พี่พูดได้เลย”
“นาย!”เฉารุ่ยถูกความโรคจิตของเขายั่วโมโห ใบหน้าแดงก่ำ
สายตาเฉินห้าวเย็นชาในทันที ไอ้เด็กนี้ช่างใจกล้าที่มีความคิดอยากได้เฉารุ่ย เฉินห้าวลุกขึ้นพูดอย่างโมโห “นายดื่มเยอะแล้วใช่มั้ย?รู้มั้ยว่าตัวเองพูดอะไรออกมา?”
“ฉันก็คุยธุรกิจอยู่ไม่ใช่หรอ จะบอกนายนะ ฉันรู้จักสาวๆในเมืองเยอะเลย คนอื่นอยากขึ้นเตียงฉัน ยังจะต้องอ่อยและสวยมากพอ ฉันให้ยัยนั่นมาดื่มด้วย ถือว่าให้เกียรติ…..”
หูเสี่ยวหม่านยังพูดไม่จบ เฉินห้าวก็เอาน้ำชาในแก้วของเขาสาดใส่หน้าเขา ให้เขารู้สึกตัวสักหน่อย
“เหี้ยเอ้ย แกกล้าสาดฉันหรอ!”
หูเสี่ยวหม่านที่มึนเมาโมโห ลุกขึ้นแล้วหยิบที่เขี่ยบุหรี่อันหนักๆบนโต๊ะมาฟาดเฉินห้าว แต่ว่าถูกเฉินห้าวจับเข้าที่ข้อมือซะก่อน
หูเสี่ยวหม่านใบหน้าเปลี่ยนสี แล้วก็ร้องออกมาเหมือนหมูถูกฆ่า รู้สึกเหมือนข้อมือของตัวเองกำลังจะหัก
“เจ็บๆๆๆๆ!”
“ยังรู้จักเจ็บ ฉันคิดว่าแกไม่กลัวแม้แต่เทพเจ้าซะอีก!”เฉินห้าวพูดอย่างเย็นชา
ในตอนนี้สาวน้อยคนนั้นได้ยินเสียงจากข้างนอก เข้ามาแล้วเห็นว่าเกิดการทะเลาะกัน จึงมาห้ามปราม
เฉารุ่ยก็เข้ามาดึงแขนของเฉินห้าว กลัวจะทำคนบาดเจ็บแล้วเฉินห้าวต้องรับผิดชอบ
“ประธานคะ ฉันไม่เป็นไร อย่าถือสาคนขี้เมาเลยค่ะ”
หญิงสาวทั้งสองพูดกล่อมอยู่ข้างๆ เฉินห้าวจึงได้ปล่อยมือ แต่ว่าข้อมือของหูเสี่ยวหม่านมีรอบช้ำเขียวๆม่วงๆแล้ว ดูรู้ว่าใช้แรงมหาศาลมาก
หูเสี่ยวหม่านที่รอดพ้นยังไม่รู้จักจำ แต่กลับพูดอย่างโมโหว่า “เรียกคนในโรงเหล้ามาให้หมด ตีมันเดี๋ยวนี้!”
“ถ้าอย่างนั้นนายก็ลองดู”เฉินห้าวจ้องหูเสี่ยวหม่านด้วยสายตาเย็นชา ความโกรธในสายตาเขา ขี้เมานี้เห็นแล้วก็ใจกระตุก ทำให้รู้สึกตัวได้ไม่น้อย
สาวน้อยในโรงเหล้ารู้ว่าไม่ควรให้เรื่องมันใหญ่ จึงไม่ได้ไปเรียกคนมา แต่กลับพูดเกลี้ยกล่อมอยู่ตรงกลาง
หูเสี่ยวหม่านก็รู้ถึงความแข็งแรงของเฉินห้าว ก็กลัวไม่น้อย แต่ก็ยังด่าไม่หยุด “ได้ กล้าแตะฉัน ถ้านั้นฉันไม่รับซื้อแอปเปิลแล้ว ให้แอปเปิลของชาวสวนจนๆพวกนั้นเสียอยู่ในสวน กล้ามีปัญหากับฉัน พวกแกก็ต้องรับผลที่ตามมา”
เขาเข้าใจผิดว่าเฉินห้าวคือคนในหมู่บ้านเฉา ดังนั้นจึงได้โมโหรวมไปถึงพวกชาวสวนด้วย