เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่229 คุณมีแฟนหรือยังคะ
อู๋ตันยืนกอดอกรายงาน“เถ้าแก่คะ พวกเราทั้งหมดซื้อเสื้อผ้าไปทั้งสิ้นสามหมื่นหกค่ะ เกินงบมั้ยคะ ถ้าเกินงบหักจากเงินเดือนพวกเราได้นะคะ”
เดิมทีกลัวว่าเฉินห้าวจะหลอกพวกหล่อน ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าพวกหล่อนกลัวตัวเองจะไปหลอกเฉินห้าว เฉินห้าวพาหกสาวชอปปิ้งอย่างใจกว้าง ความใจกว้างนี้เอาชนะใจพวกหล่อนได้แล้ว พวกหล่อนจึงคิดแทนเขาด้วยจิตสำนึก กลายเป็นแฟนคลับน้อยๆที่หลงใหลในตัวเขา
“ไม่มาก แค่นี้เอง พวกเธอน่าจะซื้อมาหน่อยนะ”เฉินห้าวพูด
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้พอใส่แล้ว ไว้เปลี่ยนฤดูก่อน พวกเราค่อยซื้อก็แล้วกัน เพราะแฟชั่นมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซื้อทีเยอะๆเดี๋ยวตกรุ่นค่ะ”อู๋ตันอธิบาย
“งั้นก็ดี ยังขาดเหลืออะไรที่ยังไม่ได้ซื้ออีกมั้ย”เฉินห้าวถาม
“ไม่มีแล้วค่ะ!”สาวๆตอบพร้อมเพรียง
เฉินห้าวพยักหน้าเงียบๆ ใจตรงกัน เลยขี้เกียจอบรม ลูกน้องที่“ได้แล้วใช้เลย ช่างสบายใจนัก
ของก็ซื้อเสร็จแล้ว ทุกคนหอบของพะรุงพะรัง ดีที่รถโรลส์ รอยซ์พื้นที่กว้าง พวกหล่อนยัดถุงชอปปิ้งเต็มท้ายรถ หอบของกลับบ้านเต็ม
แต่พอเวลาเที่ยง เป็นเวลาอาหารเที่ยง เฉินห้าวเองก็รู้สึกหิวเล็กน้อย จึงพาหกสาวไปที่ร้านอาหารแก้ไขปัญหาปากท้อง
“อยากกินอะไรล่ะ”เฉินห้าวถามพวกหล่อน
“เถ้าแก่เลือกเลย!”พวกสาวๆตอบพร้อมกัน
ซื้อของแพงมามากมายขนาดนี้ พวกหล่อนไม่กล้าเรียกร้องอะไรอีกแล้วล่ะ
“งั้นก็ดี พวกเราเห็นร้านไหนถูกใจ แล้วค่อนข้างเงียบสงบ ก็กินร้านนั้นแล้วกัน!”เฉินห้าวตัดสินใจ
“เถ้าแก่ดูร้านนั้นสิคะ’ร้านอาหารเขิ่นต่าจี’เป็นยังไงบ้างคะ”ชิวย่าหนานเห็นร้านหนึ่งเข้า
ดูการแต่งร้านกับชื่อร้าน เหมือนเป็นร้านกอปปี้จากKFC แต่เนื่องจากทุกคนหิวแล้ว เลยยังไงก็ได้ ร้านนี้คนน้อยหน่อย ไม่เหมือนร้านอื่นๆที่คนแน่นเต็มร้านขนัดไปหมด ในเมื่อทุกคนตกลงเลือกร้านนี้ ก็กินง่ายๆแล้วกัน สะดวกยังไงก็ยังงั้นแหละ
หลังจากที่เข้าไปในร้านอาหาร ก็เห็นว่าเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ด สามารถเลือกอาหารบุปเฟ่ต์ คนละ78หยวน ในเมืองไป๋เหอถือว่าเป็นร้านอาหารขนาดกลาง
เฉินห้าวรู้สึกว่าอาหารบุปเฟ่ต์ไม่ค่อยดีนัก เลยดูเมนูเลือกกับข้าวแปดอย่างกับน้ำแกงอีกหนึ่งอย่าง พวกเขานั่งโต๊ะกลมล้อมวงกัน
“เถ้าแก่ คุณมีแฟนหรือยังคะ”
ในขณะที่รออาหารขึ้นเสริฟ จู่ๆชิวย่าหนานผู้ที่ร่าเริงที่สุดก็ได้สอดรู้สอดเห็นขึ้นมา
เมื่อได้ยินถึงคำถามนี้ เด็กสาวคนอื่นๆจึงแกล้งไม่ได้ยิน ทำหูทวนลมแต่แอบฟัง
“มี”เฉินห้าวตอบอย่างสัตย์ซื่อ
ถ้าเป็นผู้ชายสวะ คงตอบว่ายังไม่มีแน่นอน จากนั้นก็จะสลับรางรถไฟคบสาวๆทั้งหกพร้อมกัน เป็นการหลอกกินเด็กโดยบริบูรณ์ แต่ระดับเฉินห้าว เขาไม่มีรสนิยมชั้นล่างขนาดนั้น สาวๆรอบตัวมีให้เขารับมือมากเพียงพอ เขาไม่ใช่อาจารย์หลัวนักบริหารเวลาสักหน่อย จัดบริหารเวลาไม่ทันอยู่แล้ว
เมื่อได้ยินว่าเฉินห้าวมีแฟนแล้ว หกสาวก็ออกจากผิดหวังอย่างหาเหตุผลไม่ได้ จากนั้นถามต่อ“งั้นพวกเราขอโอกาสเจอสักหน่อยได้มั้ยคะ อย่าเข้าใจผิดนะคะ พวกเราแค่อยากรู้อยากเห็น ว่าตกลงเป็นสาวสวยคนไหนกันแน่ ที่ทำให้เถ้าแก่ชอบได้”
“เหอะๆ ฉันไม่ได้ชอบคนจากรูปร่างหน้าตาภายนอกหรอกนะ”เฉินห้าวพูดถึงคู่รักในอุดมคติออกมา
เป็นเช่นนั้นจริง แม้ว่าโจวซีถงจะเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองไป๋เหอ และก็มีความสามารถโดดเด่น บริหารวิสาหกิจที่ติดหนึ่งในห้าร้อยด้วยตัวเองเพียงคนเดียว และบริหารได้อย่างมั่นคงเสียด้วย เรียกได้ว่าเป็น“ยอดคน”ได้อย่างบริบูรณ์ เฉินห้าวเองก็นับถือเธอในจุดนี้
หากลองคิดดู ถ้าโจวซีถงแค่หน้าตาสะสวยอย่างเดียว แต่นิสัยแย่ เหมือนกับแม่สาวยั่วสวาทที่ไปเจอวันนี้ ที่อาศัยรูปร่างหน้าตาในการเย้ายวนผู้ชาย เฉินห้าวเองก็คงจะรักไม่ลง
“งั้นแฟนของเถ้าแก่ต้องเป็นสาวที่โชคดีมากๆแน่เลย มีแฟนทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้”ชิวย่าหนานพูดอย่างอดอิจฉาไม่ได้
“เอาล่ะ ไม่ต้องอยากรู้แล้ว อาหารมาแล้ว เริ่มกินเถอะนะ”อู๋ตันเห็นสาวๆผิดหวัง จึงเป็นฝ่ายตัดบท พอดีกับที่พนักงานบริกรยกอาหารขึ้นมา
เพราะว่าตอนบ่ายยังต้องทำงานอีก พวกเขาจึงดื่มเครื่องดื่ม
อู๋ตันเทน้ำส้มลงในแก้วของเฉินห้าว จากนั้นจึงส่งสายตาให้พี่น้องคนอื่นๆ สาวทั้งหกลุกขึ้นพร้อมกัน คาราวะเฉินห้าว
“เถ้าแก่คะ ขอบคุณสำหรับน้ำใจในวันนี้นะคะ แม้ว่าพวกเราหกคนจะมีความสามารถที่จำกัด แต่ว่าเราจะตั้งใจทำงานเต็มที่ ไม่ทำให้เถ้าแก่ผิดหวังแน่นอน!”
“พวกเราจะตั้งใจทำงาน!”
“เถ้าแก่ใจกว้างมากเลย เอาใจไปเลยค่ะ!”
สาวๆพวกนี้ชูแก้วส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจ เฉินห้าวยิ้มเล็กน้อยชูแก้วให้พวกเขา จากนั้นจึงหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหาร
กลุ่มสาวๆคุยกันจ้อกแจ้กจอแจใหญ่ ข้าวมื้อนี้กินได้ออกรสออกชาติเสียจริง
พวกเขายังไม่ทันกินไปได้กี่คำ ประตูร้านอาหารก็เปิดออก มีชายหญิงคู่หนึ่งก้าวเดินเข้ามา พนักงานบริกรได้เห็นแล้ว จึงรีบทักทาย“เถ้าแก่สวัสดีค่ะ!”
ที่แท้เถ้าแก่ของร้านอาหารมานั่นเอง หางตาของเฉินห้าวเป็นประกาย เขาขมุ่นคิ้วขึ้น ปรากฏว่าเป็นเฉียนหรงข่ายผู้ไม่ประสงค์ดีคนนั้นอีกนั่นเอง
กลุ่มตนเองมากินข้าวที่ร้านอาหารของเฉียนหรงข่ายหรอกหรือนี่ เฉินห้าวรู้สึกสะอิดสะเอียน กินไม่ลง วางตะเกียบลงบนโต๊ะ ส่วนสาวๆคนอื่นพอเห็นเข้า พอเห็นเป็นเฉียนหรงข่าย ก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด ต่างหยุดลงทันที