เงินอุดหนุนหมื่นล้านเป็นของฉันคนเดียว - บทที่291 วิศวกรรมผิดพลาด
ผู้ช่วยของโจวซีถงได้ยินเสียงอีกฝั่งของโทรศัพท์มาอย่างแจ่มชัด เพราะว่าเคยมีประสบการณ์แบบเดียวกับเพื่อนชาย คนขับรถเก่าแบบหล่อนแป็บเดียวก็เข้าใจ
แต่ว่าผู้ช่วยสาวแสนฉลาดเลือกที่จะแกล้งโง่ เพียงแต่ย้ำเนื้อหาเมื่อครู่ไปอีกที“วิศวกรรมผิดพลาดเกิดจากการเดินเครื่องที่ผิดพลาดของเครื่องจักรขนาดใหญ่ การขุดเจาะของวิศวกร การซ่อมแซมของลูกตุ้ม และเครื่องจักรที่ไม่สามารถใช้ได้อื่นๆอีก จึงทำให้การเดินงานล่าช้า”
“เป็นเพราะเรื่องแค่นี้เนี่ยนะที่ทำให้การก่อสร้างชะงัก จางเชาเป็นผู้รับผิดชอบประสาอะไรกัน”โจวซีถงโมโหเหลือเกิน ราวกับนำความโกรธทั้งหมดที่มีต่อเฉินห้าวระบายลงไปบนตัวลูกน้องทั้งหมด
ผู้ช่วยสาวรายงานพูดว่า“สองวันมานี้ผู้จัดการจางกำลังยุ่งอยู่กับการปรับกลไกเครื่องจักร แต่ผลตอบรับที่ได้น้อยมาก ส่วนหนึ่งมาจากงานก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายที่หก เครื่องจักรจำนวนมากที่มาถึงตอนนั้น ส่วนโทรศัพท์ผู้ร่วมวงการบางสายดูเหมือนจะโทรไม่ติด ราวกับพวกเขานัดกันอย่างนั้นแหละ”
“อุบายชั่วๆแบบนี้ หรือว่าจะเป็นเว่ยเทียนยีอีก”
โจวซีถงขมุ่นคิ้ว เขาพอจะเดาออก เขตก่อสร้างในตอนแรกก็เพราะมีบางตึกที่อันตรายจนทำการก่อสร้างไม่ได้ ตอนนี้ก็มามีปัญหาเรื่องเครื่องจักรอีก เป็นเพราะอุบายชั่วร้ายของคนแซ่เว่ยนั่นแหละ
“ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มเฟยเซี่ยงหรือเปล่า แต่เรื่องนี้มีกลิ่นแปลกๆ ผู้จัดการจางบอกว่าโดนเล่นของ เมื่อก่อนไม่เคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อน เมื่อก่อนแค่โทรศัพท์สายเดียวก็สามารถเรียกรถมาได้แล้วเป็นพรวน แต่ตอนนี้กลับติดต่อไม่ได้”ผู้ช่วยสาวพูด
“ฉันรู้แล้วล่ะ รอพรุ่งนี้ให้ฉันกลับไปที่หน้างานก่อนค่อยว่ากัน”โจวซีถงกล่าว
“ตกลง งั้นต้องหาคนไปรับคุณไหม”ผู้ช่วยถาม
ไม่ต้องหรอก ราวๆพรุ่งนี้เก้าโมงครึ่งตอนเช้า พวกคุณรออยู่ที่เขตก่อสร้างแล้วกัน”โจวซีถงจบบทสนทนา ก็ยังรู้สึกฮีดฮัดอยู่ ราวกับว่านอกจากเรื่องของหล่อนกับเฉินห้าวแล้ว เรื่องอื่นๆก็ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่
“เกิดอะไรขึ้น ที่รัก ผมทำอะไรให้คุณโกรธ”เฉินห้าวถาม
“เปล่า”โจวซีถงทอดถอนหายใจ“เรื่องงานก่อสร้างน่ะ”
“ว่ามาสิ มีเรื่องอะไร ผมช่วยแก้ให้คุณได้เสมอ”เฉินห้าวพูดจริงจัง
โจวซีถงยิ้มพราย จัดผมตรงหน้าผากให้เฉินห้าว จะว่าไปก็แปลก ขอแค่มีเฉินห้าวอยู่ เรื่องยากแค่ไหนเธอก็ไม่เคยกังวลเลย ไม่เหมือนเมื่อก่อน คุยธุรกิจข้างนอกแล้วโดนรังแก ได้แต่แอบกลับไปน้ำตาไหลในตอนกลางคืนโจวซีถงไม่ใช่คนเย็นชามาแต่กำเนิด แต่สถานการณ์บังคับต่างหาก ถ้าหากผู้หญิงผู้อ่อนแอคนหนึ่งอยู่ในวงการธุรกิจ ก็จะต้องโดนรังแกสารพัด ก็เหมือนจอร์จแห่งโอ้ผู่กรุ๊ปในงานมหกรรมแบบนั้นแหละ แม้ว่าจะไม่มีความคิดสกปรกอะไร แต่ก็มักจะหาแทะโลมผู้หญิงอยู่ร่ำไป นี่เป็นเรื่องธรรมดามากในสังคม
เพื่อที่จะให้ตัวเองมีที่ยืนในวงการธุรกิจ เพื่อที่จะพยุงบริษัทโจวซื่อ โจวซีถงบังคับให้ตัวเองกลายเป็นสาวแกร่ง เธอซ่อนความอ่อนแอไว้ภายใต้ความเยียบเย็น น้ำตามักจะไหลรินในช่วงที่ไม่มีใครเห็น
สถานการณ์แบบนี้ จนกระทั่งมาพบเฉินห้าว ถึงได้เปลี่ยนไป ตอนนี้เธอมีผู้ชายให้เธอพึ่งพิงได้ โจวซีถงนึกถึงความลำบากที่ตัวเองต้องเผชิญก่อนหน้า ขอบตาก็เริ่มมีน้ำตาไหลเรื่อ
“อย่าร้องไห้เลย เรื่องของคุณผมจัดการทั้งหมดเอง เล่าให้ผมฟังหน่อย ว่าเกิดอะไรขึ้น”เฉินห้าวถามอย่างเป็นห่วง
โจวซีถงเช็ดน้ำตาที่ขอบตา แล้วจึงเล่าเรื่องการผิดพลาดด้านการก่อสร้างให้ฟัง
“ผมคิดว่าเรื่องอะไร ก็แค่เรื่องเครื่องจักรนี่เอง ถ้ามีการให้เครื่องจักรที่จำนวนมากพอ จะมั่นใจเรื่องความคืบหน้าเรื่องการก่อสร้างหรือ”เฉินห้าวถาม
“ใช่สิคะ แต่คุณจะซื้อเครื่องขุดเจาะกับเครื่องบดถนนมาอีกเครื่องไม่ใช่เหรอ แบบนั้นเปลืองเกินไป พอจบการก่อสร้างคงไม่ได้ใช้อะไร มีแค่ต้องเมนเทนแนนซ์ ฉันไม่อยากให้เป็นเพราะมาช่วยฉัน แล้วต้องเสียหาย”โจวซีถงพูดอย่างเป็นห่วง
“ผมไม่เสียหายอะไรหรอก เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจ มอบให้ผมเถอะนะ ภารกิจของคุณวันนี้ ก็คือทำตัวให้มีความสุขที่สุด”
เมื่อเห็นแฟนสาวคนงามระดับชาติ เฉินห้าวก็อดต่อไปไม่ได้ กอดเธอแล้วล้มลงบนเตียงด้วยกัน
“รอเดี๋ยว ผ้าม่านยังปิดไม่มิด”
โจวซีถงชี้ไปที่ผ้าม่านที่โผล่ออกมาแล้วพูด
เฉินห้าวเซ็งเล็กน้อย มักจะมีเรื่องมาขัด“ความสุข”เขาสินะ เขาจึงตะโกนออกไปตามความเคยชิน “AImiปิดไฟปิดผ้าม่าน”
ปรากฏว่ามีแต่ความนิ่งเงียบ และก็ไม่มีใครหรือสิ่งใดขานรับเขาทั้งนั้น
“ในที่สุดผมก็เห็นจุดบกพร่องของคฤหาสน์หลังนี้แล้วล่ะ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์แบบไฮเทคเลย ล้าหลังจริง!”
เฉินห้าวเดินไปปิดไฟด้วยตัวเองอย่างจนใจ เหลือไว้เพียงไฟแสงสีเหลืองโรแมนติกตรงหัวเตียง
คราวนี้ ทั้งสองจึงเกิดอารมณ์โรแมนติกขึ้น โดยที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้น ดังนั้นทั้งคู่จึงรึงรัดกัน จนกระทั่งกลางดึก ดึกสงัด จนกระทั่งทั้งคู่เหนื่อยจนอ่อนแรงพับไป(ที่นี่ละเว้น21387คำ)……
วันที่สอง ในตอนที่กำลังหลับสนิท จู่ๆมือถือของโจวซีถงก็ดังขึ้น เธอรู้สึกหนังตาหนักอึ้ง เธอคลำไปที่หัวเตียงอย่างสะลึมสะลือ ในที่สุดก็ควาญหามือถือเจอ จากนั้นจึงรับโทรศัพท์อย่างงัวเงีย ร้องขึ้นว่า“ฮัลโหล”
“ขอโทษทีนะคะท่านประธานโจว ฉันไม่ทราบว่าท่านประธานนอนหลับอยู่”เป็นน้ำเสียงของผู้ช่วยสาวดังลอดมา
โจวซีถงยังนอนไม่ตื่นดี ขานรับแบบสะลึมสะลือว่า “อืม”
“แต่ว่า พวกเราอยู่ในเขตก่อสร้างแล้วนะคะ คุณจะมาถึงเมื่อไหร่”
พอได้ยินว่าเขตก่อสร้าง โจวซีถงก็เด้งพรวดขึ้นมา เห็นเฉินห้าวนอนกรนอยู่ข้างๆ นอนพังพาบหมดสภาพอยู่บนเตียง ราวกับไปทำสงครามโลกมา
พอมาดูเวลาอีก ก็เป็นเวลาเก้าโมงสิบนาที เธอนอนเลยเวลาไปหน่อย
“ฉัน คิดว่าอีกสักครู่คงจะถึง ไม่สิ หลังเที่ยง พวกเธอทำธุระอื่นไปก่อนแล้วกัน”
โจวซีถงรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ตอนที่พูด เธอมาสายมาก ส่วนครั้งนี้เป็นเพราะเมื่อคืนเหนื่อยเกินไป จนทำให้ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เลยนอนเพลินไปหน่อย